การกู้พระศาสนาของพระเจ้าตากสินมหาราช

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 1 มีนาคม 2009.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]

    ก า ร กู้ พ ร ะ ศ า ส น า
    ข อ ง พ ร ะ เ จ้ า ต า ก สิ น ม ห า ร า ช

    อาจารย์สมพร เทพสิทธา :
    ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติฯ
    และนายกสมาคมส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ


     
  2. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]
    [พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
    ประดิษฐานบริเวณวงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ :
    ออกแบบและสร้างสรรค์ โดย ศาสตราจารย์ ศิลป พีระศรี]



     
  3. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    สาธุ อนุโมทนาค่ะ ขอกราบรำลึกถึงพระราชกรุณาอันหาที่สุดมิได้

    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ ^^
     
  4. ใจสวรรค์

    ใจสวรรค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +105
    ขออนุโมทนากับสาระที่มีประโยชน์มากๆในแง่มุมของประวัติศาสตร์ ที่ท่านเจ้าของกระทู้นำมาลง ตัวดิฉันเองก็เคยได้รับฟังเรื่องราวแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ดิฉันเองก็มีความเชื่อมั่นในน้ำพระทัยของทั้งสองพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ไม่เคยคิดว่าประวัติศาสตร์ที่เรียนมาตั้งแต่เด็กๆจะถูกต้องทั้งหมดหากแต่เรื่องราวบางเรื่องมิสามารถบอกกล่าวได้ในช่วงเวลานั้นต่าง และหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งหากมีการชำระประวัติศาสตร์ระหว่างกรุงธนบุรีกับกรุงรัตนโกสินทร์ในช่วงรอยต่อนั้นหากมีหลักฐานที่เหลือพอที่จะสืบค้นกันได้จริง เรื่องราวความขัดแย้งซึ่งเป็นอีกหนึ่งนัยที่ทำให้คนไทยในปัจจุบันเกิดความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายคงลดน้อยลงไปได้อีกระดับหนึ่ง ความสามัคคี ความเสียสละ ความรักในชาติพันธุ์ของตัวเองคงกลับมาในไม่ช้า คนขายชาติคงหมดไปจากแผ่นดินไทย
     
  5. phrapuwadon

    phrapuwadon "จงเป็นผู้ให้ที่ดี...เมื่อมีโอกาส"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    496
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,184
    "เหนือสิ่งใด คือชาติ ศาสน์ กษัตริย์
    ที่ผูกมัด รวมใจ ไว้แน่นเหนียว
    เกิดเป็นไทย ต้องรวมใจ ให้กลมเกลียว
    เพื่อสิ่งเดียว คือเอกราช ของชาติไทย"

    ****************************

     
  6. spark113

    spark113 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +8
    ประเทศไทยสร้างด้วยเลือดและเนื้อของบรรพบุรุษของชาวไทย
    กว่าจะเ็ป็นชาติไทยใยคนไทยในบัจจุบันมาย่ำยีให้ประเทศไทยต้องแตกร้าว
     
  7. mirinda

    mirinda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +91
    " เพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติ รู้ไหมเราเป็นกษัตริย์ที่อาภาพที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตอนเราขึ้น
    ครองราชเงินในท้องพระคลังไม่มีเลย เราต้องเป็นหนี้ชาวจีนถึงหกหมื่นตำลึง ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินสมัยนี้ก็เท่ากับสองแสนสี่หมื่นบาท สมัยก่อนเงินหกหมื่นตำลึงมีค่ามาก ถ้าเขาจะให้เราผ่อนใช้ เราก็พอจะหามาผ่อนได้ แต่นี่เขาคิดจะยึดประเทศเราไปเป็นของเขา เขาจึงเร่งรัดจะเอาเงินจำนวนนี้ให้ได้ เรากับสหายร่วมสาบานก็เลยต้องช่วยกันคิด ว่าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร แล้วเราก็คิดออกว่า การผลัดแผ่นดินเป็นการล้างหนี้ที่ดีที่สุด ท่านอย่าคิดว่าเราตั้งใจโกงเขานะ เราไม่คิดจะโกง แต่ในเมื่อเขาคิดไม่ดีกับเรา เจงต้องใช้เล่ห์กลกับเขา อีกประการหนึ่ง ตั้งแต่เรารับกรรมฐานจากหลวงพ่อในป่า เราก็ไม่มีแก่ใจจะครองราชย์ต่อไปอีกแล้ว เราอยากตัดความหลงในสงสารให้เด็ดขาด เราสมเพชตัวเองที่เป็นกษัตริย์ยากจนเข็ญใจ เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ไม่มีเบญจราชกกุธภัณฑ์"

