วิชชา ธรรมกาย ไม่ได้มาจาก วัดพระธรรมกาย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jack5487, 28 มิถุนายน 2008.

  1. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ถูกครับคุณแอบแบ๊ว ที่เทียบกับคนตาบอดคลำช้าง แต่ผู้คลำคงได้หมายถึงผม
    เพราะผมยังมะงุมมะงาหลา

    ที่ยกว่าสงสัย ไม่ได้สงสัยที่ช้าง

    ผมสงสัยคนคลำช้างด้วยวิชาเดียวกัน ทำไมคลำช้างด้วยวิธีเดียวกัน
    และยอมรับว่า มีวิชาเดียวกัน มีอภิญญาเหมือนกัน เข้าหาพระพุทธได้
    เหมือนกัน แต่กลับไม่สามัคคีกัน กีดกันกันเอง

    ดั่งจะเห็นว่า ไม่ปรากฏการปรามาสกันเองระหว่างคนในสาย เพราะยอม
    รับในฤทธิ์อภิญญาที่ต่างฝ่ายต่างมีเหมือนกัน เช่นนี้แล้ว ความแตกแยก
    เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่วิชา อภิญญาที่มีอยู่กันเป็นแน่แท้

    * * * *

    แต่ก็อย่างว่า เรื่องนี้ถามไปก็เป็นเรื่องที่คนตาดีนั่งหัวเราะ ทำไม
    หัวเราะ ทำไมหัวเราะ และ ทำไมถึงหัวเราะ แล้วยังไปนั่งเฉยๆ

    ซึ่งจริงๆแล้วไม่แปลก สำหรับคนที่บำเพ็ญมาแค่สาวก หยั่งกรุณา
    เมตตาไม่ได้ไปมากกว่านี้ ก็ควรถอยออกไปนั่งหัวเราะ คนที่นั่ง
    หัวเราะ สมควรถอยออกไปนั่งหัวเราะ ไม่ควรทำอะไรเลย
     
  2. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    ผมบุคคลทั่วไปฯ ครับ ต้องการให้อธิบายอะไรหรือครับ

    ลองช่วยกันพิจารณาดูนะครับ พระพุทธเจ้าสอนธรรมะเหมือนกัน วิธีปฏิบัติพระองค์สอนไว้หลายวิธีแต่ลงที่ผลเดียวกัน แต่ทำไมคนอย่างเทวทัตจึงอยู่ในหมู่คณะได้ หรือแม้แต่ภิกษุปฐมปาราชิกต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ หรือแม้แต่พระองค์สอนในหมู่ชน บางคนบรรลุธรรมขั้นอรหันต์ บางคนหย่อนลงมา บางคนไม่บรรลุอะไรเลย หรือแม้แต่พระภิกษุแต่ละรูปยังเก่งไปคนละอย่างเลยในสมัยพุทธกาล เขามิได้เรียนรู้ธรรมะเดียวกันหรือครับ แต่ทำไมผลแปลกแตกต่างกัน


    ทีนี้มาดูเรื่องที่คุณถามนะครับ ผมกล่าวว่าแต่ละสำนักอาจมีเทคนิคไม่เหมือนกัน ผลจึงไม่เหมือนกัน เจตนาในการกระทำไม่เหมือนกัน เจตนาในการเผยแผ่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในกรณีวัดพระธรรมกายที่กระทู้นี้เขายกขึ้น ผมว่ามันเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลไม่เกี่ยวกับเนื้อวิชชา ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาความรู้ เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลที่นำความรู้ไปใช้ในแบบของตนมากกว่า ความรู้นั้นถึงจะดีเลิศแต่ถ้าความรู้นั้นอยู่ในมือของคนที่มีความสามารถต่างกัน เขาเหล่านั้นย่อมนำความรู้ไปใช้ได้ให้เกิดผลไม่เท่ากันหรือต่างกัน ถึงตรงนี้โทษที่ความรู้ได้หรือ ต้องโทษที่บุคคลนั้นๆ กระมังครับ


