การใช้อำนาจพลังจิต ฝึกได้ด้วยตนเอง

เชิญเข้าร่วมฟังการบรรยาย สอนการใช้พลังจิต
ฝึกขีดความสามารถด้วยตัวท่านเอง



- อาจารย์ท่านนี้เป็นอดีตผู้บริหารระดับ Senior Vice President

- อดีตผู้อำนวยการหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน ของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย

- ที่ปรึกษาสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ผู้ศึกษาค้นคว้าเรื่องการทำ

จิตให้สงบ การทำจิตให้มีพลังจากสำนัก ครูบาอาจารย์ต่างๆ มาเกือบ 50 ปี

- อาทิ ทำการศึกษาจาก ศ.ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

- อาจารย์ ดร.ไชย ณ พล อัครศุภเศรษฐ

- รศ.รตอ.สรพล สุขทรรศนีย์ แห่งสถาบันพัฒนาจิตและกาย

- ศ.ดร.ไชยยงค์ พรหมวงศ์ แห่งสำนักพลังชีวิต

- อาจารย์จ้าวเมี่ยวก่อ แห่งสำนักเต้าเต๋อซิ่นซี

- อาจารย์ใหญ่โกเอ็นก้า แห่ง ศูนย์วิปัสสนาสากล

- อาจารย์วิลเลี่ยม สตาร์ค แห่งสำนักอียิปต์โบราณ

 

- อาจารย์ใหญ่สายพลังจักรวาล ดร.เลืองมินด๋าง

- หลวงพ่อพุธฐานิโย เจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน

- วิปัสสนาจารย์สายสำนักมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย

ขออนุญาตนำชื่อมากล่าวเท่านี้พอก่อน เพียงแต่ให้ท่านรู้จักตัวตนผู้บรรยายสัก
เล็กน้อยว่า เป็นผู้ผ่านการศึกษาเรื่องทางจิตมาพอสมควรเท่านั้น ส่วนด้านปริยัติธรรม
ไม่ได้เรียนบาลี แต่ก็สอบผ่านสำเร็จธรรมศึกษาชั้นเอก ในปี 2506 หรือเมื่อ 46 ปีก่อน

(ติดตามต่อช่วงค่ำ)

 

จะตามต่อ ครับ

 

มารอป๋ะป๋าด้วยคนเจ้าค่ะ

 

รออยู่ครับ

 

ผู้บรรยายได้ตั้งใจนำเอาประสบการณ์ทางจิตประมาณ 50 ปีในชาติปัจจุบันมา

เล่าให้ฟัง สำหรับประสบการณ์ในชาติก่อนๆ ไม่น่าจะมีประโยชน์ และมีสาระไม่

สมบูรณ์ น่าจะเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่า ซึ่งท่านหลวงพ่อพุธ อดีตเจ้าอาวาส

วัดป่าสาลวัน ครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง ที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือมาก ท่านเคยตำหนิ

ข้าพเจ้า ในกรณีนำเรื่องชาติก่อนๆมาใส่ใจ มาภาคภูมิใจ ว่าได้เคยเกิดเป็กษัตริย์

ในหลายชาติ หรือนำไปบอกเล่าให้คนอื่นฟัง ท่านตำหนิว่าอย่าเล่าแต่

เรื่องอดีตชาติ เฉพาะตอนเป็นกษัตริย์เท่านั้น ต้องเล่าตอนที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน

ด้วย ท่านเคยกล่าวกับข้าพเจ้าว่า โยมเห็นตัวเองในหลายชาติมีใช่หรือ หากเล่าก็

ต้องเล่าให้หมดทุกชาติที่เห็น ถ้าเล่าไม่หมด อย่าเล่าให้ใครฟังหากโยมไม่หยุด

เล่า เล่าไปเล่ามา ผู้ฟังเขาจะเห็นโยมเป็นตัวตลก ท่านย้ำเสมอว่า โยมต้อง

เอาตัวให้รอดในชาติปัจจุบัน อย่าสนใจเรื่องอดีต เป็นเรื่องไร้สาระ มิใช่แก่นแท้

ของชีวิตในปัจจุบัน ปล่อยวางเรื่องเก่าให้หมด เกิดมาแล้ว อย่าให้เสียชาติเกิด

หากเกิดมาในชาตินี้เพียงเพื่อมาใช้บุญเก่า มาเสวยบุญเก่า แต่ไม่เสริมสร้างบุญ

บารมีใหม่ ก็ถือว่า โยมเสียชาติเกิด เพราะสว่างมา แต่มืดกลับไป การมีสมาธิได้

ในระดับฌาน 4 ในชาตินี้ เป็นเรื่องระดับประถมในสายตาครูบาอาจารย์ อย่าทน

งตน และ สมาธิที่ได้ในระดับฌาน 4 นั้น เสื่อมถอยเร็ว ไม่ทรงตัวตลอดไป หาก

ชาตินี้กองบุญบารมีเก่าในชาติก่อนๆของโยม ถูกนำมาใช้ โดยไม่เสริมสร้างบุญ

บารมีใหม่เข้าไปในกองบุญของตัวโยมเอง แบบนี้ เรียกได้ว่า

โยมเอาตัวเองก็ไม่รอดแล้ว เสียชาติเกิดแล้ว ชาตินี้ขาดทุนเสียแล้ว อย่างน้อย

โยมต้องเสริมสร้างบุญบารมีให้เท่ากับที่โยมใช้ไป ก็ถือว่า ชาตินี้โยมเท่าทุน ไม่

ถึงกับเสียชาติเกิด

หากกองบุญของโยมในชาติก่อนๆนั้น ต้องถูกนำมาใช้ในชาติปัจจุบันมาก กอง

บุญของโยมก็จะติดลบ การที่โยมเกิดมาแล้วสร้างหนี้กรรมใหม่ หากไม่เกิดมาใน

ชาตินี้เลย โยมก็ยังเท่าทุนอยู่ ดังนั้น โยมเกิดมาทำไมในชาตินี้ หากไม่ใช้

ปัญญา ไม่ใช้ความเพียร ความอดทน ความอดกลั้น ความอดออม ในการสร้าง

เสริมกองบุญในชาติปัจจุบัน ให้มากกว่าที่เคยมีอยู่ในชาติก่อนๆ หากไม่ตั้งใจ

กระทำ ก็ถือว่า โยมประมาท และ เสียชาติเกิดไปเปล่าๆ

มีน้อยนัก ที่มองเห็น มากมาย ที่หมดโอกาส

 

ดังนั้นไม่ต้องไปเล่าให้ใครฟังในเรื่องของอดีตชาติ คนที่เขาไม่เชื่อ เล่าอย่างไร เขาก็ไม่เชื่อ

และ จะดูหมิ่นดูแคลนโยมเสียอีกว่า เป็นคนเพี้ยน เป็นคนหลงตัวเอง เป็นคนขี้คุย คุยโม้ว่า

เข้าระดับฌาน 4 ได้ ระลึกชาติได้ โยมต้องเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ 99.99 % เขาเข้าสู่

สภาวะดังกล่าวไม่ได้ ไม่เคยมีประสบการณ์ เป็นเรื่องปัจจัตตัง เป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะผู้ที่

เข้าสู่สภาวะดังกล่าวได้เท่านั้น ปัจจุบัน น่าจะมีประมาณ 0.01 % หากคูณ 65 ล้านคนใน

ประเทศไทย ก็เท่ากับ 6,500 ท่านที่เข้าสู่สภาวะดังกล่าวได้ โยมต้องเข้าใจว่า ผู้ที่มีสภาวะ

จิตเข้าสู่ระดับ ฌาน 4 ได้ในประเทศไทยนั้น นับว่ามีมากพอสมควร แม้จะนับจำนวนได้

ประมาณ 6,500 ท่าน หากมองในส่วนนี้ ก็ถือว่า มีอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยนั้น อย่าลืมว่า

โยมก็เป็นเพียง 1 ใน 6,500 ท่าน เท่านั้น มิใช่เก่งระดับ 1 ใน 100 แล้วโยมยังคิดว่าโยม

เก่งอยู่อีกหรือ โยมลองจินตนาการตัวโยมที่ยืนในกลุ่มคน 6,500 คน โยมจะเห็นว่า ตัวโยม

เอง เสมือนเพียงหิ่งห้อยตัวน้อยๆเท่านั้น หาได้ดีกว่าผู้อื่นอีก 6,499 ท่านไม่ อย่าไปดูว่า

โยมเหนือกว่าคนอื่นๆ 99.99 % หากโยมคิดในแง่นั้น โยมจะล้าหลัง และ ถอยหลัง จะ

กลายเป็นคนเสียชาติเกิด ขาดความมุ่งมั่นในการปฏิบัติ และการเจริญในทางธรรม แต่ผู้เข้า