    เพราะไม่มีเบญจกกุธภัณฑ์นี่เอง (เครื่องหมายความเป็นพระราชา 5 อย่าง ได้แก่ พระขรรค์ ธารพระกร อุณหิส ฉลองพระบาท และวาลวิชนี" พระยามหานุภาพจึงเขียนสดุดีเราไว้ในนิราศกวางตุ้งว่า

    ชะรอยอรรถบุรุษอุดมวงศ์ ในสิบองค์โพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์
    ได้รัฐยาเพททายทำนายพรรณ ในอนันต์สำนักชิเณรนาน
    จึงดลใจให้พระองค์ทรงนั่ง
     
  8. mirinda

    mirinda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +91
    ต่อ บัลลังก์รัฐรสพระธรรมกัมมัฎฐาน
    ให้ทรงเครื่องนพรัตน์ชัชวาล พระชมฌานแทนเบญจกกุธภัณฑ์
    เอาพระไตรลักษณ์ทรงเป็นมงกุฎ พระงามสุดยอดฟ้าสุทธาสวรรค์
    เอาพระศีลสุจริตในกิจกรรม์ เป็นสุวรรณเนาวรัตน์สังวาลย์
    เอาพระมุติธรรม์เป็นคันฉัตร เอาพระสัจจะเป็นระใบไพศาล
    ล้วนเครื่องศีลวัตรอันชัชวาล พระอุเบกขาญาณเป็นธารกร"

    ฯลฯ


    "วันที่หลวงอาสาศึกถูกประหารชีวิตแทนเรา เล่าตามประศาสตร์ก่อนนะ ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า
    ตรงกับวันที่ 5 เมษายน 2325 หลวงอาสาศึกคือคนที่เราบอกว่า หน้าตาท่าทางเหมือนเราราวกับเป็นคนคนเดียวกัน ส่วนเราถูกส่งตัวไปนครศรีธรรมราชในเพศบรรพชิต ซึ่งแผนการทั้งหมดนี้สายเรากับน้องชายของเขาเป็นคนจัดการ คนที่ติดตามเราไปชื่อเจ้าพัฒน์ ซึ่งต่อมาคือเจ้าพนะยาพัฒน์ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช นอกจากนี้เจ้าพัฒน์ยังพาชายาคนสุดท้ายของเราซึ่งกำลังต้งครรภ์อ่อน ๆ ไปด้วย เมื่อไปถึง เจ้าพัฒน์ก็ได้พาเราไปอยู่วัด ๆ หนึ่ง เราต้งใจจะบวชไม่สึก จึงขอให้เขารับชายาของเราเป็นภรรยาเขา และขอให้รับบุตรในครรภ์เป็นบุตรของเขาด้วย แต่เจ้าพัฒน์ภักดีต่อเรา จึงปฏิเสธที่จะรับชายาของเราไปเป็นภรรยา เขาเลี้ยงดูชายาของเราอย่างดีที่สุด ต่อมา ชายาของเราได้ให้กำเนิดบุตรชาย เจ้าพัฒน์ก็ประคบประหงมเลี้ยงดูอย่างดี ราวกับเป็นบุตรของเขาเอง บุตรคนนี้ได้รับการแต่งต้งให้เป้นเจ้าพระยานครศรีธรรมราชสืบต่อจากเจ้าพระยาพัฒน์ ในสมัย ร.3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ร.3 ทรงทราบว่าเป็นบุตรของเรา แต่พระองค์ยังทรงแต่งตั้ง เท่ากับเป็นการพิสูจน์ว่าราชวงศ์มิได้มีเรื่องขัดเคืองบาดหมางกับเรา
    "บุตรผู้นี้ของพระเถรเจ้าคือต้นตระกูล ณ นคร ในปัจจุบัน ใช่ใหมขอรับ"
    "ถูกแล้ว นอกจากนี้ยังมีบุตรธิดาที่เกิดจากภรรยาคนก่อน ๆ ซึ่งต่อมาได้เป็นต้นตระกูล ณ นครราชสีมา และต้นตระกูลอินทรกำแหงด้วย ส่วนเรา เมื่ออยู่นครศรีธรรมราชได้ 2 ปี ก็อยากจะมาอยู่เมืองเพชรบุรี.....



