หัวใจของพระพุทธศาสนา.... ความแตกต่างกับศาสนาอื่น ๆ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย มหาหินทร์, 4 ธันวาคม 2005.

  1. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    คุณ stefa อันเป็นที่รัก ของหลาย ๆ คน....
    โปรด ชำเลืองตา ไปดูที่ โพสแรก หน่อยนะครับ....

    ผมกล่าวไว้ชัดเจนแล้วว่า....
    หากมีชาวต่างชาติ ที่มีความสนใจที่จะศึกษา พระพุทธศาสนา....
    (ย่อมต้องอยากรู้ข้อดี ข้อเสีย ข้อเด่น ของพระพุทธศาสนา)

    เรื่องการโพส ผมก็เกรงว่า บางท่านอาจจะใช้คำพูดที่ล่วงเกินศาสนาอื่น ๆ
    จึงบอกว่า...."อย่างสร้างสรร เพื่อมวลมนุษยชาติ"

    ก็ไม่รู้ว่า คุณเป็นผู้ตรวจการกระทู้ แห่งชาติ หรือไงก็ไม่ทราบ....
    คอยแต่ที่จะค่อนแคะ ติติง คนอื่น
    (ความจริง ติ เพื่อ ก่อ ก็สร้างสรร น่าสรรเสริญดีอยู่....แต่ไม่ใช่ ติ เพื่อทำให้พังทลาย)

    หากไม่อยากศึกษา เพราะว่าคุณเก่งมากแล้ว....
    ก็โปรด อุเบกขา ไว้บ้าง ก็น่าที่จะดีกว่า ไหมครับ....
    (คนที่เขายังรู้น้อยกว่าคุณstefa ก็คงยังมีอีกมาก ที่อยากจะรู้ น่ะครับ)
     
  2. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    นี่ ๆ ๆ นี่ครับมาแล้ว....
    ที่ คุณ vichian ว่า....
    ส่วนหัวใจของศาสนาพุทธคือ....
    การดับกิเลสโดยไม่มีเชื้อ หรือ การพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง โดยอยู่เหนือบุญและบาป


    ขอโมทนายิ่ง....

    แต่ทว่า....
    จะทำอย่างไร ปฏิบัติอย่างไร ที่จะทำให้ชาวต่างชาติ(สมมติว่า คือ ผม)
    ได้เข้าใจได้ง่าย ๆ ละครับ....



     
  3. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ความจริง คำอธิบายในโพสที่ 3 ของคุณหมอAttawat_Rx
    ผมขอโมทนา และชื่นใจมากนะครับ....
    (bb-flower


    เพียงแต่ว่า ยังไม่มีคำอธิบายที่เป็นรูปธรรม....
    เพื่อให้เข้าถึงการปฏิบัติ อันเป็นหัวใจของ พระพุทธศาสนา.

    ผมก็เลยข้ามไป ฟังความคิดเห็นที่จะเป็นประโยชน์ จากทุกท่านก่อน....
    ซึ่งก็ได้อรรถ ได้ธรรม ที่ดี ๆ จากทุก ๆ ท่าน

    ก็ขอกราบโมทนาครับ....
    [b-wai]


    คุณ Attawat ลองย้อนไปดูโพสที่ 3 ซิครับ....

    หลักธรรมของสมเด็จพระประทีปแก้วสัมมาสัมพุทธองค์ กว้างขวาง ครอบคลุม ไว้ทั้งหมด
    ทุกอัธฌาศัย ทุกจริต ของผู้คน พระองค์ทรงตรัสสอนไว้อย่างละเอียดครบถ้วนแล้ว....

    แต่หากจะย่อลงมาแล้ว....
    หัวใจของพระพุทธศาสนา อยู่ตรงนั้นเองครับ(อยู่ในโพสที่ 3)

    ขออีกนิดเดียว....
    วิธีปฏิบัติ ที่จะเข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2005
  4. เติมบุญ

    เติมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +174
    ขออนุญาตคุยด้วยคนคิดว่าและเชื่อว่าจุดเด่นของศาสนาพุทธก็คือเราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง........แต่ข้อแม้คือต้องตามคำสอนของพระพุทธองค์.....อันดับแรกคืออยู่กับปัจจุบันรู้ว่าเรากำลังทำอะไร....คือใคร....และกำลังทำเพื่ออะไร....อย่าเสียเวลาหมกหมุ่นกับอดีตที่มีทั้งดีและไม่ดีและอย่ากังวลกับอนาคตที่มาไม่ถึง....ให้อภัยไม่ถือโกรธอาฆาตเพราะทำให้จิตไม่สงบ....ความทุกข์ก็มาถึง.....ดังนั้นศาสนาพุทธจึงเด่นถ้าเราทำได้ข้างต้น...เราก็พัฒนาจิตขึ้นมาอีกระดับ...คิดดี ทำดี พูดดี อย่าคาดหวังสิ่งตอบแทนแค่นี้ก็สุขแล้ว.... ไม่รู้จะตรงใจไหมแต่เราก็ใช้หลักนี้มาตลอด
     
  5. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    อืมม.....

    ทำอย่างไรดีหนอ .... เอาเป็นว่าก็คงต้องไล่เบี้ยกันในเรื่อง สังโยชน์ 10
    เอาง่าย ๆหน่อย พอฟังเข้าใจกันก็คงต้อง ตามลำดับที่
    1. ทาน
    2. ศีล
    3. สมาธิ
    4. ปัญญา

    โมทนาครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2005
  6. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    สาธุ เข้าทางตรง เลยครับ....
    แต่ว่า จะอธิบายในหัวข้อสรุป ว่าอย่างไรดีครับ....
     
  7. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    สาธุครับ ก็ถูกอยู่ดีแหละครับ....

    แต่ว่า....หัวใจของพระพุทธศาสนา นั้น....
    จะอยู่ในหัวข้อธรรม 4 ข้อ ที่พระองค์ไม่พึงประสงค์ จะให้สอบถามทั้งหมด....
    แต่ให้พวกเรามีความเคารพ....

    ครับ.
     
  8. pon_ccc

    pon_ccc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +94
    ผมก็รู้ไม่มากนะครับ แต่ขอยกคำสอนของหลวงปู่พุทธอิสระมา
    ท่านก็เคยถูกชาวต่างชาติถามมาคล้ายๆเช่นนี้ครับ ท่านก็ตอบง่ายๆ สั้นๆ ว่า
    (คือตอนนั้นคนอิสลามเขาถาม)
    ศาสนาอิสลาม เป้าหมายคือ การเคร่งครัดในขอปฎิบัติ การได้รับใช้พระเจ้า
    ศาสนาพุทธ มีหัวใจอยู่ที่ปัญญา จากนั้น ปัญญาก็จะนำไปสู่นิพพาน
     
  9. vichian

    vichian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    8,164
    ค่าพลัง:
    +41,920
    เรียนคุณ มหาหิน ที่นับถือ
    การอธิบายถึงหัวใจของศาสนาพุทธ ถึงการดับกิเลสโดยไม่มีเชื้อ หรือการพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงให้แก่ชาวต่างชาตินั้น เราต้องเอา อริยสัจสี่ อธิบายให้เขาเข้าใจเป็นลำดับขั้น โดยเน้นที่ตัวทุกข์ตัวเดียวให้ละเอียดเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นทุกข์ตรงไหนบ้าง ตั้งแต่เกิดยันตาย เป็นทุกข์ทั้งทางกายทั้งทางใจ แต่ที่ไม่ค่อยเห็นทุกข์ เพราะคนส่วนใหญ่ชินกับทุกข์ที่เกิดซ้ำซาก ตรงนี้ เราก็เอา ไตรลักษณ์ เข้ามาอธิบายเสริมเข้าไป ว่า
    ทุกสิ่งในโลกนี้ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเสื่อมไปในท่ามกลาง มีการสลายตัวไปในที่สุด ไม่มีอะไรคงทนถาวร แม้แต่โลก เพราะความหมายของคำว่า โลก แปลว่า มีอันต้องฉิบหายไป

    เมื่ออธิบายเรื่อง ทุกข์ แล้ว ก็ค่อยอธิบายถึง เหตุแห่งทุกข์ การดับทุกข์ และ วิธีการดับทุกข์ โดยละเอียดต่อไป

    มนุษย์ทุกผู้ทุกนามในโลกนี้ รักสุขชังทุกข์ ทั้งนั้น จึงควรเน้นให้เห็นทุกข์และวิธีดับทุกข์ให้มากเข้าไว้ เมื่อทุกข์น้อยลง ความสุขก็จะเข้ามาแทนที่มากขึ้น จนกว่าทุกข์จะสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง จึงเหลือไว้แต่เพียงความสุขล้วนๆ หรือที่พระท่านว่า เอกันตบรมสุข นั่นเอง

