ดารา ถ้าเกิดไม่เคยทำบุญอย่างอื่นตกนรกหมด เพราะทำให้คนยึดติด

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 8 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    ถาม : เมื่อตะกี้ผมเล่าให้น้องเขาฟังครับ เรื่องดารา ถ้าเกิดไม่เคยทำบุญอย่างอื่นตกนรกหมด เพราะทำให้คนยึดติดก็รู้สึกเอ๊ะ ในเมื่อดารามันทำสัมมาอาชีวะแล้วทำไมต้องไปตกนรกด้วยในเมื่อเถ้าเขาไม่ทำเขาก็ไม่มีกิน ?

    ตอบ : มันเป็นมิจฉาทิฏฐิ คือ สิ่งที่เขาทำมันค้านกับธรรมะที่แท้จริง เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นมายา มันทำให้คนหลงยึดติดอยู่ สังเกตไหมล่ะว่านางอิจฉาเข้าไปในตลาดดีไม่ดีเจอเปลือกทุเรียนก็รองเท้าขว้างเอานั่นน่ะ คนมันยึดขนาดนั้น พระพุทธเจ้าสอนให้ละ ไอ้พวกนี้ทำให้ยึด มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเรียกว่ามิจฉาทิฏฐิ โทษของมิจฉาทิฏฐินี่มันหนักมากนะ อเวจีทีเดียว น่าสงสารมากเลย ในพระไตรปิฎกมีอยู่คือ พระตาลปุตตคามินีเถระ ท่านเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก ได้รับการอบรมมาจากวงการนักแสดงเขาบอกไว้ว่า บุคคลที่สร้างความรื่นเริงให้แก่ผู้อื่นจะได้เป็นสหายของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ก็คือว่าจะได้ไปเกิดที่นั่น ภาษาบาลีฟังยากมันต้องแปลเป็นไทยอีกทีหนึ่ง ท่านเองท่านก็ยึดมั่นในจุดนั้นมา


    คราวนี้พอไปเปิดการแสดงที่เมืองสาวัตถี ได้ยินมาว่าสมณโคดมทราบเรื่องทุกอย่าง ได้โอกาสก็เข้าไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า สิ่งที่ท่านทำจะให้ท่านได้เกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จริงไหม พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ดูก่อน มายาการ อย่าเพิ่งให้ิเราพยากรณ์เลย ท่านเองตื้อถามถึง ๓ วาระ พอถึงครั้งที่ ๓ พระพุทธเจ้าบอกว่าลงอเวจีมหานรก คราวนี้ดีตรงที่ว่าท่านเชื่อ นั่งร้องไห้เลยถามว่าทำยังไงถึงจะรอดได้ พระพุทธเจ้าบอกว่าบวชแล้วปฏิบัติ ไม่นานท่านก็เป็นพระอรหันต์รอดไป ถ้าไม่เชื่อก็ซวย คราวนี้มันมีตัวอย่างอยู่ ไอ้ดาราวัยรุ่นธรรม์โทณวนิก น่ะ ไอ้ที่มันตายดูคนไปงานศพมันกี่หมื่น ถ่ายหนังสือพิมพ์ออกมาเห็นแล้วตกใจมันทำให้คนติดได้ขนาดนั้นแล้วไอ้ดาราเพลงร็อคของญี่ปุ่น มันมากันทีคนแห่กันไปดอนเมืองรถติดบรรลัยวายวอดเลย คนติดมันขนาดไหน แต่มันเป็นการยึดในทางที่ผิด จริง ๆ แล้วการปฏิบัติมันต้องปล่อย ยึดเมื่อไหร่ก็อยู่แค่นั้นแหละ


