ถ้ารับพระพุทธรูปเก่ามาบูชาจะบาปใหมคะ

<!-- / icon and title --><!-- message -->อยากสอบถามผู้รู้ค่ะ
คือว่ามีหลวงพ่อที่นับถืออยู่รูปหนึ่ง ท่านบอกว่าจะนำพระพุทธรูปมาให้เป็นของขวัญค่ะ เนื่องจากคุณแม่ได้ทำบุญกับพระรูปนี้เป็นประจำเกือบ 20 ปีแล้ว
แต่ปัญหามีอยู่ว่าพระพุทธรูปองค์นี้ หลวงพ่อท่านได้มาจากผู้ชายคนหนึ่งที่นำมาถวาย โดยชายคนนี้ไปได้มาจากซากเจดีย์เก่าที่พังแล้ว ซึ่งหลวงพ่อก็ได้เช่าต่อ เพื่อที่จะนำมาให้เราน่ะค่ะ
ทีนี้ จากหนังสือของหลวงพ่อฤาษีที่เคยอ่านนั้น ท่านจะแนะนำว่าของใดๆที่อยู่ในวัด จะเป็นของสงฆ์ ถ้าแอบเอามาแม้แต่ต้นหญ้า ก็จะกลายเป็นหนี้สงฆ์ เรากลัวบาปค่ะ แต่ก็อยากได้พระพุทธรูปเก่าองค์นี้มากกกกกก ซึ่งคาดว่าอายุของพระพุทธรูปก็น่าจะหลายร้อยปีอยู่
เราควรจะทำอย่างไรดีคะ ถ้าไม่รับก็กลัวท่านเสียความตั้งใจ (และเราก็เสียดายด้วย) แต่ถ้ารับเราก็กลัวบาปน่ะค่ะ [Embarrass

 

ถ้าเป็นพระเก่ามาก เช่น พระสมัยเชียงแสน ถ้าบุญบารมีไม่ถึง เวลานำมาบูชาบางทีจะเกิดเรื่องไม่ดีกับคนในบ้านได้นะครับ

อันนี้เรื่องจริงจากญาติ ที่เคยมีพระสมัยเชียงแสน พอเอามาบูชา รถที่บริษัท ชนไป 5 คัน
เลยไปหาพระ ท่านนั่งทางในแล้วพูดถึงพระที่บ้านเลย โดยที่ไม่ได้บอกว่ามี

 

ผิดน่ะครับในความเป็นจริงพระพุทธรูปองค์นั้นเป็นของสงฆ์ เราไม่ควรนำมาเป็นของเราครับ ถ้ารับมาถือว่าเป็นปาบน่ะครับ การบูชาพระพุทธรูปผมว่าองค์ไหนก็เหมือนกันครับ เพราะเราบูชาคุณของพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปเปรียบเสมือนตัวแทนพระพุทธเจ้าเท่านั้น อย่าไปยึดมั่นถือมั่นว่าพระเก่าจะมีค่า พระใหม่ไม่มีค่า เรามาปฏิบัติบูชากันดีกว่า
เรื่องบุญถึงหรือไม่ถึงคงไม่เกี่ยวกันน่ะครับ นั้นเป็นผลของกรรมที่เค้าทำไว้ คงไม่เกี่ยวกับการนำพระมาบูชา

 

เราก็ทำบุญไปสิครับ เหมือนเราทำบุญเช่าพระน่ะครับ

 

ทำจิตวางเฉยไว้เถอะครับ "สภาพธรรมะจัดสรร"จะดูแลให้เป็นไปเอง

สิ่งใดควรมี ควรได้ ก็ต้องมี ต้องได้ ไม่ต้องไปดิ้นรนเสาะหาให้มากเกิน

สิ่งใดไม่ควรมี หรือยังไม่สมควรได้ ก็จะยังไม่มาหาเรา

บุญที่สั่งสมมาดีแล้ว......เขาจัดการให้เอง อย่ากังวล

 

หากไม่สบายใจก็ชำระหนี้สงฆ์ได้ครับ

ประเมินราคาตามสมัยนิยมแล้วถวายตามนั้นเพื่อเป็นการชำระหนี้สงฆ์ (ถวายให้สงฆ์เป็นกองกลางนะครับไม่ใช่ถวายเพื่อให้ท่านใช้ส่วนตัว) ทำเกินได้แต่ห้ามลดราคา การชำระหนี้สงฆ์ทำได้ทุกวัดอยู่แล้วเวลาไปทำบุญก็บอกพระท่านว่าชำระหนี้สงฆ์

แต่หากเป็นพระพุทธรูปถ้าจะสร้างแทนเพื่อเป็นการชำระหนี้สงฆ์ต้องใหญ่กว่าของเดิม ห้ามลดขนาด หากมีเงินมากก็เอาเต็มที่ก็ขนาดหน้าตักสี่ศอกปิดทองพร้อมเสร็จสรรพ ชำระหนี้สงฆ์ที่เคยทำมาแล้วในอดีตได้หมด แต่เหตุที่เกิดหลังจากนั้นถือเป็นหนี้ใหม่ ต้องชำระใหม่

