The Matrix คืออะไร ( ไม่รู้ว่าซ้ำไหม)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ฐาณัฏฐ์, 12 มิถุนายน 2008.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <!--colorc--><!--/colorc-->

    ในอนาคตนั้นหุ่นยนต์ได้ครองโลกไปแล้ว
    และมนุษย์ก็ถูกใช้เป็นแบตเตอรี่
    เนื่องมาจากว่าในตัวมนุษย์นั้นมีไฟฟ้าสถิตย์อยู่
    หุ่นยนต์จึงดูดไฟฟ้าสถิตย์นี้มาใช้

    มนุษย์ส่วนมากในอนาคตที่ถูกหุ่นยนต์จับมาทำเป็นถ่านไฟฉายนี่ก็จะต้องไม่ตาย
    ไม่งั้นไม่มีไฟ
    พอไม่ตายก็ต้องมีการฝันเพราะสมองยังทำงานอยู่
    ซึ่งโลกแห่งความฝันนี่คือ Matrix นั่นเอง

    เหมือนการเขียนโปรแกรม ที่ต้องมี Matrix
    หรือในการคำนวณเลขก็มี Matrix เหมือนกัน

    แต่ทว่าตัวตนในโลกของ Matrix หรือโลกของความฝันนั้น
    ก็มีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว เพราะตัวตนใน Matrix
    ถือได้ว่าเป็นวิญญาณหรือสัมปชัญญะของบุคคลผู้นั้น
    ถ้าตายใน Matrix ก็ถือว่าวิญญาณสลายไป หรือสูญสัมปชัญญะ
    ก็จะต้องตายในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยเหมือนกัน

    matrix คือระบบที่ควบคุมมนุษย์ และโลกไว้
    พวก นีโอ เป็นมนุษย์ที่ตื่นขึ้นจาก matrix เปรียบเสมือน
    แฮคเกอร์ นะ มอเฟียซ ก็บอกอยู่แล้ว
    แต่ที่เปรียบเหมือนไวรัสคือมนุษย์ทั้งหมดที่ สมิธพูดถึงไงว่า

    มนุษย์คือไวรัสคือโรคร้ายของดาวดวงนี้มนุษย์ไม่ได้ปรับสภาพตนให้อยู่กับธรรมชาติ
    แต่กลับใช้ทรัพยากรจดหมดและขยายพื้นที่เผ่าพันธุ์ไปเรื่อยๆ

    เหมือนกัยไวรัสที่จัดการกับร่างกายของมนุษย์และแพร่กระจายไปทั่ว
    แต่เหมือนไวรัสขาดมนุษย์ก็อยู่ไม่ได้เหมือนที่มนุษย์ขาดโลกก็อยู่ไม่ได้

    ..........

    <!--coloro:#CC0000--><!--/coloro-->Matrix คือ สังสารวัฏฏ์<!--colorc--><!--/colorc-->

    ข้อคิดธรรมะจากเรื่อง "เดอะแมทริกซ์ รีโหลด (The Matrix Reloaded)"
    โดย เชน ไซแอน,
    www.TheDailyEnlightenment.com

    เผยแพร่บนเครือข่ายข่าวสารชาวพุทธ (The Buddhist News Network)
    4 มิถุนายน 2546 ภาพยนตร์ไตรภาค เดอะแมทริกซ์ ( "เดอะแมทริกซ์รีโหลด" เป็นภาคที่สอง)
    มีแง่มุมชวนคิดหลายอย่าง อาทิ

    <!--coloro:#3366FF--><!--/coloro-->คำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของตัวตน ,
    อะไรคือความจริง ,
    การเข้าถึงสัจจะและการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    บทความนี้จึงเขียนขึ้นมาเพื่อชวนกันวิเคราะห์ภาพยนตร์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พี่น้องตระกูลวาโชว์สกี ซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวว่า

    "มีอะไรหลายอย่างที่โดดเด่น และน่าสนใจเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและคณิตศาสตร์ ซึ่งติดตราตรึงใจเรามานาน
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกฎควอนตัมฟิสิกส์ และในแง่ที่ศาสตร์ทั้งสองมาบรรจบพบกัน"

    บทความนี้พยายามที่จะสะท้อนให้เห็นว่าแต่ละฉากในภาพยนตร์มีความพยามยามดำเนินเรื่อง
    ให้สอดคล้องกับหลักพุทธศาสนาอย่างไร

    ก่อนอื่นใคร่ขอบอกว่า นี่เป็นเพียงการเชื่อมโยงอย่างคร่าว ๆ เท่านั้น
    และไม่ได้มุ่งเน้นความถูกต้องตามหลักปริยัติอย่างเคร่งครัด

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->
    แมทริกซ์เปรียบเสมือนสังสารวัฏฏ์ <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    (คือ เราอาศัยอยู่ในโลก แต่เรารับรู้สิ่งต่าง ๆ อย่างไม่ถูกต้อง ด้วยจิตใจที่หลงผิดของเราเอง)
    การถูกแมทริกซปิดบังให้มืดบอดไม่ใช่สิ่ง ที่เป็นไปไม่ได้ เหมือนกับสมัยนี้ ถ้าเราไม่ได้รับการศึกษา เราก็คงจะเข้าใจว่าโลกแบน(เพราะตามันเห็นว่าแบนจริง ๆ )
    หรือไม่ก็เข้าใจว่าพระอาทิตย์สว่างตอนเช้าแล้วดับตอนกลางคืน เพราะเชื่อสายตาของตนเอง

    โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยสิ่งลวงตาลวงใจมากเหลือเกิน!
    ฝันร้ายของนีโอ แม้ว่านีโอจะหวาดผวากับฝันร้ายซ้ำซากว่า ไตรนิตีถูกยิง ตอนที่เธอจะ "ตาย"

    แต่เขาก็เชื่อว่า "มันจะไม่สิ้นสุด จนกว่ามันจะสิ้นสุด" เขาเชื่อเช่นนี้ เพราะเขายังไม่ได้เห็นเธอตายจริง ๆ

    ข้อนี้ช่วยให้เราระลึกได้ว่า แม้สิ่งต่าง ๆ มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นตามกฎแห่งกรรม
    แต่ก็อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ ตราบใดที่เรามี"ความเพียร"ในการกอบกู้สถานการณ์ให้เปลี่ยนแปลงไป

    และตอนหนังใกล้จบ นีโอก็สามารถทำให้ไตรนิตี ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้
    หลังจากที่เขาสามารถเข้าถึงภาวะใกล้ตายของเธอได้สำเร็จ

    นีโอ ผู้มีเมตตาแต่ขาดปัญญา
    แม้นีโอจะมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองว่าเขาเป็นหนึ่งเดียว
    ที่สามารถช่วยทุกคนให้รอดพ้นจากแมทริกซ์ได้
    แต่นีโอก็บอกกับไตรนิตีว่า "ผมเพียงอยากรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง"

    นีโอจึงเปรียบได้กับผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความกรุณา แต่ขาดปัญญา
    ไม่รู้ว่าจะนำพาสรรพสัตว์หลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ (การเวียนว่ายตายเกิด) ได้อย่างไร

    ตรงนึ้เท่ากับช่วยย้ำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาปัญญาควบคู่ไปกับ ความกรุณา

    อุปมาเหมือนกับนกที่จะต้องมีสองปีก จึงสามารถบินได้
    ศรัทธาที่มืดบอดของมอร์เฟียส หลายคนสงสัยว่า
    ทำไมมอร์เฟียสจึงเชื่อมั่นในคำทำนายของโอราเคิลยิ่งนัก
    เขาเชื่อตั้งแต่ในภาคแรก และยืนยันความเชื่อที่ปราศจากเหตุผลรองรับ มาจนถึงภาค reloaded

    ด้วยความเชื่ออันงมงายของมอร์เฟียส ลูกเรือทุกคนต่างเต็มใจปฏิบัติตามคำบัญชาของเขา
    ด้วยความเชื่อมั่นและไว้ใจในตัวเขา
    เขาคือผู้ที่ทำให้ประชาชนชาวไซออน (Zion) มีความหวัง
    แต่แล้วในตอนจบของหนัง มันได้กลับกลายเป็นความสิ้นหวังไป
    (แต่เราก็หวังว่านีโอจะสามารถช่วยชีวิตชาวไซออนได้ในภาคที่สาม)

    ความเชื่อมั่นในคำทำนายของ"โอราเคิล" เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นในความยึดมั่นถือมั่นของมอร์เฟียส
    ทำให้ได้เห็นความต้องการลึกๆ และ ความเชื่อมั่นของเขา
    อย่างไรก็ตามในที่สุด ความ(ไม่)จริงก็ได้ปรากฏตามที่มันเป็น (ไม่ได้เป็นไปตามความเชื่อของใครๆ)

    ตรงนี้ถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่าคนเราทั่วๆไปก็เหมือนกัน
    คือจะเชื่อในสิ่งที่เราต้องการเชื่ออยู่แล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้จริง
    เราจำเป็นต้องการให้โอราเคิลมาบอกเราให้เชื่อในสิ่งที่เราเชื่อ หรือต้องการเชื่ออยู่แล้วหรือ!

    ไม่จำเป็นเลย ใช่ไหม ฉะนั้นอย่าตกเป็นเหยื่อของการหลอกตัวเอง
    เพราะขาดปัญญา

    เอเยนต์สมิธ คือ"มาร"
    เอเยนต์สมิธ ซึ่งไล่ล่านีโออย่างไม่ลดละ อาจเปรียบได้กับมารในตัวนีโอเอง
    ที่พยายาม "ฆ่า" เขา ด้วยการขัดขวางไม่ให้เขาบรรลุเป้าหมาย (คือการรู้แจ้งสัจธรรม)

    ในภาคแรก นีโอไม่ได้ทำลายล้างเอเยนต์สมิธให้สิ้นซาก เขาจึงกลับมาได้ในภาคสอง

    ตรงนี้บอกให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการกำจัดกิเลสมาร (ความโลภ ความโกรธ ความหลง)
    ในตัวเราให้หมดสิ้นไป

