ขอแนวคิดเพื่อการมีชีวิตที่เหลืออยู่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย indear, 31 ตุลาคม 2008.

  1. indear

    indear เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +733
    เรื่องราวต่อไปนี้อาจจะยาวซักหน่อยนะคะ ตอนนั้นดิฉันอายุ25 สามี 23 เราแต่งงานกันเพราะดิฉันท้อง เค้าไม่มีความพร้อมแต่แรกและไม่ได้รักดิฉันที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะดิฉันดีกับเค้ามากและรักเค้ามากเช่นกันมันก็เลยผูกพันบานปลายจนมีเรื่อง แต่เค้าขัดพ่อแม่ตัวเองไม่ได้ที่อยากให้ลูกชายรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เค้าเลยต้องแต่งกับดิฉัน เค้าบอกว่าแต่งด้วยก็ได้แต่หลังแต่งแล้วหากเค้าคบใครก็ตามดิฉันจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องของเค้า ดิฉันเสียใจมากที่ได้ยินคำๆนี้ออกจากปากผู้ชายที่ตัวเองรักแต่ก็ตกลงเพราะตอนนั้นดิฉันคิดเพียงว่าแต่งๆไปก่อนรักษาหน้าพ่อแม่เสร็จแล้วค่อยเลิกกันเพราะดิฉันหมดศรัทธาในตัวเค้าแล้วและโทษตัวเองที่ไปหลงรักเค้าฝ่ายเดียวหวังจะเอาชนะใจเค้าเอง ตลอดเวลาที่แต่งมาอยู่ด้วยความกังวลว่าเค้าจะมีคนอื่น จนผ่านไป 4 ปี ดิฉันมีลูกกับเค้า 2คนแล้ว ก็ยังไม่มีเรื่องราวอะไรจนดิฉันคิดว่าเค้าคงรักดิฉันบ้าง และตลอดมาดิฉันก็ไม่พยายามไปรับรู้เรื่องของเค้ามากนักกลัวรับไม่ได้หากเค้าคบคนอื่นจริงๆ และคิดว่าเวลาผ่านไปเค้าโตขึ้นและลูกๆคงทำให้เค้าคิดได้บ้างเพราะเค้ารักลูกทั้ง2มาก แต่ไม่นานมานี้ดิฉันจับได้ว่าสามีดิฉันไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงในออฟฟิศเดียวกัน โดยฝ่ายหญิงเสนอตัวให้ก่อนทั้งๆที่รู้ว่าสามีมีครอบครัวแล้วและสามีดิฉันก็เล่นด้วย ดิฉันเจ็บปวดมากขอเลิกกับเค้าทันที รู้สึกเข้มแข็งมากที่ตัวเองขอเลิกก่อนเพราะคิดว่าตัวเองสามารถรับไหวหากเค้ายอมเลิกด้วย ที่ผ่านมาเวลาเราทะเลาะกันด้วยปัญหาต่างๆใช้ชีวิตคู่ของเราที่ไม่ค่อยราบรื่นนักและทุกครั้งแฟนขอเลิกกับดิฉัน แต่ดิฉันยื้อเค้าไว้เพราะรักเค้าขาดเค้าไม่ได้ทนไม่ได้หากเค้าไปมีใครใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ค่ะ ดิฉันขอเลิกทันทีเพราะรับไม่ได้จริงๆ แต่เค้าไม่ยอมเลิกและบอกว่าสิ่งที่เกิดไม่มีอะไรแค่ผ่านมาและผ่านไปเค้าไม่ได้รักคนๆนั้นเลยแต่แค่เสียดายที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตผู้ชายอย่างคนอื่นบ้างเค้าเพิ่งเรียนจบไม่นานก็ต้องแต่งงานแล้วและบอกว่าที่ทำไปเค้าคิดว่าเค้ามีสิทธิ์ทำเพราะเราตกลงกันก่อนแต่งแล้วด้วย เค้าขอให้ดิฉันเข้าใจและบอกว่าตอนนี้เค้ารักดิฉันไม่อยากเลิก