อุบาสิกาผู้มีพลังจิตมหัศจรรย์

หากมีเวลาสวดพระคาถาชินบัญชรก่อนแล้วต่อด้วย

อิติปิโสภะคะวา นะ ชาลีติ ฉิมพา จะ มหาเถโร​

สุวรรณะมามา โภชนะมามา วัตถุวัตถามามา


พลาพลังมามา โภคะมามา มหาลาโภ มามา

สัพเพ ชะนา พหู ชะนา ภวันตุเม

ขอนมัสการพระสีวลีเถรเจ้า ผู้เป็นเลิศในทางลาภสักการะ
พระองค์ทรงมีศักดาฤทธานุภาพ หาที่จะอุปมามิได้
พระมหาเถรสีวลี พระองค์เสด็จไปอยู่ยังสถานที่แห่งใดๆ
เทพยดาและมนุษย์
ย่อมมาบูชามิได้ขาดในสถานที่นั้นทุกแห่ง
ขอให้เดชะบารมี
พระสีวลีเถรเจ้า
จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าพเจ้าในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด



​

 

อนุโมทนาบุญกับคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
และทุกท่านที่โพสเป็นธรรมทานครับ..สา..ธุ...

 

ขออนุโมทนาสาธุ

พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ไว้เป็นจริงทุกประการ ข้าพเจ้าไม่สงสัยในการปฏิบัติ อภินิหารย์ ญานขั้นต่าง ๆ เพราะข้าพเจ้าได้เห็นและสัมผัสมาบ้าง หลวงพี่ข้าพเจ้าท่านก็ปฏิบัติจริงจนสามารถรู้วาระจิต ล่องหน และเคยตายมา 2 หน แล้ว แต่ท่านไม่ค่อยแสดงแบบเปิดเผยให้ข้าพเจ้าเห็น เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมาข้าพเจ้ากับแม่ไปทำบุญที่วัด ก่อนไปก็กำหนดจิตแจ้งหลวงพี่แล้ว ว่าจะไปพบท่าน พร้อมเคลือญาติทางไกลจาก จ.หนองคาย ข้าพเจ้าสงสัยไม่เห็นหลวงพี่มาบิณฑบาตร ก็เลยถามแม่ชีและผู้มาปฏิบัติธรรมว่าหลวงพี่อยู่ไหม แม่ชีก็ตอบว่าอยู่แต่ไม่เห็นมาฉันข้าว 5-6 วัน แล้ว ให้ข้าพเจ้าบอกโยมผู้ อุปฐากไปนิมนต์ท่านสิ ข้าพเจ้าเลยบอกแม่กับน้า แล้วแม่กับน้าข้าพเจ้าก็ไปที่กุฏิ หลวงพี่ไปเรียกตั้งนานก็ไม่มีเสียงตอบ แม่กับน้าก็กลับมาที่ศาลาโรงฉัน แล้วบอกให้โยมอุปฐากไปตามอีกที มองดูรองเท้าท่านที่กุฏิ ใบไม้ก็ทับทมมาหลายวันแล้ว หลังจากโยมอุปฐากไปตาม แม่ข้าพเจ้าก็กงวลใจ กลัวว่าหลวงพี่ท่านจะตายไปแล้ว แล้วจู่ ๆ ก็มองเห็นหลวงพี่นั่งอยู่ในศาลาโรงฉัน นั่งหน้าตาผ่องใสอยู่ และท่านก็ไม่พูดอะไรเลย ข้าพเจ้ากับแม่และน้า โยมอุปฐากถามพระลูกวัดก็ไม่มีใครเห็นท่านเดินเข้ามาทั้งที่พากันนั่งอยู่ตรงศาลาโรงฉัน ข้าพเจ้าว่าหลวงพี่ท่านคงจะให้ข้าพเจ้าเห็นฤทธิ์ ของอภิญญา ที่ท่านปฏิบัติมา ตั้ง 16 พรรษา เมื่อ 10 กว่าปีก่อนก็ทราบแต่ว่าท่านรู้วาระจิตรู้ว่าใครจะไปพบท่าน ข้าพเจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ บางครั้งก็อายท่านที่ความคิดไม่สำรวมระวังตัวเอง แม่ชีที่ท่านปฏิบัติเก่ง ๆ ที่บรรลุมรรคผลนิพพานฯแล้วในเมืองไทยก็มีแม่ชีแก้วอีกท่านนึง แต่ท่านได้จากไปแล้ว อดีตชาติท่านเคยเป็นภรรยาของหลวงตามหาบัว ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น การปฏิบัติไม่ยากถ้ามีบารมีเก่าสะสมมามากจากอดีตชาติ อย่างหลวงพี่ข้าพเจ้าท่านเคยบวชติดต่อกันมาถึง 10 ชาติ จนถึงชาติปัจุบันก็ได้ออกบวชตั้งแต่ยังหนุ่มเพราะบุญบารมีเก่า ข้าพเจ้าก็เคยปฏิบัติถือศีล 8 แต่ยังไปไม่ถึงไหนเลย แต่อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ทำให้กำลังใจเต็มร้อย ถ้าข้าพเจ้ามีปัญติดขัดตรงไหนข้าพเจ้าก็มีครูบาอาจารย์ให้คำแนะนำยังดีกว่าเป็นศิษย์ไม่มีครู อยากให้ทุกท่านมั่นใจได้ในผลของการปฏิบัติ ไม่ต้องลังเลสงสัย

