ทำไมพระเจ้าในพันธสัญญาเดิมจึงทรงไม่เหมือนกับพระเจ้าในพันธสัญญาใหม่? พระเจ้าทรง เปลี่ยนแปลงไปใช่ไหม?

ทำไมพระเจ้าในพันธสัญญาเดิมจึงทรงไม่เหมือนกับพระเจ้าในพันธสัญญาใหม่? พระเจ้าทรง เปลี่ย

pleja
Moderator Group

Joined: 12 ม.ค. 2006
Posts: 7355
เพื่อนๆ ช่วยเราคิดหน่อยสิ
ถ้าเลือกได้ อยากอยู่บ้านเลี้ยงลูก หรือออกมาทำงานนอกบ้านอะ

ตอนเนี๊ย ชีวิตรีบเร่งมาก ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบอาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็ให้ลูกกินนม
กว่าจะเสร็จ ก็ได้เวลาต้องออกมาทำงาน ยังไม่ได้เล่นกับลูกเลย
อยู่ที่ทำงานก็ต้องนั่งปั๊มนมวันละสองรอบ 10.30 กับ 14.30
เลิกงานก็ต้องรีบกลับบ้าน เพราะอยากให้ลูกได้ดูดนมจากเต้า
ไม่อยากให้กินนมแช่แข็ง
เสร็จแล้วก็ต้องรีบๆๆๆ อาบน้ำแต่งตัว มาเล่นกับเค้า ไม่งั้นเดี๋ยวเค้าง่วง หลับไปซะก่อน
ก่อนนอนก็ให้เค้ากินนมเราอีกรอบ กินเสร็จเค้าก็หลับคาเต้าไปเลย
มันเป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุขมากๆ แต่เวลามันน้อยเหลือเกินอะ
ต้องรอเสาร์ อาทิตย์นู่นหนะ กว่าจะได้อยู่กับเค้าทั้งวัน
เฮ่อ...... นี่เราเพิ่งกลับมาทำงานได้สามวันเองนะ
ไม่รู้ว่ามันจะค่อยๆดีขึ้น หรือยิ่งแย่ลงหนะสิ

หรือว่าเราควรออกจากงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียวซักพักอะ
เค้าว่ากันว่า ช่วง 0-3 ขวบเป็นช่วงที่เด็กมีพัฒนาการมากสุด
เค้าอยู่ใกล้ใครก็จะเลียนแบบพฤติกรรมคนนั้น
เป็นวัยที่เราสามารถป้อนอะไรให้เค้าก็ได้
เป็นผ้าขาว ที่เราจะแต่งแต้มสีสรรให้ยังไงก็ได้
แต่นี่เรากลับให้เค้าต้องอยู่กับคนเลี้ยงเด็กทั้งวัน
วันทำงาน เราได้อยู่กับลูกแค่สามชั่วโมงเองนะ
มันน้อยมากๆๆๆๆๆ
เพราะกว่าจะถึงบ้านก็หกโมงครึ่ง สองสามทุ่มเค้าก็นอนแล้วอะ

ใครมีประสพการณ์ ช่วยมาเล่าข้อดี ข้อเสียของการทำงานกับอยู่บ้านเลี้ยงลูกหน่อยสิ
เย็นนี้ว่าจะคุยกับพี่นิคแล้วหละ ว่าจะเอาไงกันดี




nankno
ผู้ร่วมบริจาค

Joined: 08 มิ.ย. 2007
Location: Thailand
Posts: 584
เราเลี้ยงเอง 24 ชั่วโมง ไม่อยากพลาดแม้นาทีเดียว
พี่เขา 2 คนไปโรงเรียนแล้ว คนเล็กเข้าเรียนปีหน้า
คิด ๆ เหมือนกันว่าจะทำงานประจำเพราะท่าทางจะเหงาน่าดู





hellokitty
Moderator Group

Joined: 14 ก.ค. 2006
Location: Thailand
Posts: 6147
ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา

ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกเถอะ

วันก่อนดู Oprah เค้าก็ถกเรื่องนี้กัน

หลายคนทนไม่ได้ที่ต้องส่งลูกไป day care

เพราะคนที่นั่นบอกว่าให้เอากล้องถ่ายรูปไปทิ้งไว้ให้เค้า

เพราะเผื่อคุณพลาดช็อตเด็ดของลูก

แม่ๆก็เลยเอาลูกกลับมาเลี้ยงเอง

แต่ถ้าเรื่องเงินเป็นปัญหา

มันก็ต้องออกไปทำงานเนอะ

ส่วนเอ.... เรื่องเงินก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่

แต่ก็อยากเก็บให้เค้าเยอะๆตั้งแต่วันนี้

เพราะวันหน้ามันต้องใช้เยอะกว่านี้อ่ะ

ทั้งแฟนและเอก็เลยหันมาทำธุรกิจของที่บ้าน

เพราะว่ามันได้ทั้งเงิน และก็พอจะมีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นกว่าทำงานนอกบ้าน

<IMGSRC="HTTP: ezb tac.families.com p 971828.png?<>

Fullmoon
สมาชืกถูกแบน

Joined: 09 พ.ย. 2006
Location: Mozambique
Posts: 5732
ไม่ได้มีลูกกับเค้าเลย แต่ขอออกความเห็นได้เปล่าคะ

จริงๆๆแล้วคิดว่าน่าจะออกมาเลี้ยงลูกอ่ะ
เพราะว่าวัยนี้ จนถึง 3 ขวบอ่ะ เด็กกำลังจำ และ
เลียนแบบพฤติกรรมของคนที่ใกล้ชิดเค้ามากที่สุดอ่ะ
ไม่น่าจะให้เค้าอยู่กับพี่เลี้ยงเด็กอ่ะ เพราะวัยช่วงนี้
เปรียบเสมือนผ้าขาวอ่ะ ใส่อะไรไปให้เค้าๆก็รับไว้หมดเลย
อาจจะอยู่เลี้ยงไปจนกว่าเค้าเข้าอนุบาลก็ได้ แล้วค่อยกลับมาทำงาน
คุณเปิ้ลจะได้ไม่ต้องมานั่งเหงาอยู่กับบ้าน

ที่พูดไปข้างบนนี้คือข้อดี ส่วนข้อเสีย ก็คือ อาจจะเว้นวรรคทาง
ทางการงานนานไปหน่อยคือ 2-3ปี (แหม พูดเหมือนเว้นวรรคทางการเมืองเลยวุ้ย)
ทำให้พอถึงเวลาที่น้องเค้าเข้าโรงเรียนแล้ว อาจจะทำให้ขี้เกียจออกไปหางานได้
เนื่องจากมันหยุดมานานแล้วอ่ะ แบตเริ่มหมดไฟ




n_ning
Moderator Group

Joined: 04 ส.ค. 2006
Location: Liechtenstein
Posts: 4300
โอววว .. เป็นอีกหัวข้อที่น่าคิดมาก ๆ ...

หนิงว่านะ อย่างแม่เปิ้ล เลี้ยงน้องปิคนิคไปสัก 1 ขวบ แล้วก็มีน้องสาวให้ปิคนิคอีกคน พอน้องปิคนิคเข้าโรงเรียน สักประมาณ 3 ขวบ น้องสาวปิคนิค ก็ 2 ขวบ

.... ถึงตอนนั้นแหล่ะ แม่เปิ้ลทำงาน ผลิตเงิน .... ได้ตามใจชอบเลย

ระหว่างนี้ ... แม่เปิ้ลก็อ่านหนังสือไปพลาง ๆ ก่อน แล้วก็เตรียมตัวสอบ CPA ไปเล๊ยยย ... หุหุ ดีป่ะ



fancysine
Special Member

Joined: 23 ธ.ค. 2005
Location: Thailand
Posts: 1967

คิดเหมือนกัน อยากเลี้ยงลูกเอง แต่คงเป็นหนทางที่ยากมาก

เพราะเราต้องช่วยสามีทำงาน

หาเงินมาผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด คนมีหนี้ก็งี้แหละ เศร้า

ดีที่สุด คงให้แม่มาช่วยเลี้ยง แต่ก็ไม่รู้จะได้ป่าว เฮ้อออ คิดหนักนะปัญหาเนี้ยะอ่ะค่ะ



August
LadySquare Sponsor

namkhing

Joined: 09 ต.ค. 2006
Location: Thailand
Posts: 14662
พี่เปิ้ล จ๊ะ

คิดแบบเพี่ยนๆๆอ่ะจ้า

ถ้าไม่ ติด ปัญหา เรื่อง เงินๆๆ ทองๆๆ

ออก มาดู แล น้อง เห้อะ จ้า....

