ทำไมพิจารณาร่างกายแล้ว แต่ยังไม่เกิด_าณหยั่งรู้ว่าบรรลุธรรมเสียที

.

 

แหมมม ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็ดีสิครับ น้องพลอย


การทีเราจะบรรลุธรรมได้นั้น

มีองค์ประกอบ ที่เรียกว่า มรรค8

ถ้ามรรคเกิดไม่ครบ 8 ตัวกับเราเอง ก็คงหมดดอกาสบรรลุธรรม ไม่ว่าขั้นไหนก็ตาม

ถ้าเรามีมรรค8 เมื่อไร ก็คือมี ศีล สมาธิ ปันยา เช่นกัน

เพราะ

มรรค8 = ศีล สมาธิ ปันยา (สิกขา3) = "ความไม่ประมาท"

3 อย่างที่บอกมานี้ ตัวเดียวกัน

 

กลางๆคับ พิจารนาไห้เห็น เห็นแล้วจารู้ รู้แล้วจาไม่สงสัย ไม่สงสัยก้ไม่ติด แล้วจารู้เอง

 

ไม่บรรลุหลอกครับ.....ยังไม่พอหลอกนะครับ......คุณรู้ตัวไม่ครับว่าคุณยังมีตัวอยากอยู่....คืออยากให้มันดีนะครับ......

 

ความอยากหรอที่ทำไห้ไม่บรรลุธรรม แปลว่าถ้าไม่มีความอยากจะบรรลุธรรมหรอครับท่าน . . .

ท่าน จขกท อย่าคิดมากเลยครับ ความอยาก ใครๆก็มีทั้งนั้น เพราะถ้าไม่มีความอยากก็คงไม่ทำ และอีกอย่าง พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่า
เราสามารถใช้ตัณหา(ความอยาก) เพื่อละตัณหา(ความอยากได้)
คือ ตัณหา ละตัณหา
และ มานะ ละมานะ
ทิฐิ ละทิฐิ(อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ไม่น่าผิด)

แต่กาม ไม่สามารถละกามได้นะครับ เพราะ ในโลกนี้ มี3สิ่ง ที่ได้รับมากเท่าไรก็ไม่อิ่มไม่พอ
คือ 1.สิ่งเสพติด
2.กาม(SEX)
3.การนอน

 

ขาดสภาวะธรรมรองรับ คือจิตไม่ได้เห็นตามที่มันเป็นจริง ถ้าจิตได้เห็นตามสภาวะที่มันเป็นจริง หรือจิตมีประสบการณ์ตรงต่ออารมณ์นั้นจิตจะเข้าไปตัดสินความรู้หรืออารมณ์นั้นเอง ถ้าเราพิจารณาเอาเองโดยที่จิตไม่เคยเห็นธรรมตามที่จะพิจารณานั้น คงเป็นได้แค่การคิด โดยแอบคาดหวังสภาวะการบรรลุธรรมด้วยจิตปรุงแต่ง ( ฟังหลวงพ่อท่านมาอึกที นะขอรับ )

 

ดีแล้วๆ..เริ่มๆ