เพชรนาคราชมีจริงหรือเปล่า ?

อยากได้มั่งจัง แต่ตอนนี้ยังก่อน รอไปอีกหน่อยค่งได้มาครอง

 

ได้มาแล้วครับ แต่กำลังพิสูจน์อะไรหลาย ๆอย่างอยู่ครับ

 

ผมคิดว่ามีอยู่จริงครับ แต่ ที่คุณบอกว่า ไม่มีจริงเพราะเห็นของปลอม แล้วอีกอย่างถ้าจะไปเสาะแสวงหา ตามท้องตลาดอาจจะเป็นของปลอมก็ ได้นี่ครับ ของแบบนี้ ไม่ใช่ของซื้อ ของ ขาย บางทีหินบางก้อนคุณอาจจะไม่รู้ ว่าเป็น เพชรนาคราชจริงไหม อีกอย่างคนที่เขามี เขาคงไม่เอาออกมาจำหน่าย หรอกจริงไหม ครับ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ นานาจิตตัง

 

สิ่งที่ควรพิสูจน์คือ เมื่อได้มาแล้วนำไปแช่น้ำในขันหรือแก้ว นำไปวางที่ห้องพระ เชื้อเชิญมาร่วมสวดมนต์ สักระยะหนึ่งประมาณ หนึ่งถึงสองเดือน สังเกตความเปลี่ยนแปลงของเพชรนาคา ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า โตขึ้น/สีสันเปลี่ยนไป/น้ำหนักมากขึ้น มักจะขึ้นกับ ตัวคนที่สวดมีการรักษาศีลได้หรือไม่ ได้อุทิศบุญกุศลให้เขาหรือไม่ บทสวดมนต์ที่ต่างกันก็ให้ผลที่แตกต่างกันไป ทดสอบดูกับตนเองครับ ของผมเอง ทดสอบแล้วปรากฎว่าใหญ่ขึ้นเกือบเท่าตัว นำไปให้คนที่เมตตาให้มาดู เขาบอกว่าโตขึ้นมากจริงๆ ส่วนของเขานี่ใช้น้ำอบปรุงอาบน้ำให้ปรากฎว่ามีจำนวนมากขึ้น แต่เขาสวดยอดพระกัณฑ์เป็นประจำ ส่วนของพี่ชายผม ทดลองแล้วปรากฎว่าสีสันเปลี่ยนไป เข้มขึ้นบ้าง จางลงบ้าง ให้เห็นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง ท่านใดที่อยากได้ครอบครองขอแนะนำทุกครั้งที่ท่านทำบุญ ขอให้ท่านตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ท่านพญานาคราช ทั้งหลายได้มาร่วมโมทนาบุญกุศลและสืบทอดพุทธศาสนากับท่าน หากท่านทำไปโดยความศรัทรา เชื่อแน่ในเวลาอันใกล้ท่านต้องได้มาครอบครองครับ

 

ดิฉันมีหนึ่งเม็ดค่ะ ..แต่ไม่ทราบว่าเป็นสมบัตินครบาดาลหรือเปล่า ประมาณตีสี่คืนหนึ่งได้มีลูกไฟ ลอยอยู่รอบๆบ้านของดิฉัน .. แล้วสักพักก็ลอยมาตกอยู่ในบ้านดิฉัน พ่อดิฉันจึงหยิบมาดู .. เป็นลักษณะ เหมือนเพชรที่ได้รับการเจียรนัยมาอย่างดี เป็นสีใสๆ แต่จะมีประกายสีอยู่ข้างในหลายสีมาก หลังจากได้เม็ดนี้มาได้ฝันเห็นพญานาคบ่อยมากๆ และดิฉันก็ฝันว่า ของสิ่งนี้เป็นหนวดข้างขวา ของพญานาคราช (กษัตริ์แห่งเมืองพญานาค) เอาไปให้พระดูท่านก็บอกว่าเรียกว่าเพชรพญานาค เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ถ้าหากใครอยากทราบรายละเอียด หรืออยากเห็นรูปก็เมล์มาหาดิฉันได้ค่ะ

 

เอารูปมาลง แล้วเล่าให้เป็นรูปธรรมกว่านี้ดีไหมคะ

เว็บนี้มีเด็ก ๆ มาก ผู้ใหญ่เขาจะได้ช่วยตรวจสอบก่อน

 