 

คาถาพระสิวลีบทนี้ผิดไปนิดนึงครับตรงที่

นะชาลิติ ฉิมพาลี จะมหาเถโร


ถึงจะถูกต้องครับ คนโบราณเรียกนามพระสิวลีอีกอย่างว่า พระฉิมพลี ฉิมพาเฉยๆไม่มีครับ ผมเองก็นับถือคุณแม่บุญเรือนท่านมานานแล้วครับ ขออนุโมทนาทุกท่านด้วยครับ

 

เรื่องที่คุณ ปาริสัชชา นั้นบอกนั้นเป็นเรื่องจริงครับผมเชื่อว่าตอนนึ้ท่านคงเข้านิพพานไปแล้ว แต่ในสมัยก่อนที่หลวงปู่บุดดาอยู่วัดอาวุธ พอดีคุณอาที่รู้จักกันเป็นคนอุปถารย์หลวงปู่ มีอยู่วันหนึ่ง หลวงปู่บอกว่า "คุณแม่บุญเรือน เป็นศิษย์เราได้อภิญญา5หรือ6 (ผมไม่แน่ใจ) เป็นพระอนาคามี" แต่ผมคิดว่าท่านคงเข้านิพพานไปแล้วล่ะครับแต่ในยุคนึ้พระอริยะสาวิกาที่เป็นที่สุดของยุคนึ้และเป็นผู้ทรงอภิญญาและทรงภุมิธรรมทรงจิตผู้ตามตรงพลังจิตท่านเหนือกว่าครูบาอาจารย์บางองค์คือ "คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม " ปฏิปทาท่านหาใครเกินไม่ได้ และยังเป็นคนแรกที่สามารถนํา พริกไทย ต่างๆๆนา มาทําเป็นยาวิเศษที่เหนือกว่าแผนปัจจุบันหลายร้อยเท่า ท่านยังเป็นคนแรกที่ใช่ศิลาน้ำไว้ให้ลูกหลานได้บูชาและกล่าวไว้ว่า "กินเข้าไปเถิด ให้เนื้อเป็นทิพย์เมื่อใดก็ จะหมดโรค หมดภัย แม้แต่รังสีปรมาณูก็จะทําอันตรายไม่ได้" เป็นคนแรกๆๆที่พูดถึง การกันรังศีปรมาณู ผู้ที่กล่าวถึงว่าพระเครื่องทีค่อฐิธานหรือสิ่งที่อฐิธานและกันปรมาณู อาวุธชีวภาพ
มีไม่กี่องค์ ที่พอจําได้จะมี "คุณแม่บุญเรือน หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่ชื้น เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต " แต่ล่ะองค์ที่กล่าวมาเป็นผู้ที่มีภูมิธรรมสูงและเป็นผู้มีพลังจิตสูงมาก และเป็นพระอรหันต์ที่สุดแห่งยุคแทบทั้งสิ้น
แม้แต่พระพุทโธน้อย ของท่านสร้าง"จํานวนถึง 100000 องค์" สมัยก่อนนับวันสร้างจํานวนมาก แต่ก็หมดภายในพริบตา ด้วยบารมีคุณแม่ สมัยก่อนมีที่ไหน พระสร้างจํานวนมาก หมดเร็วขนาดนึ้ เพราะพระของท่านเป็นพระศักดิ์ศิษย์ "ไม่ใช่พระก็บ แต่เป็นพระใช่" พระท่านมีพุทธคุณสูงและยังเป็นพระที่มีอานุภาพมากเป็นที่ประจักษ์แก่ลูกศิษย์ลูกหาคุณแม่รวมไปถึงผู้ศรัทธา หลวงพ่อวิชัย เขมิโย กล่าวว่า "คุณแม่บุญเรือนเป็นแม่ชีอภิญญา" ความศักดิ์ศิษย์ขององค์ท่านแม้ท่านจะมรณภาพไปนาน แต่ความศักดิ์ศิษย์ก็ไม่เรือนหาย รูปหล่อที่วัดอาวุธ ก็ศักดิ์ศิษย์และเข้มขลังเปรียบประดุจคุณแม่มีชีวิตอยู่ จึงกล่าวได้ว่า "อริยะสาวิกาผู้มีฤทธิ์มากในกึ่งพุทธกาล"

 

ดันมาให้อ่าน อิอิ