ในหลวง ทรงพระประชวร พระศออักเสบ-พระปรอทสูงเล็กน้อย

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร ระบุ ทรงมีพระอาการเจ็บภายในพระศอลงไปถึงหลอดพระกระยาหารส่วนต้น พระศอบริเวณด้านหลังช่องพระโอษฐ์อักเสบ มีพระปรอทสูงเล็กน้อย แต่ไม่พบเชื้อแบคทีเรียในพระโลหิตและพระเสมหะ

วันนี้ (5 ธ.ค.) สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร ดังนี้

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร ฉบับที่ 1

เมื่อค่ำวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการเจ็บภายในพระศอหรือ คอ ลงไปถึงหลอดพระกระยาหารส่วนต้น ทำให้ทรงเจ็บเวลาทรงกลืนพระกระยาหาร มีพระปรอท หรือ ไข้ สูงเล็กน้อย แพทย์ได้ถวายตรวจพระวรกายพบการอักเสบของพระศอบริเวณด้านหลังช่องพระโอษฐ์ และได้ถวายตรวจพระโลหิตและถวายพระโอสถรักษา

ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2551 หลังจากตื่นพระบรรทม มีพระอาการเจ็บพระศอมากขึ้น จนไม่ทรงสามารถเสวยพระกระยาหาร และพระโอสถ ได้ แพทย์จึงได้ถวายน้ำเกลือผสมน้ำตาลทดแทน ตลอดจนถวายพระโอสถปฏิชีวนะผ่านทางหลอดพระโลหิต มีพระปรอทลดลงในช่วงกลางวัน แต่ในตอนค่ำกลับมีพระปรอทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2551 พระปรอทลดลงในตอนเช้าและสูงขึ้นในตอนเย็น เสวยพระกระยาหารเหลวได้บ้างเล็กน้อย ผลการตรวจพระโลหิต เมื่อค่ำวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2551 บ่งว่ามีการอักเสบ ส่วนการเพาะเชื้อในพระโลหิต และพระเสมหะ ได้รับรายงานผลการตรวจในวันนี้ว่าไม่พบเชื้อแบคทีเรีย

จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา ผู้จัดการออนไลน์</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]

"ในหลวง"ทรงมีไข้ "เสวย"ได้ สำนักพระราชวังแถลง

"พระศอ"อักเสบ ตรวจพระโลหิต ไม่พบว่าติดเชื้อ จุดเทียนถวาย ให้หายประชวร



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ทรงพระเจริญ - พสกนิกรชาวไทยต่างพร้อมใจกันจุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมร่วมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง เมื่อเวลา 19.29 น. วันที่ 5 ธ.ค.</TD></TR></TBODY></TABLE>สำนักพระราชวังแถลง การณ์ "ในหลวง" ทรงพระประชวร ระบุหลังจากตื่นพระบรรทมมีพระอาการเจ็บพระศอ จนไม่ทรงสามารถเสวยพระกระยาหาร และพระโอสถได้ แพทย์จึงถวายน้ำเกลือและน้ำตาลทดแทน ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ ผ่านทางหลอดพระโลหิต ต่อมาวันที่ 5 ธ.ค. พระปรอท (ไข้) ลดลงในตอนเช้า สูงขึ้นในตอนเย็น เสวยพระกระยาหารเหลวได้บ้างเล็กน้อย ส่วนผลการตรวจพระโลหิต บ่งว่าอักเสบ ขณะที่การเพาะเชื้อในพระโลหิต และพระเสมหะ ไม่พบเชื้อและแบคทีเรีย พสกนิกรทั่วประเทศ น้อมใจถวายพระพร ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวร ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ที่ท้องสนามหลวงมีประชาชนเนืองแน่น ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช จุดพลุดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ตระการตา

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร ฉบับที่ 1 ความว่า เมื่อค่ำวันพุธที่ 3 ธ.ค.2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการเจ็บภายในพระศอลงไปถึงหลอดพระกระยาหารส่วนต้น ทำให้ทรงเจ็บเวลาทรงกลืนพระกระยาหาร มีพระปรอท (ไข้) สูงเล็กน้อย แพทย์ได้ถวายตรวจพระวรกาย พบการอักเสบของพระศอ บริเวณด้านหลังช่องพระ โอษฐ์ และได้ถวายตรวจพระโลหิต และถวายพระโอสถรักษา

ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 4 ธ.ค. หลังจากตื่นพระบรรทม มีพระอาการเจ็บพระศอมากขึ้น จนไม่ทรงสามารถเสวยพระกระยาหาร และพระโอสถได้ แพทย์จึงได้ถวายน้ำเกลือและน้ำตาลทดแทน ตลอดจนถวายพระโอสถปฏิชีวนะผ่านทางหลอดพระโลหิต มีพระปรอทลดลงในช่วงกลางวัน แต่ในตอนค่ำกลับมีพระปรอทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย วันศุกร์ที่ 5 ธ.ค. พระปรอทลดลงในตอนเช้า และสูงขึ้นในตอนเย็น เสวยพระกระยา หารเหลวได้บ้างเล็กน้อย ผลการตรวจพระโลหิต เมื่อค่ำวันพุธที่ 3 ธ.ค. บ่งว่ามีอาการอักเสบ ส่วนการเพาะเชื้อในพระโลหิต และพระเสมหะ ได้รับรายงานผลการตรวจในวันนี้ว่า ไม่พบเชื้อและแบคทีเรีย จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. ที่ห้องแดง ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง นาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยภริยา และคณะรัฐมนตรี ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม และในช่วงค่ำวันนี้ เป็นประธานกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระ เกียรติ และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ สำนักพระราช วังเปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดยเปิดให้ลงนามถวายพระพรตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยผู้ที่มาลงนามถวายพระพรจะได้รับหนังสือ "พระราชดำริสู่ชีวิตและธรรมชาติ" และ ส.ค.ส.ภาพสถานที่สำคัญเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า โดยบรรยา กาศตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนทุกหมู่เหล่าทยอยเดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
วันพ่อ - พสกนิกรชาวไทยจุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมร่วมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 19.29 น. วันที่ 5 ธ.ค.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ต่อมาในช่วงบ่าย มีประชาชนจำนวนมากจับ จองพื้นที่ตลอดแนวถนนราชดำเนินใน และฟุตปาธ โดยรอบท้องสนามหลวง เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่จะเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ มายังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในการพระราชพิธีเฉลิมพระ ชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ในเวลา 17.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นตลอดแนวถนนราชดำเนินใน ขณะที่บริเวณท้องสนามหลวงมีการจัดเตรียมสถานที่ สำหรับพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ จุดเทียนชัยถวายพระพรในเวลา 19.29 น. ทั้งนี้มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ได้เตรียมเทียนที่ผ่านพิธีมังคลาภิเษกแล้ว จำนวน 2,000,000 เล่ม ไว้สำหรับให้กับผู้เข้าร่วมพิธี ก่อนจุดพลุและดอกไม้ไฟเฉลิมฉลอง

กระทั่งเวลา 19.29 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนำเหล่าข้าราช การ ทหาร ตำรวจ ตัวแทนชาวต่างประเทศ และประชาชน ที่เดินทางมาร่วมชุมนุมกันแน่นมณฑล พิธีท้องสนามหลวง เพื่อร่วมในพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2551

โดยนายชวรัตน์ทำพิธีจุดเทียนชัยมหามงคล ที่ตั้งอยู่บนบายศรีรัตนมหามงคล พร้อมกับนำประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลก กล่าวคำถวายพระพร และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา พร้อมกันนี้ยังเปล่งเสียงถวายพระ พรทรงพระเจริญ ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณพิธี ก่อนที่จะจุดพลุเฉลิมฉลองสวยงามสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า โดยถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรไปทั่วประเทศ และอีก 177 ประเทศทั่วโลกด้วย