    จากธรรมนิยายชุด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม "ความหลงในสงสาร" สุทัสสา อ่อนค้อม เผยประวัติศาสตร์กรุงธนบุรีที่ไม่มีในประวัติศาสตร์


    เอามาให้อ่านแค่นี้ก่อนนะคะ โดยส่วนตัวหนูรักพระเจ้าตากสินมหาราชมาก อยากให้มีการชำระ

    ประวัติศาสตร์ใหม่จังเลย ลูกหลานจะได้เข้าใจถูกต้อง การปฏิบัติกัมฐาน จะทำให้สติวิปลาศได้อย่างไร

    เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วค่ะ
     
  9. L.sooksun.E

    L.sooksun.E Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +50
    อนุโมทนาครับ

    ขอบคุณมากนะครับ
     
  10. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ขอบคุณ จขกท. ที่นำบทความดีๆ ในเชิงประวัติศาสตร์ที่ยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยแก่บุคคลทั่วไป มาให้อ่านเืพื่อความชัดเจนและถูกต้องมากขึ้น ขออนุโมทนาค่ะ
     
  11. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    ขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนห้า ปีขาล
    พ.ศ. สองพันสองร้อยเจ็ดสิบเจ็ด
    จุติด้วย วีรชน คนใจเพชร
    ผู้มีเดช ศักดา บารมี

    เป็นบุครชาย นายไหฮอง นางนกเอี้ยง
    ฐานะเพียง ขุนนางน้อย ในกรุงศรีฯ
    เพียงสามวัน เกิดเหตุการณ์ หวั่นฤดี
    ด้วยเกิดมี งูเหลือมขด รอบกายา

    เลื้อยโอบไว้ หาได้ทำ อันตราย
    นิมิตรหมาย คล้ายพิทักษ์ และรักษา
    พ่อและแม่ มิรีรอ เนิ่นนานช้า
    รีบปรึกษา พระยาจักรี ผู้มีคุณ

    ได้ความว่าทารกนี้มีบุญญา
    ควรคู่หา ข้าหลวงใหญ่ ให้เกื้อหนุน
    ท้าวพระยา ต้องชะตา เกิดการุณ
    ขอค้ำจุน บุตรบุญธรรม นาม
     
  12. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    เพียงตัวเราเป็นแค่มนุษย์เดินดินคนหนึ่ง ยังต้องทำมาหาเลี้ยงตนและดูแลบุพการี ก็นับว่าเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่พอตัวอยู่แล้ว แต่เมื่อเราได้ย้อนกลับไปศึกษาและจินตนาการภาพตามถึงวีรกรรมอันกล้าหาญและทรงเสียสละตนเพื่อชาติ ศาสน์ ของพระเจ้าตาก เราจะซาบซึ้งและภูมิใจมาก ที่ครั้งนึง ภพนึง ได้มีบุรุษผู้นึงนามว่า "สิน" ได้อุทิศใจและกายของตน เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นชาติ ศาสน์ ให้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบันนี้
    ดังนั้น เราในฐานะคนไทย เลือดเนื้อเชื้อไขก็ไทยแท้ สำเนาทะเบียนบ้านก็ไทย เราต้องทำความดีเจริญรอยตามพระยุคลบาทของพระมหากษัตริย์ไทย ดังเช่น พระเจ้าตากสินมหาราช เป็นต้น
    ผมอ่านแล้ว ผมจินตนาการตามเนื้อเรื่อง มีความรู้สึกว่า "พระเจ้าตาก ทรงมีจิตใจที่สูงส่งมาก ยากยิ่งนักที่จะหาใครเสมอเหมือนพระองค์ ทำให้ย้อนกลับมามองตัวเรา ว่าวันนี้เราทำอะไรดีๆฝากไว้กับชาติ ศาสน์ บ้าง?"
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ตามความเห็นของผมเอง

