พระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์หรือเปล่า ?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 26 สิงหาคม 2008.

  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    ถาม : อย่างพระเยซูนี่ถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์หรือเปล่าครับ ?

    ตอบ : เป็น พระเยซูนี่พระโพธิสัตว์แท้เลย เพียงแต่ว่าในระหว่างที่บำเพ็ญบารมีไป สิ่งที่ท่านบัญญัติขึ้นมาเพื่อความดีของคนนี่ พอระยะหลังๆ ก็เพี้ยน เพี้ยนตรงที่ว่าจุดที่ล้างบาปได้ จริงๆ แล้วท่านสอนให้สารภาพบาปแบบเดียวกับพระปลงอาบัติ ถึงเวลาพระทำผิดก็จะไปปลงอาบัติว่าข้าพเจ้าทำผิดอย่างนั้น ทำผิดอย่างนี้ ต่อไปนี้จะไม่คิดอย่างนี้อีก จะไม่พูดอย่างนี้อีก จะไม่ทำอย่างนี้อีก ท่านสอนให้สารภาพบาปแบบนั้น

    คราวนี้การสารภาพบาปแบบนั้นคนมันอายกัน มาระยะหลังบรรดาพวกผู้นำของเขา ก็เลยใช้ปรับเปลี่ยนไปว่าล้างบาปได้ ในเมื่อล้างบาปได้ใครทำอะไรมาก็ตาม มาทำพิธีรับศีลจุ่มทีหนึ่ง ก็เป็นอันว่าจบกันไปเลย ก็สบายน่ะสิ ศาสนาไหนคล้อยตามกิเลสคน ศาสนานั้นคนก็ถือเยอะหน่อย อย่างของศาสนาอิสลาม เขาว่าการฆ่าคือการปลดปล่อยเขาไปสวรรค์ โดยเฉพาะสัตว์ต้องฆ่าเองถึงจะกินได้ ถ้าให้คนอื่นฆ่าให้ ศาสนาอื่นฆ่าให้กินไม่ได้ เอะอะก็จะปลดปล่อยเขาไปสวรรค์ พอเขาจะปลดปล่อยมันไปสวรรค์มั่งดันหนีซะนี่ ก็เป็นซะอย่างนี้ ไม่ได้ดูความเป็นจริง

    สมัยก่อนที่ได้มโนมยิทธิใหม่ๆ ชอบมากเลยตะลุยนรก ตะลุยสวรรค์ โดยเฉพาะโลกันต์นี่ชอบที่สุด เพราะไม่เคยไป ขุมอื่นๆ ไปมาซะชินแล้ว ...ลงบ่อย จำได้ ไม่สงสัย สงสัยว่าโลกันต์มันเป็นยังไง ลงโทษด้วยความเย็นเลยไปดูบ่อย แล้วก็ขึ้นสวรรค์ไปดูว่าศาสนาโน้นมีใครบ้าง ศาสนานี้มีใครบ้าง ปรากฎว่าอิสลามนี่หายากหาเย็นจริงๆ อิสลามที่ได้ขึ้นสวรรค์ เหมือนกับเราเทข้าวสารมากระสอบหนึ่ง แล้วหาข้าวเปลือกให้เจอ ส่วนใหญ่ที่ไปนี่ไม่ได้ไปเพราะหลักการปฏิบัติตามศาสนาของเขานะ กลายเป็นว่าพวกที่ไป คือพวกที่ตายก่อนหมดอายุขัย แล้วมีโอกาสไปโมทนาบุญที่ศาสนาอื่นเขาทำความดีกัน หายากหาเย็นดีแท้



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมีนาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ









    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมีนาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2010
  2. มาร-

    มาร- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +487
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ดีแล้ว ชอบแล้ว

    __________________

    บุญกุศลเหล่าใดที่ข้าพเจ้าได้ทำ จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี ร้อยชาติก็ดี หมื่นชาติก็ดี อสงไขย์ชาติก็ อนันตชาติก็ดี

