การฝึกปฏิบัติพลังแห่งจิตปัจจุบัน..POWER OF NOW

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย paang, 31 มกราคม 2009.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    เลิกความสัมพันธ์กับตัวเอง


    ไม่ว่าจะรู้แจ้งหรือไม่ คุณก็ยังเป็นเพียงผู้หญิงหรือผู้ชายอยู่ดี ฉะนั้น ในระดับของรูปลักษณ์แล้ว คุณยังไม่สมบูรณ์ คุณเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ความไม่สมบูรณ์นี้รู้สึกได้เหมือนแรงดึงดูดระหว่างชายหญิงที่ดึงเข้าหาขั้ว พลังงานที่ต่างกันไม่ว่าคุณมีสติแค่ไหนก็ตาม แต่ในการติดต่อภายในแล้ว คุณรู้สึกถึงพลังดึกดูดเช่นนี้ที่ไหนสักแห่งบนพื้นผิวหรือเส้นรอบวงของชีวิต

    นี่ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือคู่ของคุณอย่างลึกซึ้งหรอกนะ แต่ความจริงแล้ว คุณจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ก็ต่อเมื่อคุณมีจิตสำนึกถึง สิ่งที่เป็นอยู่จริง จากสิ่งที่เป็นอยู่จริงนี้ คุณสามารถเพ่งไปไกลกว่าม่านแห่งรูปลักษณ์ภายในสิ่งที่เป็นอยู่จริงนี้ ชายหญิงล้วนเป็นหนึ่งเดียว ชีวิตของคุณอาจมีความต้องการบางอย่างหลงเหลืออยู่ แต่สิ่งที่เป็นอยู่จริงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เพราะมันสมบูรณ์และบริบูรณ์แล้ว ถ้าคุณได้สิ่งที่ต้องการ มันยิ่งงดงาม แต่จะได้หรือไม่ได้ก็ตาม สภาวะภายในลึกๆ ของคุณไม่รู้สึกต่างอะไร

    ฉะนั้น สำหรับผู้ที่รู้แจ้งเห็นแจ้ง มันคือความเป็นไปได้ที่สมบูรณ์ ถ้ามีความต้องการทางขั้วชายหรือขั้วหญิง แต่ไม่ได้ คุณอาจรู้สึกขาดหรือไม่สมบูรณ์อยู่ภายนอก แต่ขณะเดียวกันคุณรู้สึกสมบูรณ์ บริบูรณ์ และสงบนิ่งอยู่ภายใน

    ถ้าคุณไม่สามารถอยู่อย่าง สบายใจกับตัวคุณเองโดยลำพัง คุณต้องไขว่คว้าหาความสัมพันธ์มาปกปิดความไม่สบายใจของคุณ คุณมั่นใจได้เลยว่า ความไม่สบายใจจะปรากฏอยู่ในรูปแบบอื่นในความสัมพันธ์นั้น และคุณยังคิดว่าคู่ของคุณต้องรับผิดชอบอีกด้วย

    สิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริงคือ การยอมรับขณะนี้อย่างเต็มตัวว่า คุณอยู่อย่างสบายที่นี่ ตรงนี้ กับตัวคุณเอง

    แต่คุณยังต้องการความ สัมพันธ์กับตัวเองอีกงั้นหรือ? ทำไมคุณถึงไม่สามารถเป็นตัวคุณเองได้ล่ะ? เมื่อคุณมีความสัมพันธ์กับตัวคุณเอง คุณแบ่งตัวเองออกเป็นสองฝ่าย คือ ฉัน กับ ตัวฉัน ประธานกับกรรม นั่นคือการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายที่ความคิดสร้างขึ้น ซึ่งเป็นต้นตอแห่งความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น เป็นปัญหาและความขัดแย้งทั้งหมดในชีวิตคุณ

    ในแสงสว่างแห่งปัญญา คุณคือตัวคุณ คุณ และ ตัวคุณ ผสานเป็นหนึ่งเดียว คุณไม่ตัดสินตัวเอง คุณไม่รู้สึกเสียใจกับตัวเอง คุณไม่ภูมิใจกับตัวเอง คุณไม่รักตัวเอง คุณไม่เกลียดตัวเอง ฯลฯ การแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายจากสำนึกที่สะท้อนตัวตนออกมาถูกปัดเป่าให้หายไป คำสาบถูกถอน ไม่มี ตัวตน ที่คุณต้องคอยปกป้องคุ้มครอง หรือถ่ายพลังงานให้อีกต่อไป

    เมื่อคุณรู้แจ้ง ความสัมพันธ์เดียวที่หายไปจากชีวิตคุณคือความสัมพันธ์กับตัวเอง เมื่อคุณเลิกกับตัวเอง ความสัมพันธ์อื่นๆ ทั้งหมดของคุณจะเป็นความสัมพันธ์ที่มีความรัก
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    ส่วนที่ 3


    .....


    การยอมรับและการยอมจำนน


    เมื่อคุณยอมจำนนต่อสิ่งที่เป็นอยู่


    และตั้งมั่นในปัจจุบันอย่างเต็มที่


    อดีตย่อมหมดอำนาจลง


    อาณาจักรของ สิ่งที่เป็นอยู่จริง


    ซึ่งถูกจิต (ความคิด) บดบังพลันปรากฏ


    ทันใดนั้น ความสงบนิ่งเกิดขึ้นในตัวคุณ


    ความสงบที่หยั่งไม่ถึง


    และภายในความสงบนิ่ง มันเต็มไปด้วยความเกษม


    และภายในความเกษม มันมีความรัก


    ณ แก่นกลางที่ลึกที่สุด มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ วัดไม่ได้


    เป็นสิ่งที่ไม่อาจเรียกขานได้

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    บทที่ 8




    .....




