โลกันตนรก คืออะไร ครับ ทำกรรมขนาดไหนถึงจะได้ไปเที่ยวที่นั้น ครับ

นรกขุมนี้เขามีไว้ทรมาร สัตว์นรกประเภทไหนกันครับ
ขนาดไตรภูมิของ หลวงพ่อฤาษีฯ ยังไม่ได้ระบุว่ากรรมอะไรที่ทำให้ได้มาสู่
โลกันตนรก เพียงแต่บอกว่า กรรมพิเศษ บาปพิเศษ แล้วที่พิเศษนั้นหนะ
คืออะไรครับ
แล้วเมื่อใช่กรรมที่ขุมนี้เสร็จแล้ว ถึงจะได้ขึ้นไป อเวจีมหานรก อีกที แสดงว่า โลกันตนรกนี่ มหาๆโคตรๆ นรกเลยสิครับ ไม่มีกำหนดเวลา อเวจีมหานรกยัง
มีกำหนดว่ากี่ กัป แสดงว่า โลกันตนรกนี่ มันสุดๆ จริงๆ

มีใครทราบบ้างครับว่าต้องทำกรรมอะไรถึงจะได้ไป วิ่งเล่นในนั้นบาง

(b-green)

 

นรกโลกันต์ อันเป็นนรกอยู่ระหว่างจักรวาล ๓ จักรวาล ถ้าจะเปรียบอย่างที่เขาเปรียบไว้ ก็เหมือนเขียนเป็นวงกลม ๓ วง ต่างว่า แต่ละวงเป็นจักรวาลหนึ่ง ๆ เอาวงกลมสองวงเรียงอยู่ในระดับเดียว ให้ใกล้ชิดกัน แล้วเอาอีกวงหนึ่ง คือ วงที่สาม วางซ้อนกันไว้ข้างบนสองวงนั้น ก็จะเป็นรูปตั้งวง ๓ วง อย่างรูปสามเหลี่ยม แต่อีกวง เป็นยอดของอีกสองวง เมื่อวางเรียงกันตามรูปนี้ จะเกิดมีช่องว่างระหว่างกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม ช่องว่างนี้แหละเรียกว่า โลกันต์ แปลว่า อยู่ระหว่างโลก

หนังสือไตรภูมิกล่าวว่า โลกันต์นรก กว้างได้ ๘,๐๐๐ โยชน์ มีคูลึก วงรี หาพื้นน้ำบ่มิได้ หาฝาเบื้องบนบ่มิได้ เบื้องบนเป็นปล่องขึ้นไปถึงพรหมโลก ในโลกันต์นรกมืดแสนมืด แสงดาวเดือนและดวงตะวันที่ส่องโลก ส่องไปไม่ถึง เพราะโลกันต์นรกอยู่นอกกำแพงจักรวาล คือ อยู่พ้นกำแพงเหล็กซึ่งกั้นโลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และโลกนรกออกไป นรกโลกันต์นี้เห็นจะมีความหนาวเย็นเฉียบอย่างนรกก้นบึ้งของฝรั่ง คงไม่ร้อนเหมือนนรกอเวจี เพราะแสงตะวันส่องไม่ถึง และมืดตื๋อ

สัตว์ที่ตกนรกโลกันต์มองไม่เห็นอะไรเหมือนกับคนหลับตา ต่อเมื่อใดพระโพธิสัตว์จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า กล่าวคือ เมื่อท่านเสด็จมาปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา ๑ เมื่อท่านประสูติ ๑ เมื่อท่านตรัสรู้ ๑ เมื่อท่านตรัสเทศนาพระธรรมจักร คือ เทศนาเป็นครั้งแรก ๑ และเมื่อเสด็จเข้าสู่นิพพาน ๑ ใน ๕ กาลนี้ แต่ละกาลสัตว์ในนรกโลกันต์จะเห็นแสงสว่างได้ครั้งหนึ่ง แต่กระนั้นก็เห็นแสงสว่างได้ชั่วดีดนิ้วมือ หรือ ชั่วพริบตา หรือ ชั่วฟ้าแลบแวบเดียวเท่านั้น แล้วกลับมืดอย่างเดิม

ผู้ใดกระทำร้ายต่อพ่อแม่ และพระสงฆ์ และยุยงให้สงฆ์แตกร้าวกัน ครั้นตายไปก็ไปเกิดในนรกโลกันต์ มีตัวสูงใหญ่ถึง ๖,๐๐๐ วา มีเล็บมือ เล็บตีน ยาวดั่งค้างคาว ตัวใหญ่มหึมา เอาเล็บเกาะกำแพงจักรวาล ห้อยตัวเอาหัวลงเหมือนค้างคาว เมื่อหิวขึ้นมา ต่างตัวก็ต่างจะกินกัน โอบรัดฟัดกันจนม้วนต้วนตกลงไปในน้ำ น้ำนั้นเย็นแสนเย็น (มาได้ความชัดตอนนี้เอาว่าเป็นนรกเย็น) สัตว์นรกที่ตกลงไปถูกน้ำกัดเน่าเปื่อย แหลกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนตาย แล้วกลับเป็นสัตว์นรกขึ้นอีก ทนทุกข์ทรมานตายแล้วเกิดเป็นใหม่อยู่อย่างนี้ นานชั่วพุทธันดรกัลป์หนึ่ง ถึงจะหมดกรรม พุทธันดรกัลป์ คือ ระยะเวลา หรือ กัลป์ที่อยู่ระหว่างพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งกับอีกองค์หนึ่งจะมาตรัสรู้ เป็นเวลาที่ว่างพระศาสนา..................ผมก็ไปคัดลอกมาจากคนอื่นอีกทีครับ อิอิ