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักวาลโดยมี ภันเต ภควา สมเด็จองค์พระประถม สิขี ทศพล ญาณที่ 1 เป็นองค์พระประธาน


    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณพระธรรม คำสั่งสอน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณพระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ทั่วอนันตจักวาล

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณพระสงฆ์ พระสาวกแห่งองค์ ภันเต ภควา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

    ข้าพระพุทธขอน้อมอำนาจ คุณพระบิดา พระมารดา ของข้าพเจ้าทุกๆชาติ ทุกๆภพ ทุกๆภูมิ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งคุณพระอาจารย์ ทุกๆรูป ทุกๆนาม ที่ ได้ประสิทธิ ประสาท วิชา

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณของ พระพรหม และเทพ เทวา ทุกๆ พระองค์ จงร่วมกันบันดาล และ อนุโมทนา

    ขอให้กุศลผลบุญ เหล่าใด ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำมา ได้บำเพ็ญมาโดยชอบ จำได้ก็ดี จำมิได้ก็ดี ข้าพเจ้าขออุทิศกองกุศลเหล่านั้นให้ถึงทั่วพร้อมแด่ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกรูป ทุกนาม ทุกภพ ทุกภูมิ ขอให้ได้ อนุโมทนา ขอให้มีส่วนร่วมในกุศลของข้าพเจ้า เพื่อยังผลให้ที่สุดในกองทุกข์แห่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกรูป ทุกนาม จงหมดสิ้นไปด้วยเทอญ....
     
  3. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    พระเยซูตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต
    คำสอน พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน


    "..ประมาณเกือบ ๒๐ ปีมาแล้วสมัยที่อาตมาไปวัดคริสต์ที่บางนกแขวก มีบาทหลวงบางคนเขาไปที่กรุงเทพฯ และก็ชอบๆ กัน เพราะสมัยนั้นอาตมาเรียนทั้งพุทธทั้งคริสต์ ที่เรียนคริสต์ไม่ใช่ไปเรียนที่โรงเรียนแต่คุยกัน ตอนนั้นพวกกุฎีจีนเขามาคุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน ความจริงนักศาสนาจริงๆ เขาไม่ทะเลาะกัน เมื่อไปเยี่ยมเขาคุยไปคุยมา เขาถามว่า "ท่านทราบไหมว่า พระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่ไหน" อาตมาตอบว่า "รู้" เขาถามว่า "เคยคุยไหม" ก็บอกว่า "ฉันไปหาท่านทุกวัน ท่านอยู่ที่นิพพาน" จึงถามเขาว่า "แล้วพระเจ้าของท่านอยู่ที่ไหน" เขาตอบว่า "ไม่รู้" ถามว่า "เคยเห็นไหม" เขาตอบว่า "ไม่เคยเห็น" เขาเลยถามว่า "ท่านเคยเห็นพระเยซูของผมไหมครับ" ตอบว่า "ไม่เคยสนใจ" แล้วก็คุยเรื่องอื่นต่อไป
    ต่อมากลับมาที่พัก ธรรมดาของพระก่อนจะนอนต้องทำจิตใจให้สะอาดสบาย ไม่อย่างนั้นนอนไม่สบาย พอเริ่มทำสมาธิจับอารมณ์ จิตมันหลุดโผล่ปั๊บถึงดาวดึงส์ ไปโผล่ช่วงระหว่างพระจุฬามุณีกับบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปเดินป๋อที่นั่น พอเดินไปก็มีบาทหลวงคนหนึ่งเดินสวนทางเดินตรงมาข้างหน้า ก็เลยถามว่า "พระเยซูใช่ไหม" ตามธรรมดาอารมณ์เป็นทิพย์มันจะบอกเลยว่าใครเป็นใคร ถ้ายังสงสัยก็ยังใช้ไม่ได้ ความเป็นทิพย์จะบอกชัดจะไปสงสัยไม่ได้เลย ท่านก็ตอบว่า "ใช่ครับ"
    อาตมาถามว่า "ทำไมถึงแต่งตัวรุ่มร่ามอย่างนี้ บนสวรรค์เขาแต่งตัวแบบนี้เหรอ" ท่านบอกว่า "ถ้าผมไม่แต่งตัวแบบนี้ เกรงว่าท่านจะจำไม่ได้ จะสงสัย" บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นสภาพความเป็นจริงของท่านเป็นอย่างไร" ท่านก็ทำให้ดู ภาพนั้นหายไปกลายเป็นภาพเทวดาสวยงามมาก เครื่องประดับขาวเป็นประกายแวววับ ชฎาก็แหลมเปี๊ยบ เรียกว่างามจับตาเลย ถามว่า "อยู่ที่ไหน" ตอบว่า "อยู่ชั้นดุสิต"
    พอบอกอยู่ชั้นดุสิตอาตมาก็ตกใจ ต้องเป็นพระโพธิสัตว์แน่ๆ คุยไปคุยมา อาตมาก็บอกท่านว่า "คำสอนของท่านมันผิดอยู่ข้อหนึ่งนะ" ท่านถามว่า "ผิดอย่างไรครับ" บอกว่า "ล้างบาปนั่นนะ คนที่ทำความชั่วแล้วมันทำลายได้เรอะ อย่างกับเนื้อของเราถูกตัดเฉือนไปเป็นแผล เราจะเอาเงินไปแลกซื้อเนื้อใครเขามาได้ที่ไหน จ่ายเงินให้เขาแล้วแผลมันหายหรือ" ท่านตอบว่า "ความจริงผมไม่ได้สอนอย่างนั้นนะครับ ที่ผมสอนนั้น ผมสอนให้สารภาพบาปแบบพระแสดงอาบัติ อาการสารภาพบาปคือ ไปทำความชั่วมาจากไหน เราจะได้ไม่ทำต่อไป" คำสอนของท่านเป็นแบบนี้ มา ตอนหลังมาดัดแปลง พอล้างบาป สารภาพบาปแล้วบาปหาย ก็เลยบาปทั้งสองคน คนก่อนก็ไม่หมดบาป คนหลังบาปเพราะโกหก

