พระอรหันต์มีจริง วินาทีบรรลุธรรม

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย MBNY, 23 พฤศจิกายน 2007.

  1. โสภี โฉลกดี

    โสภี โฉลกดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +55
    ขออนุโมทนาค่ะ .........................................ในการที่จะปฎิบัติธรรมให้บรรลุธรรมนั้นมิต้องจำเป็นต้องเลือกสถานที่หรือแหล่งต่างๆ เพราะในการปฎิบัติธรรมนั้นเราใช้สมาธิ ความอดทน หมั่นฝึกฝนให้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........เมื่อเราทำดีแล้ว ก็จะทำให้เกิดผลขึ้นมาได้ ....................สาธุ
     
  2. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ขอบคุณครับ

    ผมได้อ่านหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดยท่านพระอาจารย์มหาบัว พิมพ์แจกเนื่องในงานสวดพระอภิธรรม ดร.เทียม โชควัฒนา ระหว่างวันที่ 30 มิย. - 9 สค. 34

    ซึ่งตอนหนึ่งในหนังสือได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระอาจารย์มั่นเผชิญยักษ์ที่ถ้ำสาริกาไว้อย่างละเอียดลออว่า

    ....ขณะนั้น โรคก็ดับ ทุกข์ก็ดับ ความฟุ้งซ่านของใจก็ดับ พอจิตรวมสงบลงถึงที่แล้ว ถอนออกมาขั้นอุปจารสมาธิแล้ว จิตสว่างออกไปนอกกาย ปรากฎเห็นบุรุษผู้หนึ่งมีร่างใหญ่ดำและสูงมากราว 10 เมตร ถือตะบองเหล็กใหญ่เท่าขา ยาวราว 2 วา เดินเข้ามาหาท่าน และบอกกับท่านว่า จะทุบตีท่านให้จมลงไปในดิน ถ้าไม่หนีจะฆ่าให้ตายในบัดเดี๋ยวใจ ตามที่ผีบอกกับท่านว่า ตะบองเหล็กที่เขาแบกอยู่บนบ่านั้น ตีช้างสารใหญ่ตัวหนึ่งเพียงหนเดียวเท่านั้น ช้างสารต้องจมลงไปในดินแบบจมมิดเลยโดยไม่ต้องตีซ้ำอีก

    ท่านกำหนดจิตถามผีร่างยักษ์นั้นว่า ...จะมาตีและฆ่าอาตมาทำไม อาตมามีความผิดอะไรบ้างถึงจะต้องถูกตีถูกฆ่าเล่า ? การมาอยู่ที่นี้มิได้มากดขี่ข่มเหงหรือเบียดเบียนใครให้เดือดร้อนพอจะถูกใส่กรรมทำโทษถึงขนาดตีและฆ่าให้ถึงตายเช่นนี้

    เขาบอกว่า เขาเป็นผู้มีอำนาจรักษาภูเขาลูกนี้อยู่นานแล้ว ไม่ยอมให้ใครมาอยู่ครองอำนาจเหนือตนไปได้ ต้องปราบปรามและกำจัดทันที

    ท่านตอบว่า ก็อาตมามิได้มาครองอำนาจบนหัวใจใครนอกไปจากมาปฏิบัติบำเพ็ญศีลธรรมอันดีงาม เพื่อครองอำนาจเหนือกิเลสบาปกรรมบนหัวใจตนเท่านั้น จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะมาเบียดเบียนและทำลายคนเช่นอาตมา ซึ่งเป็นนักบวชทรงศีล และเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าผู้มีใจบริสุทธิ์ และมีอำนาจในทางเมตตาครอบไตรโลกธาตุ ไม่มีใครเสมอเหมือน

    ท่านซักถามและเทศน์ให้ผีร่างยักษ์ฟังเสียใหญ่ในขณะนั้นว่า ถ้าท่านเป็นผู้มีอำนาจเก่งจริงดังที่อวดอ้างแล้ว ท่านมีอำนาจเหนือกรรมและเหนือธรรม อันเป็นกฎใหญ่ปกครองมวลสัตว์ในไตรภพด้วยหรือเปล่า ?

