มีมติให้ดำเนินคดี พระเกษม

เป็นไปตามกฏแห่งกรรมค่ะ......

 

เปิดตาเปิดใจ รับฟังเสียงส่วนใหญ่สักทีเถิด

...การกระทำอันนั้น มิควรทำเลย...

 

อย่าดูถูกความคิด สติปัญญาคนอื่น ต่อไปอีกเลย หยุดความคิดของตนเสีย

ท่านไม่เห็นค่า ของสิ่งใด ไม่ควรเลยที่จะชักชวนคนอื่นให้เห็นด้วย

บุคคลที่ไม่เห็นด้วย ไม่ควรเลยที่ท่านจะติเตียนว่า โง่ เบาปัญญา

บุคคลแต่ละบุคคล สติ ปัญญาย่อมมีมากน้อย ไม่เท่ากัน อย่าดูถูกดูแคลน

อย่าเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ ควรปรึกษาคนอื่นบ้างจะเป็นไรไปไม่เสียหาย

อย่าคิดว่าตนทำถูกแล้ว ความคิดอย่างนี้ มีแต่เสื่อมกับเสื่อม ไม่ก้าวขึ้นสู่สิ่งที่ไม่รู้ ไม่เห็น สิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้มีอีกมาก การถามผู้อื่น ถือเป็นการเรียนรู้ ไม่ใช่เราโง่ ความคิดอย่างนี้ เป็นมานะ ความถือตัว

มนุษย์ไม่เตือนมนุษย์ด้วยกัน แล้วจะให้อะไรเตือนมนุษย์ด้วยกัน สิ่งไหนทำไปแล้ว ถูกแต่เรา แต่ผิดที่คนอื่น ก็ไม่สมควรทำ..เพราะสิ่งนั้นยังมีโทษต่อคนอื่นอยู่ สิ่งที่ทำไปแล้วไม่มีโทษต่อตนเองและผู้อื่น พึงกระทำสิ่งนั้น..

ผมก็อ่านพระไตรปิฎกเหมือนกัน พอเข้าใจมากบ้าง น้อยบ้าง ตามที่เขียนข้อความข้างบน แต่ทุกกระทู้ที่ผมโพสต์ขึ้น เป็นการแสดงความคิดเห็น ไม่ได้มีเจตนาในทางที่ผิดแฝงด้วยอคติ เพียงเสนอความคิดเห็นในเรื่องนี้ มองได้สองแง่ ผมถูก ท่านผิด ท่านถูก ผมผิด แต่เรื่องบางเรื่องการตัดสินว่าเรื่องไหนสมควรทำ ไม่สมควรทำ ก็จำจะต้องขอความคิดเห็นจากมนุษย์ จากสังคมมนุษย์ด้วยกัน ถือเป็นการลดมานะในตัว อย่างกรณีที่ผมโพสต์กระทู้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ก็เหมือนกัน พระท่านเอง ก่อนที่จะทำการติดป้ายประกาศนี้ออกมา ก็น่าจะถามพระภิกษุที่มีพรรษาแก่กว่าท่าน ว่าเป็นเรื่องสมควรไหมถ้าจะติดป้ายประกาศนี้ออกไป จะเป็นผลต่อดี ต่อพุทธศาสนิกชน ต่อพระศาสนาเราไหม มองไปข้างหน้า จะเป็นผลร้ายหรือผลดี ต่อพุทธศาสนิกชนรุ่นต่อๆไป

การแสดงเหตุผล ไม่ใช่การเถียงกัน ท่านและลูกศิษย์ท่าน สมาชิกที่ศรัทธาในตัวพระภิกษุรูปนี้ ได้ออกมาแสดงเหตุผล ในด้านการไม่กราบไหว้พระพุทธรูป ว่าไม่มีในพระไตรปิฏก พุทธศาสนิกชนไม่ควรกราบไหว้ ที่ได้อ่านมา สาระที่เป็นเนื้อหาของทางวัดสามแยกก็คือการต้องการเพียงแค่ให้เราชาวพุทธด้วยกันทราบว่า การกราบไหว้พระพุทธรูปไม่มีในพระไตรปิฏก มีเพียงแค่นี้..

แต่ผมจะแสดงเหตุผลบ้างนะ ในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง พระภิกษุ พระอรหันตสาวกที่ปรากฎเป็นเอตัคคะ เป็นผู้มีบารมีหรือความรู้ยิ่งในสิ่งต่างๆที่หาพระอรหันตรูปอื่นเสมอไม่มี..ท่านเหล่านั้นสอนให้ละชั่วทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ประพฤติปฎิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนใหญ่เลย ท่านจะสอนให้เชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่ก็หามีพระอรหันตสาวก สอนให้ไม่กราบไหว้พระพุทธรูป เหมือนอย่างภิกษุรูปนี้เลย ไม่เคยกล่าววาจา ว่า พระพุทธรูปองค์นี้ ไม่ใช่พระพุทธเจ้า อย่าไปกราบมัน!!
มีพระอรหันตสาวก รูปไหนบ้างที่สอนแบบนี้ ..