    การที่สมิธสามารถ "เนรมิตกาย" ขึ้นมาตั้งมากมาย อาจเทียบได้กับการที่เรายอมให้กิเลสมารเกิดขึ้น
    ในใจของเราอย่างง่ายดายและรวดเร็ว เพราะไม่ได้ฝึกจิตใจให้เข้มแข็งพอ
    และมักทำอะไรตามความเคยชิน
    ไม่ทำด้วยความมีสติ เหตุการณ์ที่ซ้ำรอยเดิม

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ตอนที่นีโอหนีสมิธอีกครั้ง สมิธพูดว่า
    "มันกำลังเกิดขึ้นอีกแล้ว เหมือนครั้งก่อนเลย"<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    แต่ "กายเนรมิต" ของเขากลับพูดว่า
    <!--coloro:#3366FF--><!--/coloro-->"ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว" <!--colorc--><!--/colorc-->

    ตรงนี้บอกเราว่า การเวียนว่ายตายเกิด ทำให้เราต้องประสบเรื่องทำนองเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ถึงกระนั้น เรื่องแต่ละเรื่องก็ไม่เหมือนกันเสียทั้งหมด
    และมีหลายครั้งที่เราสามารถพัฒนาเรียนรู้ให้เกิดประโยชน์ได้

    ความเป็นซุปเปอร์แมนของนีโอ การที่นีโอเหาะได้เหมือนซุปเปอร์แมน
    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของจิตใจที่มีอำนาจเหนือวัตถุ<!--colorc--><!--/colorc--> (ฤทธิ์)
    สามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อ (และดูเหมือนท้าทายกฎทางฟิสิกส์) ได้

    อย่างไรก็ตาม ความสามารถนี้อย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เขารอดพ้นจากแมทริกซ์ได้โดยเด็ดขาด
    เพราะอำนาจจิตไม่ได้นำมาซึ่งการรู้แจ้ง แต่เป็นเพียงผลพลอยได้ในกระบวนการฝึกจิตเท่านั้น (ตอน 2)

    ชุดของนีโอ นอกจากเสื้อคลุมสีดำของนีโอจะใกล้เคียงกับชุดของเซ็นแล้ว
    ใบหน้าของเขายังสงบนิ่งและสำรวมแบบพระแทบจะตลอดเวลาด้วย
    สองเรื่องนี้เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจไม่น้อย
    ชาวไซออนเปรียบได้กับชาวพุทธ
    พลเมืองชาวไซออน (ซึ่งเปรียบได้กับชาวพุทธ)
    ยังเพียงอยู่บนเส้นทางสู่อิสรภาพที่สมบูรณ์ (การรู้แจ้ง) เท่านั้น
    ยังไม่ได้บรรลุเป้าหมายที่แท้จริง

    เพราะอิสรภาพที่สมบูรณ์ (นิพพานในพระพุทธศาสนา) หมายถึง ความสงบระงับ ไม่มีความทะยานอยากอีกต่อไป ชาวไซออนส่วนใหญ่รู้ความจริงของแมทริกซ์ (ความจริงแห่งสังสารวัฏฏ์) ระดับหนึ่ง
    ซึ่งอาจเทียบได้กับพระโสดาบันเท่านั้น ยังไม่ได้บรรลุพระอรหันต์ จึงไม่สามารถบรรลุเสรีภาพที่แท้จริง
    (สิ้นสุดการเวียนว่ายตายเกิด)

    ส่วนชาวไซออนที่มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้อื่นให้ตื่นตัวและหลุดพ้น อาจเปรียบได้กับพระโพธิสัตว์ในคติพระพุทธศาสนา
    ไซออนล่มสลาย เปรียบได้กับพระธรรมอันตรธานสิ้น

    การทำลายล้างไซออนจนหมดสิ้น อาจเปรียบได้กับการสิ้นยุคพระพุทธศาสนา
    เพราะนั่นย่อมหมายความว่าไม่เหลือผู้รู้ความจริงเกี่ยวกับแมทริกซ์ (สังสารวัฏฏ์) แม้แต่คนเดียว


    นีโออาจเปรียบเสมือนพระพุทธเจ้า ในบางกรณีอาจถือได้ว่านีโอมีลักษณะคล้ายพระพุทธเจ้า
    คือเป็นผู้ "หลุดพ้น" จากแมทริกซ์ (สังสารวัฏฏ์) โดยสิ้นเชิง
    และสามารถกลับเข้าไปได้โดยไม่ถูกครอบงำ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ผู้อื่น (สรรพสัตว์) ได้หลุดพ้นตาม
    แต่นีโอกลับ "รู้แจ้ง" น้อยกว่าที่เราคิด จึงอาจเทียบได้กับพระโพธิสัตว์ที่เปี่ยมด้วยแรงจูงใจ (ความกรุณา)
    แต่ขาดความรู้ (ปัญญา) ที่จะช่วยเหลือโลก นีโอสามารถปลุกเร้าให้ชาวไซออนตื่นตัวเท่านั้น
    ไม่อาจดึงใครออกจากแมทริกซ์ได้ หากคนคนนั้นไม่ตั้งใจและเพียรพยายามด้วยตัวเอง
    (ทำนองเดียวกัน พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ชี้ทางเดินเท่านั้น เราจะเดินหรือไม่เดินเป็นหน้าที่ของเรา)

