เวลานึกแผ่บญแล้วขนลุกนี่แปลว่าถึงแล้วใช่มั้ยคะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย dokapon, 7 กรกฎาคม 2008.

  1. คุณจ๋า

    คุณจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +166
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    [​IMG]
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,189
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนาค่ะ บุญจากกรรมฐานนี่ให้บุญแรงสุด เคยมีประสบการณ์ที่
    แสดงให้เชื่อแล้วว่า การแผ่เมตตา การแผ่บุญกุศลนั้น ได้รับจริง
     
  3. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    ตอนที่ไปฝึกสมาธิกับหลวงพ่อจรัล ที่วัดอัมพวัน สิงหบุรี พอถึงวันพระ ขณะนั่งสมาธิจะเห็นเป็นภาพ ผู้คนจำนวนมากแต่งกายแบบชาวบ้านสมัยก่อนเหมือนชุดทำนาทำสวน มายืนเป็นแถวอยู่หน้าวัดและมีคนสวมผ้ายักรั้ง เสื้อกั้ก ถือหอก มายืนคุมเหมือนคุมนักโทษ
     
  4. THE_TOP

    THE_TOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    706
    ค่าพลัง:
    +381
    อนุโมทนา
    ดีนะแค่ขนลุก ของเรานี้แผ่กุศลยังไม่ทันเสร็จ หลับเลย ฮ่าๆ
     
  5. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,291
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ผมเห็นด้วยกับพี่ paislam เป็นอย่างยิ่งครับที่พูดว่า " การแผ่เมตตาแล้วขนลุกนั่นเป็นปีติเป็นเพียงสภาวะธรรมอย่างหนึ่ง เราไม่ควรไปยึดติดกับมัน ควรกำหนด สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นนั่น ครับ เดี๋ยวก็จะรู้ว่า ปิติมันเกิดขึ้นอยู่ไม่นานมันก็หายไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป " เกิดเเล้วก็ดับไปครับ เดี๋ยวนี้ผมไปเทนํ้าที่หลังบ้านเเล้วไม่ขนลุกเเล้ว คิดว่าตอนนั้นเป็นอาการกลัวผีมากกว่า ตอนทําเเรกๆ หรืออาจเป็นปีติก้ได้ ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าไม่สนละ เพราะพระพุทธเจ้าท่านก็สอนไม่ให้เรายึดติดสิ่งใดในโลก เเม้กระทั่งตัวเราเองยังเอาไปไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เป็นจริงในโลก ทุกอย่างล้วนเป็นมายาทั้งสิ้น
     
  6. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    [​IMG]อนุโมทนาสาธุ[​IMG]
    <!-- / message -->
     
  7. ถนอม021

    ถนอม021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,098
    ค่าพลัง:
    +3,163
    อนุโมทนาสาธุด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    และขออุทิศบุญกุศลทั้งปวงแด่เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ
    ให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจตลอดไป ขอให้อโหสิรรมและ
    ขออโหสิกรรมกับทุกรูปทุกนามด้วยเถิด ให้ทุกท่านได้พระนิพพาน
    ในชาตินี้ด้วยเถิด

    ถนอม สุพัตรา ถกนธ์ พร้อมครอบครัวและญาติมิตร

    หลังจากสวดบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แนะนำบทสวดพุทธมนต์แบบย่อ ๆ แต่มีพลานุภาพมาก มีอานิสงส์มาก สวดไม่เกิน 5 นาทีจบ ดังนี้

    นะโม 3 จบ


    หัวใจ อิติปิโส ว่า
    อิสะวาสุ

    นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ นะมะอะอุ

    หัวใจพาหุง
    พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ
    หัวใจพระเจ้าสิบชาติ
    เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
    หัวใจบารมี 30 ทัส
    ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ
    หัวใจพระอาการวัตตาสูตร
    มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพพะสัมภาวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะ ยะตัง มะนัง
    หัวใจพระธารณะปริตร
    ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
    หัวใจพระไตรปิฎก
    จิเจรุนิ
    หัวใจพระคาถาชินบัญชร
    ชะ จะ ต ะ สะ สี สัง หะ โก ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ วา อะ ชิ สะ อิ ตัง
    คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

    [​IMG]สวดจบควรแผ่เมตตาทุกครั้ง[​IMG]

    แผ่เมตตาจิต
    ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสัมฤทธิ์ผลนั้น เกิดจากกรรม 3 อย่าง คือ มโนกรรม เป็นใหญ่ แล้วค่อยแสดงออกมาทางวจีกรรม หรือกายกรรมที่เป็นรูป การบำเพ็ญสมาธิจิตเป็นกุศลดีกว่า เพราะว่า การแผ่เมตตา 1 ครั้ง ได้กุศลมากกว่าสร้างโบสถ์ 1 หลัง ขณะจิตที่แผ่เมตตานั้น จะเกิดอารมณ์แจ่มใส สรรพสัตว์ไม่มีโทษภัย ตัวท่านก็ไม่มีโทษภัย ฉะนั้น เขาจึงว่านามธรรมมีความสำคัญกว่า

