ผลแห่งทาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย anthony, 25 พฤศจิกายน 2004.

  1. anthony

    anthony Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +51
    ผลแห่งทานจะเป็นอย่างไร

    ต่างกันที่เจตนา

    ผลแห่งทานจะเป็นอย่างไร
    เมื่อบุคคลให้ทานแล้ว
    มีเจตนาการให้ที่แตกต่างกัน?


    พุทธพจน์:
    ผลแห่งทานจะเป็นอย่างไร?
    เมื่อบุคคลให้ทานเพื่อหวังผล
     
  2. khunsri1972

    khunsri1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +924
    To my gide.....

    Please tell me. When we Haitarn you told it's should be not to thing any. Cause if you don't thing any you will be friend of Taewadar. But the top of Buddish is Nipparn. Then we should thing to it or not. Cause if I don't thing any. I will be only friend of Taewadar but not Nipparn. We should to thing or not.
     
  3. MissyKelly

    MissyKelly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ค่ะ สมควรคิดหวังให้ผลบุ_ส่งให้ไปพระนิพพานในชาตินี้ค่ะ
    นี่คือที่หลวงพ่อสอนนะคะ
     
  4. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    ขอบคุณครับ ที่นำมาลง

    ทำให้ผมรู้ชัดเจน ว่า ปกติ อารมณ์ผมในการให้ทานมีผลถูกจัดในสวรรค์ชั้นไหน
     
  5. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
     
  6. anthony

    anthony Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +51
    ตอบคุณขุนศรี 1972 ครับ

    ก่อนอื่น ขอให้คุณขุนศรี ลองไปทำสมาธิ ให้อยู่ในระดับอุปจารสมาธิ แล้วกำหนดจิตถามตนเองว่า คุณปรารถนาอะไร สวรรค์ภูมิ พรหมภูมิ พุทธภูมิ หรือสาวกภูมิ สำหรับท่านที่ปรารถนาภูมิทั้งสามอย่างหลัง ที่ได้กล่าวมานั้น การให้ทานของท่านเหล่านั้น เป็นไปเพื่อเป็นการขัดเกลาจิตของตน

    บางท่านให้ทาน เพื่อเป็นการสะสมทรัพย์ ที่จะติดตัวไปในภพหน้า หรือในสัมปรายภพ ท่านเหล่านี้ มิได้บำเพ็_ทาน หรือบารมีอื่นๆ เพื่อความสำเร็จเป็นพระอรหันต์ หรือเพื่อความปรารถนาในพุทธภูมิแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ก็ยังนับได้ว่าเป็นการให้ทานด้วยความเมตตาอยู่

    สำหรับท่านที่ปรารถนาพรหมภูมินั้น ท่านเหล่านี้ มักจะเป็นผู้ที่ชอบเล่นฤทธิ์ หรือมีความชอบในอภิ__า เป็นผู้ที่ชอบทรงอารมณ์อยู่ในองค์ฌาณ เป็นผู้ติดอยู่ในผลแห่งองค์ฌาณนั้นเอง ท่านทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อจะให้ทาน ท่านจะให้เพื่อเป็นการบำเพ็_บารมี ตามพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา มุฑิตา และอุเบกขา สิ่งที่ควรรู้ก็คือว่า สำหรับท่านที่สำเร็จเป็นพระอริยะบุคคล หรือพระอริยะสงฆ์ในขั้นอนาคามีนั้น ท่านจะไปอยู่ที่มหาพรหมภูมิชั้นสุทธาวาส คือเป็นให_่กว่า พรหมในชั้นอื่นๆ และเป็นให_่กว่าเทพ ทั้งหลายแน่นอน ท่านทั้งหลายเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมาเกิดอีก ท่านสามารถบำเพ็_บารมีเพื่อข้ามวัฏสงสาร ในพรหมชั้นสุทธาวาสนี้ได้เลย

    สำหรับท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ ท่านให้ทานเพื่อเป็นการสร้างทานบารมี และเป็นการให้ทานเพื่ออนุเคราะห์สรรพสัตว์ทั้งหลาย เพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้มีเมตตาจิต เป็นผู้ไม่ผูกเวร จองกรรม และเป็นผู้ไม่เบียดเบียน การให้ทานของท่านเหล่านี้ ย่อมถือว่า ประเสริฐกว่าการให้ทาน เพื่อปรารถนา สวรรค์ภูมิ และพรหมภูมิ และท่านที่ปรารถนาพุทธภูมินั้น ท่านถึงพร้อมด้วยพรหมวิหารสี่ และคุณธรรมที่สูงกว่า ท่านที่ปรารถนาพรหมภูมิในด้านอื่นๆด้วย