ขิง มีลูก ก็ อยากหา อะไร ทำ เล็กๆๆ น้อยๆ อยู่บ้าน เลี้ยง เบบี๋

ทุกวินาที ของเค้า ที่ได้อยู่กะเรา มันต้อง มีค่า มากมาก แน่แน่ ค่ะ

ไม่อยากจะพลาดเรยอ่ะจ้


audit
Moderator Group

Joined: 25 ส.ค. 2006
Posts: 8425
พี่เปิ้ล.....เห็นด้วยกับเพื่อนๆหลายๆคนที่บอกว่า

ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ลาออกมาเลี้ยงลูกดีกว่าค่ะ

ถ้าเป็นบีคงมีความสุขที่สุดเลยล่ะ ได้อยู่กับลูกตลอดเวล



ทำผิดกฏ (ใบแดง) สำหรับ คุณ อีริค: รูปภาพไม่เหมาะสม

 

{M}ee{n}
Special Member
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/Meen/2006-08-09_144106_236251.gif"
Joined: 20 ธ.ค. 2005
Location: Thailand
Posts: 3504
Posted: 22 พ.ย. 2007 at 17:59 | IP 210.1.43.XXX
พี่เปิ้ล ถ้ามีนมีลูกนะมีนก็อยากเลี้ยงเค้าเองแหละ

เพราะว่าเห็นพี่ที่ทำงานวันที่เค้ามาทำงานวันแรกเนี่ยเค้าดูไม่ มีความสุขเลย

แถมลูกร้องจะกินนมไม่ยอมกินนมที่ปั๊มไว้ให้นะ เค้าก็ต้องรีบกลับบ้านเลยหล่ะ

ตอนนี้ก็คิดว่าจะหาธุรกิจเป็นของตัวเองแล้วหล่ะเพราะว่าต้องเจอ ปัญหาอย่างพี่เปิ้ล

หรือว่าเเม่คนอื่นๆๆแน่ที่ต้องมาทำงานแล้วคิดถึงลูก

ถึงแม้ว่าจะมีคนเเย่งเลี้ยงก็เหอะนะ เพราะว่าเรื่องเงินก็เป็นปัญหาหนึ่งเหมือนกันแหละ

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินพี่เปิ้ลก็เลี้ยงปิคนิคเหอะ เด๋วค่อยมาทำงานตอนปิคนิคโตก็ได้


Honey
Special Member
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/jackjung/2008-11-17_110818_น้องอิง03_s.gif"
Joined: 15 พ.ย. 2006
Location: Thailand
Posts: 60
เห็นด้วยกับเพื่อนๆ ข้างบนค่ะว่าถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ก็เลี้ยงเองเถอะค่ะ ยังไงเลี้ยงเองก็ดีที่สุดอยู่แล้วล่ะ

เราเก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกเองส่วนใหญ่ โชคดีงานที่เราทำมันไม่ต้องทำ full time ก็ได้

เราทำ part time ที่รพ.กรุงเทพอ่ะ ยังไงก็เป็นคนไข้นัดอยู่แล้ว ช่วงที่เราไปทำงานก็ฝากแม่เรา หรือแฟนเราดูลูก แล้วแต่ใครว่าง

กะว่าจะทำงี้ไปจนกว่าลูกเข้าอนุบาล

รายได้เรา แน่นอน ลดลงมาก แต่ว่า อยากเลี้ยงเองง่ะ ก็พยายามใช้เงินให้ประหยัดๆ หน่อย คิดว่าแต่ช่วงเดียวอ่ะ พออยู่ได้ ไม่จ้างพี่เลี้ยงเด็กด็ดขาด กลัวๆๆๆ

อีดูด คำผิดจ้า



Edited by Honey - 22 พ.ย. 1464 at 18:02




ma'fay
Special Member
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/pook/2006-09-29_113912_CAMJSPEN.jpg"
Joined: 30 พ.ย. 2006
Location: Thailand
Posts: 7000
เจอหัวข้อโดนใจ รีบเข้ามาก่อนจะหลับคาคอมฯไปซะกอ่น