    เอาพอสังเขปเท่านี้ก่อนนะครับ คุณ มหาหิน อธิบายมากเดี๋ยวผิด จะเสียฟอร์มเปล่าๆ แต่ความจริงผมก็ไม่ได้มีฟงมีฟอร์มอะไรกะเขาทั้งนั้น เป็นคนความรู้น้อย(จบ ป.2 )ด้อยปัญญา บ้าๆบอๆไปวันวัน เพราะถือคติว่า ไม่ทุกข์เพราะทิ้ง ไม่ทิ้งก็ทุกข์

    สวัสดีที่ยังมีทุกข์
    จากคนที่ยังไม่เต็มบาท
     
  10. Nukool

    Nukool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,073
    หิริโอตตัปปะสัมปันนา สุกกะธัมมะสะมาหิตา
    สันโต สัปปุริสา โลเก เทวะธัมมาติ วุจจะเรฯ
     
  11. konnarak

    konnarak สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +10
    หัวใจของพระพุทธศาสนา

    อันนี้ขออ้างถึงพุทธโอวาทของพระมหาสมณะโคดม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราชาวพุทธเองครับ พระองค์ทรงตรัสไว้ ในวันที่ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ พุทธองค์ทรงตรัสเป็น ปาลีกถา ไว้ว่า

    สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสฺสลสฺสูปสมฺปทา
    สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ.

    ถอดความได้ว่า

    การไม่ทำบาปทั้งปวง การยังกุศลให้ถึงพร้อม (ทำแต่ความดี)
    การยังจิตใจให้บริสุทธิ์ นั่นเป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา และพระพุทธเจ้า
    ทั้งหลาย.

    นี่แหละครับของแท้ร้อยเปอร์เซ็น มีพุทธโอวาทยืนยัน จากพุทธโอฐเอง
     
  12. mirinda

    mirinda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +91
    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ (เว็ปนี้นะ เหมือนรู้เลยว่า เรากะลังมีปัญหาในเรื่องความเพียร เปิดมาทีไร จะต้องเจอเรื่องที่โดนใจทุกทีเลย)
     
  13. ดวงแก้ว

    ดวงแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +259
    แล้วท่านๆ ที่นับถือศาสนาพุทธทราบไหมว่า ศาสนาพุทธของเราทำไม
    ถึงแตกต่างจากศาสนาอื่นมาก....
    จากที่ตนเองได้ปฏิบัติมาส่วนหนึ่ง และจากการศึกษามาส่วนหนึ่ง
    พระพุทธเจ้าท่านสอนให้คนที่มีชีวิตอยู่
    "ปฏิบัติตนให้พ้นจากกองทุกข์"
    ที่เมื่อการเกิดแล้ว ไม่มีใครหนีพ้น นั่นคือ
    1.การเกิด
    2.การแก่
    3.การเจ็บ
    4.การตาย
    แม้พระพุทธเจ้าเอง ท่านก็เป็นตัวอย่างว่าท่านไม่ได้อยู่เหนือสิ่งเหล่านี้
    สิ่งที่เป็นธรรมชาติของโลกมนุษย์ แต่ธรรมะที่พระพุทธองค์ตรัสรู้
    และนำมาสั่งสอนนี่ซิ คือสิ่งที่อยู่เหนือโลก อยู่เหนือสรรพสิ่ง และอยู่
    เหนือสมมติใดๆ ที่ศาสนาอื่น ไม่มี นั่นคือ

    "การทำลายความรู้สึก"
    หลายๆท่านอาจเคยได้ยินเรื่องที่พระท่านพูดบ่อยว่า
    "อย่ายึดมั่น ถือมั่น" นี่แหละค่ะ คือการทำลายความ
    เป็นสมมติทั้งหลาย ไม่ยึดติดในสิ่งทั้งปวงแม้แต่ร่างกาย
    ก็มิใช่ของเรา เป็นเพียงธาตุ4
    คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาประชุมกัน หรือรวมเรียกว่าขันธ์ 5
    คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั่นเอง
    สิ่งที่กล่าวนี้เป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาเรา
    เป็นแก่นที่แท้จริง แต่กว่าเราๆท่านๆ จะเดินไปถึงที่สุด
    แห่งทางสายนั้น ก็คงต้องเริ่มต้น คล้ายๆกันคือ
    1.ทาน
    2.ศีล
    3.ภาวนา