    ถาม : แต่มันเป็นเรื่องทางโลกนะครับ ไม่มีก็ไม่ได้

    ตอบ : ก็มันไม่มีก็ได้ถ้าหากว่าคนเราพอใจมีธรรมะประกอบอยู่แต่ บังเอิญว่าคนเรามันไม่สนใจจะหันมาหาธรรมะ มันสนใจแต่ทางด้านโน้นจริง ๆ แล้วพวกนี้น่าสงสารมาก การแสดงแสง สี เสียง อะไรต่าง ๆ ก็ดี ที่มันเกิดขึ้นมาเพื่อกระตุ้นในเรื่องของรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เหล่านี้มันทำให้ปีติเกิดขึ้นในใจชั่วคราว ทำให้จิตมันฟูขึ้นมา ทำให้รู้สึกว่ามีความสุข แต่มันเป็นความสุขที่เกิดจากการกระตุ้นภายนอก มันไม่เหมือนกับการรักษาศีลเจิรญภาวนาที่เป็นความสุข ที่เป็นปีติที่เกิดขึ้นจากภายใน มันอยู่ยั้งยืนยงกว่าเพราะมันเพาะสร้างขึ้นมาเอง แต่ว่าอันโน้นมันเกิดจากการกระตุ้นภายนอก

    เมื่อขาดสิ่งกระตุ้นนั้นมันก็ขาดไป พวกนี้ก็จะเกิดอาการทุกข์ขึ้นมา ทุกข์ตรงที่ว่า เอ๊ะ ทำไมไอ้ความสุขที่เคยมีมันหายไปก็ตะเกียกตะกายไปหาอีก ก็ต้องไปกินเหล้าเมายา ไปเต้นรำ ไปเข้าคลับ เข้าบาร์กัน เข้าโรงหนัง ฟังเพลง ไปกรี๊ดกันมันถึงจะมันส์
    ถาม : พวกนักร้องก็เหมือนกันเหรอครับ

    ตอบ : เหมือนกันหมด พวกนี้ส่วนใหญ่แล้วทำให้คนยึดติด ถ้าไม่เคยทำบุญอื่นมาในลักษณะที่เรียกว่ากำลังใจทรงตัวน่ะนะ โอกาสรอดอเวจีน้อยเต็มที น่าสงสาร

    ถาม : อย่างนี้พวกนักฟุตบลมันก็เกี่ยวเนื่องไหมครับ ?

    ตอบ : มันก็มีสิทธิ์เหมือนกัน

    ถาม : อย่างพวกแมนยู ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล

    ตอบ : พวกนี้จริง ๆ มันไม่น่าโทษเขานะไอ้คนระยำดันไปติด

    ถาม : เลยพาเขาซวยไปด้วย

    ตอบ : ต้องดูเจตนาของเขา ถ้าเจตนาของเขาคือว่าวางลีลาจะมีท่าแปลก ๆ อะไรออกมาเพื่อดึงดูดใจคน ไอ้นี่เจตนาชัดเลย โทษ ๑๐๐%ถ้าหากว่าเป็นอาชีพของตัวเองทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดคนอื่นจะเป็นอย่างไรเราไม่เกี่ยว นี่โอกาสรอดยังมีเยอะ คราวนี้แบบแรกมันจะเยอะ เป็นแบบแรกซะเกือบหมด

    ถาม : ตายแน่ เดวิด เบคแฮม (หัวเราะ) โห ทั้งสามีภรรยาเลย

    ตอบ : เอาให้ถึงเวลาก็ไปดูแล้วกัน ถ้าคนไปติดเขาเองน่ะจริง ๆ แล้ว โทษเขาไม่มี แต่ว่าพวกนี้ส่วนใหญ่เจตนาหาจุดเด่นขึ้นมาเพื่อดึงดูดไง มันช่วยได้เยอะชื่อเสียงของตัวเองก็ได้เงินทองก็มากขึ้น

    ถาม : คือว่าถ้าเป็นดาราก็คิดซะว่าเราทำหน้าที่ของเรา

    ตอบ : คือทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดไป แล้วถึงเวลาเรื่องของบุญ ของบาปของอะไรบาปเราก็ละบุญเราก็ทำให้จิตใจมันเกาะบุญมากกว่าบาป โอกาสรอดมันก็มี

    ถาม : เอาใจเป็นที่ตั้งเหรอครับ ?

    ตอบ : ทุกอย่างมันเกิดที่ใจ มโนปุพพังคมาธัมมา – ธรรมทั้งหลายใจเป็นหัวหน้า, มโนเสทฏา – สูงสุดที่ใจ, มโนมยา – สำเร็จที่ใจ ถ้าใจเราบอกว่าไม่มันก็ไม่

    ถาม : ครับแล้วคนที่แต่งตัวให้สวยเพื่อที่จะยั่วยวนก็บาปสิครับ ?

