เหตุผลที่ไม่ควรปรามาสบุคคลผู้ปรารถนาพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย วรกันต์, 9 กรกฎาคม 2008.

  1. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    เห็นในกระทู้ส่วนใหญ่ จะมีความเห็นเกี่ยวกับพุทธภูมิ หรือ พระโพธิสัตว์ มากมาย
    บางท่าน ก็หวังดี แนะนำให้ลา บางท่าน ก็เขียนว่า เป็นการปรารถนาที่ยาก มีได้น้อย ทางทีดีให้เลิกปรารถนา เสียดีกว่า อะไรประมาณนี้

    อยากจะบอกให้ทุกๆท่านว่าไม่ควร ปรามาสกับบุคลลที่ปรารถนาพุทธภูมินะครับ

    ด้วยเหตุผลที่อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ

    หากมีใครสักคนหนึ่งซึ่งอาจเคยฆ่าคนมามากมายแต่กลับใจได้ อยากบวชเป็นพระ แต่มีคนทัดทานไม่ควรบวชหรอก แกฆ่าคนมาเยอะ บวชไปศาสนาจะแย่เปล่าๆ

    มาวิเคราห์ะกัน

    ไม่ควรเอามารวมกันครับ เพราะผลแห่งกรรมแยกกัน
    การบวชในพุทธศาสนา ถือเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา เป็นมหากุศล แม้บุคคลนั้นเคยทำบาปมามาก(แต่ไม่ใช่อนันตริยกรรมนะครับ) การบวชก็ยังถือเป็นบุญ มหาศาล เท่ากับ บุคคลที่ทำความดีมาตลอดไม่เคยฆ่าสัตว์ แล้วมาบวช
    เพราะสิ่งเหล่านี้ขึ้นกับว่า การบวชแล้วบุคคลนั้นประพฤติปฎิบัติตามศีลของพระอันดีงาม หรือไม่

    ส่วนผลของการฆ่าสัตว์ เขาย่อมได้รับกรรมนั้นเช่นกัน แต่อยู่ที่ว่าเมื่อไหร่

    กรรมจึงให้ผล แยกกันครับ ขึ้นอยุ่กับว่า กรรมใดจะส่งผลก่อน

    การปรามาส หรือ บอกให้ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ ยกเลิกลาพุทธภูมิ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เปรียบเหมือน การห้ามไม่ให้คนไปบวช เพราะรู้ว่า บุคคลนั้นบวชไปก็ไม่ได้ทำตัวดี หรือ ทำไม่ได้

    อันนี้ผิดมหันต์นะครับ เพราะผลบุญจากการบวชย่อมเท่ากัน ในทุกคน แต่ผลบุญหลังจากการปฎิบัติัตัวหลังจากเป็นพระก็อีกส่วนหนึ่งแยกกัน

    ถ้าใครคิดที่จะบวชด้วยจิตอันเป็นกุศลแล้ว ไม่ว่าใครคิดก็ย่อมเป็นมหากุศลเช่นกัน การที่คุณปรามาสพุทธภูมิ หรือ บอกให้ลาพุทธภูมิ ไม่ว่าจะหวังดี หรือ อะไรก็ตามแต่ กรรมย่อมจะส่งผลให้คุณอย่างแน่นอน เพราะเหมือนเรากำลังจะไปห้ามไม่ให้เขาทำมหากุศล

    ดังที่หลวงพ่อฤาษี ท่านเคยกล่าวเตือนไว้ ว่า หากใครปรารถนาพุทธภูมิ ก็ปล่อยเขา ไม่ควรที่จะไปยุ่งเขา

    เพราะว่าผลกรรมของการห้ามผู้อื่นปรารถนาพุทธภูมิ ก็เหมือนกับ การห้ามไม่ให้เขาสร้างมหากุศล ซึ่งผู้ห้ามย่อมได้รับบาปอย่างมหันต์ อย่างน้อยก็ทางมโนกรรม และวจีกรรมไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เรายังไม่ทราบหรอก จนกว่าเราจะได้รับผลของกรรมนั้น ซึ่งน่ากลัวมากๆครับ