 

ไม่ใช่ครับ "ผู้ใดกระทำร้ายต่อพ่อแม่ และพระสงฆ์ และยุยงให้สงฆ์แตกร้าวกัน" อันนี้เป็นอนันตริยกรรม ไปแค่อเวจีมหานรกครับ

ส่วนที่จะไปโลกันต์ ต้องเป็นบาปพิเศษจริงๆ นั่นคือเป็นผู้มีมิจฉาทิฐิสมบูรณ์แบบ เป็นมิจฉาทิฐิแบบเที่ยงแท้(นิยตมิจฉาทิฐิ) มีการทำบาปกรรมอยู่เป็นนิตย์ สะสมความชั่วดั่งพระโพธิสัตว์สั่งสมบารมี พูดง่ายๆ เลวบริสุทธิ์หรือเลว100% นั่นแหละครับ ได้ไปอยู่โลกันต์ล่ะครับ จะบอกว่าไปเที่ยวคงไม่ได้ ต้องบอกว่าไปอยู่ เพราะประมาณเวลาการอยู่ในโลกันต์ไม่ได้เลย แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังไม่พยากรณ์อายุของสัตว์ในโลกันตนรก เรียกว่า โลกันต์นั้นตรงข้ามกับนิพพานก็ไม่ผิดนัก

 

.......

 

น่ากลัวมากเลย

น่ากลัวยิ่งนักเลยนะครับ ถ้าจะบอกว่าต้องสะสมกรรมอย่างมากนั้นถึงจะมีสิทธิที่จะลงในนรกขุมนี้ แสดงว่าระยะเวลาในชาติเดียวก็ลงไม่ได้สิครับ
หรืออย่างไร มันก็เปรียบได้ว่า จะต้องทำให้บรรลุถึงความชั่วอันบริสุทธิ์
เลยสิครับ ถ้าตรงกันข้ามกับนิพพานแล้ว อย่างนั้นก็เสวยความทุกข์อยู่อย่างนั้นเลยสิครับ

[b-wai]

 

วิธีตรวจจักรวาล ภพ ๓ และโลกันต์



ลักษณะภพ ๓ และโลกันต์ วัตถุประสงค์และวิธีตรวจ ภูมิ ๓๑


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="45%" border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid" align=middle>อรูปภูมิ ๔</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อากิญจัญญายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>วิญญาณัญจายตนภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

อากาสานัญจายตนภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid" align=middle>

รูปภูมิ ๑๖


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทธาวาสภูมิ ๕ ชั้น</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อกนิฏฐภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทัสสีภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>สุทัสสาภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>อตัปปาภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid" align=middle>

อวิหาภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

จตุตถฌาน/ปัญจมฌานภูมิ ๒ : เวหัปผลภูมิ / อสัญญสัตตภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ตติยฌานภูมิ ๓ : ปริตตสุภาภูมิ อัปปมาณสุภาภูมิ สุภกิณหาภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ทุติยฌานภูมิ ๓ : ปริตตาภาภูมิ อัปปมาณาภาภูมิ อาภัสสราภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ปฐมฌานภูมิ : มหาพรหมาภูมิ พรหมปุโรหิตาภูมิ พรหมปาริสัชชาภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">

เทวภูมิ ๖


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

นิมมานรตีภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ดุสิตภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ยามาภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ตาวติงสาภูมิ (ดาวดึงส์เทวโลก)


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

เขาพระสุเมรุ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

จาตุมมหาราชิกาภูมิ

อากาสัฏฐเทวดา ภุมมัฏฐเทวดา รุกขเทวดา

​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">

มนุสสภูมิ


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

ปุพพวิเทหทวีป ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป อุตตรกุรุทวีป


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 2px solid">

ทุคคติภูมิ ๔


​

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid">

เปตติวิสยภูมิ อสุรภูมิ ติรัจฉานภูมิ นิรยภูมิ


​

</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message -->

 

ไม่จำเป็นต้องหลายชาติครับ หากมีคุณสมบัติครบตามที่ผมโพสต์ไว้ ชาติเดียวก็เพียงพอได้ไปอยู่โลกันต์แล้วครับ
ส่วนที่บอกว่า "ถ้าตรงกันข้ามกับนิพพานแล้ว อย่างนั้นก็เสวยความทุกข์อยู่อย่างนั้นเลย" ก็ไม่เชิงครับ นิพพานไม่เกิดอีก แต่สัตว์ในโลกันตนรก ยังต้องเกิดอีก เพียงแต่ว่า กว่าจะได้หลุดมาจากโลกันต์ มันนานมากๆๆๆๆๆๆ มากขนาดไหนคุณคิดดู ขนาดพระพุทธเจ้ายังไม่ทรงพยากรณ์ อายุของสัตว์ในโลกันตนรกน่ะครับ

 

ขอบคุณครับพี่โลกันต์

ข้อมูลเยอะดีครับพี่ ขอบคุณมากครับ[b-wai]

 

ออกความเห็นเพิ่มเติมได้นะครับ

ใครมีความเห็นที่แตกต่างไปจากนี้ ก็เล่าให้กันได้นะครับ
หรือมีมาจากตำราอื่น ก็ยินดีนะครับ

(bb-flower