ของแหม่มตอนนี้มีโครงการอยู่ในหัวแล้วค่ะ กะลังจะทำให้เป็นรูปเป็นร่างอยู่ค่ะ

ของแหม่มนี่ฟันธงว่าออกมาเลี้ยงลูกแน่นอนค่ะ เพราะมันมีปัจจัยหลายอย่างค่ะที่ทั้งช่วยผลักและดันเราให้ลาออก

แต่ใจจริงแหม่มก็อยากจะเลี้ยงเค้าเองอยู่แล้วอ่ะค่ะ อยากจะดูแลเค้าเอง อยากเห็นพัฒนาการของเค้าในทุก ๆ วัน ไม่อยากให้เค้าติดพี่เลี้ยงมากกว่าเรา( ซึ่งอันนี้รับไม่ได้ค่ะ ) อยากให้เค้ารับรู้ว่าข้าง ๆ เค้ามีเราซึ่งเป็นแม่เค้าอยู่กะเค้าไม่ห่าง ทั้งยามดีใจ หัวเราะหรือยามเจ็บป่วยค่ะ

ถ้าพี่เปิ้ลไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แหม่มก็ขอเชียร์ให้พี่ออกมาเลี้ยงน้องปิคนิคเองนะค๊ะ อย่างที่หน่อยบอกว่าเงินไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่าง อะไรที่ผ่านไปแล้วเราเรียกกลับมาไม่ได้แล้วนะค๊ะ ขอให้พี่เปิ้ลเจอทางออกที่ดีที่สุดค่ะ


pecial Member
สมาชิกร่วมบริจาค
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/ongkanui/2008-09-16_030033_BK.jpg"
ichigoheaven

Joined: 20 ต.ค. 2006
Location: Thailand
Posts: 2990
พี่ว่าเปิ้ลคงเลือกได้แล้วม้างงงเนี้ย อิ อิ ... พี่เลือกแบบที่เพื่อนๆแนะนำเลย ออกมาเลี้ยงลูกอ่ะ

เหตุผลก้อเหมือนกัน ไม่ต้องเขียนแล้วมั๊ง ( ฟามจิงขี้เกียจเขียนอ่ะดิ ฮ่าๆ ตรู )

แต่คุยกันให้ชัดๆเคลียร์ๆก่อน ว่าเป็นการตัดสินใจของทั้ง 2 คนแล้ว จะได้ไม่มาเถียงกันทีหลังเด้อ

แล้วก้อถ้ากลัวเบื่อ ก้อหาไรทำบ้างแบบ free lance ก้อด้ายอ่ะพี่ว่า .. เวลาลูกกวน หรือเบื่อๆจะได้มีไรอย่าง

อื่นทำไง อิอิ .. แล้วก้อ จะได้มา meeting ได้บ่อยๆ ฮ่าๆๆๆ
<img src="http://i233.photobucket.com/albums/ee238/ichigoblythe/signature-2-1.gif"



xiaohui
Special Member
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/xiaohui/2008-05-28_161000_logo.jpg"
Joined: 27 ต.ค. 2006
Location: Thailand
Posts: 2046
พี่เปิ้ล ฮุ่ยว่าถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ก้อออกมาเลี้ยงลูกดีกว่าค่ะ

แต่ สำหรับฮุ่ยนะ ฮุ่ยไม่อยากเลิกทำงานเลย เพราะการที่เราทำงานมันทำให้เราได้ทันสังคม ทันยุค ทันสมัย ยิ่งสมัยนี้นะ สังคมน่ากลัวจะตาย เราจะได้สอนลูกเราให้ทันคนด้วย อีกอย่างอยากให้ลูกได้ภูมิใจด้วยที่มีแม่เป็น working woman

แต่อย่างว่าเนอะ พี่เองคงไม่อยากจากลูกไปนานๆ ยังไงก้อเป็นกำลังใจให้นะคะ

 

[music]http://www.isan.clubs.chula.ac.th/karaoke/midi/cuoke_448.mid[/music]

 

delicious30
Moderator Group
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/delicious30/2009-01-12_164717_profile1.jpg"
Joined: 22 เม.ย. 2006
Location: Thailand
Posts: 4395
Posted: 15 ธ.ค. 2008 at 21:40 | IP 58.136.58.XXX

เพื่อนๆ ในเวปเคยซื้อน้ำหอม-เครื่องสำอาง แล้วเจอของปลอมกันมั่งป่ะคะ??