ของแท้ผมไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่ของเทียม เคยโดนหลอกไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะที่อยู่ในหินคลอนนั่นแหละ เพราะน่าเชื่อถือที่สุด ให้พิจารณาลักษณะก้อนหินดีๆก่อน ถ้าเนื้อทรายแปลกๆเหมือนเอาทรายมาผสมแป้งเปียกตากให้แห้ง แล้วเอามาเผาไฟให้แกร่งมีสีดำๆปนๆหน่อยแดงหน่อย แล้วเอาไปไว้ในถ้ำที่มีน้ำไหลผ่าน สัก ระยะหนึ่งพอเห็นล่องลอยน้ำไหลบนเนื้อทรายก็ตีเก้ได้เลยครับ

จะเห็นได้ชัดเมื่อทุบแล้วบริเวณลอยแตกของหินดูก็รู้ว่ามันไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเนื้อทราย ถ้าเคยเห็นหินทรายเป็นก้อนๆหนาๆ คุณจะเห็นชั้นของการทับตัวของทรายแต่ละชั้น แต่ในหินคลอนไม่มี ถ้าทุบของเขาแล้วก็ต้องซื้อ ถ้าไม่ซื้อมีหวังหัวแตก แต่ก็เป็นบทเรียนที่ดีครับ

ตอนแรกผมเห็นบอกตามตรงว่าทึ่งครับ เข้ามาอยู่ได้ไงในหิน พอเอาไปให้ครูบาอาจารย์ท่านดู ท่านบอกว่า ดี..แต่เขาจำลองขึ้นนะ ผมเอากลับมานอนกอดหนึ่งวันพิจารณาดูทั้งหินและไอ้ที่อยู่ในหิน...ปัญญาถึงได้เกิด...แต่ดันเกิดมาสายไปหน่อย

ของอย่างนี้ ถ้าลังเลสงสัยอย่าเอามาเก็บไว้เลยครับ กำลังใจไม่ถึง ของจริงผมว่ามีแต่ก็คงไม่มากมายขนาดมาแบ่งกันได้หรอกครับ อยู่บุญญาวาสนาของแต่ละคน ถ้ามีสักวันอาจจะได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไรเลยก็ได้ครับ

 

จากภาพนี้..คิดว่าใช่เพชรพญานาคที่เราๆเรียกกันไหมคะ
มีอีกชื่อเรียกนึงว่า "มณีใต้น้ำ" ..
ที่มาจากภาพhttp://www.zirconbrand.com/th/index.php?option=com_content&task=view&id=153&Itemid=32

มองได้หลายมุมค่ะ มันเป็นปัจจะตัง ...แต่เป็นอัญมณีที่สวยดีค่ะ
ถึงจะชื่อเรียกต่างกัน แต่ก็มีการพิจสูจน์มาแล้วว่ามีพลังงานตามธรรมชาติที่ดีค่ะ (ตามภาพถ่ายออร่า)
สาธุค่ะ

 

หามาให้ไม่ได้มีอคตินะ...สัพเพสัตตา

บล็อกนี้ เขียนขึ้นเนื่องจากว่า ท่านป่าป๊าของกระผม เสียเงินไปมากมายก่ายกอง ให้กับไข่พญานาค หรือ เพชรพญานาค สุดแท้แต่จะเรียก


เมื่อวานซืน (6 ก.พ. 2551) เป็นวันตรุษจีน ฤกษ์งามยามดี ท่านป่าป๊าจึงตัดสินใจที่จะทุบก้อนหินก้อนนึง ซึ่งได้มาจากที่ไหนซักแห่ง
และคนที่มอบหินให้ท่านป่าป๊ามา ก็บอกว่า ในหินก้อนนั้น มีไข่พญานาคอยู่ข้างใน ทุบแล้วจะเจอ

แล้วท่านป่าป๊า ก็ลงมือทุบด้วยตนเอง ใช้ค้อนทุบ โป๊กๆๆๆ ที่ด้านบนของก้อนหินนั่น เชิญชมภาพประกอบคำบรรยาย