แต่เค้าต้องการเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตแบบผู้ชายคนอื่นๆบ้าง(ตอนนี้เค้าอายุ27ดิฉัน29) แต่ไม่มีทางที่จะไปมีใครจริงจังให้ดิฉันเชื่อใจได้เลย ดิฉันบอกเค้าไปว่างั้นไปใช้ชีวิตของตัวเองให้พอแต่ไม่ต้องมายุ่งกับดิฉันๆยอมอยู่บ้านเดียวด้วยก็ได้แต่ต้องไม่ยุ่งกัน เค้าก็ไม่ตกลง เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้ต้องการเวลาที่จะไปมีอะไรกับใครแค่ต้องการเวลาที่ตัวเองรู้สึกว่าพร้อมที่จะหยุดที่ดิฉันด้วยตัวเค้าเองไม่ใช่เพราะการบังคับจากดิฉัน เพราะทุกอย่างที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นกับเรา2 คนมาจากภาวะจำยอมทั้งสิ้น ใจนึงดิฉันก็เห็นใจเค้านะคะเค้าก็เป็นคนหน้าตาดีก็ย่อมมีคนสนใจเค้าบ้างแต่มาติดที่ดิฉันที่เป็นก้างชีวิตเค้าอยู่ และหากคิดกลับกันว่าต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักมันก็ต้องทุกข์ แต่เค้าก็ไม่เลิกกับดิฉันและคงไม่อยากทำให้ครอบครัวพัง เค้าบอกให้ดิฉันเสียสละบ้าง เพราะเค้าก็จบชีวิตที่ดิฉันและลูกแล้ว ทุกข์ใจค่ะ ตัวเค้าก็มีความรับผิดชอบในฐานะพ่อดีมากและเลี้ยงดูดิฉันตามอัตภาพแต่ทว่าสิ่งที่เค้าขอมันรับไม่ไหว ดิฉันไม่ได้อยากเห็นแก่ตัว ถ้าดิฉันไม่ได้รักเค้าก็คงยอมไปแล้ว เค้าบอกว่าทุกอย่างจะดีได้ถ้าเราทำดีแก่กัน เลิกทะเลาะกันหลายๆอย่างก็จะดีขึ้นมาเอง ตอนนี้เหตุการณ์ดีขึ้นแต่ใจยังเจ็บทุกทีที่นึกถึงเรื่องผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา และยอมรับว่ายังระแวงเค้าจะคบกับคนนั้นหรือมีใครอีกหรือเปล่า แล้วเมื่อไหร่ที่เค้าพร้อมที่จะหยุดทุกอย่างด้วยตัวเองจริงๆ ดิฉันจะมีแรงแค่ไหนที่จะสร้างความสุขให้เกิดขึ้นแต่ต้องทวนกระแสความทุกข์ของตัวเองที่มีอยู่ได้ แผลที่มีมันไม่มีทีท่าว่าจะหายไปเลย บางครั้งรู้สึกเหนื่อยและอยากหนีจากความกลัวนี้ไปด้วยการจากเค้าไปเงียบๆแต่ก็สงสารลูกที่ต้องกำพร้าพ่อ หัวอกคนเป็นแม่มันเป็นแบบนี้เอง หากใครมีข้อคิดดีๆแนะนำดิฉันได้ก็ต้องขอขอบคุณด้วยนะคะ และอยากฝากถึงคนที่คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่มีแฟนหรือเค้าแต่งงานแล้วว่าอย่าสร้างบาปเลยค่ะ ลองคิดว่าต่อไปหากคุณมีครอบครัวแล้วเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับตัวคุณบ้างคุณจะเจ็บปวดมั๊ย โอกาสที่เราจะมีเวลาอยู่เพื่อสร้างบุญมีไม่มากนัก ชาตินี้เกิดมาก็อย่าทำบาปให้ตกต่ำกันเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  2. cartoony

    cartoony Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +34
    ขอแนะนำอย่างนี้นะคะ

