ธรรมะรอบกองไฟ ( บับเว็บ )

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เด็กบ้านยางสีสุราช, 30 พฤศจิกายน 2004.

  1. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +48
    ธรรมะรอบกองไฟ อ่านได้ตาม link นี้นะครับ

    ธรรมะรอบกองไฟ


    (verygood) (verygood) (verygood) (verygood) (verygood)


    เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น สนใจพระพุทธศาสนา อ่านง่าย ม่วนซื่นโฮแซว
     
  2. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +48
    ธรรมะก็เหมือนกับกองไฟ
    ที่เมื่อเรานั่งใกล้พอ และเติมฟืนให้ สม่ำเสมอ
    มันก็จะให้ความสว่าง และความอบอุ่นแก่ชีวิต

    ถ้าเราไม่รู้จักกองไฟ
    เราก็จะอยู่ในความมืด และหนาวเหน็บ

    แต่ถ้าเรารู้จักกองไฟแบบผิดๆ
    เราก็อาจจะเอามือไปจับก้อนฟืนนั้นมากอดไว้ ให้โทษแก่ตัวเอง
    (smile) (deejai) (smile) (deejai) (smile) (deejai) (smile) (deejai) (smile) (deejai)
     
  3. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +2,010
    เยี่ยมๆๆๆ

    อนุโมทนาในธรรมทานความวิริยะอุตสาหะของคุณเด็กบ้านยางที่กรุณาพิมพ์คัดลอกค่ะ ชื่นใจ

    (kiss)

    ฉบับหนังสือกระเจียวก็มี ซื้อเหมามาเลย พอดีเขาขายถูกด้วยค่ะ เวลาเอาบริจาคจะดีมาก เด็กๆ จะอ่านง่าย เพราะหนังสือเล่มนี้
    คุณขวั_เพียง หทัย ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ภูมิใจกับนักเขียนท่านนี้มากค่ะ

    แม่กระเจียว ถืออ่านตลอดเลย ช่วงนี้
     
  4. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +48
    ตรงนี้ มีพูดถึงคุณเฉลิมชัย ( ศิลปิน ในดวงใจข้อยคนหนึ่ง ) ด้วย



    จึงได้นั่งนึกว่าจะทำอย่างไรหนอกับความโกรธของตัวเองเพราะโกรธแล้วก็เป็นทุกข์เหลือเกิน ทำให้มีเรื่องราวเกิดขึ้น และทำให้คู่กรณีของเราก็โกรธเป็นทุกข์ไปด้วยอีกคน ช่างไม่ดีจริง ๆ เลยความโกรธนี่


    คุณเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เขียนเล่าไว้ในหนังสือประวัติชีวิตของเขาเองว่า
     
  5. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +48

    ฮูยย์ อนุโมทนากับกระเจียวด้วย ที่ทำใ้ห้คุณแม่ของกระเจียวสนใจธรรมะได้ ( เอ๊ะ หรือแม่ของกระเจียวสนใจธรรมะมานานแล้ว )

    เด็กบ้านยางปฏิบัติไม่ค่อยถึงไหนอ่ะ พ่อกับแม่ก็เลยไม่ได้มาสนใจธรรมะตาม แต่ต้องเก่งกว่านี้ให้ได้ ท่านจะได้หันมาทางธรรมบ้าง (f) (f)
     
  6. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอเสริมอีก

    ที่เด็กบ้านยาง ตะลึงตึงตึง ก็คือ

    ศัพท์

    โลภ (b-lablin) (b-lablin) (b-lablin)


    โกรธ(b-angry) (b-angry) (b-angry)


    หลง(b-green) (b-green) (b-green)


    ที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิด ( รวมทั้งข้อยพร้อม พวมฮู้กะตอนพิมพ์นี่ล่ะ )


    โลภ โกรธ หลง
    ต่อไปจะต้องเล่าถึงเรื่องโอวาทปาติโมกข์ แต่ก่อนจะเล่าต้องแทรกเรื่องของศัพท์ 3 ตัวนี้ไว้เป็นตัวนำเรื่อง


    เวลาเราอ่านหนังสือธรรมะ คำที่เจอบ่อยก็คือ โลภ โกรธ หลง เพราะมันคือกิเลส ตัวที่ทำให้เราวุ่นวายกันทั้งชีวิตนั่นแหละ


    แต่ความหมายของมัน ต่างจากในภาษาไทยที่เราพูดกันอยู่บ้าง จึงอยากให้เข้าใจกันไว้เลา ๆ เวลาไปอ่านเจอ จะได้รู้ว่าท่าน หมายถึง โลภ โกรธ หลง ในบาลี


    เคยได้ยินคนพูดกันมากเลยว่า เรื่องโลภนั้นไม่โลภหรอก มีแต่โกรธ ยังโกรธอยู่มาก คนเราจะรู้สึกอย่างนี้กัน เพราะเราคิดว่าโลภคืออยากได้ของคนอื่น หรืออยากได้ข้าวของอะไรไม่หยุด เรียกว่า โลภมาก