    จิตใจที่จะสามารถหลุดพ้นได้ จึงต้องมีความปรารถนาและเพียรพยายามเป็นทุนเดิม ที่ปรึกษา (counsellor)
    พูดถึงความว่างเปล่าของเครื่องจักร ที่ปรึกษาระบุว่า เครื่องจักรช่วยชาวไซออนทำงานมากมาย
    เช่นทำให้เกิดแสงสว่าง ความร้อน และอากาศ แต่ก็มีเครื่องจักรบางอย่างมีเป้าหมายทำลายพวกเขาด้วย

    ดังนั้น ลำพังเครื่องจักรเองจึงเสมือนเป็นสิ่งว่างเปล่า จะบอกว่าดีหรือไม่ดีไม่ได้ การตั้งโปรแกรมหรือเจตนาที่อยู่เบื้องหลังการสร้างและควบคุมเครื่องจักรต่างหาก
    ที่ทำให้เครื่องจักรดีหรือไม่ดี เหตุที่ฑูตสวรรค์ (seraph) ต้องประลองฝีมือ
    ฑูตสวรรค์บอกนีโอหลังจากที่ประลองฝีมือกัน เพื่อพิสูจน์ว่าใช่นีโอจริงหรือไม่ว่า

    "คุณไม่อาจรู้จักใครได้อย่างแท้จริง จนกว่าคุณจะได้สู้กับเขา"

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->เราเองก็เช่นกัน เราจะไม่รู้จักตัวเราเองเลย หากเราเอาชนะตัวเองไม่ได้ เราต้อง "สู้" กับตัวเอง
    เพื่ออิสรภาพและการรู้แจ้ง การหยั่งเห็นองค์ประกอบแมทริกซ์ของนีโอ <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    การที่นีโอสามารถหยั่งเห็นเนื้อในของแมทริกซ์ ว่าแท้จริงคือ
    รหัสคำสั่งโปรแกรมที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลา

    อาจเปรียบได้กับการหยั่งเห็นความไม่มีตัวตน (อนัตตา) ของสิ่งต่าง ๆ การหยั่งเห็นองค์ประกอบแมทริกซ์ของนีโอ การหยั่งเห็นองค์ประกอบแมทริกซ์ของนีโอ
    โอราเคิลบอกนีโอหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องชะตาลิขิต เธอบอกด้วยว่า เธอรู้ทุกสิ่งที่กำลังจะเกิด
    แต่เธอก็พูดขัดกับตัวเองว่า นีโอต้องเพิ่มพลัง เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาลิขิตที่ได้ "กำหนดตายตัว" แล้ว

    นี่ย่อมแสดงว่า สิ่งที่ดูเหมือนได้ "ลิขิต" มาแล้ว แท้จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ยังเปลี่ยนแปลงได้อีก
    สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น หรือมีขึ้น เพื่ออะไร?

    โอราเคิลบอกนีโอว่า "สิ่งใดก็ตามที่ได้เกิดขึ้น ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเหตุผลบางอย่าง
    " ข้อนี้ไม่น่าจะถูกต้องเสียทั้งหมด เพราะสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว


    ตัวอย่างเช่น ชาวพุทธบางคนเชื่อว่า คนเราเกิดมาเพื่อทำลายและหลุดจากกงล้อแห่งการเวียนว่ายตายเกิด
    แต่บางคนอาจเชื่อว่าคนเราเกิดมาเพื่อเหตุผลอย่างอื่น

    ดังนั้น คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า เราควรมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรจึงมีได้หลากหลาย

    สิ่งที่ควรคำนึงคือ คำตอบใดที่เราคิดว่าดีที่สุด ประเสริฐสุด แล้วดำเนินไปตามนั้น

    ทำนองเดียวกัน มอร์เฟียสเองก็พูดว่า
    "เราทุกคนมาอยู่ที่นี่ เพื่อทำสิ่งที่เราทุกคนต้องทำเมื่อมาอยู่ที่นี่"
    แต่แท้จริงแล้ว ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เรา "ต้อง" ทำ เราเลือกได้ตลอดเวลาเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า เป็นประโยชน์กว่า

    ตอนหนึ่ง เอเยนต์สมิธบอกนีโอว่า ทั้งสองอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะหลุดพ้นจากแมทริกซ์ แต่เพราะไม่หลุดพ้นต่างหาก

    ข้อนี้เป็นจริง เพราะแม้ว่าทั้งสองจะถอดออกจากแมทริกซ์แล้ว
    แต่ถ้าพวกเขาเป็นอิสระจากแมทริกซ์จริง พวกเขาก็จะไม่ต่อสู้กัน

    ดังนั้น การจะเป็นอิสระจากแมทริกซ์ได้ ยังต้องพัฒนาให้สูงขึ้นไปอีก

    merovingian พูดถึงความไม่มีกฎเกณฑ์ (เหตุ & ผล)
    merovingian พูดอย่างอหังการว่า "ทางเลือกคือสิ่งลวง ที่ผู้มีอำนาจสร้างขึ้นสำหรับผู้ไม่มีอำนาจ"