ก้อนหินก้อนนั้น ทุบแป๊บเดียว เจอรูเลย แต่ก็ยังทุบต่อไป


ทุบจนค้อนหัก ได้ออกมาอันแค่เนี้ย เทียบกับลูกใหญ่ ต่างกันกี่เท่าฟะ

สิ่งที่เจอ ลักษณะไม่เหมือนกับไข่พญานาคที่เป็นลูกกลมๆ กลมดิ๊กเลย ซึ่งท่านป่าป๊ามีอยู่ก่อนแล้ว
สิ่งที่ได้จากก้อนหินนั้น เป็นผลึกสีเหลือง น่าจะเป็นวัสดุเดียวกับไข่พญานาคที่ท่านป่าป๊ามี แต่รูปร่างเป็นเหมือนเขี้ยวของเสือตัวใหญ่
หรืออาจจะเป็นเขี้ยวของพญานาค ผลึกนี้มีขนาดประมาณนิ้วก้อยของชายฉกรรจ์ ผิวเรียบ มัน วาว อืมม ประมาณนี้

หลังจากได้ผลึกแท่งนั้นออกมาแล้ว ท่านป่าป๊า ก็ยังคงทุบต่อไป เพราะหวังว่า จะมีอีก เนื่องจากหินก้อนใหญ่มาก
ปริมาตรคร่าวๆของก้อนหินนั้น ก็ ยาว 40cm กว้าง 40cm สูง 30cm แต่มันไม่ได้เปลี่ยมหรอกนะ
ทุบๆๆๆ โป๊กๆๆๆ อยู่ประมาณ 13 นาที ค้อนก็หัก เพราะด้ามค้อนเป็นไม้ แถมเก่าอีกตะหาก ท่านป่าป๊าจึงเลิกทุบ

หลังจากได้ผลึกนั้นมาแล้ว ท่านป่าป๊า ก็มองดู แล้วพูดว่า "แค่นี้เองเหรอ" อารมณ์เหมือนจะผิดหวัง
แล้วท่านป่าป๊าก็มาพูดกับเราทีหลังว่า "อืมม มันเนียนเกินไปเนอะ เหมือนว่า มีคนทำขึ้น"

นี่คงจะเป็นจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ท่านป่าป๊าระลึกได้ซักนิดว่า ตัวเองกำลังถูกหลอกอยู่
ก่อนหน้านี้ ใครๆจะพูดอะไร ท่านป่าป๊าไม่เชื่อเลย ท่านป่าป๊าคิดว่า ของเค้าดีจริง ต้องมีบุญเท่านั้น ถึงจะได้ครอบครอง

จบเหตุการณ์เมื่อวันตรุษจีนไป เข้าสู่วันเที่ยวของเทศกาลตรุษจีน ท่านป่าป๊ามาพูดกับเราเรื่อง ไข่พญานาค อีกครั้ง
ท่านป่าป๊าถามว่า "ไช้รู้จักธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์มั้ย" เราก็ตอบว่า "รู้ครับ ทำไมเหรอครับ"
ท่านป่าป๊าพูดด่อไปว่า "ไช้ลองไปเดินดูลูกแก้วพวกนี้ซิ แล้วลองซื้อมาเปรียบเทียบดูหน่อย เอาหลายๆขนาดเลยนะ"
เหมือนจะเป็นข่าวดีนะ เพราะเหมือนกับว่า ท่านป่าป๊าเริ่มคิดได้แล้วว่า ของปลอม มันก็ทำได้

ตกดึก ของคืนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2551 เราก็เลยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับไข่พญานาค โดย search ใน Google
ใช้ keyword ว่า "ไข่พญานาค" ค้นหาได้ 633 เว็บไซต์
และใช้ keyword ว่า "เพชรพญานาค" ค้นได้ 1,560 เว็บไซต์
แล้วก็นั่งอ่านข้อมูลที่พูดถึง ไข่พญานาค ที่เป็นลูกแก้ว แล้วก็พบข้อมูล ที่ต้องขออนุญาต นำมาอ้างอิงไว้ตรงนี้
โดยไฮไล้ท์ส่วนที่สำคัญไว้แล้ว แต่ถ้าใครขี้เกียจอ่าน ข้ามเลยก็ได้ครับ ข้ามไปสองเส้นเลย เส้นนี้ แล้วก็เส้นข้างล่าง

เว็บแรก
ที่มา : http://www.dmr.go.th/faq/type/type7.asp
ตัวอย่างที่เรียก

 

