พบชายผู้มีองค์ใน สามารถดูกรรม และอดีตชาติให้คนอื่นได้

แม้แต่ซัน บางครั้งก็มองไม่เห็นกรรมคนอื่นครับ
จำได้ว่า วันนั้น ซันดูกรรมให้คนที่มาขอให้ดูให้
เยอะมากและซันดูได้ทุกคน
แต่มีคนหนึ่งเป็นผู้ชาย ซันดูให้เขาไม่ได้

ซันบอกว่า "ผมไม่เห็นอะไรเลย"

ซันเขาก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน ว่าทำไมไม่เห็น
แต่กับคนอื่นในวันนั้นดูให้ได้หมด

 

คุณโน๊ต กับอ.จตุพร เป็นคนเดียวกันหรีอไม่
ถ้าใช่ เวลาไปให้ดู ต้องเสียค่าครูหรือไม่อย่างไร รบกวนตอบด่วน งง งง มาก ครับ

 

ผมขอวิเคราะห์ศาสตร์เร้นลับ 2 ศาสาตร์ที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อของคน
นั่นคือ การดูกรรมด้วยญาณ และ การดูกรรมจากหมอดู

ทั้งญาณและหมอดู หรือ โหราศาสตร์ ต่างก็เป็นที่พึ่งทางใจของผู้มีทุกข์ที่ยังไม่อาจ
พึ่งพาจิตใจตัวเองได้

ในฐานะที่ผมก็เป็นหมอดูด้วยคนหนึ่ง แต่ไม่ไช่เป็นอาชีพหลัก
แต่เพราะว่าสัญญาเก่าที่ผมเคยศึกษาทางหมอดูมาแต่ในอดีตชาติ สั่งสมในดวงจิต
จึงคุ้นเคยกับการดูดวงมาตั้งแต่เด็ก

ขอเปรียบเทียบระหว่างผมกับ อ.จตุพร
ผมเหมือนเป็นตัวแทนของหมอดู
ส่วน อ.จตุพรเป็นตัวแทนของผู้มีญาณ

ในทางโลกของผม กับ อ. มีความคล้ายกันในหลายอย่างโดย
เฉพาะในหน้าที่การงาน

อ.เป็นดีไซเนอร์ ส่วนผมเป็น Creative ด้านวงการบันเทิง
ซึ่งเป็นงานที่ต้องการใช้การสร้างสรรค์ เหมือนกัน

ทั้ง ผม และ อ. รักในงานที่ทำเหมือนกัน

และการที่มีองค์ในของ อ.
อ. เคยบอกผมว่า อ. ไม่อยากจะมาเป็นแบบนี้
ตอนแรกครั้งที่องค์พระพิฆเณศมาหา อ. เพื่อให้ อ .ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการช่วยคน
อ.ต่อต้านมาก และไม่ยอมรับหน้าที่นี้ เพราะ อ. อยากทำงานในสิ่งที่รัก
คือการเป็นดีไซเนอร์

แต่ในที่สุดก็ต้องดำเนินทางเดินนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ อ.
ได้เลือกและตั้งใจไว้แล้วในอดีตชาติที่จะมาทำหน้าที่นี้ ในชาตินี้
เพียงแต่ในชาตินี้ อาจยังไม่คุ้นเคยในตอนแรก
สุดท้าย อ. ก็เลิกอาชีพที่ตัวเองรัก และหันมาทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณอย่างเต็มตัว

ผมก็เหมือนกัน ไม่อยากเป็นหมอดูเลย เพราะการเป็นหมอดูต้องมาฟังทุกข์ของคนอื่น
งานที่ผมทำเป็น Creative สร้างความบันเทิง สร้างรอยยิ้มให้กับคน มีแต่ความสนุกสนาน
แต่การเป็นหมอดูตรงกันข้าม ต้องมาฟังทุกข์คนอื่น และตนเองก็ทุกข์ใจไปด้วย
แถมยังเสี่ยงต่อการประสบสิ่งร้ายๆตามมา ทั้งจากเจ้ากรรมนายเวร
ของคนที่ไปช่วยดูดวงให้เขา ทั้งต่อการไปเปิดดูกรรมคนอื่น เหมือนไปเปิดความลับสวรรค์
และเสียงต่อบาปกรรมที่อาจทำนายผิดพลาดได้ หรือ ทำให้คนทีมาดูดวง
ตัดสินใจผิดๆ จากคำพูดของหมอดู

