อยากทราบความเห็นของเพื่อนๆ เกี่ยวกับ วัดพระธรรมกาย ว่าคิดกันอย่างไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย มารสะท้าน, 5 มกราคม 2005.

  1. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +2,808
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    ตอบคุณ khochpaak ครับ สายสิญจน์เป็นฉนวนไฟฟ้าครับ ไม่นำไฟฟ้าแน่นอน เว้นแต่นะไปจุ่มน้ำจนเปียก

    ไม่ขอวิจารย์เรื่องนี้ครับ กลัวกรรมจากการปรามาสครับ จะถูกจะผิดขึ้นชื่อว่าพระแล้ว ไม่ขอแตะครับ ไม่ใช่ธุรของฆราวาส เคยมีท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านกล่าวเตือนเอาไว้ เอาเป็นว่าผมเพ่งโทษตัวเองดีกว่า.........
     
  3. penkonthai

    penkonthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +129
    กำ กระทู้ข้ามปี ถึงว่า หา rep ของคุณอำนาจไม่เจอ อยากอ่านมั่ง -*-
     
  4. sakkrit99k

    sakkrit99k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +167
    ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
    ข้อ1 การทำบุญกับสัตว์เดรัจฉาน 100ตัวเท่ากับทำบุญกับ คนชั่ว ไม่มีศีล5 1คน ทำบุญกับ คนไม่มีศีล5 เลย 100คนเท่ากับทำบุญกับ คนทีรักษาีศีล 5 เพียง1ข้อ 1คน ทำบุญกับคนที่มีศีล5เพียง1ข้อ100คนเท่ากับ คนที่มีศีล5เพียง2ข้อ 1คน ทำบุญกับคนที่มีศีลเพียง2ข้อ100คน เท่าคนที่มีศีล 3ข้อ1คน ทำบุญกับคนที่มีศีล3ข้อ100คน เท่ากับคนที่มีศีล 4 ข้อ 1คน 4ข้อ100คนเท่ากับศีลครบ5ข้อ1คน ทำบุญกับคนที่มีศีล5ข้อ 100คน เท่ากับทำบุญกับพระโสดาบัน 1 ท่าน ไร่ไปเรื่อยๆ จนถึงทำบุญกับพระอรหัง 100 เท่ากับ ทำบุญกับพระพุทธองค์ ผมเชื่อว่าคนที่ทำบุญก็ปรารถนาจะให้พ้นอบายส่วนในภพปัจจุบันเมื่อเชื่อในบุญ บุญก็จะคุ้มครองผู้ทใจี่อยู่ในบุญ เมื่อใจเบิกบานก้ส่งผลต่อการงานการเจรจาติดต่องานการค้าขายผู้เข้ามาสัมผัสกับผู้มีใจเบิกบานก็เบิกบานไปด้วยทำบุญเพื่อรองรับผลบุญไงครับ ทำบาปก็รองรับผลบาปครับ ส่วนจะส่งผลมาน้อยขึ้นกับกรรมเก่าด้วยถ้ากรรมเก่าทำมาดีก็ส่งผลดี ถ้ากรรมเก่าทำไม่ดีเกิดมาส่งผลช่วงทำบุยในชาตินี้ก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาครับ โชคลาภคงไม่มีแต่ไม่ตายโหงก็โชคดีแล้วไงครับ
    ข้อ2 ลักษณะเหมือนเจดีย์ีในสมัยโบราณช่วงต้นๆ พศ. จะมีลักษณะเป็นโดมกลมๆ ส่วนที่แผ่ออกไปเป็นสัญญลักษณ์ของรัศมี ของดวงกลมๆที่เราเห็นเพียงครึ่งเดียว จะเห็นทั้งหมดต้องนั่งสมาธิเข้าศูนย์กลางกาย มิใช่จานบิน
    ข้อ3 คนไม่มีเงินมีสิทธิ มีอยู่ท่านหนึ่งเคยได้ยินว่า เขามีเงิน เพียง ข้าว 1มื้อ เขาตัดสินใจทำบุญครั้งสุดท้ายของชีวิตเท่าที่มี เป็นความทั้งใจอย่างมุ่งมั้น เหล่าเทวดา มาร่วมโมทนาสาธุ มากมาย ปัจจุบันเขาผู้นี้รำ่รวยเป็นเศรษฐี ด้วยผลบุญของเขาเองและผลบุญในอดีตช่วยกันส่งผลทันที ท่านผู้นี้ได้เปิดเผยชีวิตเขาในรายการทีวีช่องหนึ่งด้วยนะแต่ไม่ได้เล่าว่าเขาทำบุญที่ไหนตอนออกรายการทีวี ไม่แน่ใจรายการสู้แล้วรวยหรอืไม่
    ข้อ4 ท่านไม่มีลูกเมียหรอกครับ ท่านถือศีล5 ตั้งแต่ สมัยเรียนหนังสือ ไม่ทานเหล้าไม่สูบบุหรี่ ฝึกสมาธิตั้งแต่สมัยเรียน เพราะต้องการทราบความจริงของชีวิตครับ
    ข้อ5 ไม่ได้ขายพระเครื่องวัตถุโบราณ ส่วนการบริหารวัดที่ใหญ่ขนาดนั้น แค่ค่าน้ำค่าไฟก็เป็นแสนแล้ว ขนาดวัดธรรมดาเล็ก ยังหลายหมื่น เงินบริจาคมีการนำไปสร้างถาวรวัตถุจริงซึ่งก็เป็นสมบัติของลูกของหลานคุณทั้งหลายในพุทธศาสนา ไม่มีใครจะเอาไปไหนนอกจากถวายเป็นพุทธบูชา
    ข้อ6 ทางวัดได้แปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทยแห่งแรกที่จัดเก็บในระบบคอม และแปลเป็นอังกฤษพร้อมทั้งรักษาต้นฉบับเป็นอย่างดี รวมถึงผู้ที่เข้าถึงธรรมกายจะเข้าใจเนื้อหาของพระไตรปิฎกก่อนไปอ่านของจริง ซึ่งทางวัดก็หวงแหนเช่นกัน ส่วนเรื่องนิพพานอย่าเพิ่งไปสนใจเลยรักษาศีล5ให้ครบ มีความกตัญญู ต่อคุณพ่อแม่ ให้ ได้ก่อน ดีไหม
     