แล้วถ้ารู้ว่าเป็นของปลอม แล้วทำยังไงกันบ้างคะ??
__________________
::Lonely Girl in the Winter::


Marine
LadySquare Sponsor
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/Marine/2007-11-18_130821_20745_645579.jpg"
MarineTime

Joined: 04 ส.ค. 2007
Location: Thailand
Posts: 4728
พี่กบ.......

ต้อนขาโหด

ประจานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ขอคืนเงิน....ถ้าไม่ให้ก็จะด่ากันซึ่ง ๆๆหน้า ๆๆเลย


"ทามมมมมมมมมมมกับตรูแบบนี้ได้งายยยยยยยยยยยย"

"ตรูจะฟ้องผัวตรูนะ"

พี่กบ................บอกต้อนด้วยนะ ใคร ๆๆๆ ที่ไหน เด๋วพาต้อนไปด้วย

ต้อนขอไปด้วย

ไปด้วย

ไปด้วย

เปล่าไปตบ.............ไปแจ้งความ
__________________



....................ไม่สวย แต่มีท่ายาก.....................................
ร้านMarinetime


theewara
Special Member
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/pat/2006-12-14_154748_ZDFCE_Cute13.jpg"
Joined: 23 ธ.ค. 2005
Location: Thailand
Posts: 4520

จาน ค่ะ จาน

เพื่อเป็นวิทยทานแก่ผู้ซื้อคนต่อไปค่ะ
<img src="http://lilypie.com/pic/081001/de8C.jpg"


Marine
LadySquare Sponsor
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/Marine/2007-11-18_130821_20745_645579.jpg"
MarineTime

Joined: 04 ส.ค. 2007
Location: Thailand
Posts: 4728
Posted: 15 ธ.ค. 2008 at 21:53 | IP 61.19.51.XXX
^
^
^
^
^อิข้างบน จะกินข้าวเหรอ ขอจาน



__________________



....................ไม่สวย แต่มีท่ายาก.....................................
ร้านMarinetime



puppa
Special Member
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/puppa/2009-01-06_004458_anigif3.gif"
Joined: 03 ก.ค. 2007
Location: Thailand
Posts: 2777
แล้วถ้าเจอลูกค้าชั้นแย่ พฤติกรรมรับไม่ได้หล่ะ จะทำยังงัยกัน


Lyncy
Moderator Group
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/kleaur/2008-10-13_140953_2008-10-13_140914_2007-03-26_095522_19100_4.jpg"
Joined: 17 ก.ค. 2006
Location: Christmas Island
Posts: 9290
ปี๋กบซื้อมาเองหรือ..

มีวิธีพิสูจน์ว่าของปลอมหรือ..ทำไงอ่ะ

อยากรู้ ..



__________________
หลินจี้ ^0^
<img src="http://61.19.248.235/uploads/27a3c26103.gif"

 

reality world
Newbie
<img src="http://www.ladysquare.com/forum_images/1_star_rating.gif"
Joined: 30 ธ.ค. 2008
Location: United Kingdom
Posts: 1
osted: 30 ธ.ค. 2008 at 21:36 | IP 125.24.216.XXX
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า กลุ้มใจมากจริงๆคะ

แต่ไม่รุ้จะพูดกับใครได้ รู้สึกอายเหลือเกิน

แต่ยังจับไม่ได้ แบบคาหนังคาเขา

และไม่กล้าถามคนของเราด้วย เพียงแค่เรารู้สึกผิดแปลกตะหงิดๆๆเอามากๆๆ

กลัวถามไป แล้วถ้าเขาไม่ได้เป้นอย่างที่เราคิดมาก จะกลายเป็นเรื่อง หรือเป็นปมในใจกันไป

เพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรกันบ้างคะ กลุ้มใจจริงๆคะ ทรมานมาก

ขอความช่วยเหลือด้วยคะ


kanomkai
Moderator Group
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/kanomkai/2008-12-02_215338_IMG_0836_resize.jpg"
Joined: 11 ม.ค. 2007
Location: Thailand
Posts: 11165
อาตามความรู้สึกจริง ๆ นะคะ แว๊บแรกที่รู้ คงอึ้ง ปนเสียใจ และเสียความรู้สึกอ่ะค่ะ

