บะหมี่น้ำหนึ่งชาม...ชิมสักนิดจะติดใจ

บะหมี่น้ำหนึ่งชาม...ชิมสักนิดจะติดใจ

เรื่องสั้น (ก็ไปก๊อปคนอื่นมาให้อ่านอีกเช่นเคย)
บะหมี่น้ำหนึ่งชาม...ชิมสักนิดจะติดใจ


..........เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว วันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ร้านบะหมี่ "ฮอกไก" บนถนนซัปโปโร การกินบะหมี่โซบะในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นเป็นประเพณีของชาว_ี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ร้านบะหมี่ขายด

............ในวันสิ้นปี "ร้านฮอกไก" นี้ก็เช่นกัน ในวันนี้คนแน่นร้านแทบทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลา 22.00 น. คนก็เริ่มน้อยลง โดยปกติแล้วบนถนนสายนี้คนจะแน่นขนัดไปจนถึงเช้าตรู่ แต่วันนี้ทุกคนจะต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปต้อนรับปีใหม่กัน ดังนั้นถนนสายนี้จึงปิดร้านเร็วกว่าปกติ เถ้าแก่ของร้าน "ฮอกไก" เป็นคนซื่อ และเถ้าแก่เนี้ยก็เป็นคนอัธยาศัยใจคอดี ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า พอลูกค้าคนสุดท้ายกลับไป ในขณะเถ้าแก่เนี้ยก็จะปิดร้าน ประตูร้านก็ถูกเปิดออกอย่างเบา ๆ มีผู้ห_ิงคนหนึ่งพาเด็กชายสองคน คนหนึ่งประมาณ 6 ขวบกับอีกคนหนึ่งประมาณ 10 ขวบเข้ามาในร้าน เด็กชายทั้งสองคนสวมชุดกีฬาใหม่เอี่ยมเหมือนกันทั้งสองคน ส่วนห_ิงคนนั้นสวมโอเวอร์โค้ทลายสก๊อตเก่า ๆ เชย ๆ "เชิ_นั่งครับ" เถ้าแก่ร้องทักทายออกมา ห_ิงคนนั้นเอ่ยปากอย่างขลาดกลัวว่า "ขอบะหมี่น้ำสักชามได้ไหมค๊ะ" เด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลังสบตากันอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก "ได้ค่ะ ได้ค่ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะค่ะ เชิ_นั่งก่อนค่ะ" เถ้าแก่เนี้ยพาพวกเขาไปนั่งที่โต๊ะเบอร์สองชิดกำแพง แล้วตะโกนบอกไปทางห้องครัวว่า "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" บะหมี่หนึ่งชามมีบะหมี่แค่หนึ่งก้อน เถ้าแก่คิดแล้วก็ใส่บะหมี่เพิ่มไปอีกครึ่งก้อน ต้มบะหมี่ได้ชามเบ้อเริ่ม

...........ทั้งเถ้าแก่เนี้ยและสามแม่ลูกต่างก็ไม่รู้เรื่อง สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่กินกันอย่างเอร็ดอร่อย กินพลางพูดพลาง "ทานเถอะครับ" ลูกคนพี่พูด "แม่ทานหน่อยสิครับ"ลูกคนน้องพูดไปก็คีบบะหมี่ให้แม่กิน ไม่นานก็กินบะหมี่หมดชาม จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน แล้วทั้งสามคนก็ชมว่า " ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) บะหมี่อร่อยมากค่ะ(ครับ)" พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อยแล้วลาจากไป "ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)" ทั้งเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยต่างก็กล่าวขอบคุณ ทำงานไปวันแล้ววันเล่ายุ่งตั้งแต่เช้าจรดเย็น และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี วันที่ 31 ธันวาคมก็เวียนมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ในวันส่งท้ายปีเก่า ร้านบะหมี่ "ฮอกไก" ก็ยังคงขายดีและดูเหมือนจะขายดีกว่าปีที่ผ่านมา สองตายายยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการค้าขาย และแล้ววันที่วุ่นวายก็จบสิ้นลง

..............22.00น.กว่า ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะปิดร้านอยู่นั้น ประตูร้านก็ถูกผลักออกเบา ๆ ผู้ที่เข้ามาก็คือห_ิงวัยกลางคนกับเด็กชายสองคน พอเห็นเสื้อโอเวอร์โค้ทที่เก่า และเชย เถ้าแก่เนี้ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเป็นลูกค้าคนสุดท้ายในวันส่งท้ายปีเก่าของปีที่แล้วนั่นเอง "ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั๊ยค่ะ" "ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิ_นั่งตามสบายนะค๊ะ" เถ้าแก่เนี้ยนำพวกเขาไปนั่งที่เดิมที่เคยนั่งเมื่อปีที่แล้ว โต๊ะเบอร์สอง ตะโกนไปพลางว่า "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" เถ้าแก่รับคำพลาง จุดเตาที่เพิ่งจะดับไปพลาง "ได้ครับ บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" เถ้าแก่เนี้ยแอบไปพูดที่ข้างหูของเถ้าแก่ว่า "นี่ตาแก่ ต้มบะหมี่ให้พวกเขาสามชามไม่ได้หรือ" "ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาอายและไม่สบายใจได้รู้มั๊ย" สามีตอบพลาง แล้วโยนบะหมี่อีกครึ่งก้อนลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน เดินไปยืนข้างภรรยาแล้วก็ยิ้ม ภรรยาก็พูดขึ้นว่า"เห็นเธอซื่อ ๆ ทึ่ม ๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกันนะ" ฝ่ายสามีเดินไปตักบะหมี่ชามให_่ที่กลิ่นหอมชวนกินชามนั้นแล้วให้ภรรยายกไปให้สามแม่ลูก สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่ กินไปพลางคุยไปพลาง เสียงคุยของสามแม่ลูกดังถึงหูของตายาย "หอมจังเลย

 

เรื่องนี้ดีมากครับ โหวตให้

 

อ่านเรื่องนี้แล้ว...อิ่มใจ ขอบคุณครับ

 

กว่าจะอ่านจบ

จริงๆแล้ว ผมเพิ่งอ่านจบ เพราะถ้าอ่านรวดเดียวจบ กลัวนำตามันจะไหลให้น้องๆที่ออฟฟิศเห็นน่ะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

 

และแล้ว วันนี้ผมก็ได้ไปทานราเม็นสมใจ อิอิ

 

อ่อนไหวให้เรื่องนี้ซะแล้ว(kiss)

 

อืมม ซึ้งมากครับ

 

ดีใจค่ะ...

ดีใจที่คุณผู้รู้น้อยและอีกหลายท่านมีเจตนาเดีวยกัน และไม่ท้อแท้ที่จะมอบกำลังใจให้คนอื่นๆ....

 

ดีจัง

 

บางทีการหยิบยื่นสิ่งเล็กๆน้อยๆของเรา ให้กับผู้อื่น มันอาจกลายเป็นทั้งหมดของชีวิตเค้าก็ได้

 

ขอก๊อปหน่อยนะคะ

อิอิ [b-wai]

 

ดีจังค่ะ (bb-flower

 

(bb-flower ซึ้งจริงๆ ครับ

 

ยอดเยี่ยม... ว่าแล้วอยากกินบะหมี่จัง ...
ขอบคุณคนโพสค่า

 

ซึ้งดีแฮะ

 

Dee ka

 

...ยอดเยี่ยม...ซึ้งจริงๆ ขอบคุณครับ ประทับใจมาก vขอก๊อปหน่อยนะ