สมมุติ นี้เรื่องสมมุตินะครับ (ถ้าผมกล่าวว่า ภิกษุรูปนี้ ไม่ใช่พระภิกษุ พระภิกษุที่เเท้จริง ไม่เคยกล่าวอย่างนี้) แล้วชักชวน หมู่พวกของผม ไม่ให้ไหว้ ไม่ให้เรียกว่า พระ ..เป็นเรื่องสมควรไหม ผมมองตัวเอง ว่าเป็นเรื่องไม่สมควร ควรที่จะให้เหล่าชาวพุทธด้วยกัน ช่วยพิจารณาว่าภิกษุรูปนี้ เป็นภิกษุจริงๆ หรือ ไม่ใช่ภิกษุ..

ถ้าท่านทำถูก ก็ขออนุโมทนาด้วย แต่ถ้าท่านทำผิด ก็ขอให้ท่านกลับใจ คิดใหม่ การที่ท่านติดประกาศนั้น ควรหรือไม่ควร ถ้าท่านทำเป็นประกาศออกมาแล้วให้ พุทธศาสนิกชน แสดงความคิดเห็นก่อน น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง..นักปราชญ์สรรเสริญ เพราะการมีสติ คิด สิ่งใดไม่ทำตามความเข้าใจของตนเอง เพียงฝ่ายเดียว..

การเข้าพรรษา ภิกษุย่อมมีการปวารณา มีพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง คือการยอมรับให้ภิกษุอื่น กล่าวตำหนิ ติเตียนได้..ในเรื่องที่เป็นเหตุไม่สมควร การกระทำที่ส่อไปทางความเสื่อม เสื่อมออกทางพระธรรม วินัย หรือเรื่องต่างๆ กระทั่งการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับฆราวาส ก็สามารถให้ปวารณาได้..เป็นการสำรวจตัวเอง

ผมก็ได้สำรวจตัวเองแล้วว่า ผมจะเข้าใจผิดไหมนะ ว่าเรื่องที่มีการห้าม ไม่ให้กราบไหว้พระพุทธรูป เป็นเรื่องที่ผิด จึงได้ออกมาโพสต์กระทู้ ในเวปพุทธศาสนาที่เปิดรับให้บุคคลที่นับถือศาสนาพุทธหรืออื่นๆ ออกมาแสดงเหตุแสดงผล ว่าความเข้าใจของผมผิดไปไหม ผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง ว่าผมถูกอย่างเดียว..รวมทั้งสมาชิกหลายท่านก็ออกมาแสดงความคิดเห็น แสดงเหตุแสดงผลตามความเข้าใจของแต่ละคน เป็นเรื่องที่นักปราชญ์ท่านยกย่อง

การที่พระพุทธองค์ได้ประกาศศาสนา กว่าที่จะตั้งหลัก ตั้งฐานขึ้นมาเป็นพุทธศาสนาอย่างเต็มตัวท่านต้องถกต้องเถียง แสดงเหตุแสดงผลต่อลัทธิต่างๆมากมายเพียงพระองค์เดียว.. เพียงเพื่อเมตตาให้เขาเหล่านั้นได้เห็นอริยสัจ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาอย่างยิ่งยวด เพื่อให้คนอื่นพ้นทุกข์ตามพระองค์

นับประสาอะไรกับเราชาวพุทธจะถกจะเถียงแสดงปัญญาของเราในเรื่องเพียงแค่นี้ เพื่อความถูกต้อง เพื่อจะได้ใช้เป็นหลัก เป็นฐาน ในการสอนคนอื่น ในรุ่นลูก รุ่นหลานต่อไป

อนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน

 

ไม่น่าเลย

เสียดายจัง

 

ท่าน ว.วชิระ เมธี

พระพุทธเจ้าจึงเสนอระบอบต่อไปอีก ให้พิจารณา โลกาธิปไตย ก็คือเสียงของคนส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่ว่ายังไง ถ้าคนส่วนใหญ่เอาด้วย ผู้นำเอาตามนั้นเลย โลกาธิปไตยมีข้อบกพร่องก็คือ ถ้าเสียงส่วนใหญ่เป็นเสียงที่ไม่มีวุฒิภาวะทางปัญญา หรือเป็นเสียงที่ด้อยการศึกษา โลกาธิปไตยพาผิดทางเลย
สมมุติมีคนไปติดเกาะ 500 คน 499 คนเป็นประชาชน อีก 1 คนเป็นพระ เราจะโหวตกันละวันนี้เราต้องฆ่าช้างกินสักตัวหนึ่ง พระรูปเดิมโหวตค้าน 499 คนเขาโหวตฆ่าเลย แต่พระบอกฆ่าสัตว์ไม่ได้นะโยม พระโหวตสู้เขาได้ไหม? (ต๊อด – ไม่ได้) คนส่วนใหญ่โหวตชนะทั้งๆ ที่นั่นเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม นั่นคือข้อบกพร่องของประชาธิปไตย หรือโลกาธิปไตย