    เขาพูดขณะที่คิดว่าตัวเขาคือผู้มีอำนาจคนหนึ่ง ที่กำลังชักใยผู้อื่นอยู่ แต่เหตุการณ์กลับกลายเป็นว่า
    เขาถูกภรรยาหักหลัง โดยเธอเลือกที่จะทำเอง และกว่าเขาจะรู้ ก็สายเสียแล้ว

    มุมมองเรื่องนี้ของเขาจึงไม่ถูกต้อง แม้ว่าทางเลือกจะเป็นสิ่งลวง (ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่)
    ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่เฉย ๆ ยอมก้มหน้ารับชะตากรรม โดยไม่ดิ้นรนอะไร
    เพราะคุณไม่มีวันรู้ว่า ชะตาชีวิตของคุณเป็นอย่างไร และไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน

    เขายังบอกด้วยว่า "สิ่งใดที่เกิดแล้ว ย่อมเกิดแล้ว ไม่ผันแปรเป็นอย่างอื่น"

    ข้อนี้ชัดเจนในตัว เป็นที่น่าสังเกตว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงการเดินทางข้ามเวลา
    (ซึ่งโดยหลักการแล้วเป็นไปไม่ได้ เพราะขัดกับกฎแห่งเหตุและผล)
    สิ่งใดที่ปรากฏขึ้นแล้ว จะไม่ปรากฏก็ไม่ได้ หรือจะปรากฏเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้เช่นกัน

    ข้อคิดจากช่างทำกุญแจ ต่อข้อถามที่ว่า เขาจะไปไหน ขณะถูกไล่ล่า ช่างทำกุญแจตอบว่า
    "ไปอีกทางหนึ่ง จะต้องมีอีกทางหนึ่งเสมอ"

    คำตอบนี้ทำให้เราได้ข้อคิดว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
    เรามีทางเลือกอย่างน้อยสองทางเสมอ และเราเลือกได้อย่างอิสระ
    แม้ในสภาพการณ์ที่บีบรัด ช่างทำกุญแจบอกว่า

    ประตูมีหลายบาน แต่ละบานเปิดสู่ "สถานที่" ที่ต่างกัน แต่จะมี "ประตูบานหนึ่งนำไปสู่ต้นกำเนิด
    (แกนกลางของแมทริกซ์)"

    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ประตูบานนี้อาจเทียบได้กับประตูที่นำไปสู่แก่นแท้ของความจริง

    นั่นคือพระไตรลักษณ์<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    และจะนำไปสู่อิสรภาพได้ในที่สุด

    มอร์เฟียสพูดถึงเหตุผลแห่งการมีอยู่ มอร์เฟียสพูดก่อนที่จะ "ทำสงคราม" ขั้นเด็ดขาดว่า
    "เราทุกคนสู้ศึกนี้มาชั่วชีวิต เราไม่ได้มาที่นี่โดยบังเอิญ ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ ผมเชื่อว่าชะตาชีวิตลิขิตให้เรามาที่นี่"

    สงครามที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ คือสงครามในจิตใจ ที่เรากำลังต่อสู้กับ "ตัวตน" ของเรา
    แน่นอน เราไม่ได้ "อยู่ที่นี่" โดยบังเอิญ
    แต่เป็นเพราะอำนาจกรรม ซึ่งจะเรียกว่า "ชะตากรรม" ก็ได้ ชักนำให้เรามาอยู่ที่นี่
    แต่ถึงกระนั้น "ชะตากรรม" ในอนาคตก็อยู่ในมือของเรา เราสามารถกำหนดได้

    สถาปนิกเปรียบได้กับอีโก้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแมทริกซ์ (สังสารวัฏฏ์) คือสถาปนิก

    ซึ่งในเรื่อง เขาเป็นผู้ที่มีความถือตัว เห็นแก่ตัว และชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ
    ยอมรับความล้มเหลวไม่ได้ รวมทั้งที่เป็นของตัวเขาเอง ซึ่งเขาไม่เห็นว่านั่นเป็นความล้มเหลว จึงไม่ยอมรับ แต่กลับโทษว่าเป็นเพราะความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์ (ผู้อื่น)

    เขาพูดว่า

    ความหวังคือสิ่งลวง

    แต่ตัวเขาเองก็มีความหวัง เขาหวังว่านีโอจะลบล้างและเริ่มต้นระบบที่บกพร่องใหม่อีกครั้งตามที่เขาต้องการ
    ในเรื่องความสมบูรณ์แบบ เขาไม่น่าเป็นคนสมบูรณ์แบบ เพราะยังทำให้จิตใจของเขาสมบูรณ์แบบไม่ได้

    เขาเปรียบเหมือนพระเจ้าจอมปลอม ซึ่งเป็นเพียง "มนุษย์" เท่านั้น

    สถาปนิกเปรียบเหมือนตัณหา สถาปนิกอ้างตนว่าเป็นผู้ออกแบบแมทริกซ์

    ในทางพระพุทธศาสนา สถาปนิกหรือ
    "นายช่างผู้สร้างเรือน"

    คือตัณหา มีข้อน่าสังเกตคือ ในเรื่อง "Little Buddha" คีนูรีฟซึ่งแสดงเป็นพระพุทธเจ้า
    (และในเรื่องเดอะแมทริกซ์แสดงเป็นนีโอ) ได้พูดกับตัณหาและเรียกตัณหาว่า
    "นายช่างผู้สร้างเรือน" การที่นีโอพบกับสถาปนิกช่วยให้เขาตระหนักถึงธรรมชาติที่แท้จริงของเขา