    ตอบ : จริง ๆ แล้วก็คือว่า ถ้าในส่วนของธรรมะแล้วพร่อง อันนี้มันเกี่ยวกับศีลระดับสูงอย่างเช่นศีล ๘ เรื่องของการประดับตกแต่งร่างกายอะไรตนเองนี่ถ้าเจตนาที่จะไปดึงดูดเพศตรงข้ามมีโทษ แต่ถ้าหากว่าเก้อเขินออกสังคมไม่ได้จึงจำเป็นจะต้องแต่งตัวตามเขาเจตนาอันนั้นไม่มีอันนี้ไม่เป็นไร

    ถาม : แต่ว่าผิดน้อยกว่าดาราใช่ไหมครับ ?

    ตอบ : อันนี้น้อยกว่าเยอะ ส่วนของธรรมะมันพร่องไป แต่ดารานั่น ถ้าหากเจตนาทำนี่ โทษหนักเลยเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิหมด

    ถาม : ผมนึกถึงพระเอกนางเอกเมืองไทยนี่ก็ล้วน ๆ เลย

    ตอบ : ส่วนใหญ่ใจบุญนะ

    ถาม : แล้วอย่างที่เขาแสดงละครสะท้อนสังคมอย่างเจ้ากรรมนายเวรนี่เขาได้กุศลไหมครับ ?

    ตอบ : ดูเจตนาของเขาว่าตั้งใจจะสอนคนหรือเปล่า ถ้าเจตนาของเขาตั้งใจจะสอนคนให้เป็นคนดีจริง ๆ มันก็ได้ แต่ถ้าหากเขารู้แต่ว่าคนจ้างเขาเล่นแล้วเขาทำหน้าที่อันั้นไปส่วนนี้มันก็น้อยลง ยังไงเจ้ากรรมนายเวรน่ากลัวไหม (หัวเราะ) จริง ๆ มันน่าจะเห็นอย่างงั้นนะ

    [​IMG]

    โดย พระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สฺธมฺมปญฺโญ),ดร.
    กระโถนข้างธรรมาสน์
    ฉบับที่ ๒ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗


    http://www.palungjit.org/board/showpost.php?p=103053&postcount=7
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    มันจะขนาดนั้นเลยหรอคับ
    ละอย่างงี้การที่เราทำตัวให้คนอื่นรัก ให้คนอื่นยึดติด ก็นรกกันหมดเลยดิ

    เอาง่ายๆ คนที่มีแฟน หรือครองเรือนก็ต้องอยากให้แฟน หรือคู่ครองรักเรา ยึดติดในเรา อย่างงี้มันไม่นรกกันหมดหรอคับ

    มันจะสูงส่งเกินไปหรือปล่าว การที่จะทำจิตให้ได้ขนาด ไม่อยากให้คนอื่นรัก ไม่อยากให้คนอื่นนับถือ ไม่อยากให้คนอื่นยึดติด

    แค่คิดหนะคิดง่ายนะครับ แต่จิตจริงๆให้ได้อย่างงั้นไม่ง่ายเลย
     
  3. suthamma

    suthamma ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,440
    ค่าพลัง:
    +36,485
    พระอาจารย์ท่านว่าเป็น "มายา" ครับ ไม่ใช่เป็น"กิริยา"
    มายาจะแฝงไว้ด้วย "โลภะเจตนา" ครับ

    ที่คุณMikas ว่ามาก็ถูก แต่ความรักแบบนั้นไม่ได้ทำคนเป็นมิจฉาทิฏฐินะครับ แค่ใครวางไม่ได้ก็ไม่หลุดพ้นเท่านั้น

    ขอโทษนะครับที่มีความเห็นแย้ง
     
  4. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    กราบโมทนากับคำตอบของท่านพี่suthamma ด้วยครับ

    อ่านความเห็นของคุณMikas แล้วก็รู้สึกว่ามี"วิสัย" ด้วยแสดงการรู้จักดูจิตดูใจและยอมรับอย่างซื่ออย่างตรง น่าชื่นชม การยอมรับว่ามีปัญหาคือก้าวแรกไปสู่การแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ยั่งยืน