    ผู้ที่มีสิทธิไปเกิดอยู่ชั้นดุสิต

    พอกลับลงมาก็มานั่งคิดว่า พระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ชั้นดุสิต ต้องมีบารมีเข้มแข็งมาก ถ้าไม่เข้มแข็งเข้าชั้นนี้ไม่ได้ เพราะชั้นดุสิตนี้เข้าได้ ๓ พวกคือ

    ๑) พุทธบิดาพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า
    ๒) พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเข้มแข็งแล้ว
    ๓) พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงจะอยู่ชั้นนี้ได้

    สวรรค์ทุกชั้นไม่ใช่ใครจะอยู่ได้ทุกชั้นนะ ต้องเป็นไปตามขั้น ก็เลยมานั่งนึกว่า ทำไมพระเยซูมาอยู่ชั้นดุสิตได้ มาดูอารมณ์ตอนหนึ่งของท่านคือ ถูกตอกตะปูกับไม้กางเขน ถ้าจิตไม่ดีพอ ท่านจะเป็นเทวดาไม่ได้ ตามพระบาลีบอกว่า "ถ้าจิตเศร้าหมองก่อนจะตาย ตายไปก็ต้องลงอบายภูมิ" นั่นเขาเจ็บขนาดนั้นเขายังไม่โกรธ ลองคิดดูให้ดีไม่ใช่เรื่องเล็กนะเรื่องใหญ่มาก ทำความดีไว้มากตลอดชีวิต แต่เวลาตายจิตเศร้าหมองหน่อยเดียวก็ต้องลงนรกหน่อยอย่าง พระนางมัลลิกาเทวี เป็นคนดีตลอดชาติ เวลาตายจิตคิดถึงที่เคยไปสะดุดเท้าของสามีนิดเดียว ความจริงโทษท่านไม่มี ถ้าจิตท่านไม่เศร้าหมองก็ไม่ลงนรก แต่ท่านแต่งตัวเป็นนางฟ้า เท้าแหย่ในนรก ๗ วัน.."


