รับขันธ์แล้วถ้าแต่ไม่ได้ไปประสิทธิขันธ์เลย ทำไงดีแนะนำด้วยค่ะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย oill, 11 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. oill

    oill Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2006
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +88
    [b-wai] ดิฉันเคยรับขันธ์ตั้งนานแล้วค่ะ (เป็นการรับแบบไม่ได้ตั้งตัว) และก็รักษาศิลห้ามาโดยตลอด ก็มีแต่สิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองทั้งนั้น ก็มีบ้างเรื่องร้าย ๆ แต่คิดว่าเป็นวิบากกรรมของต้วเอง แต่ปัญหามีอยู่ว่า หลายปีมาแล้วดิฉันไม่ได้ไปประสิทธิขันธ์เลย ซึ่งก็มีเหตุผลหลายอย่างที่ไม่สามารถไปได้ และดิฉันมาทบทวนดูแล้วว่าในเมื่อเราปฏิบัติตามคำสอนของพุทธศาสนาแล้ว และเรามีขันธ์อยู่แต่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็ควรจะยกเลิกซะดีกว่า แต่ปัญหามันมีอยู่ว่าจะทำไงดี

    *****
    และร่างของดิฉันก็เคยผ่านการทรงมาแล้ว (แต่ไม่ใช่อาชีพนะคะ เป็นความบังเอิญค่ะ) และมันก็เป็นเรื่องที่คาใจมาโดยตลอดและเทวรูปที่เราเคยบูชา และอยากจะยกเลิกซะจะทำไงดี แต่ก็ยังคงนับถืออยู่ไม่ได้ลบหลุ่ เพียงแต่ว่าไม่อยางให้มองเห็นเป็นรูปธรรม เรารู้อยู่ในใจของเราเองจะดีกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพ น่าจะรู้ถึงเจตนาของเรา

    /*** ผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ***/
     
  2. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +2,161
    ธ์ ของผมไม่หนักกว่าเหรอ ผมนับถือคริสต์ตั้งแต่เกิด แต่ก็สนใจพุทธศาสนา ศึกษาธรรมะ แต่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสไปวัด แทบจะไม่ค่อยรู้จักประเพณี พิธีอะไรต่างๆ แต่ก็สามารถอธิบายธรรมได้อย่างชัดเจน ทุกอย่างเกิดจากใจยังไงก็หนีไม่พ้น สุดท้ายก็ทำใจตัวเดียวนี่แหละที่จะได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ต้องไปยึดติดพิธี วิธี อะไรให้มากความ
     
  3. jdean

    jdean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +147
    น่ากลัวจังเลยนะครับ
     
  4. panuwat

    panuwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +104
    มารับขันธ์ ของพระพุทธเจ้าดีกว่าครับ มีทั้งหมด 84000พระธรรมขันธ์ รับไปแล้วรักษาให้ดีนะครับ ถ้ารักษาได้ จะพบความสุขเหนือสิ่งอื่นใด ในภพ3
    เรื่องไสย์เวท วิทยาอาคม เป็นส่วนเสริมครับ บุญกับบาป ในตัวเรา เป็นเหตุที่ทำไห้เราเจอเรื่องราวต่างๆมากกว่า เทวดา วิชาอาคมเหล่านั้นเป็นแค่เครื่องยึดเหนี่ยว ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ครับ เป็นส่วนเสริมใด้เล็กน้อย
    ทางที่ดี รับธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปปฏิบัติดีกว่าครับ ธรรมของพระองค์แสดงแก่เราไว้ ในพระไตรปิฏก ถึง 84000 พระธรรมขันธ์ รับไปแล้วปฏิบัติให้ได้มากที่สุด จะเจริญยิ่งครับ
     