  5. sakkrit99k

    sakkrit99k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +167
    คุณ oaksung เย็นไว้ น่าสงสารเหลือเกิน กรรมติดจรวดนะคุณ ถ้าคุณไม่ถนัดในการปฏิบัติธรรมก็ออกไปจากเวปนี้ก่อน แล้วไปดำเนินชีวิต เป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ของพ่อแม่พี่น้องภรรยาและบุตร แล้วค่อยๆรักษาศีลห้าให้ครบจากข้อที่1 ไร่ไปเรื่อยๆ จนครบ 5ข้อ มีอะไรเล่าให้ฟัง สุนัขผมที่บ้านเป็นสุนัขตัวเมีย ตอนมันวัยรุ่นก็ใจร้อนเหมือนกัน เวลาผมให้อาหารมันเสร็จก็ไปวิ่งเล่นไม่ยอมเข้าบ้านเรียกไงก็ไม่มาชอบไปเที่ยว มาตอนกินอย่างเดียวจนตั้งท้องกลับมา ออลูุกมา9ตัว มันเป็นหมาที่สุดยอดรับผิดชอบลูกทุกตัวอย่างดี เลียขี้เลียเยี้ยวที่ลูกมันนอนอย่างสะอ่าด ผมเองก็ต้องช่วยให้อาหารมันมันนอนอย่างเดียวนอนให้นมไม่ไปไหนนอกจากไปขี้เยี้ยวจนลูกมันอย่านมนั่นแหละหมดหน้าที่มัน มันทำอย่างนี้3คอก ผมก็ไม่ว่าไรมันมีดีอยู่อย่างเห่าหวงหน้าบ้านกับรับผิดชอบลูกดีมาก แต่เดี๋ยวนี้มันกลับเปลี่ยนไปเพราะมันรู้ว่าอะไรดีไม่ดี มันไม่ยอมไปไหนไกล อยากเข้าบ้านอย่างเดียววิ่งออกประตูบ้านไม่เกิน5ก้าว พอผมจับประตูจะรีบมุดเข้าแกล้งไร่ก็ไม่ยอมแกล้งหรอกให้มันตามออกบ้านมันก็รู้ไม่ออก เพราะผมไม่ว่าไรมันมันได้เรียนรู้ของมันเองครับ โชคดีสมัยวัยรุ่นของมันนั้นมันไม่เคยเห่าผมเลยผมเองก็สงสารมันเหลือเกิน ชาติหน้าของมันก็หวังว่าให้มันได้เกิดเป็นมนุษย์ได้ทันพระพุทธศาสนาได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม แนวไหนก็ได้ถือเป็นโอกาสของมัน ดังนั้นเมื่อเป็นคนแล้วอย่าทิ้งโอกาสดีๆนี้ครับ
     