    เพราะการที่เราให้ทาน เป็นการลดความตระหนี่เห็นแก่ตัว สร้าง
    ความมีเมตตา กรุณาต่อผู้อื่น ให้เกิดขึ้นในใจเรา เมื่อเรามีความ
    พร้อม มากขึ้น ก็หมั่นรักษาศีล เพื่อละบาป สร้างบุญ เป็นการ
    ชำระล้างความสกปรกทางกาย และทางใจเพราะศีล 5 นั้น ก็คือ
    1.ห้ามฆ่าสัตว์
    2.ห้ามลักทรัพย์
    3.ห้ามประพฤติผิดในกาม
    4.ห้ามพูดโกหก เพ้อเจ้อ
    5.ห้ามดื่มสุราเมรัยต่าง

    ศีลทั้ง 5 ข้อนี้เป็นแค่เบื้องต้น เพื่อให้เราเกิดความสงบทาง กาย
    วาจา ใจ เพราะ หากเราไม่ฆ่าสัตว์ แม้แต่มด หรือยุง ก็แสดงถึง
    ความมีเมตตาที่บังเกิดทางใจ หากเราไม่หยิบฉวยของผู้อื่น
    โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะไม่เกิดความเดือดร้อนตามมา ใจเรา
    ก็สบาย สำหรับการประพฤติผิดในกามนั้น สร้างความผิดให้
    เกิดทั้งกายและใจ เป็นการสร้างความทุกข์แก่เราและผู้อื่น
    อาจทำให้เกิดการพูดโกหก ตามมา หรือแม้แต่ผิดศีลข้ออื่นๆ
    ก็จะทำให้เกิดข้อนี้ได้หมด ซึ่งก็เป็นความผิดทางวาจา แต่ข้อ
    สุดท้ายนี้ เป็นข้อที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นตัวดับสติ ซึ่งก็คือ
    การดื่มสุราเมรัยทั้งหลายนั่นเอง เป็นตัวที่น่ากลัวมากๆ
    สาเหตุ ที่คนติดคุกติดตารางกัน หรือต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
    ท่านๆลองคิดดูว่า มีสาเหตุมาจาข้อนี้กันมากไหม๊


    หากเราสามารถปฏิบัติ ศีลทั้ง 5 ข้อได้บริสุทธิ์จริง สิ่งต่างๆ
    จะตามมาเอง แต่โดยส่วนมากคนเรามักคิดว่า นิดหน่อยๆ
    คงไม่เป็นไร แต่การทำผิดทีละนิด วันละน้อย มันก็สามารถ
    เพิ่มขึ้นมาได้ เหมือนกับการหยดเกลือลงในน้ำ หากน้ำเปรียบ
    เสมือนตัวบุญ เกลือเปรียบเสมือนตัวบาปอกุศลทั้งปวง หากเรา
    หมั่นเติมเกลือทุกวันๆ น้ำนั้นก็นับวันจะเค็มไปเรื่อยๆ


    ในความเป็นชาวพุทธ สิ่งที่กล่าวไปนั้น เราคงพอเข้าใจ
    ได้ไม่ยาก แต่หากอธิบายให้ผู้ที่ไม่เคยสัมผัส และต้องการ
    ให้เข้าใจ คงต้องอาศัยเวลา และการลองปฏิบัติ เพราะคำพูด
    เพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถทำให้ใครๆ เข้าใจได้ แต่การ
    ปฏิบัติและรู้ได้ด้วยตนเองต่างหาก เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่าน
    ยกย่อง และผู้ใดปฏิบัติ ก็ย่อมได้อานิสงส์ทันที
    อย่างน้อยที่สุดก็คือ ความสุข สงบทางใจ เนื่องด้วย เหตุและผล
    เมื่อผลดับ เหตุก็ดับ ในเมื่อเหตุไม่เกิดอีก ผลก็ย่อมไม่มี ฉันท์ใด
    ฉันท์นั้น ปลูกมะม่วง ย่อมได้ผลมะม่วง มิใช่ผลมะยม เป็นแน่แท้
    เพราะเหตุและผล มันเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน


    หากจะกล่าวเพิ่มเติมก็คงได้หลักอริยสัจ 4 คือ
    1.ทุกข์
    2.สมุทัย
    3.นิโรธ
    4.มรรค
    ซึ่งสรุปง่ายๆ ว่า คนเราเป็นทุกข์ เพราะความคิด หากเราหยุดการ
    ส่งจิต(ความคิด)ออกนอกกายได้บ่อยๆ การปฏิบัติ ก็จะบังเกิดผล
    มากขึ้น เพราะเราจะเริ่มมีสติอยู่กับตัวมากขึ้น และเป็นการปฏิบัติ
    แบบใช้จิตดูจิต ดูให้เห็นที่ตัวเรา ไม่ต้องไปช่วยคนอื่นดู เพราะต้อง
    ดูตัวเราให้รอดก่อน ให้เห็นถึงตัวที่ทำให้เราทุกข์ ซึ่งก็คงต้องใช้
    การฝึกอีกนั่นแหละค่ะ


    เพราะฉะนั้น คงต้องใช้หลัก เรื่อง เหตุ-ผล ความเมตตา กรุณา
    การระมัดระวังรักษา ทาง กาย วาจา ใจ และ และที่สำคัญ
    ฝึกจิตฝึกใจที่ตนไม่ให้เกิดความประมาท พลาดพลั้ง
    นั่นคือการมีสติ นั่นเอง

    ต้องขอกราบขอขมาพระรัตนตรัย และคุณครูบาอาจารย์
    หากข้าพเจ้าได้พลาดพลั้งสิ่งใด โดยมิได้เจตนา ทั้ง กาย
    วาจา ใจ ก็ดี ขอจงงดโทษทุกประการด้วยเทอญ
     
  14. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    stefa หมายความว่าไม่ควรจะใช้คำว่า

    "เหนือกว่าศาสนาอื่น"

    ส่วนคำว่า "หัวใจของศาสนาพุทธ" ก็ดีนี่นา
     
  15. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +5,790
    หัวใจพระพุทธศาสนาคืออริยมรรคมีองค์แปดคือทางดำเนินไปสู่การพ้นเวียนว่ายตายเกิด คือนิพพาน นิพพานคือกิเลสดับสูญแต่จิตอันบริสุทธิ์ไม่ได้ดับสูญ ที่ดับสูญคือกิเลสและขันธ์ห้า อันนำเราทุกคนมาเกิด การสอนให้ละอายต่อบาป ศาสนาอื่นก็ทำได้ สอนถึงสวรรค์ ศาสนาอื่นก็สอนได้ สอนให้มีสมาธิไปเกิดเป็นพรหม ศาสนาอื่นก็สอนได้ครับ แต่สอนให้เข้าถึงความหลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิดมีแต่ในศาสนาพุทธ
     
  16. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่พิสูจน์ได้ อย่างเช่น
    -คนจะล่วงทุกข์ได้ก็เพราะความเพียร
    -ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว
    อย่างวิชาคณิตศาสตร์เรื่องเซตน่ะ ผมว่าพุทธเจ้าของเราคิดได้ก่อนนะ
    เหตุผลก็คือพุทธเจ้ากล่าวว่า ทุกสิ่งในโลกล้วนมีแต่ความว่างเปล่า
    มันพ้องกับนิยามที่ว่า
    เซตว่างเป็นสับเซตของทุกเซตของคณิตศาสตร์นะ
    พุทธศาสตร์เราคิดได้ก่อนที่จะมีคณิตศาสตร์ซะอีก
    เป็นเพียงศาสนาเดียวในโลกที่เป็นวิทยาศาสตร์
    ไม่เชื่อในเรื่องของพระเจ้า
    เชื่อในการกระทำ ทำดี ดี ทำชั่ว ชั่ว
    หัวใจของพุทธศาสนาก็ทำจิตใจให้ผ่องใส
     