  5. panuwat

    panuwat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +104
    การยกเลิกพวกของขลัง กุมารทองหรือเทวรูปต่างๆ ทำดังนี้ครับ
    นำท่านไปฝากไว้กับแม่ธรณีหรือตามโคนไม้ หรือ ลอยน้ำ แล้วพูดกับท่านว่า ขอฝากฝังรูปเคารพนี้ ไว้กับท่าน ขออย่าได้มีโทษและบาปกรรมเลย เพราะตอนนี้ ข้าพเจ้าได้พบธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จะยึดเหนี่ยวพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก และจะขอปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์
    จึงขอฝากรูป(สิ่งที่เราเอาไปไว้)นี้ไว้กับพระแม่คงคา แม่ธรณี หรือ ท่านรุกขเทวาไว้ ขออย่าได้มีโทษและบาปกรรมเลย
    (ถ้าเป็นของพวก กุมารทอง หรือโหงพราย ภูติผีต่างๆ ก็ขอให้เขารักษาศีล5ด้วยนะครับ พูดไปเลย ว่าต่อไปนี้ ลูก/ท่านต้องรักษาศีล5นะ ว่าข้อ1 ห้าม......จนถึงข้อ5 และจะทำบุญอุทิศไปให้ให้คอยรับบุญให้ดี ) พูดไปเลย ให้เขาได้ยิน เหมือนว่าเขามีชีวิตจริงๆ แล้วก็ทำบุญอุทศไปให้เขา
     
  6. oill

    oill Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2006
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณทุกคน (ด้วยใจจริง) ที่แนะนำนะคะ รู้สึกดีมากเลยค่ะ
     
  7. จอกแหน

    จอกแหน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +873
    อยากทราบคำตอบจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายด้วยคนครับ
     
  8. ศิษกวนอู

    ศิษกวนอู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +220
    ที่ทรงอ่ะองค์ไรครับ
    ช่วยบอกหน่อย อยากรู้อ่ะครับ ไม่มีไรมาก
     
  9. oill

    oill Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2006
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +88
    ตอบศิษย์กวนอู
    เป็นองค์แขกน่ะค่ะ (แต่ไม่ขอเอ่ยนามนะคะต้องขออภัยด้วย) เวลาลงจะพูดเป็นภาษาที่คนในกลุ่มนี้จะเรียกว่า "ภาษาเทพ" แต่เราไม่รู้เรื่องหรอกว่าพูดอะไรเพราะไม่ใช่ภาษาเราแต่เราจะรู้ตัวทุกอย่างว่าทำอะไรลงไป และก็ไม่มีสิ่งเลวร้ายอะไร แค่คำพูดและปฏิกิริยาเปลี่ยน จะชอบนั่งนิ่ง ๆ และพูดเสียงเบาๆ ไปรู้ตัวทุกอย่างแต่ไม่สามารถบังคับต้วเองให้หยุดพูดได้ จะหนาวและเย็นมาก (ยืนยันว่าหนาวและเย็นสุด ๆจนสะบั้นเลยล่ะค่ะ) มือจะเย็นเฉียบเลยนะคะ และจะหนักบริเวณหัวไหล่ทั้งสองข้าง แต่จะมีคนที่เป็นร่างทรง (แบบของจริง) คอยพูดกับเราเวลาท่านลง และดิฉันเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ก็เจอกับตัวเองหลายอย่างที่ไม่สามารถบอกใครได้ (แม้แต่คนในบ้านยังบอกว่าเพี้ยนเพราะเรียนมาก) และไม่รู้จะปรึกษาใครดีกลัวเขาหาว่าบ้า และจะเป็นบ่อยเวลาที่นั่งสมาธิอยู่ที่บ้านเวลาสวดมนต์ แต่ไม่พูดนะคะ และเวลาหลับตานั่งสมาธิจะรู้สึกสว่างบริเวณหว่างคิ้วทั้งสองข้างค่ะ
    มีอะไรก็แนะนำได้นะคะ *****
     
  10. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +2,808
    O
     
  11. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +2,808
    http://www.kalyanamitra.org/sermon/index_dhammateaching.asp?catid=3 << คิกเข้าไปหาเรื่องของการทรงหรือรับขันดูนะครับ แล้วก็ลองฟังดูครับ มีหน้า1 ถึง หน้า 9 ครับ อาจจะทำให้กระจางใจ ไม่เป็นกังวลอีกเลย
     
  12. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,047
    เราก้อคล้าย ๆ คุณออย
    แต่ของเราโดนให้ทำบายศรีขอขมาเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคยล่วงเกิน
    และบูชาเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพบูชาอยู่ให้ท่านเป็นครูสอนปฏิบัติธรรม
    ต้องมีขันบายศรี ที่เค้าเรียก "ขันครู" มาเก็บไว้บูชาที่บ้านด้วย
    ส่วนบายศรีบูชาและขอขมา ๙ พาน ครบ ๑๕ วัน ก้อเอาไปจำเริญแม่น้ำ