  6. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +2,719
    อานะ...มันอื...บอกไงดี

    วิชชา ครูบาอาจารย์ ท่านทำถูกแล้ว แต่คนรุ่นหลังนี่หละ ที่ทำผิด เห็นผิด เดินผิดไป
    การที่เรามีความเห็นไม่เหมือนกัน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเห็นในสิ่งเดียวกันหรือไม่

    ผมเคยเข้าไปสัมผัสวันนี้มาแล้วแต่ขอบอกเลยว่า ทุกที่มีทั้ง 2 ด้าน มืดและสว่างขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้เห็นด้านใด และสามารถพิจราณาเหตุที่เกิดได้มากเท่าใด
    เรื่องนี่มันละเอียดอ่อนนะครับ อย่า....เลย

    [b-wai]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2006
  7. hellobkk

    hellobkk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +46
    ลองปฏิบัติดูก่อน พระพุทธเจ้ายังเคยลองมาหลายสายหลายสำนัก
    แต่ก็ไม่เจอหนทางดับทุข จนตรัสรูเอง และได้บอกเป็นแนวทางไว้เพื่อให้ง่ายและไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ตามที่84000พระธรรม ในพระไตรปิฏก
    หมือนครูสอนเลข ให้โจทย์มา พร้อมแสดงวิธีทำหาคำตอบ ผู้ที่หัวไวก็เข้าใจเร็ว ทำวิธีลัด บางคนหัวช้าก็ขีดเขียนหลายบรรทัด แต่คำตอบสุดท้ายเหมือนกัน ฉันใดฉันนั้น พระบางท่านหากเข้าใจพระธรรมดีแล้ว ทดลองปฏิบัติไม่ออกนอกลู่นอกทาง ย่อมมีวิธีลัดแน่นอน ซึ้งคำตอบก็คือนิพพาน เหมือนกัน
     
  8. khochpaak

    khochpaak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +1,727
    ถ้าไม่หวังนิพพานวันนี้แล้วเมื่อไหร่จะพ้นซักทีล่ะ

    ผมว่า เรื่องรักษาศีล 5 ให้ได้นั้นก็ถูก แต่การปรารถนานั้นจำเป็นต้องมี เพื่อเป็นหลักให้ใจเอาไว้ยึด เพราะเรารักษาศีล 5 เพื่ออะไรล่ะ ก็เพื่อเป็นบันไดก้าวไปสู่นิพพาน ทีนี้ถ้ามาชาตินี้บอกว่าเอาแค่ศีล 5 แล้วก็ตายไปแต่ไม่ใช่ว่าตายปุ๊ปมาเกิดปั๊บนี่นา ไม่รู้อีกกี่แสนชาติจะได้มาเกิด ฉะนั้น การรักษากำลังใจเรื่องนิพพานเป็นเรื่องสำคัญมาก ปรารถนาตั้งแต่เดี๊ยวนี้และทุกลมหายใจเข้าออก ไม่ว่าจะกลับมาเกิดอีกหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นที่เราต้องเอาใจใส่ แต่ผลของการปรารถนา ก็คือ ถ้ามาเกิดอีก แรงปรารถนาจะเป็นตัวสัญญาเตือนเราให้ทำต่อ มุ่งต่อ วิ่งดีกว่าเดิน เดินดีกว่าคลานครับ
     