    เขาตอบว่า เปล่า

    ท่านพูดว่าพระพุทธเจ้าท่านเก่งกล้าสามารถปราบกิเลสตัวที่คอยอวดอำนาจว่าตัวดีตัวเก่งอยู่ภายใน คิดอยากตีอยากฆ่าคนอื่นสัตว์อื่นให้หมดสิ้นไปจากใจได้ ส่วนท่านที่ว่าเก่ง ได้คิดปราบกิเลสตัวดังกล่าวให้หมดสิ้นไปบ้างหรือยัง

    เขาตอบว่า ยังเลยท่าน

    ท่านว่า ถ้ายัง ท่านก็มีอำนาจไปในทางที่ทำตนให้เป็นคนมืดหนาป่าเถื่อนต่างหาก ซึ่งนับว่าเป็นบาปและเสวยกรรมหนัก แต่ไม่มีอำนาจปราบความชั่วของตัวที่กำลังแผลงฤทธิ์แก่ผู้อื่นอยู่ โดยไม่รู้สึกตัวว่าเป็นผู้มีอำนาจแบบก่อไฟเผาตัว และต้องจัดว่ากำลังสร้างกรรมอันหนักมาก มิหนำยังจะมาตีมาฆ่าคนที่ทรงศีลธรรมอันเป็นหัวใจของโลก ถ้าไม่จัดว่าท่านทำกรรมอันเป็นบาปหยาบช้ายิ่งกว่าคนทั้งหลายแล้ว จะจัดว่าท่านทำความดีที่น่าชมเชยตรงไหน อาตมาเป็นผู้ทรงศีลทรงธรรมมุ่งมาทำประโยชน์แก่ตนและแก่โลก โดยการประพฤติธรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ท่านยังจะมาทุบตีและสังหาร โดยมิได้คิดคำนึงถึงบาปกรรมที่จะฉุดลากท่านลงนรกเสวยกรรมอันเป็นมหันตทุกข์เลย อาตมารู้สึกสงสารท่านยิ่งกว่าจะอาลัยในชีวิตของตัว เพราะท่านหลงอำนาจของตัวจนถึงกับจะเผาตัวเองทั้งเป็นอยู่ขณะนี้ แล้วอำนาจอันใดบ้างที่ท่านว่ามีอยู่ในตัวท่าน อำนาจอันนั้นจะสามารถต้านทานบาปกรรมอันหนักหนาที่ท่านกำลังจะก่อขึ้นเผาผลาญตัวอยู่เวลานี้ได้หรือไม่ ? ท่านว่าเป็นผู้มีอำนาจอันใหญ่หลวงปกครองอยู่ในเขตเขาเหล่านี้ แต่อำนาจนั้นมีฤทธิ์เดชเหนือกรรมและเหนือธรรมไปได้ไหม ถ้าท่านมีอำนาจและฤทธิ์เหนือธรรมแล้ว ท่านก็ทุบตีหรือฆ่าอาตมาได้ สำหรับอาตมาเองไม่กลัวความตาย แม้ท่านไม่ฆ่าอาตมา ก็ยังจักต้องตายอยู่โดยดีเมื่อกาลของมันมาถึงแล้ว เพราะโลกนี้เป็นที่อยู่ของมวลสัตว์ผู้เกิดแล้วต้องตายทั่วหน้ากัน แม้ตัวท่านเองที่กำลังอวดตัวว่าเก่งในความมีอำนาจจนกลายเป็นผู้มืดบอดอยู่ขณะนี้ แต่ท่านก็มิได้เก่งกว่าความตายและกฎแห่งกรรมที่ครอบงำสัตว์โลกไปได้