    เราก้อสงสัยเหมือนกันว่า
    ตอนนั้นเราป่วยหนัก ไปมาหลายโรงพยาบาล
    ตรวจทุกอย่างรักษาทุกอย่าง ก้อไม่หาย
    จนมาวันนึงที่ "เกือบตาย" เบลอ ๆ ไม่รู้สึกตัว
    วันนันรู้สึกว่า ยอมจำนน ยอมทุกอย่าง
    ใครจาให้ทำอาไรก้อทำ
    แต่คนที่ให้ทำเค้ายืนยันว่า "ไม่ใช่รับขันธ์"
    เค้าว่า แค่ขอขมาและ "รับครู" เป็นการบูชาครู
    ก้อทำไป

    พอมาตอนนี้สิ รู้สึกตัว แข็งแรงดี โรคภัยไข้เจ็บหาย
    เริ่มได้คิดว่าเหมือนถูกหลอก เหมือนเราโง่
    ทำไมต้องเอาขันบายศรีกระดาษห่วย ๆ มาไว้ที่บ้าน
    (เค้าทำไม่งาม ไม่ประณีต) ก้ออยากจะเอาออกไปทิ้ง
    แต่กลัวจะไม่สบายอีก (ตอนนั้นป่วยหนักมาก ใครม่เคย ไม่มีวันเข้าใจหรอก)

    ฝากถามท่านผู้รู้ที
    ว่า ถ้าเราอยากเอาขันที่เค้าเรียก "ขันครู" นี้ไปทิ้ง
    ทำได้มั้ย (อยากทิ้งมาก ๆ)
    และควรทำอย่างไรดีที่สุด
    ไม่อยากป่วยอีก

    ขอบคุณล่วงหน้าที่ช่วยตอบก๊าบ
    [b-wai]
     
  13. oill

    oill Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2006
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณ "คุณ 9 ตาล 9" มากนะคะ ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
     
  14. mask191

    mask191 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +32
    ผู้รู้ทั้งหลายช่วยตอบมาเยอะหน่อยครับ ผมกำลังติดตามอ่านอยู่นะครับ[b-wai]
     
  15. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    คำตอบนี้คงไม่ช้าเกินไปนะ การรับขันธ์ก็เหมือนการเปิดประตู หรือทวารของเรานั่นเอง อันตรายมากนะ ขัดกันกับในทางพุทธศาสนา ต่อไปอาจทำให้เราต้องเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ ควรนำของสิ่งนั้นคืนเจ้าของไป หรือเอาไปพระเกจิอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือทางสุดท้ายก็ ห่อผ้าขาวรอยน้ำ ทำสังฆทานให้เค้าซะ ตัดวิบากกรรม หมั่นทำสมาธิแผ่เมตตา อธิฐานร่างกายนี้ของเราไม้ต้องการให้ใครมาทรงร่าง หรือร่างทรง หรือหาคนปิดทวารซะ ต่อไปอาจไม่ใช่เทพนะที่จะมาทรงกับเรา อยากช่วยนะ เพราะเป็นคนธรรมดา เป็นครูบ้านนอก ไม่มีองค์ ไม่มีเทพ อยู่อย่างสมถะ มีความสุขมาก ๆ สอนเด็ก ๆ นั่งสมาธิ ภาวนา ตั้งแต่ เด็กเล็กจนเด็กโต ก็ได้ผลดี ปัญหาอะไรก็มาปรึกษาได้
     
  16. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,587
    รับบูชา แทนได้ครับ เริ่มต้นจากการกราบ 5 ครั้ง ตั้งจิตใจตามการกราบ
    1.บูชาคุณ พระพุทธเจ้า
    2.บูชาคุณ พระธรรมเจ้า
    3.บูชาคุณพระสงฆ์เจ้า
    4.บูชาคุณบิดามารดา
    5.บูชาคุณครูบาอาจารย์

    จากนั้นใช้ การปฏิบัติบูชา ซึ่งเป็นการบูชาที่ยิ่งใหญ่ เมื่อจิตใจเราเบิกบาน สงบเย็น สว่าง สะอาด และ ก็อุทิศ ส่วนบุญ กุศล ให้กับ ท่านทั้งหลายนั้นๆ ทาน ศีล ภาวนา ใช้สิ่งใดก็ได้ครับ
     
  17. โคมฉาย

    โคมฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    3,058
    ค่าพลัง:
    +26,744
    เล่าสู่กันฟัง