    ที่มา http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?p=47377<!-- / message --><!-- sig -->
     
  4. เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา

    เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    แต่ผมสงสัยว่าถ้าพระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์ ทำไมในไบเบิลถึงมีคำกล่าวว่าเราเป็นพระเจ้าเราเป็นพระบุตรของพระเจ้าซึ่งฟังดูแล้วมันตรงข้ามกับพุทธมากเลย แถมไม่อยู่ในสัมมาทิฏฐิด้วย และที่สำคัญยังมาสร้างศาสนาซ้อนในสมัยของพระพุทธเจ้าโคดมนี้อีก ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์จริงจะประกาศ ศาสนาได้ก็ต่อเมื่อต้องบรรลุพระโพธิญาณสำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนมิใช่หรือ
     
  5. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    จะเป็นรึเปล่านั้นข้าพเจ้าไม่แน่ใจ แต่รู้สึกว่าสิ่งที่ท่านกระทำเอาไว้ช่างยิ่งใหญ่และเด็ดเดี่ยวเหลือเกิน
     
  6. ศักดิ์

    ศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,187
    ค่าพลัง:
    +2,022
    อนุโมทนาสาธุ.....
    [​IMG]
     
  7. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +973
    กาลเวลาใด ชนหมู่ใดควรได้รับการโปรดด้วยกายใด

    องค์พระโพธิสัตว์ก็จะอุบัติลงมาด้วยกายนั้น
     
  8. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    พระเยฃูท่านไม่ได้ประกาศศาสนา ท่านเป็นยิวซึ่งนับถือพระเจ้าอยู่แล้วมานับพันๆปี
    ท่านรู้จักถนอมน้ำใจผู้คน ไม่ทำลายศรัทธาความเชื่อเดิม หากต่อยอด เสริมตรงตาม
    ความเป็นจริงยิ่งขึ้น ท่านจึงบอกว่าท่านเป็นบุตรพระเจ้าเช่นเดียวกับทุกคนที่ล้วนมี
    ความเป็นบุตรพระเจ้า

    คำสอนของพระเยฃูก็มีหลายระดับ ที่ลึกซึ้งด้วยความละเอียดปราณีตของใจก็มี ถ้า
    เรามองว่าท่านมีฤทธิ์อภิญญา สามารถสื่อสารกับพรหมเทพ และทรงปัญญาบารมีใน
    ขั้นปรมัตถ์ ก็เป็นเหตุเป็นผลดีแล้วที่ท่านเรียกตนเป็นพระเจ้า และบุตรของพระเจ้า ใน
    ความหมาย พระเจ้าคือกฎแห่งกรรม หรือกฎแห่งธรรมชาติ ที่สรรพสิ่งและภพภูมิต่างๆ
    เกิดขึ้นได้ด้วยมีเหตุปัจจัยจากตัณหาอุปาทานของสรรพสัตว์ ฉะนั้นเราๆนี่แหละคือทั้ง
    ผู้สร้างและผู้ทำลาย จึงล้วนมีส่วนในความเป็นพระเจ้าด้วยกันทั้งนั้น

    พระเยฃูท่านเกิดในเขตห่างไกลจากพระพุทธศาสนา ท่านย่อมไม่สามารถจะตั้งอยู่
    ในพระพุทธศาสนาได้ ท่านจึงได้แต่สอนบริวารให้เป็นคนดี ไม่เบียดเบียนกันและกัน
    ตามกำลังบารมีของท่าน
     
  9. chanthawat_k

    chanthawat_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +413
    ผู้ฉลาดในธรรม ยอมรับว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ซึ่งไม่มีอะไรที่น่าตกใจเลย เพราะเป็นเรื่องธรรมดา ..อนุโมทนาสาธุเจิญในธรรมคับ
     