    ขณะที่ท่านพระอาจารย์มั่นซักถาม และเทศน์สั่งสอนบุรุษลึกลับโดยทางสมาธิอยู่นั้น ท่านเล่าว่า เขายืนตัวแข็ง บ่าแบกตะบองเหล็กเครื่องมือสังหารอยู่เหมือนตุ๊กตา ไม่กระดุกกระดิก ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนมาไหนเลย ถ้าเป็นคนธรรมดาเรา ก็ทั้งอายทั้งกลัวจนตัวแข็งแทบลืมหายใจ แต่นี่เขาเป็นอมุษย์พิเศษผู้หนึ่ง จึงไม่ทราบว่าเขามีลมหายใจหรือไม่ แต่อาการทั้งหมดนั้น แสดงให้เห็นชัดว่า เขาทั้งอายทั้งกลัวท่านพระอาจารย์มั่นจนสุดที่จะอดกลั้นได้ แต่เขาก็อดกลั้นได้อย่างน่าชม ตอนท่านแสดงธรรมจบลง เขาได้ทิ้งตะบองเหล็กจากบ่าอย่างเห็นโทษ และนฤมิตเปลี่ยนภาพจากร่างของบุรุษลึกลับที่มีกายดำสูงใหญ่มาเป็นสุภาพบุรุษพุทธมามกะ ผู้อ่อนโยนนิ่มนวลด้วยมรรยาทอัธยาศัย แสดงความเคารพคารวะและกล่าวคำขอโทษท่านอาจารย์แบบบุคคลผู้เห็นโทษสำนึกในบาปอย่างถึงใจ ซึ่งต่อไปนี้เป็นใจความของเขาที่กล่าวตามความสัตย์จริงต่อท่านพระอาจารย์มั่นว่า

    กระผมรู้สึกแปลกใจและสะดุ้งกลัวท่านแต่เริ่มแรก มองเห็นแสงสว่างที่แปลกและอัศจรรย์มาก ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนพุ่งออกจากองค์ท่านมากระทบตัวกระผม ทำให้อ่อนไปหมด แทบไม่อาจแสดงอาการอย่างใดออกมาได้ อวัยวะทุกส่วนตลอดจนจิตใจอ่อนเพลียไปตามๆกัน ไม่อาจจะทำอะไรได้โดยพลการ เพราะมันอ่อนและนิ่มไปด้วยความซาบซึ้งจับใจในความสว่างนั้น ทั้งๆที่ไม่ทราบว่านั่นคืออะไร เพราะไม่เคยเห็น เท่าที่แสดงกิริยาคำรามว่าจะทุบตีและฆ่านั้น มิได้ออกมาจากใจจริงแม้แต่น้อยเลย แต่แสดงออกตามความรู้สึกที่เคยฝังใจมานานว่าตัวเป็นผู้มีอำนาจในหมู่อมนุษย์ด้วยกัน และมีอำนาจในหมู่มนุษย์ที่ไม่มีศีลธรรม ชอบรักบาปหาบความชั่วประจำนิสัยต่างหาก อำนาจนี้จะทำอะไรให้ใครเมื่อไรก็ได้ตามต้องการ โดยปราศจากการต้านทานขัดขวาง มานะอันนี้แลพาให้ทำเป็นผู้มีอำนาจ แสดงออกพอไม่ให้เสียลวดลาย ทั้งๆที่กลัวและใจอ่อน ทำไม่ลง และมิได้ปลงใจว่าจะทำ หากเป็นเพียงแสดงออกพอเป็นกิริยาของผู้เคยมีอำนาจเท่านั้น กรรมอันไม่ว่างามใดๆ ที่แสดงออกให้เป็นของน่าเกลียดในวงนักปราชญ์ที่แสดงต่อท่านวันนี้ ขอได้เมตตาอโหสิกรรมแก่กรรมนั้นๆให้กระผมด้วย อย่าต้องให้รับบาปหาบทุกข์ต่อไปเลย เท่าที่เป็นอยู่เวลานี้ก็มีทุกข์อย่างพอตัวอยู่แล้ว ยิ่งจะเพิ่มทุกข์ให้มากกว่านี้ ก็คงเหลือกำลังที่จะทนต่อไปไหว

