สอบถามเรื่องสมาธิหน่อยค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ktc210722, 15 กันยายน 2008.

  1. ktc210722

    ktc210722 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +94
    พอดีว่าเป็นคนสวดมนต์มานานแล้วค่ะ แต่ไม่ค่อยได้ฝึกสมาธิเคยนั่งประมาณ 1 ชั่วโมง จะเห็นแสงสีดำมาเป็นแสงสีนวล แต่ไม่ได้เป็นดวง ๆ และเมื่อวานนี้นั่งประมาณ ครึ่งชั่วโมง เห็นดวงสีม่วงอมชมพู มันเกิดจากอะไรค่ะ
     
  2. constros

    constros เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +253
    อยากรู้เหมือนกันคับ โดยส่วนตัวผมให้คำแนะนำว่าอย่าสนใจที่แสงหรือสีคับ พยายามทำใจให้เป็นอุเบกขา(เป็นกลาง)ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ต่อสิ่งที่เห็น ทำใจให้ว่างเปล่าคับ ทำไปสักระยะหนึ่งให้มาพิจารณาร่างกายเรา ว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่น่าดู ไม่สวยงามคับ ถ้าสนใจสิ่งอื่นมากจิตฟุ่งซ่าน คิดมาก เดี๋ยวจะมีอุปาทานอื่นตามมาอีกคับ ลองทำดู แต่ก็แนะนำว่ายังมีอีกหลายวิธีนะคับ ลองหาวิธีที่เราทำแล้วทำให้เรามีความก้าวหน้าในสมาธิคับ
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ทำไปเรื่อยๆครับ ไม่ต้องเพ่งมองหาอะไรทำให้เหมือนเวลาหลับตาตอนนอน
    หรือมองไกลๆแล้วหลับตา กำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก แต่อย่าไปเพ่งว่าต้องเข้าหรือต้องออก
    ให้รู้ว่าหายเข้าใจยาว หายใจออกยาวให้รู้ มีสติตลอด
    ใ้ห้รู้ว่าหา่ยเข้าสั้น หายใจออกสั้นให้รู้มีสติตลอด
    ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ กำหนดรู้ ต่างกับบังคับให้รู้

    ส่วนเรื่องแสงเหมือนเคยเห็นที่ไหนนี่แหละ ไว้รอท่านผู้รู้มาตอบนะครับ
    แต่ไม่รู้อะไรเลยตอนนี้ก็ดีครับ จะได้ไม่ทึกทักตาม
    หรือเลือกตำราเอาซักเล่มดีๆหน่อย ศึกษาแล้วปฏิบัติไปก่อน
    เจริญธรรมครับ นักปฏิบัติทุกท่าน
     
  4. บดินทร์จ้า

    บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +749
    ลองดูโลโก้ช่อง 7 สีนะครับ แล้วจะเข้าใจ องค์ประกอบของสี R-G-B เมื่อเข้าถึงแสงสีขาว ก็จะเข้าใจว่าภาพที่เห็น สีที่เห็น ล้วนเกิดจากองค์ประกอบของสี ที่รับรู้จากประสาทสัมผัสทั้ง 6 และ สามารถตรวจระดับแห่งสมาธิ ในขณะนั้นๆๆได้
     
  5. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    แนะนำให้ฟังโหลดไฟล์ธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์มาฟังครับ

    แล้วอาศัยการสวดมนต์เป็นวิหารธรรม
    สวดๆอยู่ ใจแว่บไปคิดถึงเรื่องอื่นก็ให้รู้ ง่ายๆแค่นี้ครับ
    ที่เหลือระหว่างวัน ก็เจริญสติในชีวิตประจำวันต่อได้
    ทำไปเรื่อยๆ จะได้ทั้งสติ สมาธิ ปัญญา
     
  6. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    เห็นถึงความตั้งใจดีของท่านจขกท.เลยขอร่วมแสดงความเห็นด้วยคนครับ

    ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ที่สนใจในธรรมมะ

    ผมเคยสงสัยเหมือนที่ท่านสงสัยตั้งแต่อยู่ชั้นประถม ก็ เกือบสามสิบปีที่แล้ว เอ่อ ไม่ต้องถามอายุผมหรอกนะ ผมไม่บอกหรอก อิอิ

    แสงสีที่เห็นเป็นความธรรมดาของการรับรู้จากประสาททางตา

    เมื่อจิตยังมีการสอดส่ายไปมาความรับรู้จึงกระจายไม่รวมและไม่นิ่ง

    แสงสีต่าง ๆ จากสัญญานการรับภาพทางประสาทตาจึงกระจาย และเป็นแสงสีที่ไม่แน่นอน

    การทำสมาธิคือการเอาจิตจดจ่ออยู่กับอารมณ์สิ่งรับรู้อย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่ให้คลาดเคลื่อน