  9. makam

    makam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +19
    อยากให้ศึกษาแนวทางของ ธรรมมะ จริงๆ คำว่าธรรม คืออะไร คงไม่ต้องอธิบายนะ สิ่งที่ให้คุณเห็น และจับต้องได้ คือ ธรรมมะ ในขณะที่สิ่งที่คุณเห็น แต่คนอื่นไม่เห็น ซึ่งคุณคิดว่ามันเป็นของวิเศษ นั่น ก็เป็นธรรมมะ เหมือนกัน วัดพระธรรมกายยุคนี้ พยายาม ทำให้คุณเห็นว่า ธรรมมะ ที่ จับต้องได้ และรู้เอง เป็นสิ่งที่ แลกมาได้ ด้วยสิ่งของ มิใช่ธรรมมะ ไม่รู้ท่านที่อ่านจะเข้าใจหรือเปล่า ขอเอาความคิดเห็นอันน้อยนิดนี้ มายกให้คิดแค่นี้แล้วกัน สุดท้ายแล้ว ทั้งท่าน ที่เป็นลูกศิษฐ์ และท่านที่ไม่เป็นลูกศิษฐ์ ก็คงอยู่ใต้ผืนดินเหมือนกัน นี่คือส่งที่จริงแท้ ที่คิดได้ในชาตินี้ (ใครตายแล้ว ไม่ฝังหรือเผาบ้าง ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ ตอบได้ใหม)
     
  10. makam

    makam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +19
    อยากให้คิด และบอกถึงสิ่งที่คุณคิด

    เว็ปนี้ เป็นสิ่งที่ถ่ายทอด ถึงก้นบึ้ง แห่ง ความคิด ของมนุษย์ ที่ผ่านมาแสวงหาสิ่งที่ตนต้องการอยากรู้ และ อยากจะรู้ รวมถึง การถ่ายทอดสิ่งที่เป็น หรือคิดว่าตนเป็น ซึ่งทุกท่านก็ล้วนเป็นผู้แตกฉานในแต่ละด้าน ตามความคิดที่ตนเอง ชอบ ถนัด ทางพระเรียกว่า เป็นไปตามนิสัย หรือวิสัย ของสัตว์โลก ถือว่าเป็นประโยชน์ ของผู้ผ่านมาที่ได้ มาพบมาเห็น ให้เราได้รู้ว่า อันปัจจุบันนี้ ที่ซึ่ง ห่างใกล จาก สิ่งที่เป็น ธรรมมะ แต่ยังมีผู้ที่นิยามธรรมมะ ว่าอย่างนั้น ว่าอย่างนี้ หรืออ้างผู้รู้ท่านนั้น ท่านนี้ เป็นสรณะ ในแนวคิด และแนวการปฎิบัติก็ดี หรือเป็นเทพยดา สิ่งที่สมมุติมาก็ดี ถือเป็นสิ่งที่สะท้อน ในเรื่องของปัจจัย ในยุคนี้ ที่เราเป็นอยู่ ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มีใครตัดสิน หรือสรุปได้ ว่าสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ยิน อะไร คือสิ่งที่เป็นไปตามครรลองของมัน เนื่องจากไม่มีใครมาตัดสินให้ได้ เอาเป็นว่า ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านในที่นี้ คือผู้ที่ ต้อง กิน นอน นั่ง อุจจาระ ปัสสาวะ อยู่อย่างธรรมดา ต้องหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ต้อง มีหน้าที่ทางโลกกันทุกคน จึงอยากจะรู้กันว่า ขณะนี้ ที่ท่านต้องการ ในอีก ห้า ปี สิบปี ที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านต้องการอะไร อยากได้อะไร หรือมีความคิดเห็นอย่างไร นอกจากสิ่งที่ท่านรู้เป็นนิสัย แล้ว อยากรู้ อยากรู้จริงๆ
     
  11. อักขรสั จร

    อักขรสั จร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +343
    ประกาศ

    1. พระนิพพานอยู่ตรงข้ามกับขันธ์5 ถ้าเห็นขันธ์5เป็นอัตตา พระนิพพานก็เป็นอนัตตา ถ้าเห็นขันธ์5เป็นอนัตตา พระนิพพานก็เป็นอัตตา

    2. วัดพระธรรมกายเป็นวัดที่ชื่อวัดพระธรรมกาย วิชชาธรรมกายหลวงพ่อสดเป็นผู้ค้นพบอีกครั้ง หลังจากขาดการสืบทอดไปราวสองพันปี วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อสดมีสอนที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีรถฟรีจากวัดสระเกศทุกวันอาทิตย์ 7.00น.