    ท่านถามเขาว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่มีอำนาจวาสนามาก กายก็เป็นกายทิพย์ไม่ต้องพาหอบหิ้วเดินเหินไปมาให้ลำบากเหมือนมนุษย์ การเป็นอยู่หลับนอนก็ไม่เป็นภาระเหมือนมนุษย์ทั่วโลกที่เป็นกัน แล้วทำไมจึงยังบ่นว่าทุกข์อยู่อีก ถ้าโลกทิพย์ไม่เป็นสุข แล้วโลกไหนจะเป็นสุขเล่า ? เขาตอบว่า ถ้าพูดอย่างผิวเผินและเทียบกับกายมนุษย์ที่หยาบ ๆ พวกกายทิพย์อาจมีความสุขมากกว่าพวกมนุษย์จริง เพราะเป็นภูมิที่ละเอียดกว่ากัน แต่ถ้ากล่าวตามชั้นภูมิแล้ว กายทิพย์ก็ย่อมมีทุกข์ไปตามวิสัยของภูมินั้นๆเหมือนกัน ระหว่างผีกับพระสนทนากันในตอนนี้ รู้สึกว่าละเอียดและลึกลับ ยากที่ผู้เขียนจะนำมาลงได้ทุกประโยค จึงขออภัยท่านผู้อ่านไว้ด้วยความจนใจ

    สุดท้ายแห่งการสนทนาธรรม ท่านว่าบุรุษลึกลับมีความเคารพเลื่อมใสในธรรมเป็นอย่างยิ่งและปฏิญาณตนถึงพระไตรสรณคมน์ กล่าวอ้างท่านพระอาจารย์เป็นสรณะและเป็นองค์พยานด้วย พร้อมทั้งให้ความอารักขาแก่ท่านเป็นอย่างดี และขอนิมนต์ท่านพักอยู่ที่นี่ให้นานๆ ถ้าตามใจเขาแล้ว ไม่อยากให้ท่านจากไปสู่ที่อื่นตลอดอายุของท่าน เขาจะเป็นผู้คอยดูแลรักษาท่านทุกอิริยาบถ ไม่ให้มีอะไรมาเบียดเบียนหรือรังแกท่านได้เลย ความจริงแล้ว เขามิใช่บุรุษลึกลับและมีร่างกายดำสูงใหญ่ดังที่แสดงภาพต่อท่าน แต่เขาเป็นหัวหน้าแห่งรุกขเทวดา ซึ่งมีบริษัทบริวารมากมายที่อาศัยอยู่ในภูเขา และสถานที่ต่างๆ มีเขตอาณาบริเวณกว้างขวางมาก ติดต่อกันหลายจังหวัด มีนครนายกเป็นต้น

    กุศลผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้สร้าง ณ ที่นี้ ขอถวายผลบุญนั้นให้แก่คุณเทียม โชควัฒนา ตลอดจนผู้ร่วมพิมพ์หนังสือเล่มนี้ และจะขอปฏิบัติบูชาเป็นเครื่องสักการะแด่หลวงปู่มั่น และหลวงตามหาบัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2007
  3. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    มนุษย์เราหากมีความเพียรอย่างอุกฤษ เชื่อแน่ว่าความสำเร็จพึงต้องบังเกิดอย่างแน่นอน...
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    อ่านแล้วปลื้มปิติมากๆ โมทนาสาธุกับเพื่อนๆและคุณแอนเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
  5. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    หนังสือเล่มนี้ดีมากครับข่าวว่าพิมพ์5ครั้งภายใน3เดือนน่าสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนต้องการธรรมะที่ง่ายๆและเป็นธรรมะจากการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ร้านคิโนะคูนิยะบอกว่าเป็นหนังสือธรรมะที่ขายดีที่สุดในรอบปีเลยครับโมทนากับพี่ที่เอามาลงให้อ่านครับ
     
  6. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    ขอเล่าบ้าง

    วันนี้ผมขอนำเอาวินาทีบรรลุธรรมของหลวงปู่จันทา ถาวโรซึ่งท่านเป็นศิษย์เอกของพระเดชพระคุณหลวงปู่ขาว อนาลโย(นับแล้วท่านก็น่าจะเป็นหลานศิษย์ของหลวงปู่มั่นครับ) มาเล่าให้ฟังครับ