    ตอนนี้เหมือนเป็นกรรมของเขาและกรรมของคุณที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ อยากให้คุณคิดให้สบายๆใจนะคะ

    ตอนนี้คุณมีครอบครัวที่ถือว่าดีมากแล้ว อ่านๆดูเขาก็แคร์คุณอยู่บ้าง แต่ยังไม่ชอบให้ใครบังคับกะเกณควบคุมตัวเขา เขาคงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีตั้งแต่ต้องโดนแต่งงานกับคุณแล้ว

    ถ้าคุณรักและเข้าใจเขา แนะนำว่าให้มองเหมือนเขาเป็นลูกชายคนโตของคุณดีไหมค่ะ เราอาจต้องปล่อยให้เขาสนุกสนาน สำเริงสำราญชีวิตเขาให้พอ เพราะยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งบีบบังคับก็ยิ่งวิ่งหนี

    คุณคงต้องปล่อยวางลงค่ะ ทุกอย่างที่เป็นตอนนี้คือจิตใจคุณยังยึดติดอยู่และคาดหวังให้เขาเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ซะทีเพื่อความสบายใจของคุณเอง ก็เลยทุกข์มาก คือจิตคุณคิดปรุงแต่งไปต่างๆว่าเขาจะดี เขาจะเปลี่ยนมาหยุดและรักคุณเท่านั้น และบางทีก็คิดไปเลยว่าเขาจะมีคนใหม่ให้สนุกสนานสำราญใจและเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นภรรยาของคุณด้วย อย่างที่เขาชอบบอกคุณ ผู้ชายทุกคนก็อยากเป็นผู้นำและเหนือผู้หญิงค่ะ คุณต้องทำความเข้าใจตรงนี้ด้วยนะคะ

    ตอนนี้ดิฉันมองว่าเป็นกรรมของเขาที่ยังคิดจะมีคนอื่นอยู่ทั้งๆทีมีคนดีดีอย่างคุณแล้วทั้งคนที่รอเขาตลอดเวลา ลึกๆเขาก็ไม่อยากเสียคุณไปเช่นกันถึงแม้คุณจะทำใจยอมเลิกกับเขาแล้ว เขาเริ่มรักคุณและการเป็นครอบครัวของคุณและเขามันเป็นสิ่งที่ให้ความสุขแก่ชีวิตเขาส่วนหนึ่งด้วย สิ่งที่คุณควรทำตอนนี้คือคุณต้องระวังจิตใจของคุณ ไม่เอาใจไปผูกกับเขาเรื่องนี้แล้ว แต่เปลี่ยนมาดูแลตัวเองและลูกๆ และปล่อยให้เขาเป็นสามีหรือลูกชายคนโตที่ต้องรับผิดชอบน้องๆ ตามความสามารถและความต้องการของเขาที่พอเหมาะเหมือนเดิมในหน้าที่พ่อที่เขาทำได้ดีอยู่แล้ว ส่วนหน้าที่สามีคงต้องปล่อยให้ลูกชายคนโตเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตสักพัก มั่นใจในตัวเองค่ะว่าเราเป็นที่พึ่งให้เขาได้ทุกเรื่อง ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำได้ เท่านี้ก็พอแล้วค่ะ

    รักแบบเสียสละไปสักพักนะคะ อย่าไปคิดว่าเขาเป็นของเรา อย่าให้มีเรื่องทะเลาะกันอีกที่ทำให้เขารู้สึกเสียศักดิ์ศรีและคุณกับเขาก็เสียใจเสมอ สักวันเขาน่าจะคิดได้ หรือ ถ้าคิดไม่ได้ คุณก็ทำใจแยกจากจากเขาได้วันวันนั้นมาถึงเขาจะปล่อยคุณไปเอง

    มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันนะคะ ไม่ต้องคิดว่าเราจะเสียโอกาสไปเจอคนใหม่ๆด้วย อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งมากขึ้นไปกว่านี้ เพราะตอนนี้มีบ่วงกับเขาแล้ว อย่าให้มีบ่วงเพิ่มแบบที่เขากำลังทำอยู่อีก เพราะตอนนี้คุณคิดได้และเขายังคิดไม่ได้ คงต้องให้เวลาและประสบการณ์ชีวิตช่วยเขาค่ะ แต่จิตใจคุณต้องเข้มแข็งที่สุด เขาก็ทุกข์แบบของเขา คุณก็ทุกข์แบบของคุณ ต่างกันไปตามจิตใจและความคิดค่ะ

    ตอนนี้คุณมีน้องสองคน ก็ให้ขยันทำมาหากินดูแลน้องๆ ส่วนลูกชายคนโตเขาก็เลี้ยงตัวเองได้แล้วต้องให้เรียนรู้สิ่งที่เขาอยากรู้อยากทำอยู่จนกว่าจะพอใจ คนเรานี้ก็แปลก ถ้าเราไม่สนใจแล้วเขาก็จะมาเรียกร้องให้เราสนใจเองค่ะ เอาใจช่วยค่ะ

    ถ้ารู้สึกว่าทำใจได้ยาก ให้สวดมนต์นั่งสมาธินะคะ แผ่ความปรารถนาดี แผ่ความสุขความเมตตาให้แฟนคุณเสมอๆ และรวมถึงทุกๆคนที่จะเกี่ยวข้องกับเขาและคุณ ทำให้ได้นะคะ อย่าคิดโกรธเคืองหรือพยาบาท อาคาดแค้นกันนะคะ แล้วจิตใจคุณจะได้ไม่คิดฟุ้งและจะเข้าใจชีวิตมากขึ้นค่ะ กระแสความสุขความสงบและความรักความปรารถนาดีจากการที่คุณได้สวดมนต์นั่งสมาธิ เขาจะรับรู้ได้ค่ะ แล้วเขาน่าจะเย็นลงและเข้าใจคุณมากขึ้น ขอให้โชคดีนะคะ

    ปล. ให้สวดมนต์นั่งสมาธิของคุณไปเรื่อยคนเดียวนะคะ ไม่ต้องคิดจะชวนเขา และไม่ต้องคิดว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่คุณทำเพียงไม่กี่วัน ให้เฉยๆนะคะ แล้วเรียนรู้สังเกตุจิตใจตัวเองเท่านั้นค่ะ เป็นการฝึกใจตนเอง อย่าไปหวังอะไรกับคนอื่นนะคะ ทุกอย่างเพื่อตัวคุณเองเท่านั้น ถ้าเกิดเขาสนใจอยากสวดมนต์นั่งสมาธิด้วยก็ช่วยเหลือเขาตามที่เขาชอบค่ะ ทำได้บ้างวันละนิดก็ถือว่าดีมากๆแล้วค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2008
  3. yokine

    yokine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +602
    อืม อ่านแล้วก็น่าเห็นใจจังเลยนะครับปัญหาอย่างนี้นี่ เอาใจช่วยนะครับ ขอให้ผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคไปได้ไวๆ ^^
     
  4. Bhantira

    Bhantira Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอให้ผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ได้โดยง่ายนะคะ
     