    ถ้าท่านปรารถนาสาวกภูมิ มุ่งสู่ความเป็นอริย ก็อาจจะไม่ได้รับผลของกรรมนั้น
    เพราะพระอรหันต์ สามารถหลุดจากกรรมบางอย่างได้ (ที่ไม่ใช่อนันตริยกรรม)
    โดยไม่ต้องใช้กรรมทั้งหมด ดังเช่น พระองคุลีมาล ที่ฆ่าคนเกือบพันคน ก็ยังไม่ต้องใ้ช้กรรมตรงจุดนี้

    แต่ถ้าหาก ปรารถนาพุทธภูมิแล้วละก็ ท่านก็จะได้รับผลกรรมนี้แน่นอนครับ
    เพราะบุคคลที่ปรารถนาพุทธภูมิจะต้องใช้กรรมของตนเองทั้งหมด ไม่ว่ากรรมนั้นจะเบาบางเพียงใด (ดังเช่นแม้แต่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เศษกรรมต่างๆของท่านก็ยังตามมาแม้ในชาติที่พระองค์เป็นพระพุทธเจ้า หลายอย่าง รายละเอียดไปหาอ่านเอาดูนะครับ)


    ยังมีต่อนะครับ
     
  2. ปัจเจกพุทธะ

    ปัจเจกพุทธะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +121
    อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจาธิฏฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะ โว คัณหะถะอาวุธานีติ.
    ดูก่อนพระบารมีทั้งหลาย ขอเชิญพระบารมีคือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐานะ เมตตา และอุเบกขา จงมาที่นี่โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อยุทธ์กับพญามาร (กิเลส) เถิด.
    อนุโมทนาครับ.
    บริจาคเงินช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
    โทร.1900-222-200 6บาท/นาที
     
  3. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้
    ข้าพเจ้าขออุทิศให้
     
  4. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    บทความของคุณวรกันต์ ดีแล้ว ชอบแล้ว สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  5. civil60

    civil60 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +60
    นิพพานนังปรมังสุขขัง
     
  6. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    อนุโมทนาสาธุครับ
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------
    พระคุณพ่อ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1326572#post1326572
    มาเที่ยว วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ วัดประจำปีจอกัน
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=136821
    พุทโธหาย....?
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1329341#post1329341
    ปรัชญาพุทธกับคนรัก(ที่ไม่รักเรา) เอ๊า!!ใครอกหักยกมือขึ้น
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1338677#post1338677
     
  7. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    อันนี้ต่อ ภาคสองครับ ขอเริ่มต้นด้วย

    อันนี้นำมาจากพระไตรปิฎก ฉบับแปล จากเรื่องพระมหาชนก ที่ทุกคนเคยอ่านกันมาบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะ เป็นรูปแบบ นิทาน หรือ เรื่องรวมโดยสรุป ซึ่งในตอนที่นางเมขลามาช่วยพระโพธิสัตว์ ส่วนใหญ่จะสรุป ไปเลยว่านางมาช่วยท่านจนพาท่านไปถึงฝั่ง

    ส่วนน้อยที่จะได้อ่าน ข้อความจริงๆในพระไตรปิฎก ซึ่ง ได้แฝง ความหมาย และ ข้อคิดไว้ ด้วยนะครับ ลองอ่านดูก่อน

    "หลังจากที่นางเมขลา ได้ทราบว่าพระโพธิสัตว์ กำลังทำวิริยบารมี ว่ายน้ำท่ามกลางมหาสมุทร อยู่ นางจึงได้ไปแกล้งถาม มหาบุรุษว่า"


    [๔๔๒] ใครนี่ เมื่อมองไม่เห็นฝั่ง ก็ยังกระทำความเพียรว่ายอยู่ในท่ามกลางมหา-
    สมุทร ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นัก.


    [๔๔๓] ดูกรเทวดา เราพิจารณาเห็นวัตรของโลกและอานิสงส์แห่งความพยายาม
    เพราะฉะนั้น ถึงจะไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ในท่ามกลาง
    มหาสมุทร.