    [​IMG]
    ๓ วัน ในถ้ำผาบิ้ง

    ตั้งสัจจะขึ้นไปถ้ำผาบิ้ง (อยู่ในเขตวัคถ้ำกลองเพล)
    ขึ้นไปอยู่ถ้ำนี้เร่งความเพียรไม่กินข้าว ๓ วัน ไม่ยอมนอน เอาแต่ยืน เดิน นั่ง
    คืนที่ ๓ เดินจงกรมตั้งแต่๑ ทุ่มถึง ๓ ทุ่ม จิตรวมสงบขณะเดินอยู่ นิมิตเกิดขึ้น เหมือนกับเดินไม่ได้เหยียบดิน ตัวเบาโหวงดุจปุยนุ่นลอยลม ละเอียดสุขุมจริง ๆ รู้สึกเย็น เบาใจ เบากาย เย็นกาย เย็นใจ ละเอียดประณีต
    ได้เพ่งพิจารณาขณะเดินอยู่จึงรู้ว่าเหยียบดิน พลังสติสมบูรณ์ ไม่ได้หลงนิมิตแต่อย่างใด เมื่อถึง๔ ทุ่มก็เข้าที่พัก ไหว้พระย่อ ๆ ไม่นาน จิตก็ปล่อยวางพุทโธรวมลงสู่ความสงบพรึบ
    นิมิตในสมาธิเกิดขึ้นอีก เป็นนิมิตที่แปลกประหลาดกว่าทุกครั้ง จึงกำหนดจิตถามพระธรรมว่า ธรรมะนี้มาจากอะไร ?
    นิมิตนั้นแสดงภาพเป็นสายโซ่ขวางหน้า สายโซ่นั้นมีลูกน้อยลูกใหญ่ (ห่วงน้อยห่วงใหญ่) ความหมายคือลูกน้อยลูกใหญ่ของสายโซ่นั้น คือการทำดีในพระพุทธศาสนา เป็นต้นว่าเดินจงกรม ยืนภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ให้ทาน รักษาศีลภาวนาเหล่านี้ ล้วนเป็นบ่อเกิดของรายได้คือบุญกุศลมรรคผลธรรมวิเศษทั้งนั้น ไม่เสียความหวังถ้าได้ปฏิบัติไป ทางอื่นไม่มี มีเท่านี้
    ลูกโซ่น้อยใหญ่ยังหมายถึงข้อวัตรน้อยใหญ่ ทำน้อยทำมากไม่ผิดหวัง ตอนนี้ก็ลุกออกจากกายนี้ (หมายถึงจิตหรืออทิสสมานกายออกไปจากร่างของพระอาจารย์จันทา)
    รู้สึกใจมืด ไม่พอใจในการกระทำความดีบูชาพระพุทธเจ้าพระธรรมและพระสงฆ์ เพราะเห็นว่าทำน้อยไป จึงเอามีดมาปาดเนื้อหนังเอ็นกระดูก (เป็นภาพนิมิตในสมาธิ) ออกบูชาแก้วทั้ง ๓ ประการ เพื่อแลกอริยทรัพย์
    ไม่รู้สึกห่วงอาลัยในชีวิตสังขาร ไม่เจ็บไม่ปวด ปาดเอาเนื้อหนังมังสาไปบูชาพระรัตนตรัยจนหมดสิ้น
    พลันพระธรรมปรากฏขึ้นที่หัวใจบอกว่า สังโยชน์ ๑๐ ปัจจัย๑๐ จงละ จงถอน ด้วยการเพียรบำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญา มรรค ๘ สมถะและวิปัสสนากรรมฐาน โพชฌงค์ ๗ บำเพ็ญทานให้ครบ
    ให้เป็นเครื่องกลั่นกรองกิเลส นำออกจากทุกข์ได้โดยไม่ต้องสงสัยสักกายทิฐิ วิจิกิจฉา สีลัพตปรามาส ปล่อยวางให้สิ้น จะได้พ้นจากการท่องเที่ยวในวัฏสงสารต่อไป
    ข้อสำคัญจงละจงวาง ด้วยการบำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญาและอย่าได้ประมาทจะได้พ้นทุกข์ไปตามองค์พระพุทธเจ้า
    ความยินดีในการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์โทษภัยใหญ่ จงเอาชนะให้ได้เสียในชาตินี้ ต่อจากนั้นก็นั่งเจริญสมาธิธรรมเสวยสุขอยู่จนคืนยันรุ่ง รู้สึกเบาสบายร่างกายไม่มี เพราะ (นิมิต) ได้ปาดเอาเนื้อหนังมังสาไปบูชาพระรัตนตรัยจนหมดสิ้นแล้ว
    รุ่งสางสว่างแจ้งก็เดินลงมาจากถ้ำผาบิ้ง ขณะเดินมาตามทางจิตรวมพรึบสงบลงอีก เกิดวิปัสสนาปัญญาสอนจิตให้พิจารณาธาตุ ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ ว่าเป็นภาระหนักทั้งภายในและภายนอก เป็นภาระอยู่ทุกลมหายใจ จงพิจารณาให้เกิดความเบื่อหน่าย