    การยอมรับปัจจุบัน




    ความไม่เที่ยงแท้และวัฏจักรของชีวิต


    มีวงจรแห่งความสำเร็จเมื่อสิ่งต่างๆ เข้ามาหาคุณและงอกเงยขึ้น และวงจรแห่งความล้มเหลวเมื่อสิ่งต่างๆ โรยราและแตกกระจาย คุณต้องปล่อยมันไปเพื่อสร้างที่ว่างสำหรับสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการแปลงสภาพ

    ถ้าคุณยึดติดและต่อต้านจุดนั้น นั่นหมายความว่า คุณกำลังปฏิเสธที่จะดำเนินไปตามกระแสชีวิตและคุณจะทนทุกข์ การดับสลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเกิดใหม่ ไม่มีสิ่งใดสามารถอยู่ได้โดยไม่มีสิ่งอื่น

    วงจรขาลงเป็นหัวใจสำคัญของการฝึกทาง จิตวิญญาณ คุณต้องผิดหวังแสนสาหัสจนถึงระดับหนึ่ง หรือพบกับความสูญเสียหรือเจ็บปวดที่ร้ายแรงจึงจะถูกดึงเข้าไปในมิติแห่งจิต วิญญาณ หรือบางทีความสำเร็จมากมายของคุณกลายเป็นความว่างเปล่า ไร้ความหมาย และกลับกลายเป็นความล้มเหลว

    ความล้มเหลวซ่อนอยู่ในทุกความสำเร็จ และความสำเร็จซ่อนอยู่ในทุกความล้มเหลว ในโลกนี้ สิ่งที่อาจกล่าวได้ในระดับของรูปลักษณ์คือ มนุษย์ทุกคนย่อม ล้มเหลว ไม่เร็วก็ช้า แน่นอนว่าความสำเร็จที่ได้มาจะไร้ค่าในที่สุด ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง

    ถึงกระนั้นก็ตาม คุณยังคงร่าเริงและสนุกสนานกับโลกและสร้างรูปแบบใหม่ๆ สถานการณ์ใหม่ๆ แต่คุณไม่จำแนกแยกแยะมัน คุณไม่จำเป็นต้องให้มันมากำหนดความเป็นตัวคุณ เพราะมันไม่ใช่ชีวิตของคุณ มันเป็นเพียงสถานการณ์ชีวิตของคุณเท่านั้น

    วงจรหนึ่งสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ สองสามชั่วโมงจนถึงสองสามปี มีทั้งช่วงกว้างและช่วงแคบอยู่ในวงจรนั้น โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายเกิดจากการต่อสู้กับวงจรในช่วงที่พลังงานตกต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างใหม่ แต่แรงขับที่จะต่อต้าน แนวโน้มที่รู้สึกหลงตัว และภาพลักษณ์จากปัจจัยภายนอก เช่น ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนเป็นมายาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตราบใดที่คุณยังจำแนกแยก แยะความคิด

    มันจึงยากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับคุณ ที่จะยอมรับวงจรขาลงและปล่อยให้มันเป็นไป ฉะนั้น ระบบหน้าที่ทางร่างกายจึงเข้ามาแทนที่ และอาจกลายเป็นตัววัดระดับการป้องกันร่างกาย และก่อให้เกิดความเจ็บป่วยเพื่อบีบให้คุณหยุด เพื่อที่การฟื้นฟูขึ้นมาใหม่สามารถเข้ามาแทนที่ได้

    ตราบใดที่สภาวะอย่างใดอย่างหนึ่งถูก จิตตัดสินว่า ดี ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ ความเป็นเจ้าของ บทบาททางสังคม สถานที่หรือร่างกายของคุณเอง ใจยังยึดมั่นถือมั่น มันทำให้คุณมีความสุข รู้สึกดีกับตัวเอง และเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของคุณ หรือคิดว่าคุณเป็นอย่างนั้น คุณเป็นอย่างนี้

    แต่ไม่มีอะไรอยู่ยงในโลกที่เป็นที่ หากินของแมลงและสนิม ไม่ว่ามันจบลง หรือเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนขั้ว สภาวะเดียวกันที่เมื่อวานหรือปีที่แล้วบอกว่าดีกลายเป็นเลวได้ทันที หรือค่อยๆ เลวลงทีละเล็กทีละน้อย สภาวะเดียวกันที่ทำให้คุณมีความสุขกลับทำให้คุณทุกข์ ความเลิศหรูของวันนี้อาจกลายเป็นความว่างเปล่าของวันพรุ่งนี้ การแต่งงานที่แสนสุขและการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่แสนหวานกลายเป็นการหย่า ร้างที่แสนเศร้าหรือการอยู่ด้วยกันอย่างขมขื่น

    หรือสภาวะใดๆ หายไป และนั่นทำให้คุณไร้สุข เมื่อเหตุการณ์หรือสภาวะที่จิตยึดมั่นถือมั่นเปลี่ยนแปลงหรือหายไป จิตทนไม่ได้ รับไม่ได้ มันยึดติดกับสภาวะที่หายไปและต่อต้านการเปลี่ยนแปลงราวกับว่าแขนขาของคุณถูก ตัดออกจากร่างก็ไม่ปาน