สู่ระดับฌาน 4 ได้นั้น ส่วนใหญ่บุคคลเหล่านี้เกือบทั้งหมด เขาไม่ได้มาวุ่นวายในทางโลก

ถึงแม้จะมีการใช้ชีวิตทางโลกแบบฆราวาสแบบโยมก็มี แต่ก็คงไม่เกิน 100 ท่านเท่านั้น นั่น

ก็หมายความว่า ผู้ที่ใช้ชีวิตฆราวาสแบบโยมที่มีสภาวะจิตระดับฌาน 4 ก็มีเป็นร้อยคน และ

ต้องไม่ลืมว่าสภาวะจิตระดับฌาน 4 นั้น ก็เป็นเพียงโลกียฌานเท่านั้น ไม่ฝึกต่อเนื่อง ก็

สูญเสียสภาวะดังกล่าวได้โดยง่าย มิใช่ว่าจะทรงสภาวะดังกล่าวได้ตลอดไป ดังนั้น อาตมา

ขอบิณฑบาตเรื่องอดีตชาติของโยม แล้วประกอบภารกิจในชาติปัจจุบันไม่ให้ติดลบ แล้วหา

โอกาสเสริมบุญบารมีใหม่ไว้เสมอๆ ดังนั้นเรื่องอดีตชาติของโยมนั้น โยมไม่ต้องเล่าให้ใคร

ฟังอีก หากบุคคลผู้นั้น เชื่อในพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง บุคคลผู้นั้น ควรเชื่อตามที่

พระพุทธเจ้าที่ได้ทรงเล่าถึง อดีตชาติของพระพุทธองค์มากกว่า ที่จะมาฟังตัวอย่าง

อดีตชาติเล็กๆของโยม ขนาดในพระไตรปิฎกนั้น มีจารึกเรื่องที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเล่าถึง

อดีตชาติหลายชาติของพระองค์ท่าน บางชาติ ก็เกิดเป็นพระราชา บางชาติ ก็เกิดเป็นเทวดา

บางชาติ ก็เกิดเป็นสัตว์ บางชาติ ก็เกิดเป็น มนุษย์ นั่นคือ สิ่งที่พระพุทธเจ้ายืนยันว่าเรื่อง

ชาติก่อนๆนั้นมีจริง พุทธศาสนิกชนจำนวนมากนั้น ใจเขาไม่ได้เชื่อเช่นนั้น ขนาดพระ

พุทธเจ้าเขายังไม่เชื่อเลย ใครเขาจะมาเชื่อโยม โยมต้องไม่ลืมว่า ในบรรดาสิ่งที่มีชีวิตทั้ง

มวลนั้นหากกิเลสยังไม่หมดสิ้นไป ก็เป็นสิ่งที่ต้องมีการเวียนว่าตายเกิด เป็นไปตามแรง

กรรมที่ก่อขึ้น ทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นตัวก่อให้เกิดการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งทุกชีวิต

มักจะก่อให้เกิดได้ ทั้งกรรมดี และ กรรมชั่วคลุกเคล้ากันไป มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีคละกันเสมอ

เพียงแต่ส่วนใดจะมีมากกว่ากันเท่านั้น ถ้ากรรมดี มีมากกว่า กองบุญก็จะยิ่งกองใหญ่มากขึ้น

หากต้องเกิดมาในชาติต่อไป หากต้องการนำบุญบารมีมาใช้ ก็สามารถนำมาใช้ได้โดยง่าย

ของดีมาฝาก ฮ่า..ฮ่า..วาสนาไม่ถึง มองไม่เห็น หุหุ

 

โมทนาบุญด้วยครับ
ว่าแต่อยู่ที่ไหน รายละเอียดเป็นอย่างไรครับ สนใจมั๊กๆๆ...ขอบคุณครับ

 

ประสบการณ์ที่สั่งสมมาของตัววิทยากร หลังจากศึกษาจบวิชาเกี่ยวกับพลัง

จิตใหม่ๆในทุกแขนง ก็มีโอกาสทดลอง นำไปทดลองใช้ หมดทุกวิชา บางเรื่อง

อาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชา ห้ามกระทำ เช่น ศ.ดร.อาจอง ชุมสาย ณอยุธยา ท่าน

ห้ามมิให้ใช้เคล็ดวิชา เข้าไปแทรกแซงเปลี่ยนแปลงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

ซึ่งวิชาที่เรียนมาจาก ศ.ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ในปี 2509 เป็นเวลา 3