    3. รูปแบนคล้ายจานบินที่วัดพระธรรมกายเป็นรูปจำลองขององค์ฌาณ ไม่ใช่จานบิน ถ้าฝึกกสิณสว่างได้ถึงฌาณ5 แล้วเอาจิตแตะที่ศูนย์กลางกาย จะเห็นเองแน่นอน ใช้กรรมฐานกองอื่นก็อาจเห็นได้ แต่อาโลกกสิณนี่กล้ารับรองผล ขี้เกียจฝึกก็ไม่ควรเดาส่ง จะเป็นภัยกับตัวเอง

    4. เป็นฆราวาสไม่ควรวิจารณ์พระ คนตกนรกเพราะกรรมปรามาสมากกว่ากรรมผิดศีลอีก ถ้าไม่ศรัทธาก็ไม่ต้องไปทำบุญ ใครทำอะไรก็ได้รับกรรมนั้นเอง เหมือนเตาไฟฟ้า ก็ร้อนอยู่อย่างนั้น เอานิ้วไปเผาหวังจะเพิ่มแรงไฟก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา นิ้วไหม้เจ็บตัวเปล่า

    5. ที่หลวงพ่อสดท่านบอกไว้ตามที่ทางวัดมหาธาตุมีหลักฐาน ก็จริงตามนั้น วิชชาธรรมกายนับเป็นสมถะกรรมฐาน ถ้ายึดติดกับวิชชาธรรมกายก็ไม่ได้อนาคามีมรรค แต่วิชชาธรรมกายสามารถนำไปใช้ควบกับวิปัสสนาเพื่อเข้าสู่มรรคผลได้ การนำไปใช้ไม่จำเป็นว่าต้องยึดติด เหมือนพระอรหันต์ฉฬภิญโญ ท่านก็ใช้ฤทธิ์แต่ไม่ยึดติดกับฤทธิ์ การเจริญมหาสติปัฏฐาน4ในวิชชาธรรมกายก็สามารถทำได้ ที่หลวงปู่ท่านบอกว่ากำหนดตามแบบวัดมหาธาตุแล้วนิมิตหายไป ก็แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ใช้กำลังทิพพจักขุญาณก็ไม่เห็นธรรมกาย อย่างสายวัดมหาธาตุเองท่านก็ใช้กำลังสมถะของอานาปานุสติ ควบกับกายคตาสติ ถ้าเดินอย่างเดียวไม่มีนั่งยุบหนอพองหนอ ไม่มียืนหนอ รับรองว่าไม่เกิดมรรคผลแน่นอน เพราะจะไม่มีกำลังถึงปฐมฌาณ ถ้าได้ปฐมฌาณจากกรรมฐานกองอื่นมาแล้วไม่นับ

    ขออนุญาตแก้ไขต้นฉบับนะครับ กลัวกรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2005
  12. makam

    makam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +19
    สิ่งที่ปฎิบัติ และ เห็น เป็นปัจจัตตัง เวทิพตัพโพ วิญญู หิติ เป็นสิ่งที่รู้ได้ฉพาะ บุคคล ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวอีก ขอขอบพระคุณที่ให้ความรู้ เรื่อง ขัณธ์ เรื่องกสิณ สิ่งนี้ อยู่กับธรรมมะ มานานแล้ว แต่ก็ขอบพระคุณอีกครั้งที่ตอกย้ำให้เห็น ท่านอื่นที่อ่านจะได้รู้ว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่ แต่รู้เฉพาะตน คนที่รู้จริง ก็เหมือนกับ ควายที่เกิดอยู่ในป่า หากินกับธรรมชาติ ตามครรลองชีวิต จะรู้ว่าที่กินที่นอนออยู่ที่ใด ที่ตายอยู่ใด ต่างกับ ควายที่เกิด ในบ้าน เหมือนคนตาบอด ต้อง ให้คน เอา เชือกมาสนตะพาย ตั้งแต่ เล็ก เช้าขึ้นต้องจูงพาไปทุ่งนา เพื่อปล่อยให้หากินตามแหล่งที่กำหนด เมื่อตาย เขาก็ เอาเนื้อเอาหนังมาบริโภค ถึง กระนั้น มันก็ยังได้ชื่อว่า ควายอยู่ดี เพราะมันก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว ในป่าที่ยังมีควายอยู่เหมือนมัน
     
  13. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620


    ////////////////////////////////////////////////////////////////////


    ขอตอบ และ เสริมนะครับ.......