    เพราะหากยังหลอกผู้อื่นว่าเป็นคนดีเลิศประเสริฐแล้ว ก็ง่ายที่ตนเองจะทนงสับสนไปด้วย ย่อมไม่รู้จักเริ่มจะแก้ไข ขจัดความเลวให้หมดไป

    ผมเองศึกษาพระธรรมไป ก็ยิ่งพบความสับสนระหว่างความอยากดี ความอยากให้ผู้อื่นเห็นเป็นคนดี กับความดีที่แท้จริง ดูจากบางมุมก็ยาก น่าระย่อท้อแท้

    แต่ในเมื่อเราโชดดีได้พบเจอพระพุทธศาสนาแล้ว เหมือนรู้ชัดว่าขุมทรัพย์มหาศาลอยู่ใต้ดินตรงหน้าแล้ว จะไม่พยายามขุดเลยเชียวหรือ
     
  5. รัก+ยม

    รัก+ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    863
    ค่าพลัง:
    +3,122
    เพราะ ยึดติด
     
  6. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,998
    ค่าพลัง:
    +5,064
    จริง ดาราตกนรก

    พระพุทธดำรัสเคยตรัสถึงพวกเต้นกินรำกิน ท่านว่าตกนรกหมด แม้นว่าจะ
    ทำให้คนอื่นได้รับสุข แต่นั้นเป็นสุขไม่แท้ ไม่เที่ยง เป็นการหลงสุข จึงตกนรก

    ส่วนการหลอกให้คนมาหลงรัก ก็ตกนรก
    ส่วนการรักผู้อื่นอย่างแท้จริงไม่หวังผลนั้น ขึ้นสวรรค์
    ให้ความรักคนอื่นเขาสิ อย่าเอาแต่รับรัก
     
  7. ณัฐสิทธิ์

    ณัฐสิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,916
    อนุโมทนากับทุกท่านที่มีสัมมาทิฎฐิกับกระทู้นี้ครับ
    การกระทำใดเป็นการสร้างเสริมกิเลสให้ผู้อื่น ในกรณีนี้-ดารา-นักร้อง-นักกีฬา ที่ส่งเสริมให้คนมีโลภะ(รวยทางลัดไม่ทำมาหากินสุจริต) -ราคะ(ดาวยั่วยุการารมณ์)-โมหะลุ่มหลง (งมงายไสยศาสตร์/เพลิดเพลินอบายมุข) -ความชิงชังพยาบาท (ตัวอิจฉา/ตัวโกง/ผู้ร้ายที่เก่งกาจ) พวกเขาย่อมนำพาผู้คนไปสู่ทางแห่งความเสื่อม(ปราภะ)ปิดกั้นโอกาสให้พบทางเจริญ (ศุพภะ) ถ้าตั้งเจตนาย่อมนำไปสู่อบายภูมิ อย่างอ่อนคือการทำให้จิตคนอื่นมีอกุศล ซึ่งถ้ามีจิตอกุศลบ่อยๆ มารก็ย่อมนำพาให้ทำสิ่งชั่วช้าลามกได้ในที่สุด... นะครับท่าน
    เจตนาเป็นตัววัดกรรมครับ อย่างการร้องเพลงสรรญเสริญคุณความดีเช่น เพลงชาติ เพลงส่งเสริมศีลธรรม เพลงสดุดีมหาราชา-มหาราชินี อย่างนี้ไม่เป็นบาปครับ ถือว่าได้บุญกุศลเพราะเป็นการบูชาบุคคลที่ควรบูชา ปูชาจะปูชะนียานัง เอตัมมังคละมุตตะมัง
    สรุปแล้ว ก็น่าเห็นใจคนในแวดวง บันเทิง/กีฬา นะครับ เพราะบางท่านถูกอิทธิพลของราหู(ความลุ่มหลงมัวเมา)เบียนอยู่ในชาตาอาชีพนั่นเอง
     