    หมู่สัตว์ทั้งหลายพากันแบกธาตุขันธ์เป็นภาระอันหนัก ให้ปล่อยวางเสีย ด้วยการบำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญา หรือมรรค ๘ ตัวเหตุสิ่งที่จะหลอกลวงใจให้เราหลง ทนทุกข์ไปตามธาตุขันธ์ เปรียบเหมือนน้ำกับใบบัว
    ใจเปรียบเหมือนน้ำ ธาตุขันธ์เปรียบเหมือนใบบัว ทั้งสองอย่างอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้ยึดติดกัน นี้แหละคือจิตของพระอริยเจ้า ท่านอยู่ด้วยธาตุขันธ์แต่ไม่ได้ยึดถือ แม้ธาตุขันธ์เป็นทุกข์ ก็ไม่ได้เป็นทุกข์ไปด้วย เพราะจิตปล่อยวางภาระอันหนักไปแล้ว
    ขณะเดินลงจากถ้ำผาบิ้ง ฟังพระธรรมสอนใจก็สลดสังเวชน้ำตาไหล เห็นจริงตามไปหมด เกิดความห้าวหาญองอาจไม่หวั่นไหว ทำกิจวัตรเสร็จแล้วจึงไปบิณฑบาตมาขบฉัน จากนั้นก็ไปกราบเรียนหลวงปู่ขาวว่า
    ผมภาวนาเมื่อคืนนี้ที่ถ้ำผาบิ้ง รู้สึกแปลกประหลาดกว่าทุกครั้ง ได้มอบกายถวายชีวิตต่อพระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์ ตลอดชีวิต ปาดเนื้อแล่หนังตัวเองถวายบูชาพระรัตนตรัยหมดสิ้น ไม่คิดกลับมาสู่โลกอีกแล้ว
    หลวงปู่ขาวฟังแล้วก็พูดว่า อ้อ ! พ้นทุกข์ได้สำเร็จอรหันต์แล้วหรือ ?
    อาตมาตอบว่า ยัง ! หลวงพ่อ ยังอยู่ ! ยังไม่พ้นดอก (ยังไม่พ้นทุกข์) แต่ครั้งนี้แปลกประหลาดกว่าทุกครั้งในการเจริญสมณธรรม ได้เพียรพยายามจนสุดวิสัย
    หลวงปู่ขาวพูดว่า อ้อ! ผมก็ดีใจ เห็นท่าน (พระอาจารย์จันทา) นั่งภาวนาอยู่มีแสงสว่าง (โอภาส) อยู่คืนยันรุ่ง ผมก็ดีใจว่า ท่านจะได้บรรลุมรรคผลแล้ว ดีใจมาก ๆ
    โอ ! บุญมาก คนนี่หนอ ไม่เหมือนกัน !
    หลวงปู่ขาวพูดว่าอย่างนั้น อาตมาก็ไม่ดีใจและไม่เสียใจ มีแต่ความปีติอิ่มเอิบในธรรมที่ได้ปฏิบัติ
    หลวงปู่ขาวท่านสอนไว้ว่าก่อนจะทำความเพียรให้ละความอยากและละอุปาทานนี้เป็นข้อสำคัญ !
    เมื่อจิตรวมสงบเป็นสมาธิธรรม และเกิดนิมิตขึ้นนั้น หลวงปู่ขาวท่านสอนให้พิจารณา และให้กำหนดถามพระธรรมคือผู้ไม่ตาย ซึ่งนั่นแหละคือผู้รู้ที่ท่องเที่ยวเอาชาติเอาภพอยู่ไม่จบสิ้น !
    ธรรมะทั้งหมดที่อาตมาได้บรรยายมานี้ ไม่ได้รู้เห็นด้วยตนเองหรอกนะ ต้องอาศัยหลวงปู่ขาวท่านแนะนำพร่ำสอนทั้งนั้น รวมทั้ง หลวงปู่ทับ วัดป่าแพงศรี อำเภอกมลาไสย หลวงปู่บัว สิริปุณโณ และหลวงปู่ขาวนี้เป็นองค์ที่ ๓ ซึ่งท่านก็สอนอย่างเดียวกัน
    นั่นคือให้กำหนดถามพระธรรม แล้วพระธรรมก็จะบอกให้รู้ นี้แหละเป็นของสำคัญแท้ นี้แหละคือธรรมะที่ได้ประพฤติปฏิบัติมา
    นับตั้งแต่อาตมาได้ติดตามหลวงปู่ขาวมาอยู่วัดถ้ำกลองเพล ปี พ.ศ.๒๕๐๑ (สองพันห้าร้อยหนึ่ง) ได้อยู่กับท่านมาตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งหลวงปู่ขาวมรณภาพ ก็นับเป็นเวลานานหลายปีอยู่
    ธรรมภาคปฏิบัติที่อาตมาได้อธิบายมาตั้งแต่ต้นจนอวสานนี้ พอจะเป็นเค้าเงื่อนให้ท่านทั้งหลายนำไปโอปนยิโก น้อมนำไปปฏิบัติ ฝึกหัดจิตใจของตนให้ตรงต่อหลักของศีล สมาธิ ปัญญา หรือมรรค ๘ โพชฌงค์ ๗ และอุปการธรรมข้ออื่น ๆ (ในโพธิปักขิยธรรม ๓๗) รับรองว่าท่านทั้งหลายจะไม่ผิดหวัง !
    บุญกุศลมรรคผลธรรมวิเศษจะตกเป็นมรดกปกคลุมคุ้มเราต่อไปโดยไม่ต้องสงสัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2007
  7. ภากร2

