โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

ได้เอาตัวเป็นหนูตะเภา โดยลดไฟธาตในตัวลงให้น้อยกว่าปกติ แล้วอาบน้ำแข็งดู (เพื่อทดสอบว่าพวกไฟธาตพิการและไฟธาตุหย่อน จะเกิดอะไรขึ้น)
ปรากฏว่า พวกไฟธาตุพิการ(แปรปรวน) จะมีไฟธาตดีขึ้น
แต่พวกไฟธาตุหย่อนนี่ซิมีปัญหา เมื่ออาบน้ำแข็งไปสามสี่วัน ร่างสร้างความร้อนไม่ทันเลี้ยงร่างกาย
ทำให้ไขมันในเลือด และสารบางอย่างตกผลึกเล็กๆในกระแสเลือด ขวางการไหลเวียนในเลือด
ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย มึนๆในหัว แสบๆในอก หลังจากอาบน้ำแข็งเสร็จ
ในช่วงสองสามวันแรก กระปรี้กระเปร่าดี แต่ในช่วงวันหลังๆ ยิ่งอาบยิ่งรู้สึกอ่อนเพลี่ย อยากพัก อยากนอนทันทีที่อาบเสร็จ
ถ้าใครตามใจตัวไปนั่งพัก/นอน หรือนั่งสมาธิ อาการก็จะยิ่งหนักขึ้น เพลียมากขึ้น
วิธีแก้ ก็คือการเดินตามที่คุณโอมได้บอกไว้ (รวมขบวนการต่างๆในการเดิน) จะทำให้กุลฑาลิณีปั้มพลังมากขึ้นเร็วขึ้น
พลังจากกุลฑาลิณีที่ถูกปั้มมากขึ้นนี้ความร้อนจะไปละลายไขมัน สารเคมีบางตัวที่ตกผลึกเล็กจิ๋วในกระแสเลือด ให้สลายไป ทำให้ร่างกายสบายขึ้น
ธาตุไฟที่หย่อนอยู่ก็จะถูกแก้ไขให้ดีขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้น ของเสีย สิ่งแปลกปลอมก็จะถูกขับออก

แต่อาการเพลีย มันเยอะอยากพักเฉยๆ จึงมีคนขอต่อรองไม่เดินได้หรือไม่ นั่งสมาธิแทนได้หรือไม่ นั่งเดินพลังแทนได้หรือไม่ ฯลฯ
บอกเลยว่าไม่ได้ เพราะการอยูเฉย โดยปล่อยผลึกเล็กจิ๋วเป็นตะกอนแขวงลอยอยูในน้ำเลือด มีแต่เสียกับเสีย
กว่าความร้อนที่ร่างกายสร้างโดยปกติจะมากพอมาเคลียร่างกายได้(ซึ่งต้องอาศัยเวลานานพอควร) อวัยวะบางส่วนก็จะเสียหายไปแล้ว

ผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ ผู้อยู่ในคอนโดฯ อะพาสเม้นท์ ล้วนหาที่เดินลำบาก
แม้ว่าจะพอมี่เดิน แต่ก็ติดที่เวลา เช้านัก ก็เปลี่ยวไร้ผู้คน จะไปเดินตอนดึกๆหลังเลิกงานก็ไม่สู้เหมาะ

สุวิจึงหาทางแก้ให้ โดยออกแบบท่าฤๅษียาตราแทนการเดิน
และเราสามารถใช้ท่าทางของฤๅษียาตรา มาเดินอยู่ในห้องนอนได้ (ขออย่าขี้เกียจอย่างเดียว)

 

ฤๅษียาตรา

ยืนตรงแยกขาให้ห่างกันประมาณ ช่วงไหล่
กดซ่นเท้าไว้ให้นิ่ง หมุนปลายเท้าทั้งสองไปด้านข้างพอประมาณ(พอสบายๆ) แล้วย่อเข่าลง
ยืนลงน้ำหนักด้วยปลายเท้า แต่ไม่ยกซ่นเท้า ทิ้งน้ำหนักที่เท้าทั้งสองเท่าๆกัน
สองมือยกขึ้นอยู่ในท่าอุ้มลูกบอล(เหมือนจะสร้างลูกบอลพลังจิต)
ท่านี้เรียกท่าพัก (หายใจออกสุด)