    นี่หมายความว่า ความสุขและความไร้สุขเป็นสิ่งเดียวกัน โดยจริงแท้ มีแต่มายาแห่งกาลเวลาเท่านั้นที่ทำให้มันต่างกัน

    การไม่ต่อต้านชีวิต คือการอยู่ในสภาพของความงดงาม ความเกษม และความเบาสบาย สภาพที่ไม่ขึ้นกับสิ่งต่างๆ อีกต่อไปไม่ว่าดีหรือเลว

    ฟังดูเหมือนขัดแย้งกัน แต่เมื่อคุณเลิกยึดมั่นกับรูปชีวิตสภาวะต่างๆ ในชีวิตและโลกภายนอกมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น มนุษย์และสรรพสิ่งหรือเงื่อนไขที่คุณตั้งขึ้นเพราะคิดว่ามันจะทำให้คุณมี ความสุขได้นั้น บัดนี้ มันเดินเข้ามาหาคุณโดยที่คุณไม่ต้องดิ้นรนค้นหา คุณเป็นอิสระที่จะมีความสุขและชื่นชมกับมันตราบที่มันยังอยู่

    สิ่งเหล่านั้น แน่นอน วันหนึ่งต้องตายจากไป มันเป็นวัฏจักรชีวิต มาแล้วก็ไป แต่คุณไม่กลัวการสูญเสียอีกแล้ว ชีวิตดำเนินไปอย่างสุขเกษม

    ความสุขที่ได้จากแหล่งภายนอกอื่นไม่ เคยอยู่ลึก มันเป็นเพียงภาพสะท้อนบางเบาของความปีติของสิ่งที่เป็นอยู่จริง ความสงบที่สั่นไหวอยู่ภายใน ขณะที่คุณก้าวเข้าสู่ภาวะที่ไร้การต่อต้าน สิ่งที่เป็นอยู่จริงนำคุณไปไกลกว่าขั้วของสิ่งตรงข้ามในความคิด และปลดปล่อยคุณให้เป็นอิสระจากรูปลักษณ์ แม้ทุกสิ่งรอบกายคุณพังทลายลง คุณยังรู้สึกถึงความสงบอยู่ภายใน คุณอาจไม่มีความสุขทางภายนอก แต่คุณจะสงบสุขภายใน



    .....
     
  4. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    การใช้และการวางมือจากเรื่องลบ


    การต่อต้านภายในเป็นเรื่องลบในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เรื่องลบทั้งหมดล้วนเป็นการต่อต้าน ในเชิงเนื้อหาแล้ว คำสองคำมีความหมายเหมือนกัน

    เรื่องลบมีตั้งแต่ความฉุนเฉียวหรือ ความไม่อดทนไปจนถึงความโกรธเกรี้ยว จากอารมณ์หดหู่หรือขุ่นเคืองบูดบึ้งจนถึงความสิ้นหวังอยากฆ่าตัวตาย บางครั้งการต่อต้านสะกิดตัวทุกข์ทางอารมณ์ให้ตื่นขึ้น เช่น ความโกรธ ความหดหู่ และความโศกเศร้า ซึ่งกรณีนี้แม้แต่เรื่องเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดเรื่องลบรุนแรงได้

    อัตตาเชื่อว่า ด้วยการทำเรื่องลบ มันสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงและได้ในสิ่งที่มันต้องการ มันเชื่อว่า ด้วยการทำเรื่องลบมันสามารถดึงดูดสภาวะที่น่าพึงพอใจและขจัดสภาวะที่ไม่น่า พึงพอใจได้

    ถ้า คุณ ในที่นี้หมายถึงความคิดของคุณ ไม่เชื่อว่าการไร้สุขจะสร้างความสุขได้ แล้วคุณสร้างมันขึ้นมาทำไม? แน่นอนเรื่องลบก็ทำไม่ได้เช่นกัน แต่แทนที่มันจะดึงดูดสภาวะที่ไม่น่าพึงพอใจมันกลับหยุดยั้งไม่ให้มันเกิด ขึ้น แทนที่จะลบสภาวะที่ไม่น่าพึงพอใจมันกลับปล่อยให้คงอยู่ตรงนั้น ประโยชน์ ของมันมีเพียงอย่างเดียวคือ ทำให้อัตตาแข็งแกร่งขึ้น และนี่คือสาเหตุว่าทำไมอัตตาจึงโปรดปรานมันนัก

    เมื่อคุณจำแนกแยกแยะว่าอะไรบ้างคือ บางรูปแบบของเรื่องลบแล้ว คุณไม่อยากปล่อยมันไป ลึกๆ แล้วความไม่รู้ตัวของคุณไม่ต้องการให้มันเปลี่ยนขั้ว มันอาจคุกคามคุณในรูปแบบของความหดหู่ ขี้โมโห ทำเรื่องแย่ๆ กับคนอื่น คุณเลยละเลย ปฏิเสธหรือบ่อนทำลายเรื่องบวกในชีวิตเสีย มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติและเป็นเรื่องที่บ้ามากด้วย

    ดูต้นไม้ใบหญ้าหรือสิงสาราสัตว์สิ แล้วปล่อยให้มันสอนคุณถึงวิธีการยอมรับสิ่งที่เป็นอยู่ หรือการยอมจำนนกับปัจจุบัน