  8. Ta_Tum

    Ta_Tum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +98
    ตาลปุตตสูตร

    สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน ใกล้กรุงราชคฤห์ ครั้งนั้นพ่อบ้านนักเต้นรำนามว่า ตาลบุตร เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าถึงที่ประทับ ได้ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เคยได้ยินคำของนักเต้นรำผู้เป็นอาจารย์ และโบราณาจารย์ก่อนๆกล่าวว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะรื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ย่อมเข้าถึงการเป็นสหายแห่งเทวดาผู้ร่าเริง ในข้อนี้พระภาคเจ้าจะตรัสอย่างไรพระเจ้าข้า"

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "อย่าเลยนายคามณี จงหยุดคำถามนี้เสียเถิด ท่านจงอย่าได้ถามคำถามนี้กับเราเลย"

    พ่อบ้านหัวหน้านักเต้นรำคะยั้ยคะยอถามถึง 3ครั้ง

    พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า "ดูก่อนนายคามณีเราคงจะห้ามท่านเกี่ยวกับคำถามข้อนี้ไม่ได้แล้ว เอาละ เราจะพยากรณ์ให้ท่านทราบ"

    ดูก่อนนายคามณี เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะ โทสะ โมหะ อันมีกิเลสเป็นเครื่องผูกราคะ โทสะ โมหะเข้าไว้ ซึ่งผู้เต้นรำเป็นผู้รวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมะอันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ในท่ามกลางสถานที่เต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ยิ่งจะทำให้สัตว์โลกมีความกำหนัดมากขึ้น นักเต้นรำนั้นตนเองก็เป็นผู้มัวเมาประมาทอยู่แล้ว และยังตั้งอยู่ในความประมาทอีก เมื่อแตกกายตายไป เขาย่อมบังเกิดในนรกที่ชื่อว่าปหาสะ อนึ่ง ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะรื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานที่เต้นรำ ในท่ามกลางมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อปหาสะ ความเห็นของเขาเป็นความเห็นที่ผิด"

    "ดูก่อนนายคามณี เราขอกล่าวคติสองอย่างคือ ผู้มีความเห็นผิดจะต้องไปเกิดในนรก หรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง"

    เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสแล้ว พ่อบ้านนักเต้นรำก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาไหลพราก พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "ดูก่อนนายคามณี เราได้ห้ามท่านแล้วว่าอย่าถามคำถามนี้กับเราเลย"

    ตาลบุตรกราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่ได้ร้องไห้เนื่องจากคำพยากรณ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่ข้าพระองค์ร้องไห้เพราะ เสียใจที่ถูกนักเต้นรำผู้เป็นอาจารย์ ล่อลวงให้หลงเชื่อเสียนาน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งยิ่งนัก พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง"

    "ฉะนั้น ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า กับทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ คือที่พึ่งอันสูงสุด ข้าพระองค์พึงขอบรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า"

    เมื่อนายตาลบุตรอุปสมบทไม่นาน ก็หลีกหนีออกจากหมู่คณะ อยู่แต่เพียงลำพัง ไม่ประมาท มีความเพียร ในที่สุดก็บรรลุเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลายนั่นเอง
     
  9. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,189
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ขอบคุณที่ทำให้มีความเข้าใจในเรื่องนี้พอสมควร ขออนุโมทนา
     
  10. ท่าข้าม

    ท่าข้าม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +2,513
    พระพุทธเจ้า และพระอาจารย์ ท่านว่าให้ดูเจตนาเป็นสำคัญ
     
  11. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +3,843
    เคยได้ยินมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว แต่เพิ่งทราบเหตุผล ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างครับ อยากรู้ต่ออีกนิดว่าแล้วพวกวัยรุ่นที่มัวเมาเอาแต่ติดตามบ้าดาราจะเป็นอย่างไร ดูข่าวทีไรแล้วอยากเอามาตีก้นสักทีหนังสือไม่เรียนเอาแต่ตามคลั่งดารา
     
  12. granun

    granun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +148
    อนุโมทนายิ่งครับ..