เริ่มย้ายน้ำหนักตัว ไปเท้าขวา ขาซ้ายเหยียดตรง ขาขวายังงอเข่าอยู่
มือที่ประคองลูกบอลอยู่เคลื่อนตามไปด้านขวา ฝ่ามือขวาอยู่ล่างหงายมือ ฝ่ามือซ้ายอยู่บนควำมือลง บิดเอวไปด้านขวาเล็กน้อย
หายใจเข้าลึกแค่ลิ้นปี่ พร้อมยืดเข่าขวาขึ้น ยืดตัวขึ้น

หายใจออก ย่อเข่าทั้งสองลงกลับสู่ท่าพัก

เริ่มย้ายน้ำหนักตัว ไปเท้าซ้าย ขาขวาเหยียดตรง ขาซ้ายยังงอเข่าอยู่
มือที่ประคองลูกบอลอยู่เคลื่อนตามไปด้านซ้าย ฝ่ามือซ้ายอยู่ล่างหงายมือ ฝ่ามือขวาอยู่บนควำมือลง บิดเอวไปด้านซ้ายเล็กน้อย
หายใจเข้าลึกแค่ลิ้นปี่ พร้อมยืดเข่าซ้าย ยืดตัวขึ้น

หายใจออก ย่อเข่าทั้งสองลงกลับสู่ท่าพัก

ทำดังนี้สลับกันไปเรื่อยๆ ปรับท่าทางให้คล่อง ให้ลักษณะคล้ายการเดิน

แล้วทำการช็าตพลังดังนี้
ตอนอยู่ในท่าพัก หายใจออก จิตจับที่ฝีเย็บ
หายใจเข้าให้จิตเคลื่อนจากฝีเย็บไปกระหม่อม(จับความรู้สึกจาก 1,2,3,4,5,6,7 ให้ทันถึงการเคลื่อนที่ไป และให้ทะลุศีรษะขึ้นไปบนฟ้าด้วย)
หายใจออก กลับสู่ท่าพัก ให้เคลื่อนจิตจาก 7,6,5,4,3,2,1 จับควมรู้สึกให้ทันด้วย
ทำสลับกันไปมาทั้งซ้ายขวา

 

ตอนนี้อาการผมย้อนกลับไปติดที่จักกระ 6 อีกแล้วครับคุณโอม คือเมื่อ 2 วันก่อน ผมเห็น

ท่อระบายน้ำที่บ้านตัน เลยตัดสินใจลอกท่อด้วยตนเอง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เอาหน้าและจมูก

ก้มไปติดปากท่อ กลิ่นเหม็นที่รุนแรงทำให้ผมอาเจียนและสำลัก จมูกดมเข้าไปเต็ม ๆ

มีความรู้สึกตอนนั้นว่า สัตว์ที่ตายแล้วมากมาย ซากหมกเหม็นเน่า ที่หมักหมมในท่อ

ระบายน้ำ พอเราเอามือไปล้วงจับ สูดกลิ่นเข้าจมูก จะเป็นผลเสียมากต่อการทำงาน

ของจักกระและระบบต่าง ๆ ในร่างกาย แต่...ไม่เป็นไรครับ อิอิ สู้ สู้ สู้ว้อย!

 

วานนี้เดิน 2 รอบเพิ่มกลางคืนอีกรอบ รอบกลางวัน ขณะเดินเห็นเหมือนเส้นด้ายสีดำ รอยอยู่รอบๆหน้า และมีจุดๆเหมือนใข่ปลา วงกลมสีขาวจุดดำตรงกลาง สลับกัน แต่ปากไม่เกร็งแล้วค่ะ มารู้สึกแน่นๆตรงลิ้นปี่ กับรู้สึกคลื่นไส้ แต่ไม่อาเจียน 2วันแล้ว ระยะนี้ทำไมเพลียๆ อยากนอนลูกเดียว บริเวณบ่าด้านชิดกับต้นคอปวดหน่วงเหมือนเท้าคน มากด ทั้งสองบ่า เจ็บจนหันหน้ามองด้านข้างลำบาก วันนี้ก็ยังเป็นอยู่ รายงานจ๊ะ

 

สนใจค่ะ ขอบคุณอ.สุวิมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ยังงี้ต้องอาบ 3 รอบเลย ฮิฮิฮิ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ภาวนา และ อุทิศกุศล เมตตา เจรจาดีๆ อย่างพี่ สุทัศสี ก็ดีนะครับ


ทุกชีวิตทำกรรมมาต่อกันทั่งนั้น เรามีหน้าที่เพิ่มภูมิต้านทานในตัว

อย่าคิดไล่เค้าด้วยโทสะ

เจรจาต่อเจ้ากรรม นายเวร และสิ่งที่มาแฝง ให้ผ่อนปรน ออกไปจากตัวเรา อย่าเบียดเบียนกีดขวางทางโลก ทางธรรมต่อกันเลย