สำหรับในจังหวัดต่างๆ นั้น ต่างก็จัดสถานที่ลงนามถวายพระพร และจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลด้วยเช่นกัน โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผวจ.นราธิวาส นำข้าราชการ หัวหน้าส่วน องค์กรเอกชน และประชาชน พร้อมใจสวมเสื้อสีเหลืองร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร 82 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีประชาชนเดินทางมาร่วมกันอย่างเนืองแน่น

เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามจ.ปัตตานี นำทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนที่เป็นมุสลิม รวมทั้งประชาชนทั่วไป ร่วมถวายพระพร พร้อมทั้งละหมาด และสวดดูอา หรือสวดขอพรตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน

ขณะเดียวกัน ที่มัสยิดกลาง อ.เบตง จ.ยะลา นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง พร้อมด้วยผู้นำศาสนาอิสลาม ทั้ง โต๊ะอิหม่าม คอเต็บ และบิหลั่น รวมทั้งชาวไทยมุสลิม กว่า 500 คน ร่วมประกอบพิธีละหมาดขอพรถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอให้เกิดสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่สำนักงานเทศบาลเมืองระนอง นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.ระนอง พร้อมด้วยผู้พิพากษาหัวหน้าศาล หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า กว่า 3,000 คน ใส่เสื้อเหลืองร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณร 82 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวัน 5 ธันวามหาราช จากนั้นจัดให้มีพิธีลงนามถวายพระพรต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ด้าน จ.ขอนแก่น ที่ศาลหลักเมือง นายมานิต วัฒนเสน ผวจ.ขอนแก่น นำข้าราชการ และประชาชน ร่วมกันทำบุญตักบาตร และต่อมานายมานิต เป็นประธานเปิดโครงการปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติวันพ่อ ใจเดียวกัน ปั่นเพื่อพ่อ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยผู้เข้าร่วมพิธีต่างตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวร ก่อนต่อด้วยพิธีถวายพระพรชัยมงคล และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน

ขณะที่ จ.หนองคาย พ.ต.อ.ธีระพงศ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จัดโครงการจับแต่ไม่ปรับ ว่ากล่าวตักเตือน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเจ้าหน้าที่กวดขันวินัยจราจรกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ทุกชนิด ที่ใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าว ตรวจใบอนุญาตขับขี่ การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งรถยนต์ต้องสงสัยดัดแปลงสภาพ ซึ่งโดยปกติแล้วหากพบผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร เจ้าหน้าที่จะเปรียบเทียบปรับจนถึงยึดรถไว้ตรวจสอบ แต่ในครั้งนี้เมื่อพบผู้กระทำความผิดกฎหมายจราจร จะลงบันทึกไว้ แล้วว่ากล่าวตักเตือน ไม่เปรียบเทียบปรับ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

ที่บริเวณหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.กาฬสินธุ์ นายเดชา ตันติยวรงค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชา ชน ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 82 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมทั้งยังร่วมกันยืนสงบนิ่ง ตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลา นามัยสมบูรณ์แข็งแรง และหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และยังร่วมกันลงนามถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

เวลา 06.30 น. ที่หน้าที่ว่าการ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน กว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร โดยมี พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ เดินทางมาร่วมพิธีด้วย และประพรมน้ำมนต์ให้แก่ผู้มาร่วมพิธี จากนั้นหลวงพ่อคูณ กล่าวถวายพระพรเป็นภาษาบาลี แปลความได้ว่า ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จงทรงพระเจริญ และขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว เพื่อเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงพสกนิกรชาวไทย ยั่งยืนยาวนานตลอดกาลสืบไป

ด้าน จ.พิษณุโลก นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผวจ.พิษณุโลก พร้อมด้วยข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พ่อค้า ประชาชน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 82 รูป ที่หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนที่ท่าแม่น้ำน่าน ตั้งแต่หน้าโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี ไปจนถึงสำนักงานสาธารณสุขพิษณุโลก มีการจัดงานเนื่องในวโรกาส 5 ธันวามหาราช โดยนายยงยศ เมฆอรุณ รองผวจ.พิษณุโลก เป็นประธานเปิดงาน และปล่อยปลาจำนวน 1,000,000 ตัว และตั้งโรงทานอาหารมังสวิรัติแจกจ่ายให้แก่ผู้มาร่วมงานตลอดทั้งวัน