แต่ถ้าใจเค้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ยังงัยเราก็คงรั้งไว้ไม่อยู่ มีแต่จะฝืนกันไปเปล่า ๆ คงจะเลิกให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องของคุณยังไม่ชัวร์ เราว่าดูไปอีกสักพักอย่าเพิ่งให้ไก่ตื่นจะดีกว่าค่ะ

เคยบอกสามีเหมือนกันว่า ถ้าเจอแบบนี้จริง ๆ ให้เค้าไปมีเมียน้อยยังจะดีซะกว่า ให้เค้าไปเป็นสามี หรือภรรยาผู้ชายอ่ะนะ
<img src="http://ticker.7910.org/as1czXr-O6k1710MTQ3bHp8MjE4bG98.gif"



ShopKraJai
สมาชิกร่วมบริจาค
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/Katekat/2008-08-11_102227_thaicabincrewforall.gif"
ShopKraJai

Joined: 09 ส.ค. 2008
Posts: 913
Posted: 31 ธ.ค. 2008 at 13:15 | IP 125.24.185.XXX
มาให้กำลังใจด้วยนะคะ ไตร่ตรองให้ดีดี มากมากนะคะ



Edited by ShopKraJai - 31 ธ.ค. 1465 at 13:16

<img src="http://i54.photobucket.com/albums/g110/kat_zy/signature.gif"


mAyCrystal
Groupie
<img src="http://www.ladysquare.com/uploads/mAyCrystal/2008-10-28_155259_2008-09-16_164054_P1019960.jpg"
Joined: 25 ก.พ. 2008
Location: Thailand
Posts: 365
แฟนเมย์ก็ทาครีม ประทินผิว ยิ่งกว่าเมย์อีก แหมแต่แขนเค้า ยังไม่มีใครได้เห็นเลย (นอกจากเรา ) ทำกับข้าวด้วย ตายละหว่า เป็นป่าวเนี่ย

 

ผมว่าคุณเข้าใจผิด พระเยซู ท่านเป็นพระศาสดาดังนั้นระนาบเดียวกับพระพุทธเจ้าครับ
และที่ว่าพระธรรม คือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย คนละส่วนกันแน่ๆครับ

 

เล่นด้วยก็ได้

พระพุทธ คือ พระบิดา
พระธรรม คือ พระจิต
พระสงค์ คือ พระบุตร

ไม่อยากให้เอามาปนกัน แต่อธิบายความว่าดังนี้

พระพุทธเจ้า ท่านเอ่ยเสมอว่า ท่านเป็นดัง ผู้ที่ตรัสรู้ธรรม ผู้รู้ธรรม ซึ่งเป็นดังบิดาแห่ง สงฆ์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นก่อน เป็นผู้เกิดก่อน

พระธรรม คือ พระจิต กล่าวว่า จิตนี้แหละ คือธรรม เพราะในพระไตรปิฎก มักจะกล่าวว่า จิตของพระพุทธองค์ นั้นมี พระจิตเป็นเช่นนั้นเช่นนี้

พระสงฆ์ คือ พระบุตร

ก็ถ้าใบไม้จะเอามา เปรียบเทียบกัน ก็เปรียบเทียบให้ถูกต้อง ตามแนวทางที่ผมวางไว้

ก็ จะได้มี สรณะ ว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

จะไปสนใจทำไมพระจงพระเจ้า?
ไม่เกิดประโยชน์กับชีวิตเลย

ต่อให้พระเจ้าสร้างสรรพชีวิต
แต่พระเจ้ามิใชู่้ผู้ที่จะลิขิตชีวิตแต่อย่างใด
เกิดมาแล้ว ก็ต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรม
เวียนว่ายในวัฏสงสาร
พระเจ้าอีกนัยหนึ่งก็คือ the Nature คือ ธรรมชาติของจักรวาล

ทำอย่างไรล่ะ จึงจะหลุดจาก วงจรที่น่าสพรึงกลัวนี้ได้

ก็ให้
รักษาศีล บำเพ็ญทาน
หมั่นปฏิบัติดูจิต ดูกายของตนเอง
หมั่นปฏิบัติสมาธิ
นี่แหละ สาระอันสำคัญของชีวิต