แต่ผมก็หมือนฝืนตัวเองไม่ได้เพราะความคุ้นเคยกับหมอดูมา
ใจจะคอยคิดถึงแต่การจะดูดวง

แต่ที่ผมสามารถดูดวงได้ทุกวันนี้เพราะสามารถใช้หลักธรรมะที่ศึกษามา ชี้ทางชีวิตให้คนอื่นได้
เหมือนกับ ทุกข์ที่เจือด้วยสุขอยู่ลึกๆ

แต่ผมต่างจาก อ. จตุพรตรงที่ไม่ได้เลิกอาชีพที่ผมรัก
ก็ยังเดินทางความฝีนของผมอยู่ เพราะการเป็นหมอดูของผม
ต่างกับการเป็นสื่อองค์เทพของ อ.

อ. มาเกิดชาตินี้เพราะได้ถูกเลือกให้มาทำหน้าที่นี้
แต่ผมไม่ได้เลือกเกิดเพื่อเป็นหมอดู แต่การเป็นหมอดูเกิดจาก
การคุ้นเคยจากสํญญาเก่าจากอดีตชาติ ซึ่งถ้าหากจะหักใจเลิกจริงๆก็ได้
เปรียบเหมือนทางแยกย่อย ในถนนสายหลัก

ขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิชาหมอดูว่า

วิชาหมอดูหรือโหราศาสตร์ เป็นหลักทางสถิติ ที่เกิดจากการสังเกตุสิ่งแวดล้อม
รอบตัวอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์หรือ เครื่องกำหนด
เพื่อจะล่วงรู้ความเป็นไปของชีวิตคน
และการสังเกตุนี้ได้กระทำซ้ำๆ มาจนได้ข้อมูลที่แม่นยำในระดับหนึ่ง
จึงตั้งเป็นทฤษฎีและหลักการขึ้นมา

เช่น การดูดวง ส่วนใหญ๋ใช้วัน เดือน ปี และเวลาเกิดของคนนั้น เป็นจุดอ้างอิงหรือ
เครื่องกำหนด
คนโบราณจะเฝ้าสังเกตุคนที่เกิดในวัน เวลานั้นๆ ถึงความเป็นไปของชีวิตคนนั้น
และเมื่อมีคนที่เกิดในวันเวลานั้นอีกก็สังเกตุพฤติกรรมคนนั้นอีก
แล้วหาความเหมือนกันของชีวิตคนเหล่านั้นจากสิ่งที่ได้ประสบในชีวิต
แล้วมาสรุปเป็นหลักวิชาดูดวง

เช่น นาย ก เป็นคนที่เกิดเดือน มีนาคม
มักชอบจินตนการเพ้อฝัน ชอบท่องเที่ยว และ ชอบอ่านหนังสือ

นาย ข ก็เกิดเดือนมีนาคม ชอบจินตนาการเพ้อฝัน แต่ชอบอยู่กับที่ไม่ไปไหน

นาย ค เกิดเดือนมีนาคม ชอบจินตนากรเพ้อฝัน และชอบกินเหล้า

เมื่อสังเกตุจากจุดอ้างอิง คือ เดิอนมีนาคม ปรากฎว่าทั้ง นาย ก ข ค มีนิสัยที่ตรงกันคือ
ชอบจินตนาการเพ้อฝัน เมื่อทำการสังเกตุคนอื่นอีกที่เกิดเดือนดังกล่าว มักชอบ
จินตนากรเพ้อผัน ก็สรุปเป็นทฤษฎีทางสถิติ