เดือน นั้น

ท่านอาจารย์บอกว่า ถ้าฝึกฝนให้ดีแล้ว มิใช่เพียงนำไปรักษาโรคต่างๆได้ ปรับ

สมดุลใน ร่างกายได้ ซ่อมแซมอวัยวะภายในที่สูญเสียให้กลับมาทำงานตามปกติ

ได้เท่านั้น แต่นำไป เปลี่ยนแปลงสภาพดินฟ้าอากาศได้ เช่น ถ้าฝนไม่ตก ก็ทำ

ให้ฝนตกได้ หากฝนตกหนัก ก็ทำให้ฝนหยุดได้ แต่ ไม่แนะนำให้นำไปใช้ในการ

แทรกแซงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

เพราะต้องใช้พลังค่อนข้างมาก อาจเจ็บหนัก และ ทำให้อายุสั้นลงได้

หลังจากเรียนวิชาไปแล้ว ก็มีเรื่องจำเป็นเกิดขึ้น 3-4 ครั้ง และไม่จำเป็น โดย

แสดงอวดเพื่อนฝูง ประมาณ 8-9 ครั้ง ปรากฏว่าได้ผล 100 % หรือ ได้ผลทุก

ครั้งที่กระทำ เช่น ในงานจำเป็นครั้งหนึ่งที่ ต.บ้านปี๊ อ.เชียงคำ จ.เชียงราย ใน

ช่วงออกงานค่ายอาสาพัฒนาชนบท ของชมรมชาวเหนือ มหาวิทยาลัยธรรม

ศาสตร์ ในปี 2510 หลังจากเรียนวิชามาได้ 1 ปี ก็มีโอกาสฝ่าฝืนคำสั่ง ศ.ดร.

อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้ถ่ายทอดวิชา นั่นคือ

ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า สุดแท้แต่วาสนานะ พี่น้อง หุหุ

 

ส่งรายละเอียดไปทาง P.M. แล้วนะครับ เวลาใกล้มากจริง ๆ

เดือนกุมภานี้ล่ะครับ ใครดีใครได้ วิชาสุดยอดไป

โมทนาในความสำเร็จครับ พบกันที่นั่น

 

ต่อวิชากันครับพี่น้อง

ในวันหนึ่ง ของเดือนมีนาคม 2510 ที่ ต.บ้านปี๊ อ.เชียงคำ จ.เชียงราย ซี่งจะมี

การฉายหนังกลางแปลงเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อ 42 ปีก่อน ทางไปบ้านปี๊นั้นค่อน

ข้างกันดาร ต้องใช้เกวียนเป็นหลักในการเดินทาง ชาวบ้านเกิดมาไม่เคยดูหนัง

กันเลย แน่นอนว่า ถ้าฝนตก ก็คงไม่ได้ดูหนังแน่ ชาวบ้าน และ ชาวค่าย ไม่มี

ใครต้องการฝน แต่ในครั้งนั้น ทางค่ายอาสาพัฒนาชนบทได้คิวขอยืมจอหนัง

และ เครื่องฉายหนังพร้อมเจ้าหน้าที่ของยูซิส พร้อมหนังไทยอีก 2 เรื่อง ยืมได้

แค่วันเดียวที่จะฉายในคืนนั้น ปรากฏว่าในช่วงบ่ายวันนั้น เกิดพายุใหญ่ จอหนังที่

กางจอแล้ว อาจฉายไม่ได้ เพราะเพียงแค่ 16 นาฬิกาเศษ หรือ ประมาณ

4 โมงเย็นเท่านั้น ท้องฟ้ามีเมฆก้อนใหญ่ปกคลุมพื้นดินหมด มืดมากแล้ว ในครั้ง

นี้ เมื่อ ประมาณ 42 ปีก่อน ก็ได้ใช้วิชาพลังไฟฟ้าสากลจักรวาล ที่เรียนมาจาก

ศ.ดร.อาจองชุมสาย ณ อยุธยา ขอให้พระพาย นำพระพิรุณ ออกไปนอกอำเภอ

เชียงคำ ซึ่งก็ได้ผลสำเร็จ ไม่มีฝนตก แต่รุ่งเช้า ปรากฏว่าข้าพเจ้า มีอาการปวด

กล้ามเนื้อหน้าอกอย่างรุนแรง ทั้งๆที่วันก่อนหน้า มิได้ทำงานหนักเลย เนื่องจาก

เข้าเวรงานครัว ในที่สุดถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.เชียงคำ โดยแพทย์รับ