อาบต่อไปเรื่อยๆครับ และ แผ่เมตตา อุทิศกุศลเยอะๆ

 

ฯOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


เค้ายังพยายามกดการทำงานของระบบประสาทรับรู้ ส่วนกลาง อยู่

โดยกดการทำงานที่ลิ้นปี่ ไม่ให้เราหายใจได้สะดวก ( จักร4 )


คนที่เป็นมากๆ อาจหยุดหายใจตอนกลางคืนหรือไหลตายได้



อาการอยากนอน คือ กดจักร6 เพื่อให้สติอ่อน




ห่นักคอ บ่า ต้นคอ คือ กดระบบจักร 5


ดำๆ และไข่ปลา คือ ที่มันอยู่ในระบบจักร 6

ทำต่อไป และ แผ่เมตตา ภาวนามากๆ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


แค่นี้ ต้านการอาบน้ำแข็งไม่ได้หรอกครับ ไม่ยาก


;aa22

 

ที่ผ่านมาหลายโพส


จะเห็นว่า หลายคนที่คิดว่า ตนมีสัมผัสพิเศษ

ตนมีฤทธิ์ อำนาจ ฯลฯ


............ที่แท้ เพราะ สิ่งที่แฝงในกายทั้งนั้น

มหาเทพ และเทวดา จะเข้าไปอยู่ในตัวคนทำไม



เมื่อ สติสัมปชัญญะ ถูกกด

เมื่อ สมรรถภาพอันยิ่ง ของกายมนุษย์ถูกกด


เราจะตรัสรู้ธรรม ได้อย่างไร




........ภาพที่ดู เสียงที่ได้ยิน ฯลฯ

จงอย่าปักใจเชื่อ

จงอย่าพึ่งพิง พลังภายนอกมากเกินไป


จงอย่าลืมพุทธพจน์ " อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ "


ระวัง ....... การหนีเสือ ปะ จระเข้


หนี การครอบงำจากอีกที่ ไปโดน ครอบจากอีกที่

 

พลังจิตและความเป็นคน
http://palungjit.org/showthread.php?t=152087

ขอ และ ยืม พลัง จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เทวดา เทพ พรหมฯลฯ มาใช้ แต่...

http://palungjit.org/showthread.php?t=150079

การจัดฉาก ด้วยนิมิตร ทางจิต
http://palungjit.org/showthread.php?t=149417

 

ครั้งที่ 3 จะ post สำเร็จหรือปล่าวน้อ เว็บจะล่มอีก?
ว่าจะอาบน้ำแข็งหลายครั้งละ เมื่อเช้าได้ลองอาบดูตอนอาบขันที่1และ2 ลาดแล้วรู้สึกหัวหนักตึ๊บยาวตามกระดูกสันหลังลงไปถึงก้นกบเลย
แต่แปลกตั้งแต่ขันที่ 3 ไป ตรงหลังมันโล่งไปเลยไม่รู้สึกร้อนหรือเย็น มันเหมือนอาบน้ำธรรมดาเลยครับ แต่ความรู้สึกที่หน้าผากตึงหน่วงลงมาถึงปลายจมูก เป็นพื้นที่แบบสามเหลี่ยมปลายลงข้างล่างตั้งแต่ขันแรกยังอยู่ สงสัยจะเย็นไม่พอพรุ่งนี้ถ้าไม่ลืมอาบ จะลองเพิ่มน้ำแข็งดูครับ
พออาบเสร็จความรู้สึกในปากมันจะซ่าๆเหมือนตอนฝึกชี่กง ขณะที่เดินปราณด้วยครับ จับความรู้สึกในปากได้นานประมาณ ครึ่งชม.เห็นจะได้ พอหายจากตรงนี้มันย้ายไปอยู่บริเวณ จักระ3 ตรงกระดูกสันหลังแถวๆเหนือสะดือเป็นอยู่ซัก2-3 ชม.ครับ
ตอนที่พิมพ์อยู่รู้สึกมันเคลื่อนมาตึงหน่วงที่บริเวณด้านหลังตรงกับลิ้นปี่แล้วครับ แต่ตอนนี้รู้สึกทั้งหน้า+หลังเลย
ส่วนที่หน้าผากยังตึงเหมือนเดิม มันตึงมานานแล้ว แต่เบาๆ ไม่ร้อนเหมือนช่วงประมาณเดือน กย. ตอนนั้นร้อนเป็นอาทิตย์เลยครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับพี่โอม เผื่อผิดพลาดตรงไหน