ว่าคนเกิดเดือนมีนาคม ชอบจินตนาการเพ้อฝัน

นี่คือที่มาของวิชาโหราศาตร์คือการสังเกตุจุดอ้างอิงและบันทึกเป็นสถิติ

ซึ่งจุดอ้างอิงสามารถเป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเวลาเกิด
อาจเป็นสังเกตุงลักษณะใบหน้าคน ว่าคนมีหน้าตาแบบนี้ จมูกปากทรงนี้
จะเป็นคนแบบนี้ จึงเป็นที่มาของวิชาโหวงเฮ้ง

หรือแม้แต่สังเกตุลายมือ หรือ อื่นๆ เช่น สังเกตุการเสี่ยงทายของคนนั้น
เช่น เสียงทายไพ่ เสี่ยงใบไม้ ก็เป็นจุดอ้างอิงทางสถิติเหมือนกัน

อันที่จริงชีวิตคนเรา จะสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวทั้งหมด
และสิ่งแวดล้อมนี่เอง สามารถบอกความเป็นไปของคนได้ อยู่ที่คนจะสัง
เกตุสิ่งเหล่านั้นหรือไม่
ผู้ที่สังเกตุและบันทึกเป็นสถิติ จนกลายเป็นวิชาโหราศาสตร์ในที่สุด


วิชาหมอดูจึงไม่เป็นอะไรมากกว่าวิชาทางสถิติ


แต่เหตุใดวิชาสถิติทั่วไป เช่น สถิคิการค้า สถิติการจราจร
จึงไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนวิชาหมอดู

เพราะวิชาสถิติโหราศาสตร์ว่าด้วยเรื่องความเป็นไปของชีวิตคน
และคนที่มาดูหมอส่วนใหญ่มักไม่ขาดศรัทธาในตนเอง จึงไม่อาจพึ่งตัวเองได้เมื่อประสบปัญหา
ชีวิต และกังวลกับสิ่งที่ยังไมไม่ถึง หรือเรียกว่า วิตกจริต
มักเอาศรัทธาตนเองไปมอบให้กับใครก็ได้ที่สามารถล่วงรู้
ความเป็นไปของชีวิตและบอกทางแก้ชีวิตให้พ้นทุกข์ได้

หมอดู และ วิชาโหราศาสตร์จึงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาเพราะความศรัทธาที่
ได้รับจากคนที่ไปดู สถาปนาให้

องค์ประกอบของชีวิตประกอบด้วย 3 อย่าง คือ
1 การกระทำ คือ คิด พุด ทำ
2 วิบากกรรม คือผลของการกระทำ ที่จะเป็นตัวกำหนดความเป็นไปของชีวิตคนนั้น
3 นิสัย คนนั้น หรือจริต ที่เป็นไปด้วย โลภ โกรธ หลง เมตตา ปัญญา
ซึ่งเป็นตัวผลักดันให้เกิดการกระทำ

วิชาโหราศาสตร์สามารถดูได้ 2 องค์ประกอบเท่านั้นคือ
1 นิสัย
2 วิบากกรรม ว่าจะพบประสบอะไรบ้างจะดี ร้าย รวย จน โสด หม้าย
เป็นวิบากรรมทั้งหมดที่ต้องเผชิญ

หมอดูสามารถบอกได้ว่า คนนั้นจะประสบสิ่งที่ดี หรือโชค หรือพบสิ่งที่ไม่ดี
หรือเคราะห์ได้เมื่อไหร่วันไหน ปีไหน และนี่คือสิ่งที่คนที่ไปดูหมอต้องการที่จะรู้

เพราะความไม่รู้ชีวิตที่จะเกิด ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นทุกข์และกังวล

แต่หมอดูไม่สามารถดูอีกองค์ประกอบหนึ่งของชีวิตที่สำคัญที่สุดได้ นั่นคือการกระทำ
ของคนนั้นในปัจจุบัน
ว่าควรจะทำกรรมอะไร ทำแบบไหน