    [๔๔๔] ฝั่งมหาสมุทรอันลึกประมาณไม่ได้ ย่อมไม่ปรากฏ ความพยายามอย่าง
    ลูกผู้ชายของท่านย่อมเปล่าประโยชน์ ท่านยังไม่ทันจะถึงฝั่งก็จักต้องตายเป็นแน่.


    [๔๔๕] บุคคลผู้กระทำความเพียรอยู่ แม้จะตาย ก็ชื่อว่าไม่เป็นหนี้ คือ
    ไม่ถูกติเตียนในระหว่างหมู่ญาติ เทวดาและพรหมทั้งหลาย
    อนึ่ง บุคคลเมื่อกระทำกิจของบุรุษอยู่ ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง.


    [๔๔๖] การงานอันใดยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม
    การงานอันนั้นก็ไร้ผล
    มีความลำบากเกิดขึ้น ความปรากฏแก่บุคคลผู้กระทำความพยายามในอันมิใช่ฐานะใด จะมีประโยชน์อะไรด้วยความพยายามในอันมิใช่ฐานะนั้น.


    [๔๔๗] ดูกรเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่า การงานนี้ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายามแล้ว
    ไม่ป้องกันอันตราย ชื่อว่าไม่พึงรักษาชีวิตของตน ถ้าผู้นั้นพึงละความ
    เพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ผลแห่งความเกียจคร้านนั้น


    ดูกรเทวดา คนบางพวกในโลกนี้ เห็นอยู่ซึ่งผลแห่งความประสงค์ จึง
    ประกอบการงานทั้งหลาย การงานเหล่านั้นจะสำเร็จก็ตาม ไม่สำเร็จก็ตาม
    ดูกรเทวดา ท่านย่อมเห็นผลแห่งการงานอันประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ
    คนอื่นๆ พากันจมลงในมหาสมุทร เราคนเดียวเท่านั้นพยายามว่ายข้ามอยู่
    และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้เรา
    เรานั้นจักพยายามตามสติกำลังจักทำ
    ความเพียรที่บุรุษพึงกระทำ ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร.


    [๔๔๘] ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม ไม่จมลงในห้วงมหรรณพ
    ทั้งลึก ทั้งกว้างเห็นปานนี้ ด้วยการกระทำความเพียรของบุรุษ ท่านนั้น
    จงไปในสถานที่ซึ่งใจของท่านยินดีเถิด.

    ในใจความสรุปได้ว่า นางเมขลาได้พบพระโพธิสัตว์ ก่อนที่นางจะช่วยมหาบุรุษนั้น นางจึงได้ลองใจถาม พระโพธิสัตว์ว่า เหตุอันใด ท่านจึงต้องพยายามว่ายน้ำ ข้ามมหาสมุทร โดยไม่เห็นฝั่ง และ ไร้จุดหมาย
    พระโพธิสัตว์ จึงตอบไป ....

    จนช่วงสุดท้าย ท่านบอกว่า ก็เพราะเหตุแห่งวิริยะที่ท่านทำนี้มิใช่ หรือ ที่ทำให้ท่านมีชีวิตรอดจนถึงนาทีนี้ หากท่านละความพยายามตั้งแต่เรืออับปาง ก็มิต้องจมน้ำตายไปนานแล้ว ดังเช่นคนอื่นๆ และด้วยเหตุแห่งความเพียรนี้ จึงทำให้ท่านได้พบกับนางเมขลา อยู่นี่ไง

    ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ มิใช่เพราะพระองค์ทรงประกอบด้วย ความเพียร อันยิ่งใหญ่ที่จะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร แม้จะไม่เห็นฝั่งพื้นก็ตาม หรอกหรือ
    พวกเราจึงได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุับัน นี่ไง

    เห็นได้ว่า การปรารถนาพุทธภูมิ เป็นการปรารถนา ที่ยาวนาน เสมือนว่าไร้ซึ่งจุดหมายที่ชัดเจน เปรียบเหมือนกับ มหาบุรุษ ว่ายน้ำ ทั้งๆที่ยังไม่เห็นฝั่ง ยังไม่รู้ด้วยว่า อีกไกลแค่ไหนจะถึงฝั่ง แต่ก็ยังเพียรพยายามว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร อยู่ถึง 7วัน ยากนักที่ใครจะทำได้