 

วันพุธเมื่อวานอาบน้ำแล้วไม่ได้เดินในทันที
ต้องนั่งรถเมล์ไปหาซื้อต้นไม้ที่จตุจักรตอนนั่งในรถ145แอร์ก็เย็น
ถ้าเป็นแต่ก่อนคงหนาวกว่านี้
แต่วันนี้แปลกมีความร้อนที่รู้สึกได้ชัดเจนจากตรงสะดือกระจายไปทั่วร่าง
แล้วเมื่อวานตอนค่ำก็อาบอีกตอนสามทุ่ม
เพราะเพิ่งกินยาเขียวไปตอน5โมงเย็นก็เลยอาบน้ำตอนสามทุ่ม
ไม่หนาวแถมรู้สึกถึงความร้อนที่กระจายไปทั่วร่างแถมซ่าๆ
ออกกำลังกายในห้องแล้วก็ไปนอนแต่แปลกว่ามีอาการเป็นแผลในปากแล้วก็ร้อนในก็พยายามกินยาเขียวทุก4ช.ม.ช่วงนี้ไม่ได้โทรหาคุณโอมเพราะกว่าจะเสร็จก็ดึกเลยเกรงใจ

 

สงสัยว่าผิดวิธีอะไรหรือเปล่าทำไมร้อนในอีกแล้ว

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


จักรห้าสะอาดดี

ต้องขบฟัน ลิ้นแตะเพดาน แหงนหน้านิดนึง ตอนอาบนะ ให้กุณฑาลินี
พุ่งไปเคลียรจักร 6-7


ทำทุกวันติดกันเจ็ดวัน อย่าเว้น ไม่งั้นต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะ ถ้าเว้น

อัตราการขยายตัวของช่องทางพลังจะกลับเท่าเดิม

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

เคลียรจักรห้า รอบสอง อย่าตกใจครับ ดีแล้ว

 

ปลา


ที่ปวดตา และ ฐานศีรษะตอนนี้



อย่างกังวล ทำต่อไปเรื่อยๆ


เข้าใกล้ประตุคุกแล้ว เตรียมแหกคุก โดยสะสมกำลังให้ดี 555555555555555555555555555555555555

 

พี่SUTASSEE โทรหาผมด่วนนะครับ

 

ตอนนี้อาบครบ 7 วันแล้วครับ
ขณะที่อาบก็หน่วงๆปวดๆตรงหน้าผากและเลยหน้าผากขึ้นไปเล็กน้อย
อาการคัดจมูกเพลาๆลงแต่ยังไม่หายซะทีเดียว
การทำขนลุกก็แผ่ลงไปถึงขาช่วงล่างได้ครับ
1. อยากถามว่าควรจะอาบรอบเดียว/วันต่อไป
หรือควรจะเพิ่มเป็นสองรอบ/วันดีครับ
2. จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าพลังจะไปเคลียร์จักร 6,7 ครับ
หมายถึงว่ากี่วันกี่เดือนหรือกี่มากน้อยน่ะครับ
3. เมื่อาบครบ 7 วันแล้วควรจะหยุดกี่วันจึงจะเริ่มต้นอาบใหม่ครับ
4. น้ำแข็งที่นำมาอาบนั้นเมื่อละลายน้ำแล้วควรจะเย็นซักประมาณ
กี่องศาดีครับหรือว่าให้เย็นที่สุดเท่าที่จะเย็นได้
ถามแค่นี้ก่อนนะครับคิดอะไรออกเดี๋ยวมาถามใหม่
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

1ถ้าเพิ่มเป็นสองรอบ ได้ยิ่งดี

2แล้วแต่คนครับ บางคนอาบวันที่สาม ตาที่สามก็เปิดแล้ว

3ไม่ต้องหยุด ต่อเลยก็ได้

4ควรเย็นพอๆกับน้ำแข็งตอนแช่ใหม่ๆ

อย่ากลัว เพราะ เราวอร์มอัฟ ด้วยการอาบน้ำธรรมดาก่อนแล้วทุกครั้ง
และด้วยคุณสมบัติพิเศษของยาเขียว


โมทนา กับ ใจที่มุ่งมั่น เอาให้หลุดนะครับ

ดีต่อตนและ จิตที่มาเกี่ยวพัน จะได้สบายทั้งสองฝ่าย เราก็เปิดทางให้ตนเอง
เข้าหาธรรมได้สะดวกขึ้น