    ปล่อยให้มันสอนให้คุณรู้จัก สิ่งที่เป็นอยู่จริง

    ปล่อยให้มันสอนคุณเรื่องความ บริบูรณ์ ความเป็นเอกภาพ เป็นตัวเอง และเป็นตัวจริง ปล่อยให้มันสอนวิธีที่จะอยู่ วิธีที่จะตาย และทำอย่างไรที่จะไม่ให้การอยู่หรือตายกลายเป็นปัญหา

    การเกิดอารมณ์เชิงลบบางทีอาจบอกอะไร เราสักอย่างเช่นเดียวกับอาการเจ็บป่วย แต่การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่คุณทำ ไม่ว่าเรื่องงาน ความสัมพันธ์ สิ่งแวดล้อม ในที่สุดมันเป็นแค่เพียงเปลือกนอก เว้นแต่ว่าคุณจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงระดับของสติความรู้ตัว และนั่นคือการตั้งมั่นในความเป็นปัจจุบัน เมื่อคุณเข้าถึงความเป็นปัจจุบันได้ในระดับหนึ่งแล้ว คุณไม่ต้องการให้เรื่องลบมากำกับว่าคุณต้องการอะไรในสถานการณ์ชีวิตของคุณ อีกต่อไป

    แต่ตราบใดที่เรื่องลบยังอยู่ จงใช้มันเสีย ใช้มันเป็นสัญญาณเตือนให้คุณตั้งมั่นในจิตปัจจุบันให้มากขึ้น

    เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่ามีเรื่องลบเกิดขึ้นในตัวคุณ ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยภายนอก ความคิด หรือระบุไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร ให้จ้องดูมันราวกับได้ยินเสียงว่า อยู่กับที่นี่และเดี๋ยวนี้ ตื่นสิ ตื่นได้แล้ว

    แม้แต่ความฉุนเฉียวเพียงเล็กน้อยก็จำเป็นต้องรับรู้และเฝ้าดูมัน มิฉะนั้น มันจะกลายเป็นปฏิกิริยาสะสมโดยที่เราไม่ทันสังเกต

    คุณอาจกำจัดเรื่องลบได้เมื่อคุณรู้ ว่าคุณไม่อยากมีสนามพลังงานลบในตัวคุณ และมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ต้องแน่ใจว่ากำจัดมันออกไปให้หมด ถ้าคุณทำไม่ได้ ให้ยอมรับว่ามันอยู่ตรงนั้น และใส่ใจกับความรู้สึก

    อีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ปฏิกิริยาเชิงลบหายไป คุณจินตนาการว่าตัวเองกำลังโปร่งแสงไปจากสาเหตุภายนอกของปฏิกิริยานั้น

    ผมแนะนำให้คุณฝึกกับเรื่องเล็กน้อย ก่อน สมมติว่า คุณกำลังนั่งเงียบๆ อยู่ที่บ้าน แล้วจู่ๆ เกิดมีเสียงแทรกเข้ามา เสียงแตรรถจากฝั่งตรงข้าม คุณเกิดฉุนเฉียวขึ้น ฉุนเฉียวไปเพื่ออะไร? ไม่รู้ แล้วสร้างมันขึ้นมาทำไม? ผมเปล่า ความคิดต่างหากที่ทำมันเกิดขึ้นอัตโนมัติจากความไม่รู้ตัว

    ทำไมความคิดต้องสร้างมันด้วย? เพราะมันเชื่อโดยไม่รู้ตัวว่า การต่อต้านของมันที่คุณพบเจอในรูปแบบบางอย่างของความไร้สุขหรือเรื่องลบจะ สามารถสลายภาวะที่ไม่พึงปรารถนาได้โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง แน่นอนนี่เป็นมายา การต่อต้านที่มันสร้างขึ้น ในกรณีนี้คือความฉุนเฉียวหรือความโกรธ มันกวนใจคุณมากกว่าต้นเหตุแรก (เสียงแตร) ที่มันพยายามลบออกไปจากความคิดเสียอีก

    ทุกสิ่งสามารถกลายเป็นการฝึกทางด้านจิตวิญญาณได้

    จงรู้สึกว่าตัวเองโปร่งแสง โดยไม่มีความแข็งขืนของร่างกาย ปล่อยให้เสียงรบกวนหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาลบผ่านไปโดยไม่ชน กำแพง ตันที่อยู่ภายในตัวคุณอีกแล้ว

    อย่างที่ผมบอก ฝึกกับเรื่องเล็กน้อยก่อน อาทิเช่น เสียงแตรรถ เสียงหมาเห่า เสียงเด็กกรีดร้อง หรือรถติด แทนที่จะก่อกำแพงต่อต้านภายในเพื่อให้แรงต้านตกกระทบอย่างเจ็บปวดจาก สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น จงปล่อยวางให้มันผ่านไป

    บางคนพูดกับคุณอย่างหยาบคายและ ตั้งใจทำร้ายคุณ แทนที่จะปล่อยให้เกิดการตอบโต้ที่ขาดสติ และเกิดเรื่องลบ เช่น การโจมตี การป้องกันตัว หรือเกิดอาการหงอ คุณปล่อยให้มันผ่านไป ไม่ตอบโต้ ราวกับว่าไม่มีใครถูกทำร้ายอยู่ตรงนั้น นี่คือการให้อภัย วิธีนี้คุณไม่มีวันถูกทำลาย