  10. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    ถึง คุณ tamsak<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1456035", true); </SCRIPT> และผู้ยังหลงติดกับในอวิชชา

    หลายครั้งหลายครา มักจะมีการเปรียบเทียบข่มศาสนาให้มัวหมอง เช่น ไปเปรียบเทียบ
    พระศาสดาพระเยซูเป็นเพียงพระโพธิสัตว์ในคติพุทธ
    ท้าวสักกะเทวราช (พระอินทร์หรือพระอิศวร) เป็นเทพผู้พิทักษ์จุฬามณี เป็นต้น
    ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานที่เป็นนามธรรมอันควร

    เพียงแค่มโนมยิทธิที่คนปัจจุบันไม่ได้ให้ความสำคัญและหลีกหนีห่างไกลไปเรื่อยๆ
    อีกทั้งยังอ้างอิงพระอริยเจ้ากล่าวไว้เช่นนั้น
    อย่างคราวที่แล้ว ที่โต้เถียงกันเรื่องนี้ แล้วมีการปรามาสว่า
    พระพุทธเจ้าอยู่ในชั้น น - ก ในคติของคริตส์ ท่านจะว่าอย่างไร?
    หรือหากมีคนไปพูดว่า พระนารายณ์ก็คือพุทธวาตาร ท่านรู้สึกอย่างไร?
    ไม่มัวหมองทั้งสองฝ่ายหรือ คิดดูให้ดี อย่าได้มีจิตไปเหยีบย่ำศาสนาอื่นให้มากนัก

    ทั้งๆ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย่อมมาจากแหล่งเดียวกัน ที่เดียวกัน
    นึกถึงใจเขาใจเรา เราชาวพุทธก็ควรรู้จักคำว่า สำรวมกาย วาจา ใจ
    คิดในสิ่งที่ดี ไม่ใช่อัปมงคล ผูกกรรมกันเปล่าๆ

    ศาสนามีไว้เพื่อจรรโลจิตใจให้มนุษย์ใฝ่คุณธรรม ไม่ใช่มีไว้เพื่อย่ำยี
    ก็ขอสะกิดใจไว้เพียงเท่านี้ และขอให้ จขกท. ลบทิ้งด้วย ก็น่าจะเป็นผลดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2008
  11. uglyduckling

    uglyduckling Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +36
    ผมเคยคุยกับบางท่าน
    ท่านบอกว่าพระเยซูเป็นของจริง
    ท่านนั่งสมาธิแล้วเจอพระเยซู

    ผมคิดเอาเองนะว่าท่านน่าจะเป็นเทพเหมือนกัน
    เทพหรือพรหมนี่ เคยได้ยินว่า ท่านเองมีอายุยืนยาวมากๆๆ
    เป็นหมื่นเป็นแสนปี มีอิทธิฤิทธิ์มาก

    ผมก็เป็นคนคริสต์นะครับ แต่ก็ศึกษาศาสนาพุทธด้วย
    ผมว่าทุกศาสนาดีหมดครับ ถ้าเราปฏิบัติตามคำสอน

    แม้ไม่มีศาสนาแต่เป็นคนดี ผมว่าก็เพียงพอแก่การใช้ชีวิตบนโลกนี้แล้วครับ
    แม้แต่ใจผมเองยังคิดว่า เกิดมาบนโลกนี้ แค่ทำตัวไม่ให้เป็นภาระของโลกนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
    ไม้ต้องเป็นคนดีเลิศเลอหรอกครับ
     