    แต่หากพระองค์ไม่ได้ทรงทำความเพียรยากยิ่งเหล่านี้แล้ว ก็จักไม่มีพระพุทธศาสนาปรากฎให้เราทุกวันนี้

    เอแล้วมันจะเกี่ยวกับหัวข้อที่โพสยังไงนะ


    ก็เพราะยังไม่หมดอ่ะครับ มีต่อ
     
  8. อนูดิน

    อนูดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +2,012
    เข้าเรื่องละกัน ตามที่หลวงพ่อฤาษีฯท่านบอกนั้น
    ท่านกล่าวทำนองว่า "อย่าไปชวนพวกกำลังใจเข้มแข็งลาพุทธภูมิเพราะจะไม่สำเร็จ"

    ต่างหากเล่าครับ


    แก้ให้แล้วครับ ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยที่โพสคำเทศนาของท่านหลวงพ่อฯ
    คลาดเคลื่อน จริงๆแล้วตั้งใจจะบอกว่าที่ท่านกล่าวน่าจะแปลได้อย่างนี้
    มากกว่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2008
  9. chanthawat_k

    chanthawat_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +413
    ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยทั้งสาม อันบริสุทธิ์ผ่องใส
    ช่วยปกป้อง และป้องภัย อันตราย ให้แก่ผองปวงชน ชาวไทย
    ทุกถ้วนหน้าเทอญ....อนุโมทนาสาธุ
     
  10. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    [FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif, Angsana New][SIZE=+1]ถึงคุณอนูดินครับ
    "เป็นสาวกภูมิก็พอแล้ว รีบไปดีกว่า แต่อย่าไปขัดคอกันนะ ถ้าคนที่เขามีวิสัยพุทธภูมิอยู่ก็พูดกันไม่รู้เรื่องเหมือนกัน"
    ข้อความตรงนี้ ที่ผมเอามาตีความครับ
    อันนี้ เป็นคำพูด ที่ผม copy มาจากในบทความของหลวงพ่อฤาษีเลยครับ คุณอนุดิน
    คงจะเป็นคำพูดที่เก็บมาคนละช่วงกันครับ
    ไม่จำเป็นนี่ครับที่หลวงพ่อฤาษี ท่านจะพูด ประโยคเดียว เท่านั้นนิครับ
    [/SIZE][/FONT]
     
  11. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    เรื่องจะปรารถนา สาวก หรือ พุทธะนั้น
    เป็นทาง เป็นวิถีจิตของผู้หนึ่งผู้ใดที่เป็นผู้ฝึกจิต
    เมื่อ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ฉันใด
    ผู้ที่มีจิตปฏิพัทธ์ต่อสิ่งใด ย่อมน้อมจิตไปเพื่อสิ่งนั้น
    เขาจะเลิกล้มความตั้งใจของเขา
    หรือ จะเพียรพยามจนจบกิจ ก็เป็นเรื่องของดวงจิตเขา
    ไม่มีอะไรนอกจากจิตเขา หรือ จิตเรา
    ขอให้ทุกท่านประสบสุขเสมอใจทุกท่าน
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน
    และขอฝากพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ น้อง ผู้ปรารถนาพุทธภูมิทุกท่าน
    ขอให้ทำหน้าที่ ความตั้งหวังของตนอย่างเต็มความสามารถ
    แม้เลือดในกายจะเหือดแห้ง ผิวหนังจะหลุดลอกถมทับแผ่นดินสักเท่าไร
    มีแต่ใจที่ตั้งหวังไว้นั้นที่เป็นพละกล้า เป็นศรัทธาในความเพียร
    แล้วอย่าลืม.....รื้อขนสัตว์กันไปเยอะ ๆ นะ
    เพราะน้องเอง...ก็ไม่ได้ต้องการรื้อเยอะนักหรอก
    ขอพุทธภูมิทุกท่าน จงได้ในสิ่งหวัง สิ่งปรารถนาทุกประการ
    สาธุ
     