    เรื่องร่างทรงองค์เทพ มีคนถาม
    แล้วก็มีคนตอบ
    คนถามก็คือไม่รู้
    คนตอบก็ตอบแบบตาบอดคลำช้าง เรื่อยไป
    ผมเองไม่อยากจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
    เพราะคนที่คลำช้างจะหาว่าผมเป็นหางช้าง ดีไม่ดีจะหาว่าผมเป็นหูช้าง หุหุ
    แต่เมื่อพิจารณาแล้ว กระทู้แบบนี้ควรจะตอบให้ชัดๆไปเลย
    ก่อนที่เราจะรับขันเรามีสาเหตุต่างๆกันมาใช่หรือไม่
    และเราเชื่อเราก็เลยไปรับ
    พอรับมาแล้วไม่สมดังใจใช่มั้ยเลยจะเอาขันไปลอยน้ำบ้างไปทิ้งบ้าง
    เพราะคิดว่าองค์เทพท่านไม่ช่วย ก็เลยไม่รู้จะคบไปทำไม
    จริงๆแล้วการรับขันเป็นเรื่องที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อสร้างความรู้สึกเคารพแบบครูบาอาจารย์ระหว่างผู้มอบขันกับผู้รับขัน เพราะคนในสมัยโบราณมาไม่ค่อยจะได้รู้หนังสือ ไม่ค่อยจะมีความรู้ ส่วนเจ้าตำหนักนั้นมีประสบการณ์เยอะก็จะได้มาปรึกษาขอคำแนะนำ และให้ช่วยเหลือกันในบางครั้ง ก็เลยกลายเป็นประเพณีและกลายเป็นเครื่องมือหากินของเจ้าตำหนักที่คิดไม่ซื่อในปัจจุปัน
    ถามว่าถ้าไม่รับขันองค์ลงได้มั้ย คำตอบคือลงได้ เพราะการที่เรามีองค์นั้นหมายถึงเรามีอดีตชาติร่วมกันมา เราเคยบูชาท่าน เราเคยเป็นลูกศิษย์ท่าน เมื่อเรามาเกิดใหม่ท่านก็ตามเรามา ถามว่าตามยังไง ท่านก็ตามดินน้ำลมไฟที่ประกอบเป็นสังขารของเรานี้แหละ หรือเรียกง่ายๆว่าท่านตามกระดูกเรามา และท่านมาอยู่กับเราเมื่อไร มาอยู่ก่อนรับขันสักปีสองปีหรือเปล่า คำตอบคือไม่ใช่ ท่านตามมาตั้งแต่เราเกิดครับ ดังนั้นเมื่อท่านอยู่กับเราแล้วเราจะรับขันหรือไม่รับขันมันก็เรื่องของเรา แต่ท่านจะดูแลเราแบบไหนมันก็เรื่องของท่าน ท่านอาจจะมาคุมเป็นองค์บารมีประจำสังขาร หรือจะมาแบบประทับทรง เราห้ามท่านไม่ได้
    ส่วนการรับขันแล้วต้องไปเสริมใหม่หรือเปล่า ถ้าอ่านมาตลอดก็คงจะรู้ว่าในเมื่อขันก็ไม่จำเป็นต้องรับแล้วทำไมจะต้องไปเสริม เว้นแต่เราพอใจที่จะไป
    หรืออีกกรณีหนึ่ง เนื่องจากองค์เทพท่านต้องการจะให้เราไปรับขัน กรณีท่านจะมาเข้าฝันหรือมาบอก โดยเหตุผลของท่านซึ่งเราไม่รู้ แต่ให้จำไว้ว่าท่านมาบอกเราโดยเรารู้เอง ไม่ใช่เจ้าตำหนักมาสะกิดแล้วบอกเอ็งมีองค์เองต้องรับขัน ถ้าอย่างนั้นใช้ไม่ได้ครับ เพราะเราต้องรู้มาจากตัวของเราเอง
    คราวนี้ถามว่าถ้าเราไปรับขันแล้วจะเป็นการเปิดทางให้วิญญาญทุกวิญญาณทั้งดีและร้ายเข้าร่างหรือเปล่า คำตอบคือไม่ใช่ เพราะคนไม่รับขันผีเข้าก็มีมากมาย ถ้าผีมันจะเข้ามันก็เข้าครับ ไม่ต้องไปเปิดทางใดๆทั้งสิ้น หุหุ