จึงจะบรรลุเป็นโลกุตรชน นี่คือที่สุดจุดหมายแห่งพระศาสนา
คือ ชนผู้อยู่เหนือโลก
ไม่ยึดติดแล้วในความสุข ความทุกข์
แม้ อกุศล และกุศล ก็หมดสิ้นอิทธิพลต่อชีวิตแล้ว

 

ศาสดาในมุมมองของผมกับคุณคงไม่เหมือนกัน

ศาสดาของผมหมายถึงมนุษย์ที่ประกาศศาสนาสอนคนซึ่งก็คือ พระพุทธเจ้า พระเยซู พระนาบี

พระธรรมคือคำสั่งสอนที่ท่านพบแล้วนำมาเผยแพร่ (พระธรรมมีอยู่นานๆมาแล้ว) ซึ่งธรรมะเหล่านั้น
ก็หวังให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่เบียดเบียนกัน ให้ทำความดีจนได้หลุดพ้นไปเสวยสุข
ซึ่งคำสอนต่างๆนั้น ก็สอนตามบุญบารมีที่ศาสดาแต่ละองค์ทราบหรือเข้าถึงหรือเหมาะกับกลุ่มคน
สิ่งแวดล้อม พื้นฐานทางจิตวิญญาณที่แตกต่างกันไป แต่ก็อยู่ภายใต้กฏมณเทียรธรรมอันเดียวกัน

พระสาวกผู้สำเร็จตามขั้นต่างๆ
เช่นพระอริยะสงฆ์ของทางพระพุทธสาสนา หรือ จอห์น ปีเตอร์ ฯลฯ หรือท่านอื่นที่นำคำสอนของ
พระเยซู หรือพระนาบีมาปฏิบัติแล้วสำเร็จ

พระสุปฏิปันโนสาวกคือ พระสงฆ์ก็ดี อุบาสก อุบาสิกาที่เป็นพระภายใน ในทางพระพุทธศาสนาก็ดี และผู้ที่นำคำสอนของพระเยซู พระนาบี มาปฏิบัติอย่างจริงจัง อยู่ในศีลในธรรม กำลังได้มรรคได้ผล แต่ยังไม่ถึงขั้นสำเร็จ (ฟุ้งซ่านบ้างไม่ฟุ้งซ่านบ้าง)

สาวกทั่วไปคือผู้ที่อ้างว่านับถือศานสนานั้นศาสนานี้ ปฏิบัติบ้างไม่ปฏิบัติบ้าง รู้นิดก็คิดว่ารู้มาก
บ้างก็ไม่รู้ไม่สนใจเลย บ้างก็ว่าอย่าไปทำเลยเสียเวลาทำงาน บ้างก็อ่านๆๆๆ สวดๆๆๆ รู้ทุกอย่างตามหนังสือ แต่ยังไม่เคยลงมือทำจริงจังเลย

ผมก็เป็นพวกหลังสุดนี่แหละยังไม่รู้สักเรื่อง อะไรที่สูงกว่าพระศาสดานี่ผมไม่คิดหรอก เข้าไม่ถึงแล้ว
ก็พูดไปแบบผิดๆเรื่อยๆนี่ ผมกลัวกรรมปรามาส เอาพระคำข้าวของหลวงพ่อฤษีกับพระจิตรลดาของในหลวง หรือพระคำข้าวของหลวงพ่อกับพระผงที่การบินไทยเพิ่งทำไม่นาน ไปสัมผัสแล้วแยกความแตกต่างบารมีภายในให้ออกก่อน แล้วค่อยคิด ผมยังเชื่อยังงี้อยู่ครับ

 

ผมยังไม่ได้พูดเรื่องพระเจ้าเลย ที่ผมแย้งคือข้างล่างนี้
2. พระบุตร (พระอรหันต์) พระเยซู เป็น พระบุตร

ผมคิดว่า พระอรหันต์กับพระเยซูน่ะคนละระนาบครับ พระเยซูน่ะ ระนาบพระศาสดาครับ


3. พระจิต คือ พระธรรม คือ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน(โคตมะพุทธเจ้า)

พระธรรมในมุมผมเป็นสิ่งที่ศาสดาเอามาสั่งสอน ดังนั้นพระธรรมคงไม่ใช่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแน่ๆ