    คุณอาจอธิบายให้เขาหรือเธอรู้ว่า พฤติกรรมของเขาหรือเธอนั้นรับไม่ได้ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่คุณเลือกจะทำ แต่เขาหรือเธอคนนั้นไม่มีอำนาจที่จะบงการความรู้สึกภายในของคุณอีกแล้ว คุณอยู่กับอำนาจของคุณ ไม่ใช่อำนาจของคนอื่น และไม่ได้ถูกความคิดควบคุม ไม่ว่าจะเป็นเสียงแตรรถ คนหยาบช้า น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือของหาย กลไกการต่อต้านเหมือนกันทั้งนั้น

    หากคุณยังคงเสาะแสวงหาจากภายนอก และคุณไม่สามารถหลุดพ้นจากการแสวงหานั้นได้ บางทีอาจมีคำตอบในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งต่อไป บางทีอาจมีเทคนิคใหม่ ผมขอบอกว่า

    อย่ามองหาความสงบ อย่ามองหาอะไรมากไปกว่าการตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบัน หาไม่แล้วคุณกำลังสร้างความขัดแย้งภายในและเริ่มต่อต้านอย่างขาดสติ

    ให้อภัยตัวเองที่ไม่สามารถเข้าถึง ความสงบ จังหวะที่คุณยอมรับเต็มตัวว่าคุณไม่มีความสงบภายในแล้ว ความไม่สงบจะกลายเป็นความสงบ อะไรก็ตามที่คุณยอมรับอย่างเต็มที่ มันจะพาคุณไปถึงตรงนั้น พาคุณไปสู่ความสงบและนี่คือความอัศจรรย์ของการยอมจำนน

    เมื่อยอมรับสิ่งที่มันเป็น ทุกขณะคือสิ่งที่ดีที่สุด และนี่คือแสงสว่างแห่งปัญญา <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    บทที่ 9




    .....




    แปลงสภาพทุกข์และโรคภัยไข้เจ็บ




    เปลี่ยนโรคภัยไข้เจ็บเป็นปัญญา


    การยอมจำนนคือ การยอมรับภายในต่อสิ่งที่เป็นอยู่อย่างไม่มีข้อจำกัด ตอนนี้เรากำลังพูดถึงชีวิตของคุณ ไม่ใช่เงื่อนไขหรือเหตุการณ์ในชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่ผมเรียกว่า สถานการณ์ชีวิตของคุณ

    โรคเป็นส่วนหนึ่งของ สถานการณ์ชีวิตของคุณ ดังนั้น มันจึงมีอดีตและมีอนาคต รูปแบบของอดีตและอนาคตที่ต่อเนื่องกันอย่างไม่ขาดสาย เว้นแต่ว่าคุณจะกลับมาอยู่ในปัจจุบันของตัวคุณเองด้วยการรู้ตัวทั่วพร้อม อย่างที่คุณรู้ ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ มากมายที่ก่อให้เกิดสถานการณ์ชีวิตของคุณ มันล้วนแล้วแต่อยู่ในห้วงแห่งกาลเวลา มันมีบางสิ่งที่ลึกกว่า สำคัญกว่า นั่นคือชีวิตของคุณ สิ่งที่เป็นอยู่จริงของคุณที่อยู่ในปัจจุบันที่ไร้กาลเวลา

    และเมื่อมันไม่มีปัญหาใน ปัจจุบัน มันย่อมไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเช่นกัน ความเชื่อในสิ่งที่มีคุณติดป้ายให้กับสถานภาพของคุณทำให้สถานภาพนั้นดำรง อยู่ ทำให้มันมีอำนาจและสร้างความจริงที่ดูเหมือนจะมั่นคงจากความไม่สะดุดชั่ว คราว ความเชื่อที่ให้สภาวะนั้นเป็นจริงและมั่นคง และทำให้มีความต่อเนื่องกาลเวลาซึ่งมันไม่เคยมีมาก่อน

    ด้วยการเพ่งไปในปัจจุบัน ขณะ และหยุดปิดป้ายในความคิดว่ามันคือโรค การเจ็บป่วยและลดลงมาเหลือแค่เป็นความทุกข์ของกาย ความอ่อนแอ ความไม่สบาย ความพิการ นั่นคือสิ่งที่คุณยอมจำนนปัจจุบันขณะ แต่คุณไม่ยอมจำนนต่อการชอบคิดเรื่อง การเจ็บป่วย

    จงยอมให้ความทุกข์บังคับคุณมาสู่ปัจจุบันอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติใช้มันเพื่อค้นพบแสงสว่างทางปัญญา

    การยอมจำนนไม่ได้แปลง สภาพสิ่งที่มันเป็น อย่างน้อยก็ไม่ทำโดยตรงเสียทีเดียว การยอมจำนนแปลงสภาพคุณ เมื่อคุณถูกแปลงสภาพ โลกทั้งโลกของคุณจะถูกแปลงสภาพเช่นกัน เพราะโลกเป็นเพียงภาพสะท้อนเท่านั้น

    ความไม่สบายไม่ใช่ปัญหา คุณต่างหากที่เป็นปัญหา ตราบใดที่ความคิดแบบมีอัตตาควบคุมคุณอยู่

    เมื่อคุณป่วยหรือพิการ อย่ารู้สึกว่าคุณล้มเหลว อย่ารู้สึกผิด อย่าโทษชีวิตที่ไม่เป็นธรรมกับคุณ อย่าโทษตัวเองทุกอย่างคือการต่อต้าน