    สมเด็จพระเจ้าตาก ไม่ใช่แสดงอุบาย เพราะต้องการจะ ล้างหนี้จากจีนหรอก
    เพราะการยืมเงินจากจีน อย่างไรเสียกษัตริย์ องค์ต่อไปก็ต้องรับผิดชอบ ในฐานะที่ เงินที่ได้มาจากจีนก็ยังคงต้องชดใช้ จะปฏเสธสิ้นเชิงก็เป็นไปไม่ได้

    ประเด็นต่อมา ที่ว่ารัชกาลที่ 1 จะสำเร็จราชการ สั่งลงท่อนจันทร์กับ พระมหากษัตริย์ของตนก็เป็นไปไม่ได้ เพราะร่วมบ่าร่วมเคียงกันมา อีกทั้ง ทั้งคู่ก็ยึดมั่นในพระศาสนาเช่นกัน

    ทางเดียวที่ เป็นไปได้อย่างแน่นอน ก็คือ ปรารภของพระเจ้าตากเอง ตามธรรมดาจิตใจของพระมหากษัตริย์และพระโพธิสัตว์บารมีกล้านั้น จิตย่อมมุ่งไปที่ เนกขัมบารมี อย่างไม่มีอะไรฉุดรั้งได้ จิตย่อมมุ่งไปที่ทานบารมีอย่างเต็มที่ ก็ด้วยเหตุนี้ พระองค์ทรงรบทัพจับศึกมา สังหารข้าศึกไปมาก จิตใจพระองค์ย่อม เบื่อหน่ายในวัฎจักร อันเป็นเหตุให้ปราถนา ครองราชชั่วแค่บ้านเมืองพอสงบ

    ตาม ประวัติศาสตร์กล่าวว่า พระเจ้าตากท่านฝักใฝ่ในกรรมฐาน จนเป็นเหตุให้เสียสติ ข้อนี้คาดว่า ท่านคงจะศรัทธาในการปฏิบัติมาก ยิ่งปฏิบัติยิ่งเห็นผล ก็ไม่แตกต่างกับ คนศรัทธาพุทธศาสนาในเว็บพลังจิต เราก็บ้าปฏิบัติกันแทบทุกคน แต่ไม่ใช่คนบ้า แต่สำหรับคนทั่วไปเขาก็อาจจะว่าเราบ้า

    ก็มาถึงว่า แล้ว สรุปว่า ผมคาดว่า ท่านคงต้องการออกบวช ออกศึกษาพระธรรมด้วยใจเนกขัมมะ คือ ไม่อยากจะยุ่งเรื่องบ้านเรื่องเมืองแล้ว ครั้นปรารภดังนั้นกับสหายสนิทแล้ว
    รัชกาลที่ 1 ก็ทรงต้อเสียสละอย่างยิ่ง คือ
    1 ท่านต้องเหนื่อยในการครองราช และแบกภาระ บูรณะบ้านเมืองใหม่ แทนพระเจ้าตากทั้งหมด
    2 รัชกาลที่ 1 ท่านต้องทน การประณามว่า ทำไมจึงสั่งลงท่อนจันทร์พระเจ้าตาก

    สาเหตุว่าทำไมไป ตามปกติ หรือ ไม่ต้องสร้างสถานการณ์ไม่ได้หรือ ตอบว่า ในสมัยนั้นกษัตริย์เป็นผู้สูงส่งยิ่ง ถ้ารับรู้ถึงราษฎรว่า พระเจ้าตากทรงผนวช ก็จะทำความเดือดร้อนของพระองค์แน่นอน จะออกธุดงค์ จะออกใ้ช้ชีวิตเยี่ยงสมัญชนก็คงไม่ได้ ทั้งศัตรูเดิมทางพม่า ทั้งกลุ่มคนที่ยังไม่จงรักภักดีกับรัชกาลที่ 1 จะตั้งตัวไม่กลัวเกรงรัชกาลที่ 1 เนื่องจากพระเจ้าตากยังคงอยู่ ก็จะเกิดข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย กลุ่มเดิมที่ภักดีกับพระเจ้าตากก็คงจะต้องตามมาขอให้พระองค์กลับสู่การครองราชแน่นอน ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ เรื่องนี้จึงต้องลงเอยด้วยการ ให้สถานการณ์ทั้งหมดบิดเบือนไป