    1/ ในช่วงปี 2490-2497 ชื่อเสียงของหลวงพ่อวัดปากน้ำซึ่งมิได้มีเปรียญธรรมชั้นใด แต่กลับมีผู้คนศรัทธากราบไหว้มากกว่าพระมหาเถระรูปใดๆ ในประเทศไทย เวลานั้น คนที่อิจฉาท่านก็ออกมาโจมตีว่า ท่านสอนผิดๆ ทั้งยังมีข่าวลืออกุศลว่าที่วัดมีแม่ชีมาก และไปทำวิชากัน เขาก็ลือกันไปในทางเสียหาย แม้แต่พระสังฆราชในเวลานั้น (ถ้าจำไม่ผิด)คือกรมหลวงวชิรญาณวัดบวรฯ ท่านได้ข่าวอกุศลนี้เช่นกันจึงได้นิมนต์ให้พระอริยคุณาธาร(เส็ง ปุณโส) ซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่ลูกศิษย์รุ่นแรกๆของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเชี่ยวชาญทั้งปริยัติ และปฏิบัติ เป็นสปายไปสืบเรื่องหลวงพ่อฯ ต่อมาท่านก็ได้ตระหนักถึงบุญบารมีของลพ.วัดปากน้ำว่าเป็นนักสมาธิจริงๆ มีความสนใจเฉพาะเรื่องของการปฏิบัติธรรม จึงนำความไปกราบทูลพระสังฆราช ข่าวอกุศลก็ดับไป

    ต่อมา พระพิมลธรรม (อาจ อาสภเถระ) อธิบดีสงฆ์ วัดมหาธาตุ ซึ่งกำลังสนใจเรื่องอภิธรรมที่ได้รับจากพระพม่า อีกทั้งท่านยังเป็นเจ้าคณะพระนคร คุมวัดปากน้ำด้วย ท่านต้องการให้พระในสังกัดท่านสนใจเรียนอภิธรรมเพื่อให้วิชาอภิธรรมแพร่หลาย จึงไปกราบอาราธนาลพ.วัดปากน้ำให้มาฝึกวิชานี้ด้วย
    อันลพ.วัดปากน้ำเป็นผู้มีนิสัยใฝ่ศึกษามาแต่ครั้งยังเยาว์และท่านก็เคยเรียนสมาธิในทางอื่นมาก่อนทั้งพุทโธ และสติปัฎฐาน ทั้งท่านก็ให้ความนับถือเจ้าคุณวัดมหาธาตุดี เคยไปเทศน์ให้วัดมหาธาตุ ตามที่ท่านเจ้าคุณอาราธนาอยู่บ่อยครั้ง จึงรับที่จะเรียนวิชายุบหนอพองหนอ ท่านเจ้าคุณอาสภะให้ท่านเจ้าคุณโชดกมาสอนวิชายุบหนอกับหลวงพ่อ หลวงพ่อก็เรียนอยู่ราวสองสัปดาห์ ภายหลังเมื่อเรียนแล้วท่านก็ให้ความนับถือวิชายุบหนอของวัดมหาธาตุเช่นกัน
    ท่านอจ.โชดกได้ขอให้หลวงพ่อเขียนวิจารณ์สิ่งที่ท่านได้เรียน หลวงพ่อก็เขียนจดหมายสั้นๆ ดูเหมือนจะมีภาพลพ.ด้วย ว่าวิชาที่เรียนตรงกับหลักสติปัฏฐานทุกประการ เรื่องก็มีเท่านี้
    แต่ผมไม่เข้าใจว่าสำนักเรียนวัดมหาธาตุรวมทั้งศิษยานุศิษย์สายนี้เขามีเจตนาอย่างไรแน่จึงนำหนังสือที่ลพ.เขียนรับรองมาลงพิมพ์
    รวมทั้งที่หน้าวัดอัมพวันของหลวงพ่อจรัล ก็เอาภาพนี้มาติดไว้ด้วย
    ภาพนี้อ่านดูอย่างไรไม่สามารถแปลได้ว่าลพ.วัดปากน้ำได้เลิกวิชาธรรมกาย หรือแปลว่ายุบหนอเหนือกว่าวิชาธรรมกายตามที่ฝ่ายผู้เรียนวิชายุบหนอพองหนอพยายามจะกล่าวอ้างและบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่าง...............
    ****************************************************************
    2./ วิชชาธรรมกาย มีทั้งส่วนที่เป็นสมถะ และวิปัสสนา