    อานิสงส์การแผ่เมตตา
    ...ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องรู้จักคำว่า แผ่เมตตา คือต้องเข้าใจว่า ความวิเวกวังเวงแห่งการคิดนึกของเราแต่ละบุคคลนั้น มีกระแสแห่งธาตุไฟผสมอยู่ในจิตและวิญญาณกระจายออกไปเ มื่อจิตของเรามีเจตนาบริสุทธิ์ เมื่อจิตของเราเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อนั้นเขาก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา เสมือนหนึ่งเราให้เขากินอาหาร คนที่กินอาหารนั้นย่อมคิดถึงคุณของเราหรืออีกนัยหนึ่งว่า เราผูกมิตรกับเขาๆก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา แม้แต่คนอันธพาล เราแผ่เมตตาจิตให้ทุกๆวัน สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเป็นมิตรกับเราจนได้ เมื่อจิตเรามีเจตนาดีต่อดวงวิญญาณทุกๆดวง ดวงวิญญาณทุกๆดวงย่อมรู้กระแสแห่งจิตของเรา เรียกว่ามนุษย์เรานี้มีกระแสธาตุไฟออกจากสังขาร เพราะเป็นพลังแห่งการนั่งสมาธิจิต วิญญาณจะสงบ ธาตุทั้ง 4 นั้น จะเสมอแล้วจะเปล่งเป็นพลังงานออกไป

    ฉะนั้น ผู้ที่นั่งสมาธิปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จิตแน่วแน่แล้ว โรคที่เป็นอยู่มันจะหายไป ถ้าสังขารนั้นไม่ใช่จะพังเต็มทีแล้ว คือไม่ถึงวาระสิ้นอายุขัย หรือว่าสังขารนั้นร่วงโรยเกินไปแล้ว ก็จะรักษาให้มันกระชุ่มกระชวยได้หรือจะให้มันสบายหาย เป็นปกติดั่งเดิมได้

    ประโยชน์จากการฝึกจิต
    ...ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนมีสมาธิแน่วแน่ เมื่อจิตนิ่งก็รู้ตน เริ่มพิจารณาตน รู้ตนเองได้ ปัญญาก็เกิดขึ้น ปัญญานี้เรียกว่า ปัญญาภายในจากจิตวิญญาณ ซึ่งเราจะใช้ปัญญานี้ได้แน่นอน เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นในชีวิตตลอดระยะเวลาอันยาวนานข้างหน้า

    นี่คือประโยชน์ของการฝึกจิตแล้ว คุณของสมาธิยังเป็นพลังป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัย เจ็บป่วยได้ กล่าวคือ การบำเพ็ญจิต จนจิตสงบนิ่งแล้ว ระบบต่างๆทางประสาทจะได้รับการพักผ่อน เป็นการปรับธาตุในกายให้เกิดพลังจิตเข้มแข็ง กายเนื้อก็จะแข็งแรงกระชุ่มกระชวยด้วย โลหิตในร่างกายจะหมุนเวียนสะดวกขึ้น ความตึงเครียดตามร่างกายและประสาทต่างๆ จะผ่อนคลายเป็นปกติ โรคต่างๆจะลดน้อยลงโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดัน โลหิตสูง หายป่วยได้ด้วยการฝึกจิตและเดินจงกรม



    จากหนังสือ เรียน ธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี
     
  8. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    [​IMG] อนุโมทนาสาธุครับ สาธุ สาธุ <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  9. littleweb

    littleweb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,355
    ตอนกลางคืน สวดมนต์ และนั่งสมาธิรวมกัน ราวๆ 1 ชม ได้
    แล้วนอนสมาธิ หลับไป จากนั้นฝันว่า ผลบุนจากการสวดมน นั่งสมาธิ เขาได้รับแล้วนะ อิ่มบุนมาก มีคนยิ้ม ดีใจ หลายคน เห้นหน้าชัดเจน ในฝัน ส่วนอีกคน ยืนร้องไห้ ใส่ชุดโบราน นุงโจงกะเบน เปน ญ ก้ไม่ได้ถามร้องทำไม แล้วเขาก้บอกว่า ถ้าทำบุน ถวายอาหาร ให้กรวดน้ำให้เขาด้วย
    พอตอนเช้า ก้นึกได้ว่า เวลาเราถวายอาหารพระ เราไม่เคยกรวดน้ำให้เจ้ากรรมเรย
    ก้คงจะจิง ที่เขามาบอก และยิ่งได้อ่านจาก พระชยภัทร ว่าคนที่ร้องไห้นั้นเขาดีใจมากที่มีคนมากรวดน้ำแผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้นทั้งหลายรอมานานเพราะไม่เคยมีใครกรวดน้ำไปให้ ก้เรยหายสงสัย อิอิ

    เวลาสวดมนเคยคิดนะว่า จะถึงเจ้ากรรมนายเวรไหม ยิ่งเขามาเข้าฝันบอกแบบนี้ ทำให้เรามีกำลังใจว่าสิ่งที่เราทำนั้น ผลบุนนั้นส่งไปถึงเจ้ากรรมนายเวรจิง ทำให้เราอยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2008
  10. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    ไม่เคยขนลุกสักที เคยแต่จิตนิ่งดื่มด่ำ...ปิติน้ำตาไหลแผ่ส่วนบุญวันละหลายครั้งทำแล้วสบายใจดี อนุโมทนาค่ะ
     
  11. Nud

    Nud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +555
    เราจะขนหัวลุกเวลาสวดมนต์ หรือแผ่เมตตา หรือแม้แต่นั่งอ่านข่าวต่างๆที่เว็ปพลังจิตนี้ บางครั้งจะขนหัวลุกอยู่บ่อยๆ บางครั้งข้างเดียว บางครั้งบนหัวทั่วหมด แม้ไม่ทุกครั้งแต่บ่อยมากค่ะ บางครั้งเหมือนมีอะไรอยู่บนหัวเรานะ เหมือนมีใครเอามือมาลูบหัว สามารถรู้สึกได้ชัดมากค่ะ ใครเป็นเหมือนเราบ้างค่ะ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...