    แต่คำว่า โลภหรือโลภะ นั้น ท่านหมายถึงความพอใจ อะไรในโลกนี้ที่ทำให้พอใจ จัดเข้าหมวดโลภทั้งนั้น ตอนเย็นเลิกงานกลับบ้านแล้วว่าง นั่งดูโทรทัศน์สบายใจ ดูโทรทัศน์ก็จัดเป็นโลภไปแล้ว เพราะทำให้เราเกิดความพอใจ เมื่อพอใจก็ติดอยู่ในโลก อยากจะเกิดมาสบายอย่างนี้อีก ได้ดูอะไรสนุก ๆ อย่างนี้อีก เป็นต้น


    ไปทอดกฐิน เอากลองฉิ่งฉับไว้ท้ายรถ ร้องเพลงกันไป ตั้งแต่กรุงเทพฯถึงอุดรธานี ก็ได้ทำบาปเรื่องโลภไปตลอดทาง


    พูดอย่างนี้แล้ว ชีวิตเหมือนจะอยู่ไม่ได้ อะไรวะ ! ดูโทรทัศน์ก็ไม่ได้ ร้องเพลงก็ไม่ได้ ตายดีกว่า ความจริงตายก็ไม่ดีกว่า เพราะต้องไปเกิดใหม่อีก โอ๊ย ! กลุ้ม
     
  7. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +48
    อันนี้ก็ไม่ต้องไปกลุ้มหรอก ก็ท่านสอนไว้ทุกระดับขั้น ตั้งแต่ต่ำสุดคือ ไม่โลภไปอยากได้ของคนอื่น แล้วชิงมา ค่อย ๆ สูงไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นสูงสุดคือ ไม่ยินดีพอใจในอะไร ใครทำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ไม่อย่างนั้น เราคงต้องตามเอายูบีซีไปถวายพระธุดงค์ที่ถ้ำบนยอดเขา


    ส่วนคำว่า โกรธหรือโทสะนั้น ในภาษาไทยว่าโกรธคือโมโหนั่นแหละ แต่ถ้าโทสะ ก็หมายถึง ใดๆในโลกที่ไม่พอใจ ท่านจัดไว้เป็นโทสะ


    เรื่องที่เราไม่ได้โมโห แต่เราไม่ชอบ รวมทั้งเรื่องเศร้าเสียใจ ร้องไห้ ในภาษาไทย ถ้าบอกว่าร้องไห้เป็นโกรธก็คงฟังดูตลก แต่ในบาลีท่านหมายถึงทุกอย่างในฝ่ายที่ไม่ยินดี จัดเข้าพวกเดียวกันในบาลีท่านหมายถึงทุกอย่างในฝ่ายที่ไม่ยินดี จัดเข้าพวกเดียวกันหมด เพราะฉะนั้น เสียใจร้องไห้ก็คือลูกน้องของกลุ่มไม่ยินดีด้วย


    ส่วนหลง ก็คือไม่รู้

    โมหะคือ หลงนี้ คือไม่รู้ มีความไม่รู้หลายแบบมาก ท่านพุทธทาสอธิบาย ยกตัวอย่างเป็นบางตัวไว้ดังนี้

    มานะ แปลว่า สำคั_ผิด คิดว่าเราเลวกว่าเขา เราดีกว่าเขา เราเสมอเขา แล้วทำให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆขึ้น เช่นเกิดปมด้อย ปมเขื่อง

    ทิฐิ ในที่นี้ หมายถึง ฝ่ายที่เป็นอกุศล คือ มีความเข้าใจผิดต่าง ๆ เข้าใจผิดในเรื่องไม่เที่ยงว่าเที่ยง เรื่องทุกข์ว่าเป็นสุข เข้าใจสิ่งไม่ใช่ตัวตนว่าตัวตน อย่างนี้ หรือเข้าใจผิดถือว่าตายแล้วเกิดแน่ หรือเข้าใจผิดว่าตายแล้วหมดกัน ไม่มีอะไรเหลือ คำว่าทิฐินี้ก็แปลว่าหลง เป็นโมหะเหมือนกัน


    สงสัย คือ ยังไม่รู้ สงสัยเรื่อยไป

    ความซึมเซาเหงอหงอย ไม่มีความกล้าหา_ร่าเริง อย่าเข้าใจว่า ความง่วงเหงา ซึมเซา เกียจคร้านนี้ ว่าไม่ใช่กิเลส ที่แท้เป็นกิเลสชนิดหนึ่งเต็มที่ของมันทีเดียว เป็นกิเลสประเภทโมหะ

    ความฟุ้งซ่าน สงบไม่ได้ ฟุ้งขึ้นตามอารมณ์เรื่อย

    ความไม่ละอายต่อบาป ไม่กลัวความชั่ว


    ตอนนี้คงเข้าใจความหมายของ โลภ โกรธ หลง กันแล้วในทำนองบาลี ต่อไปก็จะได้เข้าหลักธรรมที่ 2 คือ โอวาทปาติโมกข์


    (b-love2u) (b-love2u) (b-love2u) [b-wai] [b-wai] [b-wai] (b-love2u) (b-love2u) [b-wai] [b-wai]
     

แชร์หน้านี้

Loading...