    สถาปนิกเปรียบได้กับตัณหา
    เพราะเป็นผู้ผลักดันให้เราสร้างแมทริกซ์ - สร้างความยึดติดในสังสารวัฏฏ์

    หลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระองค์ตรัสว่า

    "เรือนคืออัตภาพที่เกิดในภพนั้นๆ บ่อยๆ เป็นของไม่เที่ยง
    เราแสวงหา นายช่างคือตัณหาผู้สร้างเรือน
    เมื่อไม่พบ ได้ท่องเที่ยวไปสู่สังสารวัฏฏ์สิ้นชาติมิใช่น้อย การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ร่ำไป
    ดูกรนายช่างผู้สร้างเรือน
    บัดนี้ เราพบท่านแล้ว ท่านจักไม่ต้องสร้างเรือนให้เราอีก
    โครงเรือนคือกิเลสของท่าน เราหักเสียหมดแล้ว และยอดเรือนคืออวิชชาแห่งเรือนท่านเราทำลายแล้ว
    จิตของเราไม่เกิดต่อไปเป็นธรรมดาแล้ว จักดับอยู่ในภพนี้เอง"

    สถาปนิกพูดถึงนีโอ
    นีโอ
    "ทำไมผมมาอยู่ที่นี่?"

    สถาปนิก
    "ชีวิตของคุณคือผลรวมของส่วนเกินของสมการที่ไม่สมดุลในโปรแกรมแมทริกซ์
    แล้วกลายมาเป็นสิ่งผิดปรกติในที่สุด ซึ่งแม้ผมจะพยายามเต็มที่แล้ว
    แต่ก็กำจัดให้หมดไปไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่อยู่เหนือการคาดคิด
    และจึงไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ด้วยเหตุนี้คุณจึงต้องมาอยู่ที่นี่ไง"

    เราเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเราต้องมาอยู่ที่นี่ ภาวะของความไม่รู้นี้คือความหลงหรืออวิชชา
    ตัวอวิชชานี้เองทำให้เราต้องเกิดใหม่ เราคือสมการที่ไม่สมดุล
    เนื่องจากเรามีความหลง ความหลงทำให้เราเป็นสิ่งผิดปรกติของโลกนี้
    แต่ก็ใช่ว่าจะควบคุมไม่ได้ และถ้าขณะใดเราไม่ควบคุมตัวเราเอง ตัณหาหรือสถาปนิกก็จะมาควบคุม

    สถาปนิกพูดถึงพลังของสิ่งเล็กน้อย

    "
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><THEAD><TR><TD class=tcat colSpan=2>เฉพาะคนที่เป็นสมาชิก ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว ในช่วงเวลา 180 วัน จำนวณ 2 คน (Set) </TD></TR></THEAD><TBODY id=collapseobj_thread_readers><TR><TD class=alt1 colSpan=2>สันโดษ, ฐาณัฏฐ์
    นานๆจะโพสที ซวยมากมาย เจอยัยเพี้ยนประเดิม ฮือ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. ขุนพล.

    ขุนพล. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +162
    สหายเอ๊ย แนะนำให้เอาจินตนาการอันบรรเจิดแบบนี้มาแต่งนิยายวิทยาศาสตร์
    อิงธรรมมะประเดิมซักเรื่องท่าจะดีมากๆ แต่งใว้เยอะๆใว้พิมพ์ขายเลยก็เข้าท่า
     
  4. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +3,151
    จขกท.รู้ป่าวหนังเรื่อง Little Buddha มีพูดเรื่องสถาปนิกด้วยนะ ใช้คำเดียวกันเลย
    พระเอกคนเดียวกันแสดง ที่จริง Little Buddha คือภาคจบสมบูรณ์ของ The MATRIX ที่สร้างมาก่อน ลองไปหามาดูสิ
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขอบคุณครับ
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ยอดเยี่ยม ในเนื้อหา จนอดนึกไม่ได้ว่า คนแต่งนิยายเรื่องนี้ ต้องมีการศึกษาศาสนาพุทธเป็นอย่างดี
    มีปัญญาดี

    แต่ นีโอ ขันธ์บอกว่า การที่เจ้าต้องเลือก โดยถูกบังคับให้เลือก ไม่ว่าเลือกทางใดก็ผิด
    เพราะท่านกำลังถูกบังคับ ด้วยอารมณ์ทั้งสองทาง

    แล้วทางที่ถูกมีหรือไม่ ตอบว่าไม่มในสถานะการณ์นั้นเพราะท่านถูกบังคับ ความจริงก็คือเมื่อทำด้วยปัญญาแล้ว ท่านจะไม่เลือก แต่ทำโดยปราศจากการลังเล นั้นคือ ปัญญา อย่างแท้จริง ซึ่งมันจะไม่เห็นทางที่เราต้องเลือกเลย
     
  7. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,205
    ค่าพลัง:
    +235
    การคำนวณด้วยพีชคณิตเชิงเส้น ด้วยสมการทางคณิตศาสตร์ หนึ่งในนั้นคือ Matrix

