เทคนิคเบื้องต้น เพื่อเห็นดวงปฐมมรรค

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โลกันต์, 13 ธันวาคม 2005.

  1. โลกันต์

    โลกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +620
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    เรื่องน่ารู้เบื้องต้นในการปฏิบัติธรรม

    -ให้มีความอยากนั่ง และ นั่งอย่างสบาย มีความสุขในการนั่ง- พอนั่งปุ๊ปก็หมดหน้าที่ของตา หรือ ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง เป็นหน้าที่ของใจแล้ว

    - ให้รักษาอารมณ์สบายตลอดเวลาทั้งในการนั่งและช่วงอื่น ๆ เพราะว่าอารมณ์สบายจะทำให้เกิดความง่าย ง่ายต่อการนึกนิมิต ง่ายต่อการหยุดนิ่ง ง่ายต่อการเข้ากลาง ง่ายต่อการเข้าถึงกายภายใน

    ความสบายมี 2 อย่าง คือ เกิดขึ้นเอง กับ เราสร้างขึ้น ความสบายที่เกิดขึ้นเอง จู่ๆ ก็เกิดขึ้นเอง ส่วนความสบายที่เราสร้างขึ้นมาทำได้....
    โดย 1. ห่างจากบุคคล สิ่ง ที่ทำให้ไม่สบายใจ
    2. หาสิ่งที่ทำให้สบายใจ เช่น ชมนกชมไม้ ฟังเพลง อยู่สงบคนเดียว- ให้รักษาอารมณ์สบายก่อนที่จะนั่งจนเกิดความรู้สึกอยากนั่ง มีความพอใจในการนั่ง เห็น ไม่เห็นเป็นเรื่องรอง(ไม่สำคัญ)

    - นิมิต คำภาวนา มีไว้กันความฟุ้ง ความง่วง ถ้าไม่ฟุ้ง ไม่ง่วง ก็ให้จรดเข้าภายใน หรือจรดเข้าศูนย์กลางกาย อย่าอยากได้ อยากเห็น เพราะเราจะเผลอไปเร่ง แล้วดึงประสาทตา ปวดขมับ เกร็งกล้ามเนื้อ ท่องไว้ ๆ “ ถ้าเราได้ด้วยความอยาก ถึงจะใสแค่ไหน ก็ไม่เอา” ให้ได้ด้วยความสบายอย่างเดียว

    - การปฏิบัติธรรม ให้มีมรรคผล นิพพาน เป็นแก่นสาร ไม่หวังลาภ ยศ สรรเสริญ ถ้าหวังอย่างนั้น จะทำให้จิตไม่นิ่ง ต้องทำใจให้บริสุทธิ์ คิดเสมอว่า เรียนไปทำไม เอาจริงไหม ปล่อยใจเลื่อนลอยไปที่อื่นหรือเปล่า

    - จริงวันนี้ ได้วันนี้ จริงพรุ่งนี้ ได้พรุ่งนี้- อย่าใช้ความหยาบในการปฏิบัติเพื่อหาความละเอียด เช่นอารมณ์เศร้าหมอง ขุ่นมัว ลมหายใจเร็ว แรง จิตใจสั่น ไหว ริบรัว ฯลฯ

    - ใจที่มีพลัง จะต้องเป็นใจที่เป็นกลาง ๆ ตั้งมั่น มั่นคง

    - แม้เราจะไม่เข้าถึงธรรมในวันนี้ แต่อารมณ์สบาย คือ ของขวัญอันยิ่งใหญ่แก่จิตใจ ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงธรรมในวันหน้า

    - จิต มีลักษณะเป็นดวง จึงเรียกว่า ดวงจิต เห็น = มองห่าง ๆ เหมือนของสองสิ่ง ได้ = มองใกล้ ๆ หรือ เข้า ๆ ออก ๆ เป็น = เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มั่นคง กลืน แยกไม่ออก

    - ความเบา ความสบาย เป็นสิ่งที่เมื่อนั่งแล้วต้องเริ่มทำ ไม่ว่าจะได้ธรรมะในระดับใดก็ตาม

    - ชัดไม่ชัด ไม่สำคัญ สำคัญว่ากลางหรือเปล่า นิมิตสัดส่ายเคลื่อนไหว อย่าตาม!!! จรดใจนิ่ง ๆ เข้ากลางอย่างเดียว แล้วจิตก็จะรวมลงสู่กลางเอง

    - นึกดวงแก้ว ก็นึกแบบช้าง อย่าให้มีลีลา หรือมีพิธีรีตองมากมาย การนึกก็นึกอย่างสบาย นึกเห็น ก็เห็น เพราะใจเป็นธาตุสำเร็จอยู่แล้ว ให้มีความมั่นใจ ความมั่นใจเท่านั้นที่จะสร้างความมั่นใจต่อ ๆ ไป