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG] ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ สืบทอดพระพุทธศาสนาและสร้างเสริมบุญกุศลบารมีอันเป็นบันไดสู่พระนิพพาน พระพุทธภูมิ

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายและสรรพชีวิตโดยดีงามด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญกุศลใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงอนุโมทนา ส่วนบุญกุศลนี้ แล้ว ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    และขออุทิศส่วนบุญกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงอนุโมทนาส่วนบุญกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญบุญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนบุญกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนบุญกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข ไม่ต่ำกว่าข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอท่านทั้งหลายเมื่อใด ขอให้ท่านทั้งหลายได้อนุโมทนาส่วนบุญกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญกุศลบารมีใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญกุศลบารมีนี้ จงเป็นสรรพพลวปัจจัย ให้ข้าพเจ้า เจริญในพระพุทธการกธรรม ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพาน พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพาน พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญกุศลทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ โดยดีงามด้วยเทอญเถิด

    "พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
    "เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"

    "เมื่อได้พุทธภูมิแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิด้วย"


    พุทโธ ธัมโม สังโฆ อัปมาโณ สิทธมัตถุ ๆ ๆ
    สะอาด สว่าง สงบสมดุลย์ เลิศ ประเสริฐ ปราณีต ละเอียด ยิ่งๆๆขึ้นไปเทอญ สัมปะติจฉามิ ๆ ๆ (i) [​IMG]
    <!-- / message -->
     
  13. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2008
  14. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    มาต่อ ภาคจบ
    การปรารถนานพุทธภูมิ แม้เป็นสิ่งที่กระทำได้ยากนัก แต่ถ้าทุกคนคิดว่า
    ในเมื่อมันยากนัก เราทั้งหลายก็จงอย่าทำเลยดีกว่า สู้นอนตายกลางทะเลยังจะง่ายเสียกว่า เราก็จักไม่มีพระพุทธเจ้าจนทุกวันนี้

    เพราะฉะนั้น การที่แม้มีผู้ปรารถนาพุทธภูมิ มากมายเปรียบดังเม็ดทรายในทะเล แต่มีเพียงหยิบมือเดียวของเม็ดทราย เท่านั้นที่จะได้เป็น พระพุทธเจ้า

    และอีกนั่นแหละ ไม่ใช่ เพราะมีเม็ดทรายในพื้นมหาสมุทร อันมากมายหรอกหรือ ที่ทำให้เกิดเม็ดทรายหยิบมือเดียวขึ้นมา เป็นรากฐานของเม็ดทรายอีกหลายเม็ด ที่อยู่ในกำมือ
    เพราะหากมีเม็ดทรายที่ใสดังเพชรเพียงกำมือ ก็มิอาจจะแผ่พื้นคลุมมหาสมุทรได้หมด จำต้องอาศัยการค้ำจุน จากทรายน้อยใหญ่ จนกลายเป็นพื้นมหาสมุทร

    หากไม่มีเม็ดทรายเกลื่อนกลาดในพื้นมหาสมุทร แล้ว ก็จักปรากฎ มีเม็ดทรายในในกำมือ ก็หาไม่

    ดังนั้นจึงอยากอธิบาย แก่ท่าน ผู้สงสัยในการปรามาสการปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้า เพราะแม้มีผู้ปรารถนามากมาย แต่มีเพียงคนจำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่จะได้เป็น เป็นเรื่องจริงอยู่
    แต่ก็เพราะ มีพระโพธิสัตว์น้อยๆ เหล่านี้ ถึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นได้

    เพราะหากพระองค์ตรัสรู้ได้ แต่หากไม่มีสาวกของพระองค์สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อ ศาสนาก็จักยังตั้งอยู่ไม่นาน และพระโพธิสัตว์เหล่านี้เองที่คอยเค้าชูพระพุทธศาสนาต่อจากพระพุทธเจ้า