    ภากร2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +85
    อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ นับถือหลวงปู่มั่นมากครับ
     
  8. soodman

    soodman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +13
    อนุโมทนาครับ

    ธรรมใดที่หลวงปู่ได้รู้ ได้ประจักแจ้งแล้ว

    ขอกระผมจงมีส่วนร่วมในธรรมนั้นเถิด
     
  9. พงษ์75

    พงษ์75 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +11
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ และข้าพเจ้าขอยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และชาติใดที่ข้าพเจ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพาน ขอให้ข้าพเจ้าได้อยู๋ใต้ร่มพระพุทธศาสนาทุก ๆ ชาติไป
    จนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
     
  10. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    ขอกราบครูบาอาจารย์ ผู้ให้กำเนิดพระอรหันตสาวกมากมาย

    ขอกราบครูบาอาจารย์ ผู้ให้กำเนิดเพชรน้ำหนึ่งแห่งวงการพระกรรมฐานมากมาย

    ขอกราบครูบาอาจารย์ เพราะถ้าไม่มีท่าน ก็คงไม่มี

    พระมหาบุรุษ ที่ทรงนามว่า หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณ
     
  11. ครอบเเดนไตรโลกธาตุ

    ครอบเเดนไตรโลกธาตุ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทานาครับ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  12. เพชรตาแมว

    เพชรตาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +179
    อนุโทนา สาุธุ
     
  13. apinundo

    apinundo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +2
    เชื่ออย่างหมดหัวใจกับพ่อแม่ครูอาจรย์ใหญ่