    เส้นสายแต่ละเส้น โยงใยกันครับ และอธิบายได้ด้วยทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน

    นั่นแหล่ะครับ คือสิ่งที่ผู้คนในโลกนี้กำลังพิสูจน์ .... แต่พิสูจน์ไปเถ๊อะ หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ

    เมื่อหยุดหา ก็เจอเมื่อนั้น

    เซ็งจริงๆ
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ผมว่าทุกวันนี้เราติดอยู่ใน สังสารวัฏฏ์แมทริกซ์ เข้าไปทุกทีแล้วนะครับ
    เมื่อสองวันก่อน ก็คุยเรื่องจิตไหลไปกับเน็ต จากเข้ามาสนทนาธรรม
    ไหลไปเป็นสนทานทำ หุหุ
    ตัวอย่างทีให้ดูเยอะครับ รวมทั้งผมด้วย สำคัญคือใช้สติงัดขึ้นมาอย่างมากเลย ครับ หุหุ
     
  9. แสวงหาความจริง

    แสวงหาความจริง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +5,163
    neo เป็นโปรแกรมครับ
     
  10. ENERGY2CARD

    ENERGY2CARD สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +5
    ในความเป็นจริงแล้ว ก็มี ผู้ ที่ ควบคุม เราอยู่ละครับ มีระบบ มีโปรแกรม คอยแย้งชิงกัน ส่ง โปรแกรมเข้ามาในตัวเราด้วยซ้ำ

    ฝ่าย บุญ ( สีขาว ) ส่งความสุขมาให้ อย่างเดียว ให้คว่ามรู้สึก เป็นสุขกาย สุขใจตลอดเวลา คิดทำแต่สิ่งที่ ดี ทำแต่สิ่งที่เป็นบุญ

    ฝ่าย กลาง ( สีเท่าแบบตะกั่วตัด ไม่ขาวไม่ดำ ) ส่งความรู้สึกนิ้งเฉยไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่ทำความดี ไม่ทำความชั่ว

    ฝ่าย บาป ( สีดำ ) ส่งความทุกข์ มาให้ ทั้ง กายและใจ ให้คิดทำแต่ความชั่ว อย่างเดียว
    เมื่อทำความชั่วได้ที่แล้ว ก็ จะไปสู่ดินแดนของเค้า คือนรก รับความทรมานอย่างเดียว

    มนุษย์ คือ หุ้นให้เค้าเชิด อยู่ที่ว่า ฝ่ายไหน จะได้ครองมากกว่า อย่างที่ว่า บางที ความคิด นี้ก็ไม่ใช้ของ เรา
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    สงสัย นีโอ แม้ว่าจะฝันอยู่ แต่สติก็ตื่นตลอดมั้ง

    เหมือนบางคนที่ฝัน แล้วดันมีสติในฝันว่าเป็นซุปเปอร์แมน

    กำกับฝันตนเองอีกที ทีนี้โปรแกรมมันก็เลยมี "BUG"

    ต้องปล่อยให้ บักจ่อย error ต่อไปทำให้โปรแกรมเพี้ยนเล่นๆ ซะงั้น

    พวกอยู่นอกกฏมักจะมี อะพิสิด ใช่ปะ ถ้าใช้เยอะจนหลง

    ระวังจะโดนรื้อโปรแกรมถอด อะพิสิด ออกเพราะ จ๊อด ไม่ประทับใจ ซะป่าวๆ

    อย่าหลงนะตัวเอง ลิเกก็ลิเกนั้นแหละ แสงสีเสียง เอฟเฟคตระการตา สุดห้ามใจ

    พระเอกตายตอนจบมาเยอะแระ ไม่เชื่อไปดูหนังเรื่อง MIST ดูจิ
     
  12. ธรรมะชาติ

    ธรรมะชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +64
    ฝึก สมาธิ สิ อยากรู้ความจริง นึกถึงพระพุทธเจ้าไว้ แล้วองค์ท่าน จะสอนเราทุกอย่าง อ้อ ศีล 5 อย่าลืม ตัดสินทุกอย่าง ด้วยปัญญา
     
  13. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    วันนี้มีรายการ สุริวิพา คนที่มาออกที่เขียนหนังสือไอสไตล์พบพระพุทธเจ้ามาออก ก็พูดเรื่องวิปัสนานี้หละ มีเวลาก็ลองไปดูนะ
     
  14. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ไปค้นyoutube มีพอดีเลยเอามาโพส
    http://www.youtube.com/watch?v=IEnrmbc_-6w
    นาทีที่7เป็นต้นไปจะมีบทสนทนาธรรมช่วงสุดท้าย

    "Architect – finally I have met you. You will not rebuild your house again." "but i am your house and you living me"
    "สถาปนิก ในที่สุดเราก็พบกัน เจ้าไม่ได้สร้างบ้านเจ้าอีกแล้ว" "แต่ข้าคือบ้านท่าน ท่านอาศัยร่างข้าอยู่" "เจ้าเป็นเชื้อทำให้เกิดกิเลส"


    LITTLE BUDDHA คือภาคจบสมบูรณ์ของ The MATRIX รื้อวัฏฏสงสารเรียบร้อยพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง
     