    วัดพระธรรมกายอาจเก่งและเด่นด้านการจัดกิจกรรมและเรี่ยไรบุญ แต่ไม่เคยมีผลงานการสอนที่เป็นขั้นตอนชัดเจนโดยเฉพาะสอนบุคคลทั่วไป เพราะเทคนิคเช่นนี้ทางวัดอาจมิได้ใส่ใจพัฒนา แต่สำนักอื่นเขาใส่ใจพัฒนา ดังนั้นมันก็เด่นกันคนละด้าน ที่นี้คนสงสัยคือคุณบุคคลทั่วไป ฯ ซึ่งไม่ใช่ผู้ฝึกสมาธิแนวธรรมกาย แล้วก็โยงตีขลุมไปเรื่องอื่นๆ ทีนี้จะให้ผมตอบอย่างไรดี ผมขอตอบแบบกลางๆ ว่า ขึ้นอยู่กับเจตนาและฝีมือของท่านเจ้าสำนักในการสอนนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2008
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ก็ไม่มีอะไร ก็เป็นความสังสัยในกลุ่มพวกคุณ นี้ก็ยิ่งชัดว่าไม่ได้ปฏิเสธวิชากัน

    จริงแล้ว ผมดู DMC เมื่อไม่กี่วันก่อน ก็เห็นทาง DMC นั้นกำลังหล่อรูปพระรูป
    หนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์ ผมจำได้ว่า น่าจะเป็นอาจารย์คนเดียวกัน นั้นก็แปลว่า
    ทางเขาก็ไม่ได้ประกาศว่าเขารู้วิชาใหม่อะไร เป็นวิชาเดิม

    เรื่องวิชา นั้นก็ยุติไป ไม่สงสัยว่ามีความแตกต่าง สำหรับคนนอกอย่างผม แต่ทำ
    ไมกระทู้นี้จึงกล่าวเหมือนปลักปำว่า ทางนู้นกำลังสร้างวิชาใหม่ มันจึงขัดกันเอง
    เรื่องการยอมรับวิชาของกันและกัน ส่วนเรื่องเจตนา หรือการนำไปสร้างกิจกรรม
    นั้นผมไม่ได้สงสัย

    แต่ก็สงสัยว่า ตัวกิจกรรม นี้แหละที่ทำให้แตกแยกกัน

    ก็แปลกใจ ในเมื่อวิชาเดียวกัน อาจารย์เดียวกัน แค่ วิธีเผยแพร่ไม่เหมือนกัน
    ก็ผลักไสกัน ปฏิเสธกัน เพื่อกันตัวออกห่าง อะไรที่ได้จากการถอยห่างออกมา ?

    * * * * *

    จริงแล้ว ผมได้มีส่วนในการร่วมกิจกรรมของ DMC ในยุคบุกเบิก เป็นนักเรียนใน
    ชมรมที่เข้าไปช่วยดูแลกิจเล็กๆน้อยๆ มีบ้างที่ได้พักทำสมาธิกับเขา ผมระลึกนิมิตลูก
    แก้วได้ก็เพราะนั่งสมาธิตาม จะซ้อนลูกแก้วก็น้อมได้ แต่ทำแล้วไม่ได้ติดใจ ชอบใจ
    เรียกว่า ไม่ตรงจริต ก็เลยไม่ได้สนใจ แต่พอนั่งสมาธิ บางครั้งลูกแก้วก็ปรากฏขึ้น
    ก็พิจารณาไปตามแต่จะเกิด เพราะจิตจะหยิบอะไรขึ้นมาทำสมถะเราเลือกไม่ได้

    แต่ถ้าผมเพลินกับลูกแก้ว จะไม่ได้ย่อขยายมัน แต่น้อมให้มันหด แล้วก็ให้มีจำนวน
    มากๆ แล้วก็หมุนมันเล่น เป็นลักษณะของจักรวาลไป จะหนึ่งวงสองสองวง ก็แล้ว
    แต่น้อมไป จบก็หยุด ไม่ได้ติดใจ โดยส่วนตัว เห็นว่า สู้ถอยออกมาสู่ภูมิปรกติ
    แล้วทำวิปัสสนาไม่ได้ ไม่เสียเวลาทำวิปัสสนา เวลานั้นมีจำกัด การวิปัสสนานั้น
    ก็ต้องทำสะสมกันอย่างน้อย 500 ชาติ ถ้าชาติไหนเกิดมาไม่เจอร่องรอยของพระ
    ธรรมของพระพุทธองค์ก็จะไม่รู้หนทางทำต่อได้เลย
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้อ ตอนนู้นรู้สึกทาง DMC เน้นเรื่อง มงคล 38 ประการ