    สรุป รับขันหรือไม่รับขันผลที่เกิดขึ้นต่างกันดังนี้
    1.รับขันต้องเสียเงิน หุหุ
    2.รับขันจากครูบาอาจารย์ดีๆเราก็จะมีครูบาอาจารย์ไว้คอยปรึกษา แต่ถ้าไปรับจากครูบาอาจารย์ชั่วก็ซวยไป (เลยย้ำว่าหากจำเป็นต้องรับต้องเป็นคำสั่งจากองค์ที่เรารู้ได้สัมผัสได้เท่านั้น อย่าไปเชื่อคนอื่นบอก และท่านจะสั่งให้ไปรับกับใคร ท่านจะบอกทั้งหมด)
    3 ถ้าไม่รับขันเวลามีปัญหาหรือไม่เข้าใจเวลาองค์ท่านประทับก็ไม่รู้จะถามใคร เพราะไม่มีครู
    ส่วนของคุณoill นั้น ไม่ต้องวิตกหรอกทุกคนที่เป็นร่างครั้งหนึ่งหรือหลายครั้งเคยคิดเช่นคุณ เพราะคิดว่าเราเป็นร่าง ทำไม่องค์ไม่ประทานความร่ำรวยมาให้แบบตั้งตัวไม่ทัน ประเภทถูกหวยยี่สิบล้าน ซ้ำร้ายบางวันเงินจะใช้ยังไม่มี ขอพรไปกี่ครั้งกี่หนก็ไม่ได้ เลยจะลาออกจากความเป็นร่าง หุหุ แต่พอถึงเวลามันก็ต้องเป็นอีก เพราะหนีไม่พ้น เพราะคนเกิดมามีหน้าที่ต่างกัน มีบุญบารมีต่างกันบางคนมาสายพุทธ เค้าอาจไม่ต้องเกี่ยวกับร่าง ไม่เกี่ยวกับองค์เทพ เค้าก็ถือศีลกินปฎิบัติธรรมไป แต่บางคนมาสายบารมี ก็จะมีหลายอย่างที่นอกเหนือเช่นครูบาอาจารย์บางท่านสามารถเปิดวิชาใหม่ได้เช่นวิชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ วิชาเปิดกรรมของหลวงพ่อคง วิชามโนมยิทธิของหลวงปู่ฤาษี ซึ่งใหม่ก็โดนต่อต้านว่านอกหลักการของพระพุทธศาสนาทั้งนั้น เพราะไม่มีในตำราที่เคยเรียนมา แต่ต่อมาบางกลุ่มก็ให้การยอมรับ
    ส่วนสายร่างทรงองค์เทพนั้นมีทั้งปลอมมีทั้งจริง มั่วกันไปหมด ก็เลยรับกันไม่ได้ และกลายเป็นการแหกตาไปในที่สุด แต่เมื่อเรามาทางนี้อดีตชาติเราเคยบูชาท่านและเคยสัญญากันไว้เราก็ต้องอยู่กับท่าน
    แต่ท่านมาอยู่กับเราเพื่อท่านจะมาสร้างบารมีร่วมกับเรา ท่านไม่ได้มาเพื่อให้เรารวยขึ้น เจ๋งขึ้น ยกเว้นเรามีบุญเก่าดีและสมควรจะได้รับท่านจะมาเร่งหรือมาเตือนให้ได้รับเท่านั้น เราไม่ได้มีอภิสิทธิใดๆเพิ่มขึ้น
    วิธืการที่จะหนีท่านมีอย่างหนึ่งที่ทำได้ คือเราต้องมีบารมีมากกว่าท่าน ถ้าเราสร้างบารมีได้มากกว่าท่านท่านจะไม่มายุ่งเลย หุหุ
    ถ้าคุณoillปฎิบัติและนั่งสมาธิบ่อยคุณจะได้ตาที่สาม และคุณสามารถที่จะสัมผัสท่านได้โดยไม่ต้องปรึกษาใคร เพราะร่างที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบส่วนใหญ่ท่านจะเปิดตาที่สามให้เพื่อให้เราพิสูจน์ความจริงในโลกวิญญาณและสื่อกับท่านโดยตรงครับ และนั้นคือความจริงแท้ที่พิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง โดยบอกใครไม่ได้ เพราะพวกที่สัมผัสไม่ได้มันจะหาว่าคุณเป็นบ้าไปแล้ว หุหุ
     