คนที่ไปดูหมอ เพราะหมอดูสามารถทำนายอนาคตได้ ไม่ใช่ทำนายการกระทำของคนนั้น
แต่ทำนายความเป็นไปของวิบากรรมที่คนนั้นจะประสบเจอในอนาคต

การแนะนำต่างๆของหมอดูไม่ใช่เกิดจากวิชาโหราศาสตร์
แต่เป็นส่วนที่ต่อเพิ่มเข้ามาของหมอดูคนนั้น ขึ้นอยู่กับภูมิธรรม และจรรยาบรรณของ
หมอดูนั้นว่ามีมากน้อยแค่ไหน

บางคนก็เป็นพวกมิจฉาทิฐิ คือไม่มีความรู้ทางธรรมะ และอาจแนะนำสิ่งผิดๆ เช่น บอกว่า
ชีวิตคนถูกลิขิตด้วยดวงดาวบ้าง เทพพรหมลิขิตบ้าง

และอาศัยความรู้ทางโหราศาสตร์ที่มี แสวงหาลาภสัการะ
โดยที่ใจไม่มีสำนึกของความเมตตาเลย เช่นแนะนำให้ไปสะเดาะเคราะห์โดย
ทำพิธิกรรมต่างๆ หรือพิธีทางไสยศาตร์บ้าง

จริงๆน่าจะเรียกว่ามิจฉาชีพในคราบหมอดูมากกว่า ที่หากินกับความทุกข์คนอื่น
โดยอาศัยความอ่อนแอในใจของผู้นั้น มาเป็นช่องทาง

แต่บางคนก็เป็นผู้มีสัมมาทิฎฐิ คือบอกธรรมให้คนในการแก้กรรม
ตามหลักธรรมของพระพุทธองค์

ส่วนการมีญาณ คือการ เห็นความเป็นไปของชีวิตจากจิตที่ได้บำเพ็ญทางบุญบารมี
ซึ่งเห็นเหมือน หมอดูในแง่ขององค์ปรระกอบของชีวิต 2 อย่าง คือ
นิสัยและ วิบากกรรม
แต่จะเห็นได้ชัดเจนกว่าวิชาโหราศาสตร์ เพราะสามารถเห็นป็นภาพได้เลยในดวงจิต
ไม่ต้องอาศัยการตีความจากตัวเลขหรือข้อมูลทางสถิติ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนอยู่

และยังเห็นลึกลงไปถึงอดีตชาติ และเจ้ากรรมนายเวรด้วย และสามารถสื่อกับ
เทพ วิญญาณ เพื่อหาทางแก้ไขให้ได้ด้วย
ซึ่งหมอดูไม่สามารถมองได้ขนาดนั้น
แต่การจะดูได้แม่นและชัดเจนของผู้มีญาณ ต้องขึ้นกับความนิ่งในดวงจิตด้วย

วิชาหมอดู และ ญาณทิพย์ เป็นแค่การดูและบอกความเป็นไปของชีวิต
ส่วนการกระทำที่เป็นตัวกำหนดชีวิตก็คือการกระทำปัจจุบันหรือกรรมนั่นเอง

นี่เป็นเหตุที่พระพุทธองค์ไม่ทรงสนับสนุนเรื่องการดูดวง และการอภิญญาทางใน
เพราะไม่ใช่ทางแห่งการพ้นทุกข์โดยตรง
ทางหรือ มรรค นั้นเกิดที่การกระทำของคนเราในปัจจุบัน ที่อยู่นอกเหนือวิสัยของ หมอดู และ
ญาณของผู้วิเศษทั้งหลาย

ส่วนคำแนะนำในการดำเนินชีวิต ที่หมอดูหรือ ผู้มีญาณและนำ
ขึ้นอยู่กับภูมิธรรมของหมอดู และผู้วิเศษเหล่านั้นว่ามีมากน้อยแค่ไหน
ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอดูหรือผู้มีญาณมาแนะนำก็ได้
จะเป็นใครก็ได้ หากผู้นั้นเข้าใจในหลักธรรมที่ถูกต้อง ก็สามารถแนะนำ
ให้เราได้ดำเนินชีวิตที่ถูกต้องได้