    ผมก็ร่วมสอบ สอบได้กับเขาด้วย แล้วก็ได้เข้าไปกราบพระเจ้าอาวาส
    เพื่อรับใบประกาศนียบัตร น่าจะเป็นรางวัลชมเชย เล็กๆ

    ที่ได้เข้าไปรับกับมือด้วยตัวเองก็เพราะเป็นชมรมของโรงเรียนที่มีชื่อ
    และมีการร่วมสนับสนุนกิจกรรมมาด้วยดี ผมก็ไปช่วยอยู่ได้สองปี

    พอปีที่สองนี้เริ่มแปลกๆ ก็เริ่มถอยออกมาเป็นการส่วนตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2008
  5. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972


    ผมเองเห็นคุณอธิบายว่าเห็นลูกแก้ว เห็นอย่างไร เห็นตรงไหนหรือครับ แล้วเมื่อเห็นดังนั้นใจอยู่ในอาการอย่างไร ผมมีประสบการณ์สอนคนให้เห็นธรรมกายมาบ้าง ยอมรับว่าคนเห็นนิมิตดวงแก้วผิดพลาดจากหลักของวิชชาธรรมกายมีมาก บางคนเห็นอยู่ตรงหน้า เห็นลอยอยู่ที่ตา เห็นอยู่ที่หน้าอก เห็นอยู่ที่หน้าท้อง เห็นอย่างนี้ถือว่ายังไม่ใช่เห็นที่ถูกต้อง ผมปรับตกหมด คือไม่ใช่เห็นดวงนิมิตที่ถูกเลย คุณเห็นอย่างไรช่วยอธิบายหน่อยครับ
     
  6. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แจ่มๆ ก็ที่ปลายจมูกสิ แต่ยังไม่ได้กำหนดหญิงซ้ายชายขวา

    ได้แต่ดูอยู่แบบนั้น เพราะโดยจริต ไม่ค่อยทำอะไรตามใคร
    ก็เลยไม่ถูกจริตไง

    สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ ก็เลยไม่ต้องแก้

    แต่พอผุดขึ้น ก็รู้ รู้สึกว่าผุดขึ้น เพื่อดูห่างๆ เพื่อแยกผู้รู้ออก
    จากตัวจิตที่รับรู้ลูกแก้วอยู่ พอแยกออกมาบ่อยๆ ผู้รู้ผู้ดูก็
    จะสามารถถอยจากจิตได้ ละวางจิตได้ โดยไม่ต้องทำอะไร
    แค่ตั้งมั่นในการดู เอาสมาธิแนบที่ตัวสติที่เป็นผู้รู้ผู้ดู ถ้า
    นิวรณ์ไม่แทรกเข้ามาแล้ว สมาธิที่แนบผู้รู้ก็จะบริบูรณ์

    จิตจะถูกละวางออกไปเอง ขันธ์ก็จะถูกแยกออกไปเอง

    ถ้าทำได้แบบนี้ก็จะจบกิจการศึกษา ละวางทุกข์ที่เกิดขึ้น
    จากจิต และขันธ์
     
  7. James Bond

    James Bond สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +20
    [​IMG]

    Luang Pa & Wat Luang Por Sodh
    Would like to know and understand Vijja Dhammakaya truely,please visit http://www.dhammakaya.org/vijja/
    or practice on your own, you can know by yourself directly
     
  8. James Bond

    James Bond สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +20
    หลักฐานในคัมภีร์
    [​IMG]
    ธรรมกาย


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า พระองค์เป็นธรรมกาย
    พระแม่น้ามหาปชาบดีโคตมี ผู้เป็นพระอรหันต์ แสดงว่าตนเป็นธรรมกาย
    พระสรภังคเถระ ผู้เป็นพระอรหันต์ กล่าวถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ว่า ทรงอุบัติเป็นธรรมกาย ผู้คงที่
    พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย มีธรรมกายมาก
    ตถาคตคือใคร ? พระอรหันต์ตายแล้ว ไม่ขาดสูญ (๑)
    ตถาคตคือใคร ? พระอรหันต์ตายแล้ว ไม่ขาดสูญ (๒) นิพพาน



    [​IMG] ธรรมกาย


    (๑) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า พระองค์เป็นธรรมกาย
     
  9. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    [​IMG] OOอบรมวิป้สสนาจารย์ ตามแนววิชชาธรรมกาย วัดหลวงพ่อสดฯOO