    สำหรับท่านที่ปรารถนา ที่จะข้ามวัฏสงสาร และเพื่อเป็นการบำเพ็_บารมีเพื่อให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ในสาวกภูมินั้น ท่านให้ท่านเพื่อเป็นการขัดเกลาจิตของตน ซึ่งตรงนี้ผมเห็นด้วยกับทั้งคุณ MissKelly และคุณบัวใต้น้ำ เพราะว่าการตั้งความปรารถนา เพื่อความหลุดพ้น คือตั้งอารมณ์ให้ยึดพระนิพพานเป็นหลัก อย่างที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยกล่าวไว้ เป็นการดี เพื่อเป็นการตั้งเป้าหมายที่แน่นอน เพื่อเป็นการเดินไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้อย่างไม่ลังเล และไม่ถอยหลังกลับ อย่างนี้ถือได้ว่า ตั้งเจตนาไว้เพื่อเป็นเครื่องนำทาง

    และผมก็เห็นด้วยกับคุณบัวใต้น้ำว่า เจตนาการให้ทานเป็นแบบนี้ ถือเป็นไปเพื่อ มรรคผล นิพพานโดยตรงน่ะ ถ้าเกิดพลาดไปไม่ถึงนิพพาน อย่างน้อยก็ไปต่อกันบนพรหมโลก

    หวังว่าคุณขุนศรี คงจะได้รับคำตอบที่พอใจ ขอแนะนำว่า ควรให้ทานเพื่อเป็นการขัดเกลาจิตของตน เพื่อเป็นการละกิเลส ละความละโมภ และความตระหนี่ ส่วนที่ท่านจะปรารถนาภูมิใหน อันนี้อยู่ที่ตัวท่าน หวังว่าคำตอบนี้จะให้ความกระจ่างพอสมควร อันนี้เป็นการตอบตามความเข้าใจของผมน่ะครับ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ต้องขออภัย ควรจะสอบถามผู้รู้ หรือพ่อแม่ ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานอีกที เพื่อความแน่นอน เพราะผมไม่ต้องการจะเป็นผู้บิดเบือน คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การตอบคำถามนี้ ก็เพียงตอบตามระดับสติปั__า และความรู้ในพระพุทธศาสนาตามที่ได้ศึกษามา ด้วยเจตนาที่เป็นกุศลเท่านั้น




    อย่าไปใส่ใจว่า คนนั้นปรารถนาภูมิใดๆ ให้ใส่ใจว่า เราปรารถนาอะไร และให้ดูที่ตัวเราปรารถนาอะไร และเราได้บำเพ็_บารมี หรือได้พยายามปฏิบัติ เพื่อเป็นหนทางไปสู่ความสำเร็จดังที่เราปรารถนาไว้หรือยัง ที่สำคั_ ต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม
     
  7. anthony

    anthony Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +51
    ขอโทษครับพิมพ์ตกไป พรหมวิหารสี่มี เมตตา กรุณา มุฑิตา และอุเบกขาครับ
     
  8. khunsri1972

    khunsri1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +924
    ขอบคุณค่ะ คุณ Antony...

    ได้ความรู้ขึ้นมาอย่างละเอียดมากกกกกกกกก เลยค่ะ ทำกระทู้ดีๆอย่างนี้อีกนะค่ะ ดิฉันติดตามงานของคุณค่ะ
    เรื่องทำสมาธินะ เคยค่ะแต่ช่วงหลังนี้ห่างไปนาน เนื่องด้วยภาระพึ่งจะเบาลงมานิดหน่อย ก็เลยหางาน ( การทำสมาธิ )มาทำ มีข้อเสนอแนะอะไร แนะนำมาได้เลยค่ะ คนมีความรู้น้อยอย่างดิฉัน มีผู้เมตตาให้แสงสว่างนำทางปั__า น่าปลื้มมากเลยค่ะ
    ขอบคุณจากใจจริงค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...