    หากชอบทางการเห็นโดยเอาภาพเบื้องหน้าเป็นอารมณ์ก็ย่อมได้

    ขอแนะนำให้กำหนดจุดที่มองทางตาในให้นิ่งคงที่อยู่เฉพาะที่ตรงหน้า

    ใส่ความรู้สึกเข้าไปโดยไม่ขาดสาย ให้ต่อเนื่องกันทีเดียวอย่าให้คลาดเคลื่อนแม้แต่สักวินาที

    สักครู่ความรู้สึกที่จุดที่เพ่งนั้นจะมีความชัดเจนหนักแน่นขึ้น แล้วสมาธิก็จะเกิด

    หลังจากนี้ สมาธิก็จะสามารถดำเนินกันต่อเนื่องไปตามขั้นตามตอน

    แล้วติดขัดอย่างไรก็มาโพสถ์ถามไว้นะครับ ในบอร์ดนี้มีผู้ที่มีความสามารถหลายท่านที่จะช่วยชี้แนะได้ครับ
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    อย่าไปใส่ใจครับ จะเห็นไม่เห็นอะไรก็ช่างมัน ขอให้เราจับอยู่ที่พุทโธก็พอครับ ชอให้โชคดีครับ
     
  8. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    เท่าที่เคยเจอจากการนั่งหลับตาแล้วมองไปข้างหน้าดวงกลมๆนี่มันชอบลอยขึ้นไปข้างบนแฮะ..บางทีก็แยกออกเป็นสองดวงสามดวงใหญ่บ้างเล็กบ้างบางครั้งตัวและหัวก็ส่ายไปส่ายมาวนเป็นวงกลมเป็นจังหวะๆ..เพ่งให้อยู่นิ่งไม่ค่อยได้ผมเลยเปลี่ยนวิธีพอถึงสภาวะตรงนี้ก็กำหนดมาอยู่ตรงท้องและพุทธ-โธดูการยุบ-พองของท้องแทน..ดูจังหวะที่เข้าสุดออกสุด(ดูการดับของการเปลี่ยนแปลง)อาการดังกล่าวก็หายไป ก็รู้สึกจิตดิ่งสงบดีครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2008
  9. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    แนะนำให้ไปฝึกกรรมฐานมโนมยิทธิ ต่อยอด ต่อไป
    ดูข้อมูลที่ผมเคยแนะนำไว้ที่ลิ้ง

    http://palungjit.org/showthread.php?t=149318
     
  10. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ขอขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำครับคุณเด็กอนุบาล..
    ..มีเรื่องราวที่ผมข้องใจมากมายจากการทำสมาธิ..ส่วนหนึ่งคือเมื่อมีอาการขนลุกไปทั้งตัว ตามที่ศึกษาดูจากหนังสือ..นั่นคือตัวปิติ..คราวนี้เมื่อออกจากสมาธิ..มาดำเนินชีวิตประจำวัน..ผมลองกำหนดให้เกิดปิติขึ้นมา..ตอนแรกๆก็ยากอยู่เมื่อกำหนดบ่อยเข้า..ก็สามารถกำหนดให้เกิดขึ้นได้เมื่อต้องการ..จะให้เกิดที่จุดใหนตามแขนตามขาหรือทั้งตัวก็ได้..
    สังเกตุได้ว่าจุดกำเนิดมาจากบริเวณหน้าอกและแผ่ซ่านเป็นคลื่นปนกับความรู้สึกวืบๆ..ที่มันไหลไปตามแขนขา
    ผมไม่ทราบว่าตัวปิตินี่มีประโยชน์อย่างไรใช้ทำอะไรได้บ้างแต่อย่างนึงที่ผมใช้ได้ผลคือใช้ระงับอาการโกรธหรืออาการจิตฟุ้งได้สังเกตุดูว่าอารมย์ที่จิตฟุ้งหรือโทสะนี่มันเป็นลักษะณะคลื่นวืบๆเหมือนกันแต่จะมีลักษณะอุ่นๆร้อนๆขึ้นมาถ้าเป็นโมหะนี่มันจะเป็นลักษณะใจแห้งห่อเหี่ยวหรือเซ็งจิตตัวนี้ระงับได้ยากและเกิดขึ้นนานแต่ก็มองเป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้เก็บมาปรุงอะไรแค่รับรู้เฉยๆเพราะว่าอาการเหล่านี้มันเกิดได้ซักพักมันก็ดับไปเอง....
    ผมก็เลยสงสัยว่าตัวปิตินี่มันตัวเดียวกับลมปราณหรือเปล่า...เพราะต่างก็ใช้การกำหนดจิตและมีลักษณะเป็นคลื่นวืบๆเหมือนกัน....
    ขอรบกวนท่านผู้มีประสพการณ์โปรดให้แนะนำด้วยครับ
     