หากทุนน้อยก็บริจาคไปเรื่อยๆทีละเล็กทีละน้อยบอกว่าชำระหนี้สงฆ์ไปเรื่อยๆก็ได้

 

พระพุทธรูปเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าจริงเหรอ จริงรึเปล่า
พระพุทธองค์ (พระพุทธเจ้าไม่เคยให้โทษใคร) แล้วการที่เอาพระพุทธรูปเข้าบ้าน
แล้วมีเหตุ เภทภัย เพราะว่า พวกวิญญาณที่สถิตในพระพุทธรูปนั้น ไม่พอใจ คิดดูว่า ผีไปสิงพระพุทธเจ้าได้ (พระพุทธรูป) พวกนี้เอาแต่ยึดพระพุทธรูปเป็นสรณะ โดยไม่ได้ยึดพระรัตนตรัย เป็นสรณะ พอจิตสุดท้ายก่อนตาย นึกถึงแต่พระพุทธรูป พอตายปุ๊บเลยไปสถิต
ตรงนั้น

 

บารมีแห่งพระพุทธองค์ครอบคลุมไปหมื่นโลกธาตุ
เมื่อใดเจตนาสร้างให้เป็นพระพุทธรูป เทวดาเท่านั้นที่สถิตย์รักษาได้
ผี.....ไม่สามารถมาสิงสถิตย์
ความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระพุทธรูปสำคัญทั้งหลาย ก็เทพพรหมเบื้องสูงมาสถิตย์รักษา
เป็นไปตามกุศลบารมีของผู้เป็นเจ้าของ บารมีไม่พอก็ต้องย้ายไปหาเจ้าของใหม่
ผู้รู้พึงรู้จักเห็นประโยชน์และคุณค่าของสมมุติ แต่อย่าติดสมมุติ จะทำให้มองไม่เห็นวิมุตติ

 

เคยฟัง จาก เสียงหลวงพ่อ เรื่อง พระ
ว่า เช่าพระมาเท่าไหร่ ให้เราจ่ายมากกว่าเดิม 1 เท่า ครับ

ถ้าผิดพลาดก็ ขออภัยครับ

 

ไม่เข้าใจค่ะ ว่าจ่ายมากกว่าเดิม 1 เท่า นั้น เอาตัวเลข 1 เท่ามาจากใหนคะ
ถ้าสมมติว่า หลวงพ่อท่านเช่ามา 500 บาท แปลว่า เราควรจะเช่าต่อที่ 1000 หรือเปล่าคะ

 

แล้วเราจะทราบได้อย่างไรคะ ว่าเราเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าของได้หรือไม่

 

ถาม หลวงพี่ที่ให้มาเพื่อความสบายใจคับ

ถ้าหลวงพี่ ยังนั่งทางในไม่ได้

แนะนำ ถามหลวงพี่เล็ก คับ

สบายใจแน่นอนคับ อิอิ

 

สาธุ.....
ทำใจให้สบายเถอะครับ....อะไรที่มันสมควรจะเป็นของเรา จะช้าเร็ว ก็เป็ของเรา

อนุโมทนากับทุกท่านคับ

 

รู้ว่าเป็นของสงฆ์ จิตคิดจะเอา...มันจะดีหรือ

อย่าไปคิดว่าชำระหนี้สงฆ์แล้วจะ ไม่ลงนรกนะ

เพราะ กรรมบาปในการเอาของสงฆ์ได้เกิดแล้ว การชำระหนี้สงฆ์ เหมือนการหนีกรรมบาป

บาป และ บุญ แข่งกันสนอง

ไม่แนะนำให้ไปเอาของสงฆ์มาเป็นส่วนตัวครับ

 

เจริญพร

ประการที่ 1 อาตมาขอทำความเข้าใจกับคำว่าหนี้สงฆ์หน่อย
หนี้สงฆ์เป็นคำบัญญัติขึ้นใหม่ ในสมัยพุทธกาลไม่มี ภิกษุผู้บวชแล้วไม่ควรมีหนี้ แม้แต่การที่จะขอบวชก็มีคำถามจาพระอุปัชฌาย์ว่าเธอมีหนี้ไหม?

ประการที่ 2 ของที่เป็นสิ่งควรค่าแก่การอนุลักษณ์ไม่ควรนำมาไว้เพื่อตนเอง โดยเฉพาะพระเก่าแก่ ผู้ที่เคลื่อนย้ายพระพุทธรูป ทำลายสถูป ตัดต้นโพธิ์ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นผู้ได้กระทำกรรมอันใหญ่ ถึงอเวจีคือที่ไปเมื่อละสังขาร

 

ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่วัตถุ เอามาประดับบ้านสวยๆ ถ้าไม่อยากได้ก็รับมาแล้ว เอาไปถวายวัดต่อก็ได้ ไม่เห็นเป็นไร ของของเรา เราจะทำอะไรต่อก็ได้