    ดังนั้นการบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ แม้ พวกท่านเหล่านั้นจะไม่ถึงจุดสุดท้ายแห่งความปรารถนา แต่ ก็มิได้หมายความว่า[FONT=&quot]บารมีที่พวกท่านเหล่านั้นกระทำมาจะสูญเปล่า ในทางตรงกันข้าม ท่านเหล่านั้นก็จะกลายเป็นสาวก ในกาลสืบมา เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ในช่วงที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ดังในช่วงสมัยนี้ ที่มีพระโพธิสัตว์ มากมาย ลาพุทธภูมิ ไปแต่ก็ยังทำหน้าที่ถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า อยู่ไม่ขาด
    และสำหรับพระโพธิสัตว์ทุกๆ ท่านแม้ มีบุคคลผู้ปรามาสการปรารถนาพระโพธิญาณ อยู่เป็นจำนวนมาก และดูเหมือนว่าการบำเพ็ญบารมี ของพวกท่าน ท่านทำแต่เพียงผู้เดียว ตัวคนเดียว แต่สิ่งเหล่านี้หาจริงไม่ [/FONT]
    [FONT=&quot]อยากให้พวกท่านทราบว่ายังมีบุคคลที่คอยให้กำลังใจพวกท่าน อยู่ห่างๆ อยากให้พระโพธิสัตว์น้อยๆ ทุกองค์ จงเข้มแข็งในการสร้างบารมีของท่านต่อไปเถิด อย่าได้ละทิ้งความพยายาม [/FONT]เด็ดขาด
    [FONT=&quot]นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่พระโพธิสัตว์ต้องมาเกิดร่วมกัน หลายๆองค์ เพื่อช่วยเค้าจุนกันและกัน ดุจพี่น้อง ครอบครัวเดียวกัน พี่จะคอยดูแลน้อง และเมื่อน้องโตขึ้นก็จักต้องทำหน้าที่ผู้เป็นพี่ต่อไป
    และหากแม้ในอนาคตกาล ข้างหน้า ท่านเกิดย่อท้อ ลาต่อพุทธภูมิ ก็ขอให้จำไว้เถอะว่า บุญบารมีที่ท่านสะสมมาตั้งแต่เริ่ม ย่อมไม่สูญเปล่าแน่นอน

    ข้าพเจ้า จึงขอเป็นกำลังใจ ให้พวกท่าน ในการสร้างบารมีให้สำเร็จดังคำอธิฐานของท่านทุกท่าน ทุกนามด้วยเทอญ(รวมตัวเองด้วยครับ)


    จบไตรภาคพอดี(||)


    [/FONT]
     
  15. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    คำสบประมาทอะไรก็อย่าปล่อยให้มันทำร้ายจิตใจเราเลย ดับความขุ่นเคืองเหล่านั้นด้วยความรัก
    เพราะเมื่อฉันมีความรักฉันจึงก้าวเดินต่อไป
     
  16. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับ เรื่องการปรามาส มีแต่อันตรายทั้งนั้น ไม่ว่าจะปรามาสพระสงฆ์องค์เจ้า ผู้ปฏิบัติธรรมผู้มีฌาน หรือพระโพธิสัตว์ ผมเองยังมองไม่เห็นประโยชน์ของการปรามาส และผู้ที่ปรามาสส่วนมากก็จะเป็นผู้ที่ศึกษาธรรมะบ้างแต่ไม่ปฏิบัติจนถึงปฏิเวธ พระอาจารย์สมบัติท่านกล่าวว่าการปรามาสพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบนั้น ห้ามสวรรค์ นิพพาน และเป็นอันตรายต่อฌานด้วย มีอันตรายถึงอย่างนั้น การจะหลุดพ้นได้ก็ต้องขอขมาต่อท่านที่เราปรามาสและท่านยกโทษจึงจะพ้นได้
     
  17. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    โมทนาครับ


    แต่ ไม่ประมาทต่อทุกชีวิตเป็นดี


    อ่านประวัติสมเด็จโต หมาบางตัวท่านยังไม่ข้ามเลย ท่านมองออกว่า เป็นพระโพธิสัตว์มาใช้กรรม


    ใครจะรู้ ว่าคนที่กำลังด่าๆๆๆๆๆ ท่านข้างหน้าตอนนี้ เค้ากำลังใช้กรรม เสวยกรรม
    และเราติดค้างกรรมเค้ามา ถ้าเราอโหสิต่อกัน ไม่แม้อาฆาตทางกาย วาจา ใจ ต่อกัน

    วงจรกรรมทีมีต่อกันจะขาดลงชาตินี้ แล้วเค้าก็จะได้มรรคผลนิพพานแล้ว

    ในเวลาอันสั้น


    .............................ปิติใจ ที่ทุกชีวิต เมตตาต่อกัน..............................