    ถ้าคุณป่วยหนัก จงให้มันเป็นหนทางสู่แสงสว่างทางปัญญา สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณจงให้มันเป็นหนทางสู่แสงสว่างทางปัญญา

    ถอนกาลเวลาออกจากโรคภัย อย่าให้มันมีอดีตหรืออนาคต ปล่อยให้มันเป็นตัวบังคับพาคุณเข้าสู่ตระหนักถึงปัจจุบันอย่างเข้มข้น และมองดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

    จงเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ แปรเหล็กให้มันเป็นทอง แปรทุกข์ให้เป็นสติ แปรหายนะให้เป็นปัญญา

    คุณกำลังป่วยหนักและ รู้สึกโกรธกับสิ่งที่ผมพูดอยู่ในขณะนี้ใช่ไหม? นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ความเจ็บป่วยเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคุณ และคุณกำลังปกป้องตัวเองอยู่ รวมทั้งปกป้องโรคภัยไข้เจ็บนั้นด้วย

    สภาวะที่คุณได้ปิดป้ายแปะไว้นั้นว่าเป็น ความเจ็บป่วย ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวตนที่แท้จริงของคุณเลยสักนิด

    เมื่อไหร่ก็ตามที่หายนะเข้าถาโถม หรือเกิดเรื่องที่ ผิด พลาด อย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ความพิการ การสูญเสียบ้านหรือทรัพย์สมบัติ หรือภาพลักษณ์ทางสังคม ความสัมพันธ์ใกล้ชิดแตกหัก ความตาย หรือความทรมานของการจากไปของคนรักหรือของตัวเองที่กำลังคืบคลานเข้ามา จงรู้ไว้ว่า ยังมีอีกด้านหนึ่งที่คุณสามารถก้าวเพียงก้าวเดียวออกมาจากสิ่งเหล่านั้นได้ อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นการเล่นแร่แปรธาตุที่เปลี่ยนเหล็กของความทุกข์ให้เป็นทองของปัญหาอย่าง สมบูรณ์ ก้าวนี้เราเรียกว่า การยอมจำนน

    ผมไม่ได้จะบอกว่า คุณมีความสุขเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้หรอกนะ คุณไม่มีความสุขแน่ๆ แต่ความกลัวและความทุกข์จะเปลี่ยนมาเป็นความสงบภายใน จากส่วนลึกจากสิ่งที่ยังไม่เห็น มันคือ ความสงบของสัจธรรมที่มาจากการรู้แจ้งเห็นแจ้ง ลองเทียบดูสิ แล้วจะเห็นว่าความสุขนั้นตื้นเขินนัก

    ปัญหามาพร้อมความสงบ ไม่ใช่ในความคิด แต่อยู่ภายในส่วนลึกของคุณที่เป็นของสิ่งที่เป็นอยู่จริง คุณรู้ว่าตัวคุณนั้นทำลายไม่ได้ เป็นอมตะ และนี่ไม่ใช่ความเชื่อ มันคือความแน่นอนที่สุดที่ไม่ต้องการหลักฐานใดๆ จากภายนอกหรือจากที่อื่น



    .....



     
  6. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    เปลี่ยนความทรมานเป็นความสงบ


    ในเหตุการณ์ร้ายแรง มันอาจเป็นไปไม่ได้สำหรับคุณที่จะยอมรับปัจจุบัน แต่คุณยังมีโอกาสที่สองด้วยการยอมจำนน

    โอกาสครั้งแรกของคุณคือ ยอมจำนนต่อทุกขณะที่ เผชิญกับความจริงนั้น รู้ว่ามันเป็นอย่างนั้น และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เพราะมันเป็นอย่างที่เป็นไปแล้ว นี่ก็เหมือนกับการที่คุณพูดว่าใช่กับสิ่งที่มันเป็นหรือยอมรับสิ่งที่มันไม่ ได้เป็น

    จากนั้นคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณต้องทำ ทำอะไรก็ตามที่สถานการณ์นั้นต้องการ

    ถ้าคุณยอมรับ คุณไม่สร้างเรื่องลบ ไม่มีทุกข์ ไม่มีภาวะไร้สุข ไม่ต่อต้าน คุณอยู่ในความงดงามและปัญญา และเป็นอิสระจากการดิ้นรน

    เมื่อคุณไม่สามารถทำ อย่างนั้น หรือเมื่อคุณพลาดโอกาสนั้น ไม่ว่าเป็นเพราะคุณยังไม่สามารถตั้งมั่นได้เพียงพอที่จะป้องกันตัวเองจากรูป แบบแรงต้านที่ขาดสติจนเป็นนิสัย หรือเพราะเงื่อนไขนั้นรุนแรงเกินกว่าที่คุณจะรับได้ คุณกำลังสร้างรูปแบบความทุกข์ขึ้นมา

    มันอาจดูเหมือนกับว่าสถานการณ์ชีวิตนั้นสร้างความทุกข์ขึ้นมา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ การต่อต้านของคุณต่างหากที่ทำ

    ขณะนี้แหละที่นี่ มันเป็นโอกาสที่สองที่คุณจะยอมจำนน ถ้าคุณไม่สามารถจะยอมรับสิ่งที่อยู่ภายนอกได้ จงยอมรับสิ่งที่อยู่ภายใน ถ้าคุณไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขภายนอกจงยอมรับเงื่อนไขภายใน