    ธรรมะนั้นไม่ได้อยู่ในหนังสือแต่ค้นและเจอได้ในจิตของเราๆท่านๆนี่แหละอย่างที่ พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้แม้แต่กลางถนนก็ตาม ก็ขออนุโมทนา และเชิญชวนทุกท่านตามรอยครูบาอาจารย์ด้วยกรรมฐานกันนะครับ(||)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2009
  14. ปัญจ์ธน

    ปัญจ์ธน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +855
    อนุโมทนาครับ

    ผมอ่านแล้วทั้ง 2 เล่ม เป็นกำลังใจในการปฏิบัติได้อย่างดี และได้ซื้อไปมอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือใว้อ่านด้วย และเป็นสิ่งยืนยันว่า ธรรมะของพระพุทธองค์ที่ทรงประกาศใว้เมื่อสองพันกว่าปี หากปฏิบัติจริงแล้วจะเกิดผลตามที่ทรงประกาศใว้

    กำลังรอซื้อเล่ม 3



    ธรรมะไม่กลับมา โลกาวินาศ
     
  15. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    [​IMG]

    กราบอนุโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ
     
  16. ทางตรง

    ทางตรง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +16
    เคยประสบมาครั้งหนึ่งน้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว..มันสว่าง..ปิติ..เบา..สบาย..ตัวตนเหลื่อน้อยนิดดั่งเถ้าธุลี..สงสาร..เออหนอตัวเราไม่มีอะไรจริงๆ ปฏิกูล..น้ำเลือด น้ำหนอง..เน่าเหม็น..หาสิ่งที่เป็นแ่ก่นสารไม่ได้เลย..ความหยิ่ง ทนงตน มลายหมดสิ้น..เกิดความเมตตา สงสารสุดจะพรรณา..มันเห็นหมด เห็นหมดจริงๆไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรความเป็นไปทั้งหลายแหล่ที่ประสบตรงหน้าคน..สัตว์..สิ่งของ ตรงหน้า อยากเผื่อแผ่อยากให้..แม้แต่ชีวิต..มันจับจิตจับใจอยู่เป็นครึ่งค่อนวัน..แล้วก็กลับมาอยู่ตรงนี้..เสร็จภาระกิจเมื่อไหร่จะกลับไป..ตรงนั้นเห็นแล้ว เห็นแล้วจริงๆ..ยินดีต้อนรับเพื่อนร่วมทาง
     
  17. ภัทรวรรณ

    ภัทรวรรณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    ขออนุโมทนาสาธุ สำหรับธรรมดีๆ ค่ะ จะได้ไปหาอ่านบ้าง

    มีคนเล่าว่าอ่านประวิตหลวงปู่มั่นแล้วน้ำตาไหลซึ้งมาก

    สาธุ ค่ะ
     
  18. ทางตรง

    ทางตรง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอบารมีพระคุณเจ้า..ช่วยดลบันดาลให้ทุกท่านประสบแต่ความเจริญ..สาธุ..สาธุ..สาธุ
     
  19. k_yutthasin

    k_yutthasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +117
    อนุโมทนา ครับ องค์หลวงปู่มั่นท่านเป็นอริสงฆ์ที่เปรียบมิได้แล้วครับ
     
  20. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    ขอคั่นรายการหน่อยนะ.....


    อยากชวนทำบุญถวายตู้พระไตรปิฎกชุดใหญ่และ CD เสียงอ่านพระไตรปิฎก ถวายหลวงปู่บุญญฤทธิ์ พระอรหันต์กลางกรุง...
    (10 เมษายน 2553..เวลา 11.30 น.) ด้วยกัน...

    อันนี้ร่วมทำกับเพื่อนๆๆ สมาชิกเวปพลังจิตค่ะ...ตั้งใจจัดขึ้นมาเอง....บุญใหญ่ บารมีมาก ทำคนหรือสองคน ไม่ดีแน่..
    เลยอยากขอเชิญชวนทุกท่าน ที่ผ่านมาเห็นข้อความนี้ มาร่วมสร้าง และสะสมปัญญาบารมีร่วมกันค่ะ.......

    ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้นะคะ....

    บันทึกบาปและกรรมของข้าพเจ้า เขียนโดย ปานโสม
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8....89898/page-90
     

แชร์หน้านี้

Loading...