    มายา โลภะเจตนา เหล่านี้ชี้ชัดดีจริงครับ

    ทุกกรรมนั้นอยู่ที่เจตนา
     
  13. rain_55

    rain_55 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +66
    ถ้าเป็นอย่างนี้ นักเขียนนวนิยายก็ต้องบาป ในการทำให้คนยึดติดด้วยหรือเปล่าคะ? อยากรู้มากเลยค่ะ
     
  14. suthamma

    suthamma ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,440
    ค่าพลัง:
    +36,485
    คงต้องดูเหมือนกันครับ ถ้านิยายธรรมะอย่างอ.วศิน อินทสระ หรือ

    ท่านธรรมโฆษ ก็คงจะเป็นคนละกรณีกัน
     
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    หนังละครที่อยู่ในข้อการละเล่นเป็นเหตุพาผู้คนเสพอบายมุขได้ หากผู้เสพขาดสติปัญญาพาตนเองไปสู่อบายภูมิทุคติ คนที่เป็นต้นเหตุโดยเจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดปัญญาพิจารณาวางใจและขาดการกำหนดตั้งกรรมไว้ในที่ถูกที่ควร ก็ย่อมน่าจะมีโทษหนักกว่า [​IMG]
    ธรรมะสวัสดีครับ [​IMG]
     
  16. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    ขอบคุณครับ สาธุ

    ไม่อยากตกนรกเลย

    แต่ถ้าไม่สำเร็จ ก็ต้องเข้ากงล้อแห่งกรรมอยู่ดี
     
  17. NIGht Kung

    NIGht Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +400
    อนุโทนา ครับ ดาราใจบุญมีเยอะน่ะครับ ส่วนน้อยเท่านั้น ที่ไม่ทำบุญเลย
     
  18. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +2,177
  19. dearestguardian

    dearestguardian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +1,418
    พี่คนเก่าเขียน

    "ผมเองศึกษาพระธรรมไป ก็ยิ่งพบความสับสนระหว่างความอยากดี ความอยากให้ผู้อื่นเห็นเป็นคนดี กับความดีที่แท้จริง ดูจากบางมุมก็ยาก น่าระย่อท้อแท้"

    โมทนาบุญค่ะ พี่ คนเก่า ไม่ได้โมทนาท่พี่สับสน แต่ โมทนาบุญ ตรงที่ พี่ มีกำลังใจละเอียด พอ ที่จะมองธรรม ละอียด ระดับ "มานะ" ได้

    ขออนุญาต แสดงความคิดเห็นนะค่ะ
    เคยอ่าน กระโถนของหลวงพี่ ท่านว่า ที่ทำดี เพราะ เราเห็นว่า "ดี" จึงทำ
    ในหลวง ท่านทรงมีกระแสพระราชดำรัส ว่า " เรา ต้องทำดี เพื่อรักษาใจให้ เป็นกุศล

    (ส่วนนี้ เติมเอง)
    หากไม่เกาะดี บางทีใจมันก็ไปเกาะ เลวเข้า มันจะยิ่งยุ่ง (เพราะใจปุถุชน มัน สัดส่าย ชอบหาที่เกาะ ที่ยึดเป็น ปกติ

    จะว่า ไปกำลังใจคนเราไม่เท่ากัน คนทำดี เพราะอยากดี ก็ดี ในระดับหนึ่ง ที่อย่างน้อยก็ยัง อยาก ดี นับว่า กำลังยังเกาะ กุศล แต่ กำลัง ใจระดับ นี้ ยังติดอยู่ในโลกธรรม 8 เมื่อถูก อกุศล รุม คือ ไม่มีใคร เห็นความดี ก็ ย่อมท้อแท้ ต่อการทำความดี ได้ ง่ายๆ

    แต่ คนทำดี เพราะเห็นว่า ดี แล้วจึงทำ กำลังใจ กำลังสติ ย่อมสูงกว่า เพราะ เกาะ กุศล ไม่หวั่นไหว ในโลกธรรม 8 แม้ไม่มี ใครเห็นความดี ก็ยังคงทรงรักษา ความดี ไว้ โดยไม่เปิดโอกาส ให้ อกุศล เข้า ครอบงำ

    ประหนึ่ง" นายอิน ผู้ปิดทองหลังพระ"
     
  20. neltharion

    neltharion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +107
    อนุโมทนาครับ

    เมื่อเรารู้โทษแล้วก็จงอย่ายึดติดกับของมายาอีกต่อไป
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...