อ่านแล้วน้ำตาจะร่วง จะร่วงจริงๆนะครับ สงสารกับคนที่เอาศรัทธาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งกายทิพย์ โลกทิพย์ ครูบาอาจารย์ที่มีชีวิตอยู่ เอาศรัทธาของท่านเหล่านั้นมาทำปลอมหาเงิน กรรมจะเล่นงานเอา

ความจริงของแท้ก็มี ของปลอมก็มาก อย่างที่เขาบอก

บางเวบก็เอามาจากโรงงานใกล้ๆถ้ำ 3 ลูกร้อย แต่ทำเวบไซค์หรูหรา บูชาเป็นพัน

ผมศึกษามาตั้งเกือบสิบปีแล้ว

มีทั้งหินสีที่เจียร เป็นรูปร่าง ได้สารพัดอย่าง

วันนี้ก็ได้ข่าวคนเอาของแท้ไปทำลายเพื่อพิสูจน์ จนป่วยกันทั้งบ้าน

เมื่อวานก็มีโทรศัพท์มาหาเพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพของผมอีก เขาเล่าว่ามีคนโทรมาเพื่อที่จะขายเพชรพญานาคทุกสันฐานแล้วแต่ order จะสั่งทำ มีโรงงานที่เดียวกับถ้ำที่เรารู้ๆกัน

สงสารกันบ้างเถอะครับ สำหรับคนที่ทำปลอม และคนที่ล้อเล่นกับศรัทธาจากสิ่งที่มองไม่เห็น

สงสารตัวเอง สงสารคนที่เสียเงินเสียทอง มันเป็นกรรม จะหากินลำบากต่อไปนะครับ

ส่วนคนตาดีที่รู้ว่าที่ไหนของแท้ ก็กลัวว่าจะตกกระแสของกลุ่มมิจฉาชีพไปด้วย จึงเปิดเผยอะไรไม่ได้เลย ผมสงสารคนดีๆเหล่านี้จริงๆนะครับ​

 

เห็นด้วยครับ ของจริงนั้นมีแต่ของปลอมมีเยอะกว่ามากครับ ทั้งที่มีคนให้มาและตอนที่เสียตังซื้อมาช่วงแรกๆนั้นของผมปลอมหมดเลยครับ อาจารย์ท่านให้ทุบกับมือเลย มันแตกง่ายเกินไปครับ แตกแล้วก็รู้ว่ามันไม่ใช่หินธรรมชาติ เอามาให้อาจารย์อีกท่านตรวจทางในก็บอกว่าไม่ใช่ เป็นของคนทำขึ้นมา

ต่อมาไปทำบุญต่างจังหวัดทางอีสานมีพระให้มาฟรีๆ เอาไปให้อาจารย์ตรวจเที่ยวนี้ท่านว่าดีของดี ถึงได้รู้ว่าคนปฏิบัติก็ไม่ใช่ว่าจะสัมผัสได้ทุกคน เรียกว่าได้ไม่เหมือนกันแล้วแต่สร้างมาตามวาสนาบารมี

สรุปหมดไปหลักพันก่อนจะพบของจริงฟรีๆ สงสารคนที่ต้องจ่ายหลักหลายๆหมื่นถึงหลักแสนแต่ได้ของปลอมกับไปบ้าน ทำไงได้คนไม่กลัวบาปยังมีอยู่มาก ก็พิจารณากันหน่อยแล้วกันครับ

 

เห็นด้วยกับคุณพี่กรุงเก่าครับ ความเมตตาของพี่ออกมาจากตัวหนังสือเลยครับ ดีใจที่ได้เจอกันในนี้ครับ

ผู้ที่ปฏิบัติบางทีก็ไม่รู้จริงๆครับ แยกไม่ออกว่าของปลอมหรือของจริง อาจจะเป็นเพราะท่านเหล่านั้น ฝึกที่จะส่งใน ไม่ส่งจิตออกนอก กลัวติด ไม่ยอมแวะ ครูบาอาจารย์ที่ผมพบ จิตท่านเบิกบาน เบา ว่าง นิ่ง แล้วใช้วิธีระลึกรู้วัตถุนั้น ท่านเรียกว่า ญาณรู้ แล้วจะมีภาพออกมาครับ หากเป็นของปลอมจะเห็นเครื่องไม่เครื่องมือสารพัด หากเป็นของแท้จะเห็นที่มา สิ่งที่อยู่ข้างในด้วย (ข้อความนี้โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ เป็นประสบการณ์ส่วนตัวผมเองที่เจอครูบาอาจารย์มา อาจจะผิดก็ได้)

 

.