  11. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เอ....หากไปเอาลมปราณมายุ่งอีกนี่จะเป็นเรื่องไปกันใหญ่อีกไหมขอรับ...เพราะการกำหนดสติๆๆๆๆๆๆที่ว่ามาทั้งหมดนี่ไม่มีปัญญามาคู่เลยนะครับ....ผมคิดยุ่งไปไหมครับตรงนี้...เหมือนจะได้ยินได้ยินว่าหากเรามีสติแล้วให้เอาปัญญามาระลึกรู้ด้วยหรือเปล่าครับ....ทางสายดูจิตนะครับช่วยผมอธิบายตรงนี้หน่อยให้กระผมเข้าใจด้วยเช่นกัน...มันขาดๆตรงไหนๆอยู่นะครับ

    แต่ท่านเจ้าของกระทู้อย่าลามไปหนังจีนนะครับ...กำลังที่เอ่ยบ่อยๆนี่หมายถึงทางด้านมโนยิทธิหรือเปล่าครับ...เพราะตรงนั้นจะเน้นว่ากำลังฌาน....หากมาทางดูจิตคือระลึกรู้นี่...ขนลุกตรงไหนก็ให้ขนลุกไปดีไหมครับ...แต่ให้รู้ว่าขนลุก...จะลุกบ่อยไม่บ่อยนี่ก็ให้รู้ว่าลุกทุกครั้ง...และบางที่อาจจะเป็นประโยชน์ในทางปฏิบัติหรือไม่นี่รู้แล้วว่าลุกแล้วทิ้งเสียจะดีไหมครับ...แต่ทางที่ดีนี่ดูลมหายใจที่มีสติคู่กับปัญญาคือการระลึกรู้นี่จะดีไหมครับ...หากสติมาอย่างเดียวก็สติมาอย่างเดียวก่อนก็ไม่เป็นไรแต่รู้ลมหายใจก็พอจะดีไหมครับเพราะหากไปรู้กำลังภายในอีกนี่..ยุ่งมากเลยครับดับที่เหตุเสียจะในจะนอกก็รู้ต่อไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็รู้เองไหมครับ...อย่าไปกำหนดจดจำแล้วเพลินครับ...หากไปกำหนดจจดจำของเก่าจะไม่เพลินคือพอเบื่อก็กลับมาที่เก่าอีกแล้วแทนที่จะไปหาทางหรือหาทางอื่นต่อจากของเดิมนี่ไม่หาแล้ว....กลับมาที่เก่าก็ไปที่เก่าอีกเหมือนกันละครับ...เดินรอยเดิมอยู่ไม่ได้อะไรใหม่ๆขึ้นมาเลยจะเสียเวลาไหมครับ...เหมือนว่าหากเราไม่ไปหาเรื่องเราก็ไม่ได้เรื่องแต่ให้หาเรื่องทางดีๆนะครับเจ็บบ้างหลงบ้างผิดบ้างถูกบ้างรู้แล้วเฉยๆ...แล้วทิ้งเสียดีไหมครับแล้วเริ่มจับลมหายใจใหม่เพราะเราไปรู้ตรงนั้นนานไปแล้วไหมครับ....เออผมเข้ามาแก้เสริมอีกหน่อยไปได้มาคือคำว่าเรารู้เท่าทัน.....คือรู้เท่าทันว่าอยู่ตรงนี้นานไปแล้วรู้พอแล้วก็กลับไปดูลมหายใจใหม่ดีกว่า....เพราะสิ่งที่เราอยากรู้คือลมหายใจใช่หรือเปล่าครับเพราะบางทีเราเกิดปิติแล้วหลงอีกว่าเออปิติแล้วปิติแล้วสามแล้วสี่แล้ว...เอไม่แน่ใจ....พอรู้ตัวอ้าวหายไปแล้วกลับมาพุทโธที่ลมหายใจหยาบๆเหมือนเริ่มทำใหม่เลย.....และกว่าจะไปปิติอีกนี่บางทีทำไมไม่ปิติสักที....ก็อยากไปปิติเขาไม่ไปปิติแล้วครับ.....ไปใช้ไปบังคับเขาเขาไม่ไปดื้อครับ....หากค่อยๆ...ล่อไป...ล่อไป...ล่อไปอ้าวมานี่-ๆ--ๆ---ๆ----ๆ------ๆ------ๆ.....อ้อมาแล้วเหรอ...ค่อยๆนะครับกระซิบกระซาบเอาใจเย็นเย็นค่อยๆมา-ค่อยๆมา----อ้าวมาแล้วเหรอ--ค่อยๆมา------ๆ-------ๆ--------ๆ----เหมือนจะไปล่อไปลนเอาของมีค่าเหมือนเหล็กไหลออกจากรูอย่างนั้น...พอสติขาดอ้าวไปอีกแล้ว....ที่นี้รู้วิธีละครับ....อย่าหายใจใส่มันแรง...อ้าวมานี่-มานี่--มานี่---ๆ-----ๆ-ค่อยๆมา-มาแล้วเหรอ...อ้าวมาอีกปิติเหรอช่างมัน....มาอีก-มาอีก-ๆ---ๆ-----ๆ-------ๆ...อ้าวหาย