  12. เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา

    เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    แต่ผมไปศึกษาไบเบิ้ลกับอาจารย์ที่ทรงคัมภีร์ทางคริสต์มาแล้วเนื้อหาไม่เป็นสัมมาทิฏฐิโดยสิ้นเชิงแม้มนุษย์จะทำดีขนาดไหนแต่ถ้าไม่เชื่อพระเจ้าก็ต้องตกนรกอยู่ดีแบบนี้มันมีเหตุผลซะที่ไหนพุทธเราสอนให้หลักเหตุผลสอนไม่ให้ทำลายชีวิตแต่คริสต์ยังมีสอนว่าในสมัยก่อนๆสมัยอดัม อับราฮัม โมเสสและอีกมากมายจำไม่ได้ไม่รู้รู้มีจริงรึเปล่ายังมีกล่าวไว้ในคัมภีร์ว่าพระเจ้าได้ประหารคนนั้นคนนี้จุดแต่แตกต่างมีมากมายนับไม่ถ้วนผมไปศึกษาไปเรียนมาแล้วครับผมถึงกล้าพูดไม่ได้พุดเอาจากความคิดของตัวเองส่วนเดียวถ้าใครยังไม่ได้ไปศึกษาแบบผมก้ขอให้ไปศึกษาดูให้ดีก่อนแล้วจะพบข้อแตกต่างกันมากอย่างคนละขั้วเลย พระโพธิสัตว์จริงไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตามต้องอยู่ในสัมมาทิฏฐิ
     
  13. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    ไปศึกษาใหม่ดีๆ
    โตเทยยพราหมณ์แม้มีชื่อในพระอนาคตวงศ์ ยังปรามาสด่าว่าพระพุทธเจ้า
     
  14. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,981
    เมื่อประมาณปี 2537 ตอนนั้นผมยังเป็นคริสต์อยู่ครับ

    พูดตรงๆ นะครับว่าท่านเคยมาให้เห็น แต่ไม่ได้มาแบบเป็นบุคคล
    ท่านมาเป็นแสง สว่างมากๆ ตอนนั้นมันดึกมากแล้ว ประมาณตีสอง
    ผมถามท่านว่าเป็นพระเยซูใช่ไหม
    ถ้าใช่จริงขอให้.........(ขอไม่บอกนะครับ) แล้วก็เป็นตามนั้นจริง
    ผมงี้ลุกขึ้น(จากเดิมนอน) แล้วเอาหน้าซุกหมอน ร้องไห้ พูดอะไรไม่ออก

    แล้วท่านก็จากไป เป็นการยืนยันการมีอยู่จริงของท่าน
    คิดว่าผมคงมีความสืบเนื่องกับท่านบ้าง จึงได้มีโอกาสเช่นนั้น
     
  15. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    อนุโมทธา ผมว่าอาจใช่นะท่านแต่จะเป็นมันก็เรื่องของท่านอะเนาะ ท่านสอนคนให้ทำดีก็ถุกแล้ว ก็ท่านไม่ได้รตรัสรู้แต่เพียงอาศัยหลักการอยู่ร่วมกันเบื้องต้น อาจกำลังท่านกำลังสร้างบารมี จึงเกิดนอกศาสนา สั่งสอนพวกนอกศาสนาพุทธให้ทำความดี (อาจเล็งเห็นว่าคนเหล่านี้ไม่ยอมรับนับถือศาสนาอื่น จากประเทศอื่นก็ได้)ส่วนฤทธิ์ที่มีอาจเป็นมโนมยิทธิหรือฤทธิ์จากบารมีก็ได้