  5. Nud

    Nud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +555
    เข้าใจความรูสึกค่ะ เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาครอบครัวที่แตกต่างกันไปค่ะ สู้ๆนะค่ะเพื่อลูก แต่ถ้าลูกโตแล้วมีหน้าที่การเงินเลี้ยงตัวเขาเองได้ คุณก็หมดหวัง ต่อไปคุณก็ต้องแคร์ความรู้สึก แคร์ตัวเองบ้างนะค่ะ หลังจากคุณทำเพื่อลูกเพื่อสามีมาตลอด คุณควรจะทำเพื่อตัวเองบ้าง อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขก็ทำเถอะค่ะ คนเราอยู่ไม่ถึงสองร้อยปีหรอกค่ะ ถ้าคุณคิดว่าอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีเขาแล้วทำให้คุณมีความสุข คุณก็ควรจะตัดสินใจเลือกเอาค่ะ
    แต่ถามหัวใจคุณให้ดีๆก่อนนะค่ะว่าแน่ใจแล้วหรือยัง เข้มแข็งแล้วหรือยังที่จะเดินทางคนเดียวโดยไม่มีเขา? เอาใจช่วยนะค่ะโชคดี
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    <!-- / icon and title --> <!-- message --> http://www.buddhism-online.org/Section06A_01.htm เชิญอ่านกันได้ สําหรับคนที่กําลังสงสัยว่า เราเกิดมาเพื่ออะไรกัน ? มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ? อ่านเเล้วคงเข้าใจในชีวิตตนเองมากขึ้น อนุโมทนาครับทุกคน มาอ่านดูนะครับพี่ จขกท เเล้วเราจะเข้าใจในตัวตนของเรามากขึ้น
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    เพิ่มอีกหน่อยนะครับ ผมเห็นด้วยกับพี่ cartoony เป็นอย่างยิ่งครับ ถึงเเม้เราบังคับอะไรให้เป็นไปดั่งใจเราไม่ได้หมดทุกอย่าง เเต่เราบังคับให้ใจเรามีความสุขได้ครับโดยการเปลี่ยนความคิด ลองคิดว่า มันอาจเป็นกรรมของเราที่ติดมาจากชาติก่อน ชาตินี้ใช้ซะให้หมดๆก็ดี พอหมดเเล้วอีกหน่อยกรรมดีจะได้สนองเราได้อย่างเต็มที่ คนเรามีขึ้นมีลงครับ ไม่มีใครมีความสุขได้ราบรื่นตลอดชีวิตหรอกครับ ต่อให้รวยเเค่ไหน พรั่งพร้อมเเค่ไหนก็มีวันที่ทุกข์โหมเข้ามา ปล่อยวางไว้ดีที่สุดครับ พูดเหมือนง่ายนะ เเต่ของเเบบนี้ต้องฝึกฝนครับ สมัยก่อนผมก็ทําไม่ได้ เเต่หลังจากทีผ่มได้เข้ามาเล่น webboard นี้ในทุกๆวัน อ่านธรรมะทุกวัน นั่งสมาธิ เเผ่เมตตา สวดมนต์ กรวดนํ้าก่อนนอน ผมกล้าบอกได้เลยว่า ทุกวันนี้ผมปลงในอะไรหลายๆอย่างได้ขึ้นเยอะกว่าเิดิม เเละรู้ดีว่า อีกหน่อยผมจะปลงตกได้มากกว่านี้อีกตราบใดที่ผมยังศึกษาธรรมะต่อไป ลองดูนะครับพี่ จริงๆเเล้วกา่รที่พีได้เข้ามาในเวปนี้ก็ถือว่าพี่สําเร็จไปนิดหนึ่งละ ต่อไปก็อยู่ที่เราจะสานตาหรือไม่เท่านั้นเอง การที่พี่ได้เข้ามาสนใจในธรรมะได้นั้น ตามหลักศาสนาเเล้วเป็นเพราะกรรมดีของพี่ที่เคยทํามาในชาติก่อนนะครับ เพราะฉะนั้น จงรู้สึกดีเข้าไว้ ทําทุกวันให้เป็นเหมือนวันสุดท้ายของเรา เพราะเราจะไปวันไหนยังไม่รู้เลย นั่งๆอยู่อาจตายได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จงใช้ชีวิตในทุกวันด้วยความสุขใจของเราครับ บอกได้เเค่นี้จริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...