    - อย่ากลัวเสียเวลา อย่ากลัวเสียหน้า อย่ากลัวว่าจะไม่ได้

    - เป็นพระภายนอก 1. สันโดษ ไม่คลุกคลีด้วยคนหมู่มาก 2. ไม่สะสม ไม่เห็นแก่ลาภ 3. ไม่อยากเด่น ไม่อยากดัง 4. อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นไปเพื่อบุญกุศลล้วน ๆ

    - อย่าท้อใจ อย่าน้อยใจ เพราะเมื่อกระแสใจเสื่อมคุณภาพ บาปจะเข้าครอง ต้องปลุกใจให้ฮึดสู้ นั่งให้สนุก เบิกบาน ให้เป็นบุญบันเทิงให้ได้

    - อย่าเสียดายความคิดเก่า ๆ จงสลัดทิ้งออกไป ตัดใจให้เหมือนตายจาก- เรื่องหยาบ ๆ ภายนอก ถ้าดูเบา จะมีผลต่อภายใน

    - ถ้าไม่ฝึกจรดศูนย์กลางกายตลอดเวลา เวลานั่งใจจะรวมได้ช้า ต้องมัวปัดของเก่าออก ทำให้เสียเวลา

    - ถ้าเห็นภาพต้นไม้ คน สัตว์ อย่าไปสนใจ เพราะใจเริ่มเป็นสมาธิ จึงจะเห็นภาพ ให้ดูเฉย ๆ ดูจุดที่เล็กที่สุด เดี๋ยวภาพก็จะเปลี่ยนไปเอง เปลี่ยนไปสู่ความไม่เปลี่ยน

    - ความง่ายเกิด เพราะเราทำจิตให้คิดว่าง่าย ความยากเกิด เพราะเราทำจิตให้คิดว่ายาก ถ้ายาก เด็กทำไม่ได้หรอก อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ อย่ากลัวว่าจะได้ช้า

    - อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ เพราะดวงธรรมที่โตเท่ากับฟองไข่แดงของไข่ไก่ มีในมนุษย์ทุกคน ถ้าไม่มีก็เป็นคนไม่ได้ ถ้าดวงนี้แตกดับ กายก็แตกดับดวงธรรมมีกันทุกคน เพียงแต่ไม่เห็น ถ้าใจยังสัดส่ายอยู่

    - อย่านั่งไปบ่นไป “ไม่เห็นมีอะไร ๆ ๆ ๆ ” ให้เฉย จะได้นิสัยอุเบกขา ใจจะได้เป็นกลาง ๆ ถ้าส่วนไหนตึง นั่นพยายามเกินไป อย่าฝืน ให้ปรับ- จุดเริ่มต้นที่ไหนก็ได้ แต่ส่งท้ายต้องศูนย์กลางกาย ช่วงแรกใจอาจจะอยู่ข้างหน้า หรือที่ไหนก็ไม่รู้ อย่ากังวล ปล่อยไป เดี๋ยวจะเข้าศูนย์กลางกายเอง แม้ไม่เห็น แม้ไม่ชัด แต่ให้ใจอยู่กลางท้อง พร้อมความหวังว่าจะได้รักษาใจให้สบาย เดี๋ยวได้แน่


    - ถ้าใจยังไม่พร้อมที่จะนึก อย่าเพิ่งนึก ให้วางใจเฉย ๆ จงคอยด้วยใจที่เยือกเย็น วางใจในที่สบาย ๆ การวางใจเฉย ๆ ไม่ใช่ช้า เพราะใจเฉย เป็นใจที่ใกล้กับใจละเอียดแล้ว

    - ยิ่งอยากก็ยิ่งยาก เลิกอยากก็เลิกยาก จำไว้......... ผู้ที่สว่างเดี๋ยวนี้ ก็คือผู้ที่เคยฟุ้งมาก่อน ผู้ที่จิตตั้งมั่นเดี๋ยวนี้ ก็คือผู้ที่เคยมืดมาก่อน

    - เมื่อจิตหยาบ ให้ทำให้นิ่งก่อน พอจิตละเอียด จะกระดิกจิตถึงดวงแก้ว ถึงองค์พระได้ ถ้าไปนึกตอนทิ่จิตหยาบ จะเครียด เพราะมีความอยากนำหน้า ต้องทำให้นิ่งก่อน

    - ทำไมฟุ้ง ทำไมคิดหลายเรื่อง เพราะจิตกำลังหาที่สบาย เมื่อยังไม่พบที่ชอบก็แสวงหาต่อไป เมื่อพบที่ชอบก็หยุด การที่มีความคิดเหลือเฟือ ไม่ใช่ว่าฝึกจิตไม่ได้ เพราะความคิดเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งของจิต