  15. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,205
    ค่าพลัง:
    +235
    ^
    ^
    คุณหลับตา โพสท์เรื่องนี้ ทำให้ผมนึกถึงเด็กหนุ่มชาวเนปาล ที่นั่งสมาธิเป็นปีๆ
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    จริงๆ แล้วผมคิดว่า คนแต่งทั้งสองคน ไม่ได้อิงพุทธ ขนาดลงลึกถึงเรื่องตัณหา ตามที่ อ้างมานะ

    สองพี่น้องที่แต่งเรื่อง เมตริกส์ นี้ อิงหลักปรัชญามากกว่า คือ

    สถาปนิก นั้น คิดอะไรขึ้นมาต้องมีความสมบูรณ์และ ลงตัวเสมอ ภายใต้กฎเกณฑ์

    แต่ เทพพยากรณ์นั้น ไม่มีความเป็นกฎเกณฑ์ แต่มีแรงผลักดัน

    สรุปว่า สรรพสิ่งในโลกนี้เกิดขึ้นจาก อำนาจที่ไร้กฎเกณฑ์ ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน และ อำนาจที่มีรูปแบบที่แน่นอนซึ่งก็คือ สถาปนิก

    ทั้งสองนี้ ต่างชิงผู้คน เข้ามาสู่ข้างตนเสมอ แต่ทุกครั้ง เมื่อเข้าไปสู่หลักเกณฑ์ใดก็ตาม มันจะมีอีกฝ่ายหนึ่งที่ มีอำนาจมากกว่า มาชนะอยู่เสมอไป

    เช่นว่า มนุษย์เชื่อวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีรูปแบบที่แน่นอน แต่พอมาถึงระดับหนึ่ง วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายปรากฎการณ์หลายๆ อย่างได้
    พูดง่ายๆ ที่สุดก็คือ มาจากหลัก ความแน่นอนบนความไม่แน่นอน
    สุดท้ายแล้ว มนุษย์ ต่างก็ถูก สิ่งทั้งสองสิ่งนี้ล่อลวงให้ เราทำสิ่งต่างๆ นาๆ มากมาย

    เราหาหลักเกณฑ์ อะไรได้ พอกว้างออกไป เพื่อให้ครอบคลุมมากกว่าเดิม ก็ปรากฎว่า มันไม่ได้เหมือนเดิมเสียแล้ว
    ทฤษฎีต่างๆ ถูกหักล้างกันเรื่อยไป

    นี่ พวกฝรั่งมันคิดกันอย่างนี้ มันไม่ได้คิดเรื่อง ตัณหาอะไรของพุทธหรอก

    ส่วน นีโอ นี่ ฝรั่งมันเปรียบกับพระพุทธองค์ ที่ แม้จะรู้เห็นตามความเป็นจริงอย่างไร ก็ไม่พ้นไปจาก อำนาจของพระเจ้า ตามแบบฉบับของฝรั่ง ให้ดูว่า สถาปนิก จะเป็นชายใส่ชุดขาว และ เทพยากรณ์ คือ หญิงผิวดำ

    นี่แหละ คือ พระเจ้าของพวกฝรั่ง นีโิอ เชื่อมั่น ในแบบที่คนดันให้ เขารู้สึกว่าเขาเป็นจริงๆ
    หมายความว่า พระพุทธองค์ ถูกปัญจวัคคีย์ พยากรณ์แต่แรกแล้วว่า จะต้องเป็นกษัตริย์ หรือไม่ก็ ศาสดาเอก แล้วพระองค์ก็ออกผนวช ท่ามกลางความเชื่อมั่นของปัญจวัคคีย์
    นี่มันแอบด่า ศาสนาพุทธ

    หลักฐาน ที่ฝรั่งคิดแบบนี้ มีอยู่จริง และ สองพี่น้องบ้า นั้นมันก็คิดแบบนี้

    นีโอ จึง เป็นพระเอก แต่ อยู่ภายใต้ กฎเกณฑ์ แห่งพระเป็นเจ้า

    มันมองด้วยมุมมองที่เป็นปรัชญา ไม่ใช่ ศาสนา ให้ทุกท่านลองพินิจดู
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้ายังมีโลกอีกโลกหนึ่งนะ ก็เหมือนหลุดจากกรงนี้ไปอยู่อีกกรง อ๊ะป่าว

    ไม่ได้ค้าน เพียงแต่ฉงฉัยตามประสาลิงนิ
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หรอ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย

    โลกคู่ขนานหรอ หรือหลุดไปอยู่ที่ไหน
     
  19. บุคคลทั่วไป 1 คน

    บุคคลทั่วไป 1 คน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +7
    หากเราคิดว่า หลุดได้
    สักวันหนึ่งเราก็จะคิดว่า ได้หลุด
    ทั้ง "หลุดได้" และ "ได้หลุด" ล้วนเป็นสิ่งที่กางกั้นความเป็นจริง
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ไม่พ้นคิด จิต วิจิตร ลิขิต จินตนาการ

    ไม่พ้นวาร เวลา อันยิ่งใหญ่

    ก่อกำเนิด ด้วยหลงว่าพ้นไป

    หยุดคิด ปรุงไป ได้เมื่อไร ก็พ้นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...