ที่สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวา รู้รักสามัคคี ทำดีเพื่อพ่อ โดยมีขบวนแห่เฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งช้างแสนรู้กว่า 20 เชือก จัดเป็นขบวนพาเหรดอย่างสวยงาม และช้างแสนรู้ ยังร่วมถวายพระพร โดยนำพวงมาลัยดอกไม้สดหมอบคลาน และวางถวายต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาร่วมงาน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา นายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นำข้าราชการ และประชาชน ใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ 82 รูป แล้วร่วมลงนามถวายพระพร ส่วนที่หน้าสำนักงานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรี นำประชาชนใส่บาตรสามเณร ที่บรรพชาเฉลิม พระเกียรติ วันเฉลิมพระชนมพรรษา จำนวน 119 รูป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อีกทั้งตลอดทั้งวันมีประชาชนส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว จากทั่วสารทิศเดินทางไปไหว้พระ 9 วัด เพื่อขอพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวร ไม่ว่าเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดหน้าพระเมรุ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร วัดท่าการ้อง ทำให้การจราจรติดขัดตั้งแต่ปากทางเข้าตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา และในช่วงเย็นมีพิธีถวายพานพุ่ม และจุดเทียนชัย และพลุถวายพระพร ที่หน้าศาลากลางหลังเก่า และหน้าสำนักงานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHhNaTB3Tmc9PQ==
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน

 

ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

 

ขอให้พระองค์มีอายุยืนยาวและสุขภาพที่แข็งแรง

 

ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรเร็วๆนะครับ
ผมรักในหลวง

 

ขอให้พระองค์ทรงหายจากประชวรไวไว

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ครับ

 

ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ "ซุ้มประตู" มณฑปจตุรมุข ศูนย์พุทธศรัทธา พร้อมกองบุญพิเศษ 12 กอง กับชมรมโมทนาบุญ คลิกที่นี่

ขอเชิญร่วมสาธยายพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติฯในหลวง 2 ธ.ค.51 - 20 ก.พ.52 ที่วัดใหม่ยายแป้นคลิกที่นี่

ร่วมฉลองความสำเร็จโครงการกฐินแสนกอง ปี 2551 ของเว็บพลังจิตดอทคอม คลิกที่นี่

ขอเชิญเพื่อนๆทุกท่าน สมัครเป็นสมาชิก "ชมรมโมทนาบุญ" ครับ คลิกที่นี่

 

ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน _//\\_

 

ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน
ทรงพระเจริญ

 

ขอพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรด้วยเทอญ...

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...

 

ทรงพระเจริญ

 

อิทัง มหาราชะ ภูมิพะลัสสะ สะราชินียา โหตุ สุขิโต โหตุ อะโรโค โหตุ ทีฆายุโก โหตุ มหาราชะ ภูมิพะโล สะราชินี

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลมหาราช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จงทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพยาธิแผ้วพาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ชั่วนิรันดร์เทอญ

 

อิทัง มหาราชะ ภูมิพะลัสสะ สะราชินียา โหตุ สุขิโต โหตุ อะโรโค โหตุ ทีฆายุโก โหตุ มหาราชะ ภูมิพะโล สะราชินีขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลมหาราช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จงทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพยาธิแผ้วพาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ชั่วนิรันดร์เทอญ

 

(http://www.oknation.net/blog/print.php?id=169065)

ขอจงทรงพระเจริญ อยู่ยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป

 

สาธุๆ

ขอพระองค์ ทรงหายอาการพระประชวร ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

เราขอทำดีเพื่อพ่อ เดินตามรอยเท้าพ่อเสมอ ตลอดไป...........
ขออนุโมทนาครับ

 

แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่2 ระบุ พระอาการประชวร “ในหลวง” ทั่วไปดีขึ้น พระปรอทต่ำกว่าเมื่อวาน ไม่พบการอักเสบของพระปัปผาสะ และพระหทัยปกติ ไม่พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เสวยพระกระยาหารเหลวได้มากขึ้น แพทย์ถวายน้ำเกลือผสมน้ำตาลทดแทนน้อยลง