หากคนที่ไปดูดวงหรือไปดูกรรมจากญาณ มีพื้นธรรมะดีอยู่แล้วก็สามารถสร้าง
กรรมดีได้ด้วยตัวเองโดย สร้างเหตุที่ดี โดยอิงจากชีวิตที่ต้องเผชิญมา
ที่บอกโดยหมอดู หรือ ผู้มีญาณ

หรือถ้าหากผู้นั้นมีภูมิธรรม และจิตใจเข้มแข็งมากพอ อาจไม่ไปพึ่งหมอดู หรือ ผู้มีญาณเลย
เขาจะดูจากสิ่งเกิดขึ้นกับชีวิตตัวเองและใช้หลักธรรมแก้ไขชีวิตตัวเองได้

 

ฝากอีเมล์ด้วยค่ะ

ฝากด้วยค่ะ beebee1973@hotmail.com

ขอบคุณมากค่ะ

 

รบกวนด้วยค่ะ

ในอดีตชาติไม่ทราบเคยทำกรรมร้ายแรงรึเปล่าชาตินี้ค่อนข้างลำบากค่ะ รบกวนขอความช่วยเหลืออีกคนนะคะ

n_graphic@hotmail.com

ขอบคุณค่ะ

 

ขอรบกวนอีกครั้ง ครั้งที่แล้วไม่ได้รับการติดต่อครับ
xiaongo@hotmail.com

 

hieng7975@yahoo.com
ขอบคุณค่ะ

 

saint_lovely@hotmail.com
ขอบคุณคะ

 

ผมยังไม่ได้รับเวบบอร์ดคุณโน๊ตเลยครับ

 

เอ่อ ขอเวปบอร์ดของพี่โน๊ตได้ไหมคะ พอดีว่า เมล์ออนเจอพี่เค้าทักไปแต่พี่เค้าไม่ตอบเรยอ่ะคะ
nihon19@hotmail.com

 

ผมได้รับเมล์แล้วแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ขอเว็บบอร์ดด้วยละกันนะครับ

Toonarmy_ryman@hotmail.com

ขอขอบพระคุณคุณรักไร้พ่ายครับ

 

รบกวนขอเว๊ปบอร์ดด้วยนะคะ เพราะยังไม่ได้รับเมล์เลยค่ะ

 

beer_otto21@hotmail.com

 

print_no_go@hotmail.com

ขอความช่วยเหลือด้วยครับ ทุกข์หนักมากตอนนี้
ปล. ขอเว็บบอร์ดด้วยนะครับ

 

ครับ ได้ทยอยส่งเวบบอร์ดคุณโน๊ดไปให้แล้วครับ
แถมส่งเวบส่วนตัวคุณโน๊ดที่เป็นเวบดนตรีให้ด้วย
ใครอยากเห็นหน้าตาคุณโน๊ดว่าหล่อแค่ไหนก็คลิกได้เลย

 

ดีไหมครับ

ส่งเมลืไปแล้วครับ อยากให้คนที่ดูกับคุณโน๊ตมาเล่าให้ฟังกันบ้าง คิดว่าคงมีคนที่ดูกับคุณโน๊ตหลายคนแล้ว หรือไม่ก็ขอเมล์ของคนที่ดูแล้วหน่อย จะได้แชร์กันครับ

 

ฝากด้วยนะคะ s_tum789@hotmail.com ขอบคุณค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ทำตามเงื่อนไขได้อย่างแน่วแน่...จากใจจริงค่ะ

 

ผมกำลังอยากรู้เรื่องอดีตชาติและกรรมเก่าอยู่พอดีแล้วก็อยากจะแก้กรรมด้วย รบกวนด้วยนะครับ jt-kay@hotmail.com

 

อยากแก้กรรม ในอดีตชาติครับ ขอบคุณมากครับ
piyathat7@hotmail.com