    นี่หมายความว่า อย่าต่อต้านความทุกข์ ปล่อยให้มันเกิดขึ้น ยอมจำนนต่อความเศร้า ความสิ้นหวัง ความกลัวความเปลี่ยวเหงา หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณเป็นทุกข์ อยู่กับมันโดยไม่ติดฉลากให้มันในใจว่า มันคือความทุกข์ จงโอบกอดมัน

    เมื่อความเจ็บปวดของคุณ ฝังลึก คุณมีแรงกระตุ้นอย่างแรงกล้าที่จะหลีกหนีจากมันมากกว่าการที่จะยอมจำนน คุณไม่อยากรู้สึกถึงสิ่งที่คุณรู้สึก แต่มันจะเป็นอะไรไปได้มากกว่านี้หล่ะ? แต่อย่างนี้ มันไม่มีทางออกหรอก

    มันอาจมีวิธีเสแสร้งเพื่อหลีกหนี เช่น ทำแต่งาน ดื่มเสพยา โกรธ วาดฝันถึงอนาคต การอำพราง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่มันไม่ทำให้คุณหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ได้เลย การทรมานไม่ได้ลดความรุนแรงลงเมื่อคุณสร้างมันขึ้นมาอย่างขาดสติ เมื่อคุณปฏิเสธความทุกข์ทางอารมณ์ ทุกสิ่งที่คุณคิดหรือทำและความสัมพันธ์ของคุณจะเปรอะเปื้อนไปหมด คุณกระจายมันออกไป อาจบอกได้ว่าคุณปล่อยพลังงานลบออกมา และคนอื่นเกิดสัมผัสพลังงานลบของคุณเข้า

    ถ้าพวกเขาไม่มีสติ พวกเขาอาจถูกผลักดันให้โจมตีหรือทำร้ายคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือคุณอาจทำร้ายพวกเขาจากการปลดปล่อยความทุกข์อย่างขาดสติของคุณ คุณดึงดูดและแสดงออกถึงสิ่งใดก็ตามที่ตอบสนองสภาวะภายในตัวคุณที่เป็นอยู่

    เมื่อไม่มีทางออก มันยังมีทางผ่านเสมอ ดังนั้น อย่าหันหนีจากความทุกข์ เผชิญหน้ากับมัน รู้สึกกับมันเต็มที่ แค่รู้สึกเท่านั้นนะ อย่าคิด จงแสดงมันออกมาถ้าจำเป็น แต่อย่าเขียนบทในความคิดให้มัน จงใส่ใจกับความรู้สึก ไม่ใช่ตัวคนหรือเหตุการณ์ที่ดูเหมือนเป็นต้นตอ

    อย่าให้ความคิดใช้ความ ทุกข์ทำให้คุณตกเป็นเหยื่อ การรู้สึกเสียใจกับตนเองและการเล่าเรื่องราวให้คนอื่นฟังยิ่งทำให้คุณจมปลัก อยู่ในห้วงทุกข์

    ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ ที่จะหลีกหนีความรู้สึกนี้ สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ พาตัวเองเข้าไปหามัน ไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    ดังนั้น จงใส่ใจกับความรู้สึกของคุณ และอย่าให้ความคิดติดฉลากให้มัน เมื่อคุณเข้าไปในความรู้สึกนั้นแล้ว จงอยู่ที่นั่นอย่างรู้ตัวเต็มที่

    ในขั้นแรก มันอาจดูเหมือนเป็นสถานที่มืดมัวดูน่ากลัว และเมื่อมันกระตุ้นให้คุณหันหลังหนี จงสังเกตมันแต่อย่ามีปฏิกิริยากับมัน เพ่งความสนใจของคุณไปที่ความทุกข์ ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกโศกเศร้า กลัว หวาดผวา เปล่าเปลี่ยวหรืออะไรก็แล้วแต่

    จงรู้ตัวและตั้งมั่นใน ปัจจุบันกับสิ่งที่เป็นอยู่จริงทั้งหมดของคุณกับทุกอณูในร่างกายของคุณ เมื่อทำเช่นนี้ คุณจะส่องแสงสว่างมาที่ความมืด และนี่คือเปลวไฟแห่งปัญญา

    ในจังหวะนี้ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการยอมจำนนอีกแล้ว เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรนะหรือ? การใส่ใจแน่วแน่คือการยอมรับอย่างเต็มตัว คือการยอมจำนน เมื่อคุณใส่ใจแน่วแน่คุณใช้อำนาจแห่งปัจจุบันซึ่งเป็นอำนาจของคุณ

    ไม่มีแรงต้านที่แอบแฝง สามารถอยู่รอดได้ในพลังแห่งปัจจุบัน ปัจจุบันสลายกาลเวลา ถ้าไม่มีกาลเวลา มันย่อมไม่มีทุกข์ไม่มีเรื่องลบใดๆ จะคงอยู่ได้

    การยอมรับความทุกข์ คือการผจญภัยอย่างหนึ่งก่อนสู่ความตาย เผชิญหน้ากับความทุกข์ปล่อยให้มันเป็นไป ใส่ใจกับมัน นั่นคือการเดินเข้าสู่ความตายอย่างมีสติ เมื่อคุณทำให้มันตายตายจากคุณไปแล้ว คุณรู้แล้วว่ามันไม่มีความตาย ไม่มีอะไรต้องกลัว มีเพียงอัตตาเท่านั้นที่ตายไปแล้ว

    ลองนึกภาพลำแสงของดวง อาทิตย์ที่ลืมตัวว่ามันเป็นส่วนที่ตัดไม่ขาดจากดวงอาทิตย์และหลอกตัวเองให้ เชื่อว่ามันต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดและสร้างภาพอื่นมายึดมั่น ภาพอื่นที่ไม่ใช่ภาพของดวงอาทิตย์ การตายของความหลอกลวงอย่างนี้ไม่ได้เป็นการปลดปล่อยอย่างเหลือเชื่อหรอก หรือ?