    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]
    อบรมพระวิปัสสนาจารย์ (รุ่นกลางปี )
    เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


    ณ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดราชบุรี (แห่งที่ ๑)
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

    ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    โครงการ | หลักสูตร/กิจกรรม | ตารางกิจกรรม | ไฟล์เสียง | รายชื่อผู้เข้าอบรม



    [​IMG]
    โครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์


    ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    ๑. ชื่อโครงการ
    โครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    หน่วยงานรับผิดชอบ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
    ลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง
    ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
    ๒. หลักการและเหตุผล
    หน้าที่อันสำคัญของพระภิกษุผู้เป็นศาสนทายาท มี ๒ ประการ หนึ่งคือ การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เรียกว่า คันถธุระ และสอง คือ การอบรมกาย วาจา ใจ ตามแนวแห่งไตรสิกขา อันได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา วิปัสสนาธุระ ในส่วนของการเล่าเรียนพระธรรมวินัย คณะสงฆ์ได้ดำเนินการส่งเสริมให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี แต่ในทางปฏิบัติวิปัสสนาธุระ ยังขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
    ดังนั้น วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของวิปัสสนาธุระ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ ระหว่างวันที่ ๑ -๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมระยะเวลาดำเนินการ ๑๔ วัน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภิกษุบริษัท ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ทางการปฏิบัติส่วนตัวและเป็นที่ศรัทธานำพาพุทธบริษัทประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในทีฆนิกาย มหาวรรค ว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กรกฎาคม 2008
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    จิตตกศูนย์อะไรนั่น ทางวิชาทั่วไปเรียก อาการตกภวังค์ ก็เหมือนวูบไป

    ตกแล้วบางครั้งก็เหมือนออกไปยืนอยู่นอกกาย บ้างก็ลอยขึ้นแต่เห็นกายนอน

    บ้างก็หลุดไปยังสถานที่ต่างๆ บ้างก็ไปเห็นการปฏิบัติ ล้วนแต่อาการตกภวังค์
    มีทั้งเห็นสัญญาเก่าจริง และปรุงขึ้นใหม่ จึงมีภาพเหมือนเห็นอะไรที่คุ้น และรู้
    จัก รวมกับภาพสัญญาใหม่ๆ ผสมกัน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการติดในอดีต หรือ
    อนาคต ล้วนแต่ไม่ใช่ปัจจุบัน

    การรู้ลงปัจจุบันเท่านั้นคือทางของพุทธะ ดังนั้น เมื่ออาการแบบนี้ปรากฏ ก็ทำ
    ใจแค่รู้ แค่เหมือนดูทีวีจบไป แล้วตั้งอยู่กับปัจจุบันต่อไป
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    คนเรา ยังโง่ เหมือนเดิม ชี้ให้ตายมันก็ไม่รู้เรื่อง เรียกว่า ศรัทธาบัง
    ยิ่ง เจมบอนด์นี่ หนักไปใหญ่ เอาแค่ คำว่าธรรมกาย มาบอกว่า นี่แหละคือ สิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสไว้

    ผมจะถามนะ ว่า ความอันใดที่บอกว่า ธรรมกาย ในพระไตรปิฎกคือ วิธีที่หลวงพ่อสดเอามาเผยแพร่

    เพราะคำว่า ธรรมกาย ในพระไตรปิฎก ผมบอกว่า หมายถึงพระนิพพาน ไม่ได้หมายถึงวิชชาธรรมกาย

    หลวงตามหาบัวบอกว่า จิตเป็นธรรมธาตุไปหมดแล้ว หมายความว่่า นั้นแหละคือกาย ที่เป็นธรรม คือไม่ว่าจะแตกออกไปในทางใด ก็เป็นธรรมทั้งหมด ธรรมในทีนี้ คือความจริง ไม่ใช่รูปแบบที่ธรรมกายกล่าวมา

    ดังนั้น จึงมี สองทาง

    ทางหนึ่ง คือ ผม ยืนยันว่า ธรรมกาย ไม่ได้แปลว่า วิชชาแบบหลวงพ่อสด จะเอามายืนยันแบบนี้ไม่ถูกต้อง
    อีกทางหนึ่ง คือ ฝ่ายสนับสนุน ธรรมกาย บอกว่า นี้แหละ พระไตรปิฎกกล่าวไว้แล้ว

