ฝึกมโนมยิทธิพบพระพุทธเจ้าเร็วกว่าสายอื่น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 9 กันยายน 2008.

  1. บัวใต้น้ำ1

    บัวใต้น้ำ1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +32
  2. คนอีสาน

    คนอีสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +283
    พุทโธสอนให้ไม่ยึดติด ไม่ใช่ปิดใจ ปิดหู ปิดตา
    พุทโธอาจจะไม่ถูกจริต เลยคิดว่าถูกปิดใจ ปิดหู ปิดตา
    ธรรมะไม่มีถูกมีผิด ลองคิดอีกนิด แล้วจะพบว่าพระองค์สอนธรรมะเปิดใจเหมือนกัน
     
  3. ซ้อจิตต์

    ซ้อจิตต์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +63
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    ได้รับข้อมูลดีๆ เพิ่มเติมได้มากที่เดียว
     
  4. บุตรสา

    บุตรสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +793
    อนุโมทนาครับ จะหาเวลาไปฝึกที่ซอยสายลมครับ
    ปกติก็ไปทำสังฆทานที่บ้านซอยสายลมทุกเดือนอยู่แล้ว
    แต่เลิกงานเย็น ก็เลยไปไม่ทันเวลาที่เขาฝึกมโน
     
  5. GLA

    GLA สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ถึงผู้โพสต์
    การที่ท่านว่า ฝึกมโนมยิทธิพบพระพุทธเจ้าเร็วกว่าสายอื่น
    อยากให้ท่าน ลองพิจารณาดู
    การเห็นพระพุทธเจ้าหรือเห็นนิมิตอะไรในสมาธิก็ตามแต่เป็นสิ่งที่ไม่ควรยึดติด แต่ควรต้องดูที่ว่าในจิตท่านมีกิเลสเรื่องเศร้าหมองอยู่หรือไม่ เวลามีคนมาด่าท่าน ท่านยังโกรธไหม ท่านโลภไหม ท่านหลงไหม รักไหม แต่ท่านฝึกมโนมยิทธิ หรือกรรมฐานอะไรก็ตามแต่ แล้วเห็นนิมิตพระพุทธเจ้า หรืออะไรแต่ กิเลสในใจยังไม่สะเทือน ก็ชื่อว่ายังไม่เห็นพระพุทธเจ้า ผู้ที่เห็นพระพุทธเจ้า คือผู้ที่เห็นธรรม ธรรมก็ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่จะช่วยให้ให้หมดกิเลส
    ท่านจะฝึกสายใดก็ตามแต่ ต้องลงที่ ศีล สมาธิ ปัญญา และเพื่อลดคลายกิเลส ส่วน นิมิตของจริงของเทียม นั้นถ้านิมิตนั้นเป็นของพระอริยะเจ้าแล้วนั้นจริงแท้ แต่ของปถุชนนั้นไม่แน่ พระอริยะเจ้านั้นท่านก็ไม่ยึดในนิมิต
    สายพุทโธ ยุบหนอ ธรรมกาย นะมะพะธะ เป็นเพียงอุบายให้จิตสงบเพียงเท่านั้น เมื่อพุทธกาลยังมีอีกมาก ท่านลองไปอ่านดู
    พุทโธ ยุบหนอ หาได้ปฎิเสท ความรู้เห็นในนิมิต แต่ไม่ยึดติดเท่านั้น
    ขอถามท่านผู้โพสต์ เมื่อสมัยพุทธกาล มีคนเห็นพระพุทธเจ้มากมาย แต่ทำไมคนที่เป็นพระอริยะเจ้ามีเพียงบางส่วน คนที่เป็นพระอริเจ้านั้นต้องฝึกที่ ศิล สมาธิ ปัญญา เพื่อที่จะหมดกิเลส
     
  6. sungsungwan

    sungsungwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +276
    อนุโมทนาด้วยครับ ดีทุกสาย แล้วแต่จริตของแต่ละบุคคล แต่สำหรับผมแล้วจริตมีความผูกผันกับ สายมโนมยิธ
     
  7. duangkamol

    duangkamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +2,083
    ขอเพียงแต่ปฏิบัติ สายใดก็ดีทั้งนั้นตามแต่จริตของท่าน เพราะเราทุกคนต้องการที่จะหลุดพ้นจากวัฎฎสงสารกันไม่ใช่หรือคะ โมทนาค่ะ
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    ไม่เห็นทุกข์ ย่อมไม่เห็นสมุทัย
    ไม่เห็นสมุทัย ย่อมไม่เห็นนิโรธ
    ไม่เห็นนิโรธ ย่อมไม่เห็นมรรค
    มีเพียงสติฐานสี่ ที่เป็นสายเอก ^-^
     
  9. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ




    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  10. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ประเด็นคือ ถ้าในสมัยพุทธกาล เทียบจำนวนระหว่างคนที่เห็นพระพุทธเจ้า กับไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าแล้ว พระอริยเจ้าบังเกิดจากคนกลุ่มใดมากกว่ากัน