พระองค์เสนออีกระบบหนึ่ง ธรรมาธิปไตย


ที่กระผมนำข้อความบางส่วนของท่าน ว. มานำเสนอเพราะ ผมไม่เห็นด้วยในหลักการที่ว่าพวกมากลากไป หรือ ต้องตัดสินจากจำนวนของผู้ที่เชื่อหรือไม่เชื่อมากกว่า

เฉพาะโพสต์นี้กระผมไม่ได้มีเจตนาชี้ว่า พวกจำนวนน้อย เป็นฝ่ายถูก พวกจำนวนมากเป็นฝ่ายผิด หรือ พวกจำนวนน้อยเป็นคนมีการศึกษา พวกจำนวนมากไม่มีการศึกษา หรือ
พวกจำนวนน้อยเป็นพระ พวกจำนวนมากเป็นโจร
ขอเพื่อนๆสมาชิกได้โปรดอย่าเข้าใจเจตนาผมผิด เพราะเรื่องที่เรามาถก(ไม่ใช่เถียง)กันนี้เป็นเรื่องของ ธรรม

ผมว่าถ้าเรื่องราวจบลงที่อย่างไร ความจริงสุดท้ายแล้วปรากฎว่าแบบไหน ผมก็เชื่อว่าน่าจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย(ถ้าท่านมองโลกในแง่ดี) ทั้งฝ่ายที่เชื่อว่าตัวเองถูก และฝ่ายที่เข้าใจผิด

 

เรื่องนี้ ไม่ได้ตัดสินที่เสียงข้างมากแต่ประการเดียว แต่หาก ในหลายกระทู้ได้แสดงความเห็นกันด้วยเหตุผลพื้นฐานแห่งธรรม โยนิโสมนสิการ การชี้ให้เห็นความเป็นจริงทั้งในอดีต
ทั้งในไทย และในอินเดียเอง และประเทศอื่น ๆ อีก

รวมถึงให้มองในแง่มุมปรมัตถ์ก็ควรคิดให้ลึกซึ้งมากกว่านี้

หากกลุ่มนี้ไม่มีการน้อมรับฟัง ความเห็นคณะสงฆ์ แล้ว โทษจะมีมากกว่ากฎหมายบ้านเมืองอีก คือจะชวนกันลงอบายทั้งหมด

ขอให้คุณ paranyu ไปคุยกับพระสายพระป่าธรรมยุติ จะได้ข้อมูลมากขึ้น จะได้พ้นความมืดเข้าถึงความสว่างเสียที
ภูตังคะมหิ ตะมังคะลัง

ยิ่งแสดงความเห็นที่เป็นมิจฉาทิฐิจะยิ่งทวีอกุศลกรรม กว้างขวางและยาวนานนะครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขอท่านทั้งหลาย อโหสิกรรมเถอะนะ อย่างไรเสียทุกๆอย่างนั้น ย่อมมีผลตกทอดเป็นแท้

หากเราเคารพใครด้วยใจแท้ แม้จะแลเห็นเพียงรอยเท้าท่านยังก้มกราบได้หนอ


สาธุ สาธุ สาธุ

 

ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าพระเกษมนั้นหลุดพ้นจริงหรือเปล่า...แต่ที่ฉันรู้ก็คือ...ท่านก็มีแนวทางของท่าน แต่บังเอิญว่าชักชวนคนที่เดินทางอื่น มาเดินทางของท่านเท่านั้น...เรื่องราวจึงได้ลุกลามใหญ่โตเช่นนี้...เปรียบเหมือนคนที่เคยขับรถในถนนลาดยาง ด้วยความสะดวกสะบายไร้กังวล...แต่กลับถูกชักชวนให้ขับเข้าป่าดงพงไพรซะอย่างนั้น...คนที่ขับรถ 4x4 ก็ต้องสามารถขับเข้าป่าได้เป็นธรรมดา และยิ่งขับยิ่งสนุกยิ่งติดใจ...จนลืมเลือนภนนลาดยางไปจนหมดสิ้น...แต่คนที่ขอบรถเก๋ง ปิ๊กอัพ ก็คงลำบากหน่อย ถ้าจะให้บุกป่าฝ่าดงเช่นนั้น...(ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันหรือเปล่า)