  18. chalermsat

    chalermsat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +13
    การรับขันธ์ครูหรือการรับองค์เทพ

    การรับขันธ์ครูหรือรับองค์เทพนั้น มีแนวทางดังนี้
    1.เราจะต้องรู้รายละเอียดว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร?
    2.มีเทพองค์ไหน?อยู่กับตัวเรา
    3.สื่อสารทางสมาธิจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าต้องการอะไร?
    4.จะให้เราปฏิยัติตัวอย่างไร?ขันธ์ครูทำถูกต้องหรือไม่?
    5.จะให้รับขันธ์ครูหรือไม่?ที่ไหน?ใครจะเป็นผู้ทำให้?
    6.เมื่อมีการตรวจสอบองค์เทพและสื่อสารทางสมาธิจิตแล้วจึงจะให้คำแนะนำได้
    ด้วยเหตุผลหลายๆประการเมื่อเรานับถือพุทธศาสนา แล้วทำไมยังมีสิ่งเหล่านี้ ปัญหาที่ว่าเมื่อรับขันธ์มาแล้วจะเลิกรับขันธ์จะทิ้งลอยน้ำไป เรามีเหตุผลอะไร? ตรวจสอบก่อนทำอะไรลงไปดีกว่าไหม?
    วิธีการตรวจสอบของผมคือตรวจดูทางสมาธิจิต ว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร?มีเทพหรือไม่?ถ้ามีอยู่สายไหน?ท่านมีความต้องการอะไร?จะให้เราปฏิบัติตัวอย่างไร?พูดคุยกันก่อนจะดีที่สุด ท่านใดสนใจติดต่อมาที่
    เฉลิมษัตริย์ วชิรโกมล
    มือถือ:08-1820-3760
    เรามาร่วมกันหาทางออกสำหรับชีวิตที่เหมาะสม โดยไม่ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เพราะผมมีประสพการณ์ทางด้านนี้มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2519จึงให้คำแนะนำมา ณ ที่นี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน...ขอขอบคุณ
     
  19. chalermsat

    chalermsat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +13
    การรับขันธ์ครูหรือการรับองค์เทพ

    การรับขันธ์ครูหรือรับองค์เทพนั้น มีแนวทางดังนี้
    1.เราจะต้องรู้รายละเอียดว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร?
    2.มีเทพองค์ไหน?อยู่กับตัวเรา
    3.สื่อสารทางสมาธิจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าต้องการอะไร?
    4.จะให้เราปฏิบัติตัวอย่างไร?ขันธ์ครูทำถูกต้องหรือไม่?
    5.จะให้รับขันธ์ครูหรือไม่?ที่ไหน?ใครจะเป็นผู้ทำให้?
    6.เมื่อมีการตรวจสอบองค์เทพและสื่อสารทางสมาธิจิตแล้วจึงจะให้คำแนะนำได้
    ด้วยเหตุผลหลายๆประการเมื่อเรานับถือพุทธศาสนา แล้วทำไมยังมีสิ่งเหล่านี้ ปัญหาที่ว่าเมื่อรับขันธ์มาแล้วจะเลิกรับขันธ์จะทิ้งลอยน้ำไป เรามีเหตุผลอะไร? ตรวจสอบก่อนทำอะไรลงไปดีกว่าไหม?
    วิธีการตรวจสอบของผมคือตรวจดูทางสมาธิจิต ว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร?มีเทพหรือไม่?ถ้ามีอยู่สายไหน?ท่านมีความต้องการอะไร?จะให้เราปฏิบัติตัวอย่างไร?พูดคุยกันก่อนจะดีที่สุด ท่านใดสนใจติดต่อมาที่
    เฉลิมษัตริย์ วชิรโกมล
    มือถือ:08-1820-3760
    เรามาร่วมกันหาทางออกสำหรับชีวิตที่เหมาะสม โดยไม่ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เพราะผมมีประสพการณ์ทางด้านนี้มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2519จึงให้คำแนะนำมา ณ ที่นี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน...ขอขอบคุณ
     
  20. star_nok

    star_nok Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +96
    คุณ oill ครับ สิ่งที่คุณโคมฉายกล่าวมาถูกต้อง และตรงประเด็นที่สุดแล้วครับ ผมคิดว่าตรงใจคุณด้วย การทิ้งหรือทำลายขันธ์ อันตรายสุดๆ
    ลองคิดทบทวนดู ตามที่คุณโคมฉายบอกนะครับ

    ขอพระองค์อยู่กับคุณ คุ้มครองคุณ ให้เดินในทางที่ถูก ที่ควรครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...