    การได้เข้าไปรู้ เห็น ความละเอียดของดวงและกายทำให้จิตบรสุทธิ์ตั้งมั่น

    เมื่อชำระให้ใสสว่างตลอด เป็นการกำจัดนิวรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งขวางความเจริญของจิต


    เมื่อเข้าไป เป็น กายที่ละเอียดๆ ด้วยการเห็นความไม่เที่ยงของสังขารกายต้นๆ

    คือ เห็นความปรุงแต่งของธาตุ 6 และธรรมอันเป็นกุศล อกุศล และกลางๆ
    ขึ้นเป็น ขันธ์5 อย่างหยาบคือกายทุคติภูมิ กายมนุษย์ ละเอียดขึ้นมาคือ
    กายฝัน กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม

    ส่วนกายธรรมโคตรภู เริ่ม รู้ เห็น และเข้าไปเป็นนิพพานธาตุขณะหนึ่งๆ ที่ดับ
    กิเลส อวิชชา ได้ชั่วคราว


    การเข้าถึงกายธรรมตั้งแต่ โสดา-ถึงอรหัต ถ้ายังไม่เจริญภูมิวิปัสสนาคือ
    นิวรณ์ 5 ขันธ์ 5 ธาตุ 6 อินทรีย์ 22 ปฏิจจสมุปปบาท 12 สังโยชน์ 10
    อริยสัจจ์ 4 ฯลฯ

    ให้ แจ้ง ....ก็ยังไม่สามารถทรงกายระดับนั้นๆได้อย่างถาวร

    พิจารณากลับกัน...เมื่อเราเข้าถึงคุณธรรมแห่งโสดาฯ คือ

    ตัดขาดแล้วซึ่ง มิจฉาทิฐิ วิจิกิจฉา ศีลพตปรามาส

    ความทรงไว้ซึ่ง กายธรรมโสดาฯ ก็มีได้เป็นได้ เป็นต้น



    [b-wai]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2005
  14. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    ที่คุณ อักขรสัญญจร กล่าวว่า ถ้ายึดติดแล้วไม่ได้ อนาคามีมรรค ช่วยอธิบายให้กระจ่าง

    ด้วย ได้ไหมครับ...



    ...ที่ครูอาจารย์ผมสอนมา เมื่อ สำรอก หรือ ดับ กามราคานุสัย , พยาบาทอนุสัย

    รูปราคานุสัย , อรูปราคานุสัย, มานะ อนุสัย , อุทธัจจะ อนุสัย, อวิชชานุสัย เป็นที่สุด

    ย่อมเสวย และเข้าไปเป็น อนาคามีมรรค ถึง อรหัตตมรรค อรหัตผลได้ ครับ
     
  15. sakkrit99k

    sakkrit99k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +167
    สั้นๆแต่ได้ใจความ แนะนำได้ดีมากเลยครับโมทนาบุญด้วยครับ
     
  16. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

    จุดนี้ขอพิจารณา และช่วยตอบให้กระจ่างด้วยครับ...



    1 /ถ้าเป็นเช่นนั้น ถ้าเจริญกสิณแสงสว่าง แต่ไม่นำใจผ่านศูนย์กลางกาย
    ก็เข้าไปเห็น เป็น ธรรมกายได้หรือครับ



    2/ ประสพการณ์ของตนและสหธรรมมิคที่เชื่อในคุณธรรมได้

    บางท่านไม่ได้จับกสิณสว่างมาก่อน แต่บางท่าน

    จับกรรมฐานกองอื่นๆเช่นพิจารณาเส้นผม หรือจับลมจนหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย ก็เข้าถึงธรรมกายได้

    ......จุดสำคัญคือ หยุด ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 .....


    "....ครูผมเคยจะแก้คำสอนบางคำที่หลวงปู่สดท่านพูด

    หลวงพ่อเล็ก (วีระ คณุตตโม ) วัดปากน้ำ ท่านบอกว่า

    "แก้สิ...แต่ต้องเข้าเซพนะ " "[b-wai]


    **************************************************************************

    มีเรื่องเล่า จากประสพการณ์การสอน ...เกี่ยวกับ เด็กภาวนาพองหนอยุบหนอ.....เมื่อ 19 ปีก่อน

    ท่านเจ้าอาวาสวัดถ้ำตอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ท่านให้เราไปช่วย