  17. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    พื้นฐานเบื้องต้นถึงกลางผมว่าศาสนาส่วนใหญ่มีความใกล้เคียงกันนะ คือรักดีเกลียดชั่วซึ่งมีรายระเอียดที่อาจแตกต่างกันไปในการทำความดีละชั่ว เช่นพุทธศาสนาสอนให้คนทำความดีที่ ทาน ศีล ภาวนา เป็นเบื้องต้น ก่อนที่จะไปขั้นกลาง ศีล สมธิ เพื่อให้เกิดขั้นปลาย คือขั้นปัญญาที่จะนำไปสู่การรู้ตามความเป็นจริงของสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ โดยเฉพาะพระพุทธเจ้าของเราเน้นเรื่องขันธ์ห้าเป็นอันดับหนึ่ง คำสอนทั้งหลายไม่พ้นเรื่องขันธ์ห้าคือให้รู้ว่าขันธ์ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา สุดท้ายจริงๆคือตัดขันธ์ห้าเพื่อมุ่งสู่พระนิพานแดนแห่งความหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวล
    ขอสรุปหัวใจพระพุทธศาสนาเป็นสองอย่าง
    ๑ หัวใจพระพุทธศาสนาสำหรับยังไม่ถึงขั้นหลุดพ้น
    ละความชั่ว
    ทำแต่ความดี
    ทำจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ
    ๒ หัวใจพระพุทธศาสนาขั้นสูงสุดจริงๆคือ
    ขันธ์ห้า นี่ละครับ ทำปัญญารู้แจ้งเรื่องขันธ์ห้าได้ตัดขันธ์ห้าได้ก็เข้าพระนิพานได้ และข้อนี้ละครับที่พุทธสาสนาแตกต่างจากศาสนาอื่นโดยสิ้นเชิงและเหนือกว่าศาสนาอื่น ที่ไปได้ถึงพระนิพาน ศาสนาอื่นไปได้แค่พรหม
    ผิดถูกประการใดขอภัยด้วยครับ

    มีปัญญาน้อยนิดมาขีดเขียน
    เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เป็นครูสอน
    รับทั้งชมตำหนิคำริรอน
    ถือว่าสอนข้าผู้น้อยด้อยปัญญา ครับผม
     
  18. เติมบุญ

    เติมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +174
    ขออนุญาตอธิบายข้อสรุปตามปัญญาอันน้อยนิดนะคะ...ศาสนาพุทธแตกต่างจากศาสนาอื่นก็คือพุทธศาสนาสอนให้มนุษย์หลุดพ้นด้วยตนเอง....คือต้องปฏิบัติเองจึงจะเกิดปัญญาแล้วจึงหลุดพ้น...คำสอนของพระศาสดาเป็นเสมือนแนวทางทางลัดให้เราเดินไปได้เร็วขึ้น....แต่ศาสนาอื่นๆยังต้องขอพรจากพระเจ้า...องค์ศาสดา...ทำอะไรก็กลัวพระเจ้าจะโกรธและลงโทษไม่ได้เกิดจากความตระหนักของตนเองอย่างแท้จริง.....ดังนั้นการหลุดพ้นจึงยังไม่เกิดเพราะยังต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวตลอดเวลา......ไม่รู้ตรงใจและเห็นด้วยหรือเปล่า....และหากว่ามีคำแนะนำเพิ่มช่วยแนะนำด้วยค่ะ.....ขอบคุณ
     
  19. Gi-ant

    Gi-ant สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +19
    สำหรับผมแล้วสิ่งที่ต่างจากศาสนาอื่นคือศาสนาพุทธนั้นสอนให้เชื่อในกฏแห่งกรรม การกระทำของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือไม่ดี ย่อมได้สิ่งนั้นตอบแทนเสมอจะเป็นอื่นไปไม่ได้ เชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด มีสุข มีทุกข์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากกิเลสทั้งปวง ที่ครอบงำจิตของมนุษย์ให้หลงมัวเมาอยู่ในวัฒจักรสงสาร
    ส่วนหัวใจของศาสนาพุทธนั้นสอนคนให้รู้จักทุกห์ เห็นทุกห์ การพิจารนาสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกห์ และหนทางแห่งการดับทุกห์ ซึ่งเกิดจากการลงมือปฏิบัติ พูดอย่างเดียว คิดอย่างเดียว ไม่สำเร็จ เพื่อดับกิเลสที่ครอบงำจิตอยู่ให้หมดไป เหลือแต่จิตที่บริสุทธิ์
     
  20. นายจตุพล

    นายจตุพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +177
    เป็นศาสนา เดียว ที่เป้นที่ พึ่งทาง ใจของผม


    ในวันที่ผมไม่เหลือ อะไร


    ใครละ จะสนใจผม


    มีแต่ ศาสนาเท่า นั้น


    ที่ให้ คำตอบแก่ตัวผมได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...