เป็นคนไข้ในถึง 14 วัน แพทย์ได้ดูฟิล์ม X-RAYแล้ววินิจฉัยว่า

กล้ามเนื้อหน้าอกฉีกขาด มีเลือดตกใน แต่ในระหว่างที่อยู่ในโรงพยาบาลเชียง

คำ ก็ได้ใช้วิชาที่เรียนมาจาก ศ.ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ในปี 2509 หรือ

เมื่อ 43 ปีก่อนในการรักษาผู้ป่วยอาการโคม่ามอเตอร์ไซต์ล้มคว่ำกระโหลกศรี

ษะแตกมันสมองไหลเยิ้ม แพทย์นำเข้ารักษาฉุกเฉิน โดยแพทย์ได้บอกพยาบาล

เพื่อให้พยาบาลแจ้งญาติที่พามาว่า คงไม่รอดข้ามคืนวันนั้นแน่ ขอให้ไปติดต่อ

หาวัดไว้ก่อนได้เลย แต่ ปรากฏว่าผลของการใช้วิชา

รักษาโรคตามกรรมวิธีที่เรียนมา จาก ศ.ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ในการ

ปรับสมดุล และ ทำการรักษาอวัยวะภายในร่างกาย แล้วโปรแกรมจิตให้เกิดภาพ

ที่ชัดเจนว่า ในรุ่งเช้าให้ผู้ ประสบอุบัติเหตุ ถอดสายอ็อกซิเจนออกเองได้ จาก

นั้น ให้ถือสายน้ำเกลือเดินเข้าห้องน้ำได้ด้วยตนเอง และ ให้ออกจากโรง

พยาบาลได้ ภายใน 3 วัน ซึ่งรุ่งเช้าก็ปรากฏให้เห็นเป็นอัศจรรย์เช่นที่จินตนาการ

ไว้เลย แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเอง ก็รู้สึกตกใจ เพราะในการรักษาครั้งนั้น ก็มิได้คาด

หวังผลอะไร ปล่อยจิตและกายให้ผ่อนคลาย ด้วยการทำสมาธิก่อนการ

โปรแกรมจิต (ในหลักวิชาการที่มาทราบในภายหลังจากสถาบันพัฒนาจิตและ

กายว่า ก็คือทำให้สภาวะจิตอยู่ในคลื่นระดับแอลฟ่า จิตก็จะมีพลัง ด้วยพลังแห่ง

ศรัทธา โดยจินตนาการให้ชัดแจ้ง ในขณะคลื่นจิตมีความละเอียดในระดับ แอล

ฟ่า นั่นเอง ) จากนั้น จึงทำการรักษา และ โปรแกรมจิตเช่นว่า ในตอนสายของ

วันรุ่งขึ้น จึงเป็นที่มีการเม้าท์ หรือวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่พยาบาลว่า เป็นไปได้

อย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไร

 

สนใจอยากทราบรายละเอียด และสถานที่ในการจัดบรรยายค่ะ รบกวนช่วยแจ้งทางPM ขอบคุณค่ะ

 

สถานที่และเวลา กำลังจะถูกส่งไปครับ

ขออนุโมทนา

 

ผู้เข้าฟังการบรรยาย สามารถที่จะขุดเอาพลังจิตที่ท่านมีอยู่แล้ว โดยการสอนให้

ท่านตระหนักรู้ในขีดความสามารถในตัวท่าน

ที่ซ่อนเร้นให้ท่านได้ประจักษ์โดยตัวท่านเอง ว่าท่านทำได้ และ ทำได้จริง อีก

ทั้งนำไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน ส่วนการฝึกปฏิบัติอย่างละเอียดที่ได้ผล