    คุมการสอนของเด็กๆอายุประมาณ 8-10 ขวบ ที่ลำพูน


    ( ท่านไม่ทราบว่าเราฝึกวิชชาธรรมกาย) ปรากฏว่า เด็กเขาเห็นดวงปฐมมรรคที่กลางท้องกัน หลายคน ...แต่ท่านไม่ทราบ
    ท่านถามแต่ว่าสงบไหม ..เราเลยแอบต่อวิชชาฯให้

    เด็กบ้านนอกคอกนา เขาไม่รู้ปริยัติ เขายังเข้าถึงและเห็นธรรมกายตรงกันเลย..... แต่ต่อมาดับกันไปหลายคนเพราะ ความซนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องศีล
    พ่อแม่ ผู้ใหญ๋ใช้ดูหวยบ้าง ...เราก็ห่างไกลเขามาก ไม่ได้ไปประคับประคองเขา....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2005
  17. makam

    makam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอแทรกด้วยปัญญาอันน้อยนิด นะท่าน
    อันว่า การพึงรู้ระลึก ถึง รวม ถึง การอ่าน การจำ เป็นเรื่องยึดติด ประเภทหนึ่ง บางคนสามารถ จดจำรู้เรื่องประวัติ ของบุคคลอื่น เป็นจำนวนมาก สามารถ ท่องพระสูตรได้ ไม่มีตก แต่ ไม่ได้เข้าถึงแก่น มองเห็นได้แต่กระพี้ แต่เปลือก ตรงนี้ เป็นเรื่องที่ ขัดขวาง การปฎิบัติเพื่อเข้าถึงที่แท้จริง จะไม่กล่าว ถึงคำว่า บรรลุ เนื่องจาก การบรรลุ ได้ระบุ ไว้แล้วตามพุทธวจนะ ว่า เป็นบุคคลประเภทใด ปฎิบัติถึง เท่าใด จึงจะเรียกได้ว่า บรรลุ เราๆ ท่านๆ เป็นเพียงแต่ปุถุชน ที่นำเอา วิชา ที่พระพุทธองค์ มาเป็นแนวปฎิบัติ ในการเป็นอยู่เท่านั้น การรู้ได้ด้วยตนเอง เป็นการรู้จริง ตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน ตามที่ได้อ่าน ท่านโลกันต์ กับท่านอักขรสัญจร ถกกัน เหมือนกับท่านกำลัง เอาตำราที่เขาแต่งกันมาแล้ว มาว่ากัน มิใช่ความจริง ที่เห็นได้ในที่สุด ขอล่วงเกินเท่านี้ท่าน( หนังสือมนต์พิธีแปล เจ็ดตำนาน หรือนวโกวาท เล่มใดเล่มหนึ่ง หากตีความ ให้ลึกซึ้งถึงแก่นแล้ว ก็เป็นเอนกอนันต์ ท่านพระอรหันต์ ทั้งหลาย ในสยามประเทศ เมื่อเริ่มบวช ก็เอาคัมภีร์ชุดนี้ เป็นแนวปฎิบัติทั้งนั้น ลองถอยออกมาคิดดูนะท่าน ) ขออภัยหากล่วงเกินไปนะทุกท่าน
     
  18. sakkrit99k

    sakkrit99k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +167
    แล้วควายป่าไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้มนุษย์ชาติเลยนะ ควายบ้านทำประโยชน์ให้มากมาย ถ้ามันพูดได้คงบอกว่าเมื่อไหร่จะได้เกิดเป็นคนสักทีทำประโยชน์มามากแล้ว และขอเกิดเป็นคนในเมื่องมีการศึกษาสูง อย่าได้โชคร้ายไปเกิดในป่าลุ่มแม่น้ำอเมซอนเลยสาธุ
     
  19. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    ผมและคุณอักขรสัญญจร มีครูอาจารย์เดียวกัน การถกเพื่อให้ได้มาซึ่งความแตกฉาน ถูกต้อง ถือเป็นการสนทนาธรรมตามกาล หนึ่งในมงคล38
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2005
  20. ชอลิ้วเฮียง

    ชอลิ้วเฮียง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +738
    ...ขออภัย จอมยุทธมะขาม ท่านสำเร็จวิชชธรรมกาย หรือ เข้าถึงปฐมมรรค หรือยัง?
     

แชร์หน้านี้

Loading...