    คุณต้องการตายอย่างง่ายดายหรือเปล่า? คุณต้องการตายโดยไม่ทรมาน ไม่เจ็บปวดใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น จงตายจากอดีตอยู่ทุกขณะ และปล่อยให้แสงแห่งปัญญาสาดส่องมาที่ตัวตนอันหนักอึ้งที่เป็นพันธะของกาล เวลาที่คุณคิดเป็นตัวคุณเสียสิ

     
  7. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    วิถีแห่งกางเขน แสงสว่างแห่งปัญญาผ่านการทรมาน


    วิธีแห่งการเขนเป็นวิธี โบราณในการค้นพบแสงสว่างทางปัญญาและเป็นวิธีเดียวในสมัยนั้น แต่อย่าละทิ้งมันหรือประเมินค่ามันต่ำไป มันยังเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง

    วิถีแห่งกางเขนเป็นการ กลับหน้ามือเป็นหลังมืออย่างสิ้นเชิงมันหมายความว่า สิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นในชีวิตคุณ คุณเพลิกกลับไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับคุณ โดยการบังคับตัวเองให้ยอมจำนนไปสู่ความตาย บังคับตัวเองให้กลายเป็น ความไม่มี เช่นกัน

    แสงสว่างแห่งปัญญาผ่าน การทรมาน หรือวิถีแห่งกางเขนหมายถึง การบังคับตัวเองไปสู่อาณาจักรสวรรค์ด้วยการทรมานและการกรีดร้อง คุณจะยอมจำนนในที่สุด เพราะคุณไม่สามารถทนกับความทุกข์ได้อีกต่อไป แต่ความทุกข์ยังคงอยู่อีกนานกว่าแสงสว่างจะส่องไสว


    ที่มา http://board.agalico.com
     
  8. ฟลัฟฟี้

    ฟลัฟฟี้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +132
    อ่านได้นิดหน่อยแล้ว และดูหัวข้อต่าง ๆ แล้วด้วย น่าสนใจที่สุดเลยค่ะ ขอ save เอาไปเก็บไว้ในไฟลของตัวเองแล้วค่อยพิมพ์ออกมาอ่านที่เดียวเลยได้มั๊ยคะ เพราะง่ายต่อการอ่านและการพิจารณาด้วย อีกอย่างสามีขี้บ่นจะได้ไม่ว่าเราอยู่แต่หน้าคอมฯ อิอิ อิอิ พูดเรื่องจริงไม่ได้ว่าสามีนะคะ

    สาธุอนุโมทนาค่ะ
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลที่ดีดี
     
  10. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    มาจิ้มไว้ค่ะ เดี๋ยวจะแวะมาอ่านต่อ ขอบคุณค่ะๆๆ
     
  11. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
  12. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    สุดยอดเลย กะลังหามานาน ชอบมากและไม่รู้จะขอบคุณคุณแป้งยังไงดีนี้ เอางี้
    ขอให้บุญแห่งการเผยแพร่ความรู้แห่งความสุขสงบนี้ส่งผลให้คุณแป้งมีความสุข ร่ำรวยทรัพย์ เงินทอง สุขภาพ และสติปัญญา เทอญ สาธุ
     
  13. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    สุดท้ายนี้ถ้าไม่รังเกียจ ขอ Save กลับไปแจกพี่ๆ ที่เขาชอบและต้องการเหมือนกันนะค่ะ
     
  14. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ อ่านไปๆ เหมือนหลักปฏิบัติสติปัฏฐานสี่ของพุทธศาสนาเลยค่ะ
    เพียงแต่คนเขียนเป้นชาวต่างชาติ เลยใช้ภาษาสมัยใหม่อธิบาย
    แต่เนื้อหาคือเรื่องเดียวกันค่ะ ..
     
  15. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    OOOOOOOOเพราะ จิตปัจจุบันOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO



    OOOOOOOO ทำให้ มนุษย์ พิเศษยิ่ง แม้ว่า ... ใครๆ จะเคยเป็นสุนัข แมว


    เปรต อสุรกาย สัตว์นรก เทพ พรหม องค์อินทร์ เทวราช คนชั่ว คนดี


    และ ฯลฯ ooooooo เพราะ สิ่งนี้ oooooooo มนุษย์ สามารถเข้าสู่พัฒนาการ



    สูงสุด คือ ความพ้นจากทุกข์ทั้งมวล แม้ ยังอยู่ ท่ามกลางไฟของมัน



    โมทนา กับ น้องแป้ง ที่นำมาโพสนะครับ
     
  16. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,267
    สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โมทนาด้วยเช่นกันครับ
    เดี๋ยวขอเก็บไว้อ่านหน่อยนะครับ
     
  18. mybrimstone

    mybrimstone Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +54
    อนุโมทนา นะค่ะที่นำข้อมูลดีๆมีประโยชน์อย่างนี้มาให้อ่านกัน
    ขอให้ พบกับสิ่งที่ดีงามนะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...