    แต่ผมว่าขอสติเตือนสักนิดนึง ขอให้ประเด็นนี้จบลงในบอร์ดนี้ อย่าได้เอามาเป็นเหตุ เป็นประเด็นในหลักประจำใจ ในหลักศาสนา(เด๋วไปสอนคนอื่นบอกหรือชี้แนะคนอื่นๆ เพราะท่านที่ลงความเห็นก็ล้วนแล้วแต่ทรงภูมิ ผุ้ไม่พิจารณาอย่างละเอียดเมื่อฟังแล้วจะถือเอาเป็นคติผสมผสานศาสนาไป แม้จะดีที่เอาข้อดีของหลายๆศาสนามารวมกันแต่บางอย่าง ที่เราคิดว่าผิดไม่ควรทำก็อาจกลายเป็นถูกในศาสนาอื่นก็ได้พูดง่ายๆคือสับสนไหนหลักธรรมหรือการใช้คำการตีความเป็นต้น)
    อย่าได้สนใจเลยว่าพระเยซูเป็นโพธิสัตว์ อนุโมทธนากับการทำดีและสั่งสอนสิ่งดีๆ ของท่านก็พอแล้วครับ
    การที่เราเกิดในศาสนาพุทธนั้นนับว่าโชคดีแล้ว มีบุญเก่าทำมาดีแล้วที่เป็นมนุษย์ โชคดีแล้วที่พบพระพุทธศาสนา โชคดีแล้วที่ยังมีกำลังและสติปฏิบัติตามคำสั่งสอน จงตั้งใจทำตามคำสั่งสอนตามแต่สติกำลังเถิด
    เพราะเมื่อกายดับแล้ว เกิดใหม่จะได้นำสันดาน นิสัยดีๆนี้ติดไปด้วย เนี่องจากว่าเราอาจไม่ได้เกิดในศาสนาพุทธเฉกเช่นพระเยซู จะไดรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อย่างน้อยบาปทั้งปวงก็ไม่เกิดหรือเกิดน้อยเพราะเรามีหิริโอตปะ รู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ดี สันดานเราไม่ชอบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2008
  16. parnparn

    parnparn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +199
    ท่านไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์เพราะไม่ได้สร้างบารมีเพื่อหวังพุทธภูมิหรือจะเป็นพระพุทธเจ้า
    ท่านมาไถ่บาปให้กับมนุษย์และสำเร็จมรรคผลเป็นอาริยบุคคล ซึ่งจริงมีสิทธิอยู่ในสุทธาวาสพรหม ก็คงสามารถไปมาในสวรรค์ที่อยู่ด้านล่างได้
     
  17. เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา

    เทพธรรมสมาบัติ๙มรรคา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    แล้วประโยคที่ยกตัวอย่างนี้ท่านจะแก้ว่าอย่างไร"แม้มนุษย์จะทำดีมากแค่ไหนก็ตามถ้าไม่เชื่อในพระเจ้าก็ไม่รอดสุดท้ายตกนรกอยู่ดี"ทำให้ผมเกิดความคิดว่าพระโสดาบันต้องเป็นผู้เชื่อในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์และรักษาศีลอย่างไม่บกพร่องและผู้ที่บรรลุโสดาบันแล้วจะไม่ตกอบายภูมิไม่เห็นมีบอกว่าพระโสดาบันต้องเชื่อพระเจ้า เห็นรึยังว่าข้อความมันขัดแย้งกันไม่อย่างนั้นแล้วพระกรรมฐานถือธุดงควัตรอย่างเคร่งครัดท่านจะยอมลำบากตัวไปเพื่ออะไรล่ะถ้าแค่มาเชื่อพระเจ้าได้ก็หลุดพ้นได้ ข้อคามที่ยกข้างต้นนั้นผมไม่ได้คิดเองแต่ผมถูกสอนมาแบบนั้นตอนไปศึกษา แต่ถ้าข้อความที่ยกมานั้นไม่ได้มาจากพระเยซูก็แสดงว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมาจากคนคิดเองไม่ได้มาจากพระเจ้าแต่ถ้ามาจากพระเยซุสั่งสอนมาจริงๆนั้นย่อมแสดงว่าพระเยซุไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ เพราะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิคือมีความเห็นถูกต้อง จะต้องเชื่อในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เชื่อในเวรกรรมมีจริงใครทำกรรมอะไรไว้ต้องได้รับกรรมเช่นนั้นแม้พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดในจักรวาลก็ยังไม่สามารถช่วยคนอื่นให้หนีจากกรรมที่เขาทำไว้ได้ ผลกรรมนั้นรุนแรงกว่าอิทธิฤทธิ์ทั้งหมด แม้พระมหาโมคคัลลานะ ผู้เป็นเลิศในอิทธิฤทธิ์ก่อนนิพพานก็ยังหนีเศษกรรมที่ตนเคยทำไว้กับพ่อแม่ไม่ได้เลยถึงต้องถุกโจรทุบตีจนกระดูกแตกละเอียดเพราะเคยทุบตีพ่อแม่ในกาลก่อนแถมต้องอยู่ในอบายภูมินานหลายกัปล์มาชาติสุดท้ายแค่เศษกรรมยังหนีไม่พ้นเลย แต่นี้พระเยซูเป็นใครถึงมาไถ่บาปไถ่กรรมให้คนอื่นได้ ขนาดพระพุทธเจ้ายังทำไม่ได้ คิดดูให้ดีๆเถิด
     