 

ทำดีดีส่งให้เห็นผล

ทำชั่วชั่วก็ดลชั่วให้

ชั่วดีดุจตราตรึงตีบอกไว้นา

ใครชั่วใครดีไซร้ สืบได้ด้วยกรรม ฯ

 

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่คอยสอดส่องดูแลเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนานะครับ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ นิพพานนะ ปัจจะโย โหตุ ขอทุกท่านถึงซึ่งพระนิพพานเอกันตบรมสุข

 

ขอให้คุณ paranyu ไปคุยกับพระสายพระป่าธรรมยุติ จะได้ข้อมูลมากขึ้น จะได้พ้นความมืดเข้าถึงความสว่างเสียที
ภูตังคะมหิ ตะมังคะลัง

ผมขอขอบคุณ คุณ ธัมมนตา มากครับที่เมตตาแนะนำ
ว่าแต่องค์ไหน วัดไหน ครับ ผมจะได้ไปหาความรู้ ความสว่าง ตามที่คุณแนะนำครับ
รบกวนเป็นชื่อเว็ปก็ได้ครับ

แต่ระบุเป็นชื่อองค์ท่านมาเลยยิ่งดีนะครับ ประมาณเว็ปรวมสารพัดหลวงปู่ หลวงพ่อไม่เอานะครับ
เดี๋ยวกระผมก็ไปติดคำสอนขององค์ท่าน.......แล้วเดี๋ยวผมก็กลับมาโดนข้อหาเดิมอีก

 

ผมแนะนำให้ลองไปกราบหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาดและสนทนาธรรมกับท่านดูครับ นอกจากนี้ยังมีหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวันที่ผมเคารพท่านมาก เพราะที่วัดนี้เป็นที่แรกที่ผมไปฝึกกรรมฐานและทำให้ได้รู้ว่ากรรมฐานให้อะไรเราได้บ้าง และเป็นที่แรกที่ไปถึงแล้วไม่ได้สอนให้ผมทำบุญทำทานเป็นเรื่องแรก แต่สอนเรื่องการแผ่เมตตา และสอนเรื่องการพิจารณารูปนาม ขันธ์ห้าว่าเป็นอย่างไร เสร็จแล้วก็จับให้ไปนั่งกรรมฐานเลย อีกท่านหนึ่งก็คือหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน จ.กาญจบุรี ..ผมไม่ใช่คนเก่งหรือดีอะไร แต่อยากให้ได้ลองสนทนาธรรมกับท่านทั้งสามนี้ดูก่อน นอกจากนี้แล้วผมเชื่อว่าพระทุกรูปที่ในหลวงเคยไปกราบไหว้ถึงที่นั้นเชื่อถือได้ แต่ส่วนใหญ่พวกท่านจะมรณภาพไปหมดแล้ว ซึ่งที่เหลืออยู่ผมเชื่อครับว่าล้วนแล้วแต่เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทดสอบดูก่อน ถ้าพวกท่านไม่ดีจริงก็ไม่ต้องไปนับถือพวกท่าน และหักดิบปฏิบัติตามพระไตรปิฎกไปเลย เพราะถ้าพวกท่านเหล่านี้ไม่น่าเคารพและมีวัตรปฏิบัตรไม่น่าเลื่อมใส ก็ไม่ควรนับถือพระสงฆ์ในยุคปัจจุบันอีกต่อไปแล้วครับ

 

หากกลุ่มนี้ไม่มีการน้อมรับฟัง ความเห็นคณะสงฆ์ แล้ว โทษจะมีมากกว่ากฎหมายบ้านเมืองอีก คือจะชวนกันลงอบายทั้งหมด


ก็คงจะใช่นะครับ........ถ้าท่านสอนผิดหลักธรรม
แล้วในมุมกลับกันล่ะครับ?




แต่ประเด็นคือ ผู้ที่ติดตามฟังคำสอนท่านส่วนใหญ่ ไม่คิดว่าท่านสอนค้านกับพระพุทธองค์
แต่ผู้ที่ติดตามประเด็นข่าว หรือผู้ที่ไม่ได้ฟังคำสอนของท่าน หรือผู้ที่เคยฟังคำสอนของท่านแบบผิวเผิน มองว่าท่านสอนผิดหลักธรรม (จะโดยประเพณี วัฒนธรรม กฏหมายฯลฯหรืออะไรก็แล้วแต่) ผมว่าเรื่องมันอยู่ที่ประเด็นนี้มากกว่าครับ

 

แล้วกรณีของวัดพระธรรมกาย ถือว่าบิดเบือนคำสอนมั๊ย ถ้าบิดเบือนมีความผิดเหมือนพระอาจารย์เกษมมั๊ยคะ

สับสนไปหมดแล้วอ่ะ