วันนี้( 6 ธ.ค.) สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร ฉบับที่2 ความว่า

“คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายงานพระอาการประชวรว่า พระอาการโดยทั่วไปดีขึ้น มีพระปรอท (ไข้) ต่ำกว่าเมื่อวานนี้ ทรงพระกรรสะ (ไอ) เล็กน้อย ผลการตรวจเอกซเรย์พระอุระไม่พบการอักเสบของพระปัปผาสะ (ปอด) และพระหทัย (หัวใจ) ปกติ

ผลการตรวจพระเสมหะโดยกล้องจุลทรรศน์ซ้ำในวันนี้ไม่พบเชื้อแบคทีเรีย ผลการตรวจดีเอ็นเอของไวรัสไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่ (Influenza A and B) และกำลังตรวจสอบเพื่อหาเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ ต่อไป

นอกจากนั้นยังเสวยพระกระยาหารเหลวได้มากขึ้น คณะแพทย์จึงได้ถวายน้ำเกลือผสมน้ำตาลทดแทนน้อยลง

จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
6 ธันวาคม 2551




ทรงพระเจริญ


http://palungjit.org/showthread.php?t=148528&page=66

 

คำอาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
สัพพะ ทุกขะ วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปิตติสิทธิยา
สัพพะ ภะยะ วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
สัพพะ โรค วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

คำแปลบทอาราธนาพระปริตรว่า<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O> </O>

 

<TABLE height="100%" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พระราชพิธี ๑๒ เดือน
โดย จุลลดา ภักดีภูมินทร์


</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom>ฉบับที่ 2504 ปีที่ 48 ประจำวัน อังคาร ที่ 15 ตุลาคม 2545</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="10%" height=20></TD><TD vAlign=top width="90%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top height=135></TD><TD vAlign=top>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif] พระราชพิธีทั้ง ๑๒ เดือนนี้ เมื่อถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระราชพิธีบางเดือนก็ยกเลิกไป ในจำนวนพระราชพิธีที่คงอยู่หนึ่งในจำนวนนั้น คือพระราชพิธีเดือน ๔ ที่เรียกว่าพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ อันเป็นการพิธีสำหรับให้เป็นสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง มีการประกาศเทวดา ยิงปืนอาฏานา (หรืออัฏนา) ขับไล่ผีสาง พระราชทานแจกมงคลพิสมรกระบองเพชร เป็นเครื่องกันผี และนิมนต์พระสงฆ์สวดพระปริตร<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O> </O>
<TABLE width="20%" align=right border=0><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR><TR><TD width="100%">พระราชพิธีสัมพัจฉรฉิมท์ พ.ศ.๒๔๔๐ โสกันต์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และเกศากันต์หม่อมเจ้า ๑๗ องค์ (ในภาพสมเด็จฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงเครื่องก่อนโสกันต์)</TD></TR></TBODY></TABLE>เนื่องจากเป็นพระราชพิธีมงคล ขับไล่สิ่งอวมงคลในพระนคร จึงมักนิยมโสกันต์ (โกนจุกเจ้าฟ้าและพระองค์เจ้า) เกศากันต์ (โกนจุกหม่อมเจ้า) และโกนจุกทั่วๆ ไป ในระหว่างพระราชพิธีนี้<O> </O>
สวดพระปริตร นั้น ผู้แก่วัดส่วนมากคงจะรู้จักกันดีอยู่ ว่าเป็นบทสวดเพื่อป้องกันความวิบัติต่างๆ<O> </O>
ก่อนสวดมีการอาราธนา ซึ่งมีผู้แปลจากภาษาบาลี แจ้งถึงประโยชน์ในการสวดพระปริตร เห็นว่าน่าจะนำมาลงสำหรับผู้ที่ไม่ทราบว่า สวดพระปริตรคืออะไร เพื่ออะไร<O> </O>
คำแปลบทอาราธนาพระปริตรว่า<O> </O>