    ซึ่งการตีความแบบอย่างที่สองนี้ เป็นการตีความเข้าข้างตนอย่างน่าเกลียด เพราะว่า ในเนื้อหาของพระไตรปิฎกนั้น หาได้กล่าวว่า ธรรมกาย เป็นวิชชาแบบหลวงพ่อสด

    ตามธรรมดา พระศาสดา ตรัสไว้ นั้นหากว่า ถ้ามีนัยยะ หรือ อรรถธิบายจะแสดงได้เป็นอย่างอื่นแล้ว ท่านจะสาธยายเช่นว่า กายในกายนั้น หมายถึงอะไร ท่านก็แจงไว้ หลายบรรพ

    ทีนี้ คำว่า ธรรมกาย ท่านไม่ได้แสดง ก็หมายถึงศัพท์ตรงๆ ที่มีกายเป็นธรรม คือ เมื่อจิตแปรไป ก็แปรไปในทางธรรมเสมอ

    จะเอาคำว่า ธรรมกายในที่นี้ มาหมายถึงคำของหลวงพ่อสดไม่ได้ น่าเกลียด เขาเรียกว่า ขี้ตู่

    เพราะว่า หากหลวงพ่อสดจะยกมาบอกตั้งแต่แรกว่า วิชชากายพระอรหันต์ พวกท่านก็ต้องไปหาคำว่ากายพระอรหันต์ในพระไตรปิฎกให้ตรงกับ วิชชาของพวกท่าน ซึ่งท่านไม่ได้ ตีความจากของแท้ ไปสู่ พวกท่าน แต่ท่านตีความวิชชาพวกท่านเบนเข้าไปหาธรรมแท้ ซึ่งผิดอย่างมหันต์

    จริงหรือไม่ ตอบมา อย่าเฉไฉกันอีก

    ยิ่ง สมถะ ผมถามไปว่า ปฏิจสมุบบาืืท นั้น ธรรมกายจะว่าอย่างไร ท่านก็ไม่ตอบ

    ถ้าไม่ตอบคำถามผมแล้ว ให้หยุดไปเลย ไม่ต้องเสนอหน้ามาทำอวดรู้ เพราะว่า ท่านไม่รู้จริงกันเลย

    ตีความเข้าข้างตัวเอง หาความจริงชัดแจ้งไม่มีสักจุด แล้วยังมีหน้าจะมาหาพวกเข้าลัทธิตน

    ผมนายขันธ์ ขอบารมีพระพุทธองค์ ให้ผมชนะมารเหล่านี้ ด้วยเทอญ และให้ชนะไปทั้งสิบทิศ ต่อ ใครก็ตามในสามแดนโลกธาตุที่จะมาทำให้พระธรรมเสื่อมไป ขอพรอันนั้นจงอยู่ที่ข้าพเจ้า ตลอดไป เพื่อดำรงไว้แห่งพระธรรมอันถูกต้อง
     
  12. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ก็ดีแล้วนะคุณโอม ที่ฝึกกายคตาได้ เป็นเรื่องยากอยู่

    พอฝึกได้แล้ว อารมณ์ในการมีราคะจะไม่เหมือนบุคคลปรกติทั่วไป
    ที่คนทั่วไปเขาจะไหลได้ง่าย ตาม ราคะ ตัณหา ไม่ทัน นี้ภาวนา
    กายคตาแล้ว ราคะ ตัณหา หยาบก็ถูกบดบังไป ก็จะมีตามธรรมเห็น
    ราคะ ตัณหา ที่ละเอียดขึ้น

    แต่ยังเรียกวิปัสสนาไม่ได้ แม้กระทั่งการหลุดออกไปเห็นกายสลาย
    เป็นผงถ่านผงดิน แล้วกลับมารวมร่าง ก็ยังไม่ได้ยกวิปัสสนาญาณ
    ยังอยู่ในอาการสมถะ อาการของจิต ให้ถอยออกมาเป็นผู้ดู เห็น
    กายถอดถอนซ้อนเป็นฉากเหมือนดูทีวีอีกที ตรงนั้นถึงจะมีตัวสัมมาสติ
    เกิดขึ้น จะทำให้สมาธิที่เกิดเป็นสัมมาสมาธิได้ ปัญญาถึงจะเกิด