  18. ศรนารายณ์ธนูทอง

    ศรนารายณ์ธนูทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,865
    <TABLE class=tborder id=post1497508 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->[​IMG] 13-09-2008, 11:35 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #17 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>uglyduckling<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1497508", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: 13-10-2008 11:50 AM
    วันที่สมัคร: Aug 2008
    ข้อความ: 84
    ได้ให้อนุโมทนา: 6
    ได้รับอนุโมทนา 504 ครั้ง ใน 79 โพส
    พลังการให้คะแนน: 10 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1497508 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ผมเคยคุยกับบางท่าน
    ท่านบอกว่าพระเยซูเป็นของจริง
    ท่านนั่งสมาธิแล้วเจอพระเยซู

    ผมคิดเอาเองนะว่าท่านน่าจะเป็นเทพเหมือนกัน
    เทพหรือพรหมนี่ เคยได้ยินว่า ท่านเองมีอายุยืนยาวมากๆๆ
    เป็นหมื่นเป็นแสนปี มีอิทธิฤิทธิ์มาก

    ผมก็เป็นคนคริสต์นะครับ แต่ก็ศึกษาศาสนาพุทธด้วย
    ผมว่าทุกศาสนาดีหมดครับ ถ้าเราปฏิบัติตามคำสอน

    แม้ไม่มีศาสนาแต่เป็นคนดี ผมว่าก็เพียงพอแก่การใช้ชีวิตบนโลกนี้แล้วครับ
    แม้แต่ใจผมเองยังคิดว่า เกิดมาบนโลกนี้ แค่ทำตัวไม่ให้เป็นภาระของโลกนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
    ไม้ต้องเป็นคนดีเลิศเลอหรอกครับ









    จริง เห็นด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    โดยส่วนตัวผมไม่ได้นับถือศาสนา และเห็นว่าแต่ละศาสนาก็มีส่วนดีส่วนเสียและส่วนที่ถูกบิดเบือนจนบกพร่องนั้นมีอยู่ในทุกศาสนาอยู่แล้ว และมันเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมีผู้ใดโต้แย้งในสิ่งที่ท่านเชื่อ ท่านก็ย่อมจะรู้สึกไม่พอใจ
     
  20. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้า พระพุทธเจ้า เทพ เทวัญฯ ทั้งหลายภายในอนันตเอกภพแห่งนี้ ล้วนแล้วแต่มีจิตกำเนิดจากที่เดียวกัน ทุกพระองค์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นองค์เดียวกัน
    จะไปเทียบกันทำไม ให้หมนหมอง ว่าของฉันดีกว่า เหนือกว่า วิเศษกว่า หากคิดเทียบอย่างนี้ ก็มีแต่พวกขอบกระด้งมือสอง จิตใจต่ำทรามเท่านั่นแหละ

    ส่วนใหญ่ที่เห็นๆ กันอยู่ก็เก่งแต่วิพากษ์ อวดภูมิว่าตัวเองเก่งกันทั้งนั้น
    คนเก่งเขาไม่อวดอ้างกันหรอก
    ปฏิบัติให้ได้ก่อนเถอะ
    พ่อมหาจำเริญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...