    - เมื่อเข้าถึงกำเนิดความสุข แหล่งของความสุขที่ศูนย์กลางกาย จิตก็จะไม่ไปไหน มีสุข เกิด ความพอใจ พอเหมาะ พอดี พอเพียง แค่ส่งจิตถึงศูนย์กลางกายนิดเดียว แล้วจิตถอน ก็ได้บุญมากแล้ว หรือแค่เห็นแสงแว๊บนิดเดียว ชีวิตวันนั้นก็มีความสุขแล้ว คุ้มค่าแล้ว เหมือนคนเล่นน้ำ เอาเท้าจุ่มน้ำตื้น ๆ ก็ยังชื่นใจ

    - ถ้าอยากได้เร็ว จะได้ช้า ถ้าไม่กลัวช้า จะได้เร็ว ให้ตัดใจ หักใจ ห้ามใจ ของหยาบ ๆ ก่อน เรื่องข้างในมีอีกเยอะ อย่าไปเลอะเรื่องข้างนอก พลังใจเป็นต่อ เพราะใจจ่อศูนย์กลางกาย ไฟฟ้าที่ลืมปิด ชีวิตที่ลืมศูนย์กลางกาย น่าเสียดายจังน่ะสายน้ำอาจหมุนวน สายลมอาจเปลี่ยนทิศ แต่สายใยของชีวิต จะไม่เปลี่ยนทิศจากศูนย์กลางกาย




    </PRE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2005
  2. sanya

    sanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +2,687
    อืม...ดีครับ
     
  3. panuwat

    panuwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +104
    ขออนุญาตินำไปเผยแพร่นะครับ
     
  4. tanapart

    tanapart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +113
    แจ่มครับ โมทนาครับ
     
  5. HHHHHH

    HHHHHH สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    เดินไปสม่ำเสมอ
     
  6. แม่ทัพธรรม

    แม่ทัพธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +141
    สุดยอดครับ โมทนาน่ะครับ
     
  7. benz M

    benz M สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +22
    แล้ว จะทำได้ ยังไง ละครับ
     
  8. Good_oom

    Good_oom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +562
    ดีครับ ชอบ
     
  9. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +2,808
    ไม่อยากพูดอะไรมากครับ อิอิ แค่จะบอกว่านี้คือสุดยอดวิชาครับใครทำได้นี้เป็นบุญอันมหาสารแก่ตัวท่านเองครับ
     
  10. อรพิน โกรธารพ

    อรพิน โกรธารพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +211
  11. REdSHirt

    REdSHirt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +382
    สาธุ
     
  12. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +2,808
    เท้าที่รู้มานะครับ ผู้ใดที่สามารถสำเร็จวิชานี้แล้วจะสามารถไปช้วยญาติพี่น้องพ่อแม่ที่ต้องตกไปอยู่ในนลกอบายยภูมได้ครับ เหมือนดั่ง คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิืกาจันทร์ ขนนกยูง ที่ท่านได้ลงไปช้วยบิดาของท่าน
     
  13. benz M

    benz M สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +22
    ใครมี ตาทิพ ดูที่ หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวง หวลงปู่ดูล หลวงปู่เทส ซิครับ ว่าเปงอยางงาย นะครับแล้วจะรู้เอง
     
  14. benz M

    benz M สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอโทด ครับ อีกอย่าง ต้องเดิน โสดาปะติมรรค นะครับ ถึงจะเหงได้ดี
     
  15. วาจาทิพย์

    วาจาทิพย์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +15
    [​IMG]
     
  16. vichian

    vichian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    8,164
    ค่าพลัง:
    +41,920
    เท่าที่อ่านดูแล้วผู้ที่นำมาโพสก็ไม่ได้สรุปวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติอย่างละเอียด แนววิธีปฏิบัติกรรมฐานแบบนี้มาจากใคร จึงใคร่ขอช่วยรวบรัดเพื่อให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้นนะครับ

    1.แนวปฏิบัติกรรมฐานแนวนี้ มาจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
    2.การเพ่งดวงแก้ว คือ การเพ่งกสิณแสงสว่าง หรือ อาโลกสิณ ซึ่งมีคุณสมบัติฝึก ทิพย์จักขุญานได้
    3.จุดสูงสุดในการฝึกคือ เพื่อพิสูจน์คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่ามีจริง เห็นได้จริง เข้าถึงได้จริง บรรลุได้จริง ละกิเลสได้จริง

    สวัสดีพี่น้องชาวธรรมกาย
    จากคนที่ยังไม่เต็มบาท
     
  17. WiiTHWiin

    WiiTHWiin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +2
    [b-wai] เยี่ยมครับ
     
  18. Candle

    Candle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +909
    สาธุ ขอโมทนา ขอบคุณนะครับ
     
  19. Jo The Searcher

    Jo The Searcher สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2006
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    สาธุครับอ้ายอ้วน(พื่อ้วน)....ผมเอง น้องชมรมครับ
     
  20. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +2,808

แชร์หน้านี้

Loading...