 

ครับ

ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

อยากทราบว่าเพชรพญานาค มีจริงหรือเปล่า ลองโทรไปสอบถามจาก กรมทรัพยากรธรณี ดูก่อนนะครับ
02-621-9760
02-621-9764
มีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ครับ
เช่นว่าเมื่อเราขุดเจอสิ่งต่างๆ หรือแร่ธาตุต่างๆ ใดๆเราจะต้องทำยังไง และมีขั้นตอนใดๆต่อไป ไม่ใช่ไปขุดกันเองเฉยๆ ผิดกฏหมายครับ เรื่องราวซับซ้อนพอสมควรเลย

 

อย่าได้ไปตามหาเลยครับของจริงนั้นมีอยู่ครับแต่ไม่ใช่จะได้มาอย่างง่ายๆเหมือนเดินไปซื้อได้แบบในร้านสดวกซื้อบางทีมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมสามารถเรียกสีได้ตามที่ต้องการตามที่ใจนึกเลยนะครับแบบว่าถ้าเม็ดเงินหนาหน่อยจะเอาสีอะไรรูปร่างแบบไหนมีหมดซึ่งเรื่องนี้ผมเคยนำข้อเสนอข้อสังเกตุมาให้ทราบแล้วในบางอย่างครับ
ถ้าเป็นของจริงนะอธิบายยากครับ อยู่ที่ใจเป็นหลัก ผมมีเป็นร้อยๆลูกเลยครับเพชรรี่แต่ผมแจกไปเกือบหมดแล้วครับ เก็บไว้เป็นบางส่วนคนไหนร่วมทำบุญมากๆผมก็ให้ไปก่อนให้ผมบอกว่ามีความเชื่อควมศรัทธาหรือไม่ถ้าไม่เชื่อไม่ต้องเอาไปถ้าเชื่อก็เอาไป และต้องปฎิบัติตัวเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมด้วยเพราะของที่ให้ไปนั้นเป็นของที่ผู้ทรงคุณได้มอบให้อีกทีไม่ใช่ไปหามาจากที่ที่เขาทำขายกันครับ บอกได้แค่นี้ว่ามีจริงครับและเปลี่ยนสีขยายขนาดได้ครับถ้าของจริงดูแค่นี้แหละไม่ต้องไปดูอะไรมากครับ

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ธาตุกายสิทธิ์ นั้นมีอยู่จริง ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของแต่ละท่านว่าใครจะได้ไปพบไปเจอ แต่หากเจอแล้วก็เกิดความรู้สึกความรู้สึกอยากครอบครอง มากเข้าก็จะกลายเป็นกิเลส ความโลภไป ของดี ของวิเศษจริงอยู่ใกล้ตัวมากที่สุด ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงได้ คือ
"ธรรมะของพระบรมศาสดา" อยากสัมผัสถึงสิ่งพิเศษ ปราณีต ละเอียด ต้องเริ่มจาก ศีล สมาธิ ซึ่งก่อให้เกิดปัญญา มิใช่ความยึดมั่น-ถือมั่น ไข่วคว้าแต่สิ่ง(ที่ตนเองคิดว่า)เหนือธรรมชาติ มิฉะนั้นพระที่ท่านปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ คงมิต้องเสียเวลาเสี่ยงชีวิต แบกย่าม แบกกลด เอาชีวิตเข้าเสี่ยง เข้าป่า เข้าถ้ำ เดินธุดงค์เพื่อพิสูจน์ สิ่งที่เป็นปรมัตถ์ ในพระธรรมของพระบรมศาสดา แบบสละชีวิตท่านเพื่อพระศาสนาได้หรอกครับ

 

ที่อยุธยา ก็มีขายครับ เม็ดละไม่กี่ร้อยบาท ตามขนาด คนขายบอกว่าเลี้ยงด้วยน้ำมะพร้าว แช่ไว้3 คืน จะโตขึ้นอีก แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง

 

กุ