สมบูรณ์เต็มที่นั้น ท่านควรจะไปเข้ารับการอบรม และ ฝึกปฏิบัติเพื่อเรียนรู้

สำหรับนำไปปฏิบัติให้ได้ผลอย่างจริงจัง

หากท่านติดธุระสำคัญอย่างยิ่งยวด ก็ควรให้ญาตสนิท หรือ มิตรสหายท่านไปฟัง

แทนก็ได้ ทั้งนี้

จะเป็นเพียงการแนะนำเบื้องต้นให้ท่านรับรู้ศักยภาพของตัวท่านเอง

โดยขอเรียนให้ท่านทราบอีกครั้งว่า ท่านจะได้ประโยชน์เต็มที่ในเรื่องต่างๆ


1. ท่านมีความสุข และ ความสำเร็จในกิจการงานทั้งปวง

2. ท่านมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง

3. ท่านมีชีวิตที่ดีขึ้น ดีวันดีคืน เจริญขึ้นทุกวัน

4. ท่านได้ลูกที่เป็นเด็กดี เด็กฉลาด ไอคิวสูง

5. ท่านได้ลูกที่เรียน เก่ง น่ารัก คล่องแคล่ว สุภาพเรียบร้อย

สอบได้เกียตินิยม

6. ท่านไปที่ใด มีที่จอดรถหน้าประตูใกล้ทางเข้าเสมอ

7. บัดนี้ ชีวิตท่านดีขึ้นกว่าเดิมมาก มีความสุขกายสุขใจ รุ่งเรือง

ร่ำรวย อย่างราบรื่น และ เรียบร้อย

8. บัดนี้ ท่านเป็นคนใจเย็นแล้ว

9. บัดนี้ ท่านเลิกบุหรี่ได้แล้ว

10. บัดนี้ ท่านเป็นที่รักของผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องในที่ทำ

งานแล้ว

11. บัดนี้ ท่านมีลูกน้องที่มีความทุ่มเท มีความขยันขันแข็งในการทำงาน ทำ

งานได้เกิน KPI. ที่กำหนดไว้แล้ว

12. สิ้นปีนี้ ท่านมีผลงานรวมอันดับเยี่ยมยอดที่สุดในกิจการ

ที่ท่านทำงาน

13. บัดนี้ ท่านเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่ดี มีความเชื่อมั่นในตนเอง

14. กิจการของเรามีแต่คนดี คนที่ซื่อสัตย์ ที่มีความมุ่งมั่นในการ

ทำงานให้สำเร็จอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาทำงานอยู่กับเรา

15. บัดนี้ เรามีสามีที่ดีที่รักเราและรักลูกมากๆ พูดดีๆ กับเรา

และลูกตลอดเวลา มีอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสตลอดวัน ทุกวัน

16. บัดนี้ เรามีภรรยาที่ดีที่รักเราและรักลูกมากๆ พูดดีๆ กับเรา

และลูกตลอดเวลา มีอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสตลอดวัน ทุกวัน

17. บัดนี้ เรามีพ่อตาแม่ยายที่ดีที่รักเรามากๆ พูดดีๆ กับเรา

ตลอดเวลา มีอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสกับเราตลอดวัน ทุกวัน

18. บัดนี้ เรามีพ่อสามีแม่สามี ที่ดีที่รักเรามากๆ พูดดีๆ กับเรา

ตลอดเวลา มีอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสกับเราตลอดวัน ทุกวัน

 

นอกจาก 18 ตัวอย่างนี้แล้ว หากท่านต้องการได้อย่างอื่น หรือ สิ่งอื่น

ท่านก็จะได้ภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ท่านใด ที่มีโอกาสได้อ่าน

บทความเรื่องนี้ แสดงว่า บุญเดิมท่านเสริมส่งให้ท่านจะได้รับความสุขและความ

สำเร็จในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าภายในครอบครัว ภายในที่ทำงาน ภายในชุมชน

ของท่าน ภายในสังคม ภายในหมู่บ้านท่าน ภายในตำบล ภายในอำเภอ ภายใน

จังหวัด ภายในประเทศไทย

และ ระหว่างประเทศ หากท่านไปฟังการบรรยายพิเศษในวันดังกล่าว เสีย

ค่าลงทะเบียนค่าน้ำชา กาแฟ โอวัลติน อาหารว่าง ค่าห้องประชุม ค่าแอร์

คนละ 150 บาทเท่านั้น

ด้วยความปรารถนาดี จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ

(พรุ่งนี้มาต่อวุ้ย เมื่่อยแล้วอ่ะค๊าบๆๆๆๆๆๆๆๆ)

 

<table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%">มังกรบูรพา*, VICT


ยังอ่านอยู่หรือครับ นึกว่าไปแล้ว
</td></tr></tbody></table>

 

ขอทราบรายละเอียดครับ

 

สนใจขอทราบรายละเอียดด้วยครับ

 

อนุโมทนา ครับ พี่มังกร หายไปเป็นเดือน กลับมาลีลาเยอะเหมือนเดิมนะพี่ 555
ไม่บอกซักที ปล่อยให้น้องๆอยากรู้อยู่ได้ .... บอกผมบ้างดิ ถ้าว่างจะได้ไปมั่ง

 

สนใจและน่าศึกษา ขอทราบรายละเอียดค่ะ ขอบคุณค่ะ