    ถ้าปัญญาเกิด กลับเข้าร่างอีกที สักกายทิฏฐิจะลดลง แต่ถ้าไม่ได้แยก
    ออกไป กลับเข้ามาอัตตาจะเพิ่มขึ้น แต่ลึกกว่าเดิม เพราะฐานของจิต
    แยกออกไปรู้อยู่นอกตัว ทำให้เหมือนละวางตัวตน แต่จริงๆยังไม่ได้
    วางจริง

    เหตุที่จิตมันจะออกไปรู้ข้างนอก ธาตุรู้ไปอยู่ข้างนอก เพราะเราได้
    ผ่านการเห็นความไม่เที่ยงของสังขาร แล้วทำให้เกิดอภิชชญาขึ้น
    ทำให้จิตไม่เข้ามาที่กาย จึงให้ความรู้สึกเหมือนไม่ถือกาย

    ไม่ได้บอกว่าผิด ทำผิดอะไรนะ เพียงแต่กำลังบอกว่า ในแต่ละตัวทำได้
    แล้วให้พิจารณาตัวไหน ตอนไหนควรพิจารณาความชอบใจ ไม่ชอบใจ
    ตอนไหนควรพิจารณาอวิชชา ถ้าพิจารณาถูกจังหวะ ก็มีผลดี แต่ยังต้อง
    ทำเนืองๆ จนกว่าจิตจะตัดสินของเขาเอง ไม่ใช่เราเป็นคนตัดสินเพราะ
    ทำได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2008
  13. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    [MUSIC]http://www.dhammakaya.org/wmp.asx [/MUSIC]
     
  14. นักบุญภาคอีสาน

    นักบุญภาคอีสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2008
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +334
  15. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คิดดูอีกที ไม่น่าพูดเลยเนอะ เพราะคุณมีครู มีอาจารย์อยู่

    ศิษย์มีครูนี้เขาไม่ให้ละลาบละล้วง

    แต่เสียงหลวงพ่อสด ไม่ต้องเอามาให้ฟังเพื่อเป็นนัยก็ได้นะครับ

    เพราะผมกลับบ้านที่ราชบุรี ผมก็เปิดวิทยุฟังอยู่แล้วเสมอๆ

    ถ้าไปเที่ยว พักโรงแรม ก็จะดู DMC
     
  16. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    ขอบคุณที่มีความพยายาม และ เมตตาจะชี้แนะครับ
    DMC ไม่เกี่ยวกับวิชชาธรรมกาย วัดปากน้ำ ที่ตกทอดจากหลวงปู่โดยตรง
    เลยไม่ใส่ใจที่จะดู

    ส่วนเสียงธรรมของหลวงป๋า หรือ พระรูปอื่นๆในวัดที่ท่านเทศน์
    ถ้าไม่อยากฟัง แต่คนอื่นที่เค้าจะมีโอกาสฟัง คุณก็สามารถกดปิด
    หรือ กดSTOPที่ เครื่องหมาย สี่เหลี่ยม ได้ครับ


    ขออภัยที่เสียมารยาทครับ เพราะอาจยังโง่อยู่

    ขอบคุณครับ



    [music]http://www.dhammakaya.org/wmp.asx [/music]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กรกฎาคม 2008
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ปล่าวๆ ผมเข้าใจผิดเอง คิดว่าคุณโพสเสียงเทศน์อันเดิมๆ เพื่อ
    บอกเป็นนัยประมาณว่า "ฉันมีอาจารย์"

    พึ่งสังเกตุว่าเป็น สตรีม
     
  18. นักบุญภาคอีสาน

    นักบุญภาคอีสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2008
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +334
    อืม...........สาธุ ผมจะลองดู บ้าง
     
  19. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    oooooooooooooooooooooooooooooooooooo


    ไม่เป็นไรครับ คนเราเข้าใจผิดกันได้

    บางทีเรายังรำคาญตัวเองเลย


    เห็นแต่ ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน เจตนาดีๆ ที่มีต่อกัน สบายใจดี

    แม้จะ กระทบกันแรงๆ บ้าง ( จนอาจเป็นบ่อยๆ ) ^^
     
  20. ไอน์สไตน์

    ไอน์สไตน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2007
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอให้ท่านหาย ไวๆ นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...