    คนทั้งสองกลุ่ม ยังไงก็ต้องฝึกที่ศีล สมาธิ ปัญญาเหมือนกันนั่นแหละ จึงจะบรรลุธรรม ทั้งคนกลุ่มที่ฝึกแบบเห็นพระพุทธเจ้ากับฝึกแบบไม่เห็นพระพุทธเจ้า

    แต่ด้วยที่คุณพระพุทธเจ้า มากประมาณมิได้ เพราะกอปรไปด้วยพระบริสุทธิคุณ ปัญญาธิคุณ และพระเมตตาธิคุณ ดังนั้น คนที่ฝึกแบบเห็นพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ติดหลงว่าตนดีกว่าคนอื่น ก็จะบรรลุธรรมได้ง่าย เพราะอาศัยที่จิตพลอยได้พลังพุทธคุณมาคอยเกื้อหนุนให้ ศีล สมาธิ ปัญญา มีกำลังใหญ่ได้ง่าย
     
  11. pipat

    pipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +128
    อยากฝึกมากครับแล้วก็อยากไปวัดท่าซุงมากไม่รู้จะเริ่มยังไง ช่วยชี้แน่ทีนะครับ alivepipat@hotmail.com อนุโมทนาครับ
     
  12. RuneChaos

    RuneChaos สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +12
    กรรมฐาน 40 อย่างพระองค์ทรงคัดสรรค์มาเพื่อให้เหมาะกับคนแต่ละจริต(ที่จริงมีมากกว่านี้) ผิดด้วยหรือที่คนอื่นไม่มีจริตความชอบเหมือนตน
    จะสนไปใยว่าอะไรเร็วอะไรช้า ท้ายที่สุดจุดประสงค์คือฝั่งฝั่งนั้น ถ้าหากจะเอาเวลามาวัด งั้นขอถามสั้นๆ
    อะไรคือ "เวลา" และเวลามีจริงหรือ แม้ผมจะเข้าใจความหมายในด้านอักษรแต่ยังไม่ถึงขั้นซึ่มลึกจนถึงแก่นความหมาย การจะเสนอแนะแนวทางนั้นเป็นสิ่งดีครับ แต่อยากให้คิดด้วย ว่าเป็นการแบ่งแยกเชิงทวิลักษณ์หรือไม่
     
  13. ปิยธรรมโม

    ปิยธรรมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +349
    การปฏิบัติพระกรรมฐานไม่ว่าจะเป็นสายใด ก็ดีทุกสาย ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกจริต
    กับเราหรือไม่ เพราะทุกสายมีจุดมุ่งหวังเดียวกันเพื่อความพ้นทุกข์

    แล้วแต่ว่าใครจะพ้นทุกข์ได้ช้าได้เร็วกว่ากัน ถ้าสมมุติว่าพระนิพพานคือกรุงเทพ
    ทุกคนมุ่งหวังที่จะไปกรุงเทพ ใครจะเดินไป จะขึ้นรถไป หรือขึ้นเครื่องบินไป
    ก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่สั่งสมมา พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีกำลังใจ
    เป็นปรมัถบารมี ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าพระนิพพานได้ ถ้าปฏิบัติได้ถูกต้อง
    ตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    อุปมาได้เห็นภาพดีแท้.ขออนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้ครับ
    สาธุ[​IMG]
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 140-4.gif
      140-4.gif
      ขนาดไฟล์:
      15.6 KB
      เปิดดู:
      78
    • 2666_2.jpg
      2666_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.4 KB
      เปิดดู:
      70
  14. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,653
    ค่าพลัง:
    +1,211
    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นนะครับ....สนทนาธรรมกันตามกาล....ด้วยอุเบกขา...ไม่เอาพรรคมาไม่เอาอัตตนอัตตามา....เหล่าสหายธรรมมาแสดงความคิดเห็นมากมาย....ผมขอแสดงบ้างนะครับ....อุเบกขาใครเอียงบ้างครับ....ปรับใหม่นะครับเอากลางจริงๆตรงจริงๆไม่เอียง.....เห็นการไต่เชือกไหมครับน้ำหนักไม่อยู่ข้างใดข้างหนึ่งไม่ตก....เอากายไปเอาสมาธิจดจ่อดัดเอียงตัว....เอาไม้ไปถ่วงน้ำหนักด้วย...หากธรรมะที่เราหากันอยู่นี่เป็นเชือกเราไปไต่ก็คงดีนะครับ....เพราะมันง่ายฝึกไม่ยาก....ธรรมะที่เราหาสำหรับผมนะครับ...จะว่าเหลี่ยมก็เหลี่ยม...จะว่าคมก็คม...จะว่ากลมก็กลม...จะว่าลื่นก็ลื่น..เข้าทางไหนก็ได้ทุกทิศทุกทาง....ดังนั้นความง่ายและความยากนี่แล้วแต่นะครับใครอยู่ใกล้อยู่ไกล...หรือใครกำหนดว่าเป็นอะไร....ขนาดคิดว่ามีสัณฐานกลมอย่างเดียวก็หนาวแล้วใครขึ้นไปเดินบนฟุตบอลได้บ้างครับ...ใครมีบุญ...บารมี...ปัญญา...ศิล...พรมวิหารฯลฯมากเท่าไร...เร็วเท่านั้นใช่ไหมครับ...บางคนใกล้เกลือกินด่างแค่เอื้อมมือก็ได้แต่มืดบอดครับ...กรรมมันบังเกิดหลายกัปหลายกัลย์เฝ้าอยู่ที่เดิมก็เอาไม่ได้....และที่แน่ๆคือธรรมะอยู่กับตัวเรานี่เองในตัวเราเองนี่สิครับเจ็บปวดที่สุด....ตีไข่ไม่แตก....กายกับจิตสองอย่างเท่านั้นเอง....ใช่ครับ....วันหนึ่งเราต้องเจอสิท่าของอยู่กับตัวใช่ไหมครับ...และอุเบกขาต้องนิ่งนะครับอย่าเอียงเดี๋ยวไปเกี่ยวไปชนกันเข้า....สีเดียวกันพรรคเดียวกันครับ....เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2008
  15. KING GOD