    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  18. James Bond

    James Bond สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +20
    Sadhu Anumotami krab Kn Ohm
     
  19. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ดีแล้วๆ(สาธุๆ)
    ผมเห็นด้วย ครับ
    ในส่วนของผู้ที่ตักเตือน หากมีความคิดหวังดีเตือนก็เตือนได้ครับ แต่ต้องเคารพในการตัดสินใจของคนอื่น แต่อย่างน้อยเราก็ได้แนะนำในสิ่งที่เราควรแนะนำ หรืออยากแนะนำ
    เช่นชักชวนเพื่อน กัลญาณมิตรมาปราถนาในทางเดียวกัน(ปัจเจก) แต่เขาเองเห็นว่าทางอื่นดีกว่า(สาวก)เร็วดีสอนคนอื่นได้ด้วย ก็พึงเจริญอุเบกขาเป็นที่ตั้งครับ
    ส่วนผู้ที่ปราถนาพุทธภูมิ หรือภูมิอื่นก็ดีหากได้ใคร่ครวญด้วยปัญญาดีแล้ว เล็งเห็นเหตุและผลที่จะเกิดแล้ว ยอมรับแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช้ความต้องการอย่างเดียวแต่หากเลือกทางที่เหมาะกับจริตของตนแล้ว ก็ไม่พึงหวั่นไหวในโลกธรรม และต้องมั่นคงไม่ง่อนแง่นในสิ่งที่เราพึงกระทำครับ สู้ๆ
     
  20. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    การที่ใครจะปรารถณาพุทธภูมิหรือไม่อย่างไรนั้นเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล เราควรให้สิทธิในการตัดสินใจของแต่ละท่านไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ว่าจะด้วยความหวังดีหรือประการใดก็แล้วแต่ เพราะการที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวจนทำให้บุคคลนั้นๆ ต้องเลิกล้มความตั้งใจในการสร้างบารมีก็เปรียบเหมือนกับการทำลายเมล็ดพันธุ์ที่รอการเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่จะคอยแผ่กิ่งก้านสาขาให้กับต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยในวันข้างหน้าต่อไป หรือเปรียบเสหมือนกับการทำลายไข่ของเต่าที่ในวันข้างหน้าอาจจะฟักตัวเจริญเติบโตเป็นเต่าใหญ่คู่มหาสมุทรต่อไป แม้จะมีโอกาสน้อยที่จะเป็นเช่นนั้นแต่เราเองก็ไม่ควรจะเป็นผู้ทำลายโอกาสนั้น แต่อย่างน้อยถ้าใครที่ปรารถณาพุทธภูมิ หากทั่นมีความตั่งใจมั่น มีความเด็ดเดี่ยวไม่ท้อถอยแล้ว เมื่อภัยภายในทำอะไรท่านไม่ได้ ท่านย่อมไม่ต้องกังวลกับภัยภายนอกซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ย่อมไม่มีกำลังพอที่จะทำให้จิตใจของท่านหวั่นไหวได้แน่นอน ถ้าจิตใจของท่านหนักแน่เหมือนภูผาแล้วภัยภายนอกเปรียบเสมือนลมต่อให้รุนแรงแค่ไหนย่อมไม่สามารถพัดพาภูเขาให้ปลิดปลิวไปตามแรงลมได้เลย ขออนุโมทนากับความตั้งใจมั่นของท่านทั้งหลายมา ณ ที่นี้ด้วยครับ จะเป็นอีกใจที่คอยเป็นกำลังใจให้ทุกท่านกับการสร้างสมบารมีเพื่อถึงพร้อม รู้พร้อมในอนาคต ขอบคุณครับ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...