    ทีละขั้นนะครับทีนี้รู้วิธีบังคับล่อมาแล้วเพลินครับ...สว่างคาตาเลยต้องรีบเร่งไปทำงานแล้วนึกชอบละครับ....มีเวลาก็มานี่...ๆ..อีก....ล่อให้เข้าทางได้นี่ยิ้มเฉยๆแล้วครับ....เอ้อผมจะขาดใจตายตรงมานี่.มานี่.มานี่..ๆๆๆๆๆๆๆ..นี่แหละสนุกมากครับ...หากดับวูบลงไปรีบมาที่เวฟอีกนะครับ....เจริญในธรรมนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008
  12. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ขอบพระคุณครับคุณมะหน่อ...อาการขนลุกแผ่ซ่านนี่ผมไม่ได้หมายถึงขณะทำสมาธิครับ..
    ผมหมายถึงช่วงดำเนินชีวิตประจำวัน..คือเมื่อนึกกำหนดมา..มันก็มา..ผมทำเล่นๆน่ะครับ..
    เพราะมันแปลกดี..แค่เล่นสนุกๆ....แล้วก็สังเกตุอาการดูก็เลยบังเกิดความสงสัยว่าใช่ตัวเดียวกับปิติที่เกิดตอนทำสมาธิรึเปล่าหรือว่ามันคือสิ่งที่เรียกว่าลมปราณกันแน่....แต่ปิติขณะทำสมาธิจะรู้สึกชัดเจนและรุนแรงมากกว่า...ใช่แล้วครับ..อย่างที่คุณว่า..เมื่อก่อนพอปิติมา..ก็...มาแล้วๆๆๆตื่นเต้นใหญ่เลย....พอมาแล้วๆๆๆนี่ก็หายไปเลย..เพราะลมหายใจหยาบขึ้น..อิอิ..ก็เริ่มกันใหม่...พักหลังเลยไม่สนใจมันเลย....เลี่ยงมาหยุดการคิดแทนแล้ววางมโนภาพดูร่างกายเฉยๆวางจิตตรงท้องดูยุบพองสังเกตุได้ว่าตอนจังหวะดับจะวูบๆที่หน้าผากด้วย...ก็รู้สึกว่าลมหายใจมันเบาบางมากจิตมันดิ่งลึกลงจนบางครั้งไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่เสียงวี้ๆๆๆๆๆในหูที่เคยได้ยินเป็นประจำก็ไม่ได้ยิน..มันสงบ..เบา..แต่ก็แค่ไม่กี่นาที...ก็ตื่นเต้นมาแล้วๆๆๆๆอีก.....แก้ไม่หายซักที...อ้อผมสงสัยอีกอย่างนึง...เสียงวี้ๆๆๆๆอี๊ๆๆๆๆๆในหูนี่ผมได้ยินแทบตลอดเวลาไม่ว่าเวลาใหนยิ่งตอนนอนหรือทำสมาธิยิ่งแจ่มชัด..จะยกเว้นก็ตอนทำงานที่ใช้พลังความคิดมากหรือตอนออกแรงหรือ ออกกำลัง หรือตอนที่คิดอะไรเพลินๆหรือจิตส่ายออกนอก....แต่เมื่อไรที่มีสติเป็นต้องได้ยินทุกที..มันจะเกี่ยวกันรึเปล่าครับ..
    หรือว่าแรงดันอากาศภายนอกหูกับภายในหูไม่เท่ากัน...
    ...ในส่วนของอาการสับปหงก..ก็มีเป็นบางครั้งแต่ก็จับได้ว่าเกิดตอนจังหวะลมหายใจเข้าหรือออก..เมื่อก่อนแยกไม่ออกเลยว่าเกิดตอนจังหวะไหนสับปะหงกไปเต็มๆจึงรู้ตัว....ช่วงหลังๆไม่ค่อยเป็นเท่าไร...ขออภัยนะครับที่ถามมากไปหน่อย.
     
  13. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ท่านไปอ่านเรื่องโกนหัวทุกในดง...ชาตินี้หากท่านไม่ไปสวรรค์อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีกนะขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...