    KING GOD Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +69
    สาธุ ส่วนบทความนี้มาจากของคุณคนดีที่โลกลืมไม่ใช่หรือครับ
     
  16. GLA

    GLA สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ด้วยความเคารพ ในความคิดเห็นทุกท่าน

    ด้วยความเคารพ ในความคิดเห็นทุกท่าน
    เมื่อสมัยพุทธกาล มีคนเห็นพระพุทธเจ้ามากมาย แต่ทำไมคนที่เป็นพระอริยะเจ้ามีเพียงบางส่วน คนที่เป็นพระอริเจ้านั้นต้องฝึกที่ ศิล สมาธิ ปัญญา เพื่อที่จะหมดกิเลส
    ขอขยายความนิดหนึ่ง เห็นพระพุทธเจ้ามากมายคือในที่นี้คือ คนที่เห็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ทำตามคำสอน คือ ศิล สมาธิ ปัญญาของพระพุทธเจ้า เห็นเพียงรูป จะเป็นรูป อะไรก็ตามแต่ เช่น พระเทวทัตเห็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ทำตามคำสอน เป็นต้น
    ส่วนการฝึกมโนมยิทธิพบพระพุทธเจ้า เป็นการปฎิบัติ พุทธนุสติ จัดเป็น ศิล สมาธิ ปัญญา จึงพ้นทุกได้แน่นอน
    อุปทานขันธ์ห้าเป็นตัวทุกข์ พระอรหันต์ท่านข้ามฝั่งสงสารท่านหาได้แบกเอาสะพาน คือยึดติดวิธีปฎิบัติ ไปด้วย เพราะยึดมั่นสิ่งใด สิ่งนั้นแหละเป็น กิเลส
     
  17. สุภาพบุรุษไพร

    สุภาพบุรุษไพร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +20
    ไม่น่าโพสต์มาเลยกระทู้นี้ แตกต่างทางความคิด ถ้าไม่ใช้วิจารณญาณในการรับรู้ คนไม่รู้ก็คิดว่าเป็นจริง
     
  18. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ตอบตามหัวขัอกระทู้ ว่า..........ไม่ใช่


    ช้าเร็ว ไม่ได้ขึ้นกับสาย กลุ่ม คณะ ฯลฯ


    เพราะบางคน เค้าไม่ได้ฝึกเลย ( ในชาตินี้ ) ก็เห็นธรรม คือ เห็นพระพุทธองค์
     
  19. ลูกแม่ฟัก

    ลูกแม่ฟัก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +78
    ดีทุกสายค่ะ เพราะมีจุดประสงค์เดียวกัน เพียงแค่มีความตั้งใจจริง เชื่อมั่นและศรัทธาจะสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น
     
  20. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    การเห็นนิมิตรในการปฏิบัติ อาจทำให้หลงและติดนิมิตรทำให้เนิ่นช้าในการก้าวสู่การปฏิบัติขั้นสูงขึ้น ครูบาอาจารย์ท่านจึงแนะนำไม่ให้ยึดติดและสนใจในนิมิตรต่างๆที่เกิดขึ้น หาใช่ปฏิเสธการเห็นในการปฏิบัติธรรมไม่ การปฏิบัติขั้นต้นอาจแตกต่างกัน แต่สุดท้ายก็ต้องมาปฏิบัติเหมือนกันสู่จุดหมายเดียวกัน ท่านผู้อ่านผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านควรใช้วิจารณญานในการพิจารณา ในแนวทางสอนของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน(สาย) ซึ่งสุดท้ายคือสายพระพุทธเจ้าเหมือนกันทุกท่าน ขออนุโมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...