    ขอแสดงความเห็น และการวิเคราะห์ส่วนตัว
     
  14. apisitTre

    apisitTre Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +60
    พระองค์ทรงยิ่งใหญ่ และน่าอดสูนักที่ถูกสำเร็จโทษเยี่ยงนั้น
    แต่พระองค์มิเคยแค้นเคือง นอกจากสิ่งเดียวที่ยึดมั่น คือสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ครบ5,000ปี ปกป้องพุทธภูมิ
     
  15. johot

    johot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +673
    อนุโมทนาสาธุกับคนที่ตั้งกระทู้มากครับ และอย่างยิ่งความคิดของคุณขันธ์ ผมก็คิดเช่นเดียวกับคุณแต่มีบางข้อที่ผมเองก็คิดไม่ถึง คุณเขียนแล่วผมอ่านเกิดนึกได้มากขึ้น สาธุๆ

    ไม่ว่าพระองค์จะเป็นไปตามประวัติศาสตร์จารึกหรือไม่ ข้าพระองค์จะขออยู่ภายใต้เบื้องพระยุคลบาทตลอดกาลนาน
     
  16. nu778i

    nu778i สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +16
    หนังสือความหลงในสงสาร ของ สุทัสสา อ่อนค้อม
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยกล่าวไว้ ..สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีพระโอรส ๒ องค์ อีกคนอยู่ดูแลพ่อ(ปฏิบัติกรรมฐาน) อีกคนค้าขายทางใต้ส่งเงินเข้าท้องพระคลังหลวง
     
  17. Ugood

    Ugood ธรรมชาติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +490
    อนุโมทนา ครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    ___________
    ธรรมะคือธรรมชาติ
     
  18. karatekung

    karatekung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,624
    ค่าพลัง:
    +2,195
    ใครฆ่าพระเจ้าตาก
    แล้วเรื่องราวที่พระเจ้าตากกับเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกมีข้อเท็จจริงเพียงไรหรอครับถึงได้สรุปว่าวางแผนกัน
    เพราะประวัติศาสตร์แล้ว "ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร"
     
  19. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
  20. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ผู้นำแบบพระยาตาก

    <!-- content -->[​IMG]คุณสมบัติสำคัญของผู้นำคือมองการณ์ไกลเพื่ออนาคตของสังคม ทำความเข้าใจปัจจุบันเพื่อที่จะสร้างอนาคต มีปณิธานอันแน่วแน่ในการสร้างสรรค์ความเจริญแก่ชนหมู่มาก แล้วลงมือทำ ด้วยเงื่อนไขที่ยากลำบากนี้ จึงไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำได้ มีเพียงบางคนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วน คนๆนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้นำ
    ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2310 นั้น ประวัติศาสตร์สอนให้เราทุกคนได้รู้ว่า ภาวะผู้นำมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในภาวะวิกฤติ หากมีผู้นำที่เข้มแข็ง มองวิเคราะห์ปัจจุบันได้ถูกต้อง มองการณ์ไกลได้ปรุโปร่ง ย่อมจะสามารถแก้วิกฤตการณ์ได้
    แต่ปรากฏว่า ผู้นำในกรุงศรีอยุธยาที่มีอำนาจทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ต่างไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว มีเพียงขุนนางจากหัวเมืองเหนือคนหนึ่งที่ถูกเรียกเข้ามาเป็นกำลังในการป้องกันพระนครคือพระยาตาก ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองบ้านนอกที่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจใดๆในทางการเมืองการทหาร ที่สามารถมองสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่ง หากแต่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของขุนนางที่ไม่มีความรู้ทางการทหารโดยไม่มีความหวังว่าจะเอาชนะข้าศึกที่ประชิดปิดล้อมพระนครได้ แม้จะโต้แย้งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางหารด้วยข้อมูลที่เป็นจริง แต่ก็ไม่มีขุนนางผู้เปี่ยมอำนาจวาสนาคนใดรับฟัง มิหนำซ้ำยังอาจจะถูกเอาโทษฐานกบฏศึกอีกด้วย
    เมื่อวิกฤตการณ์ถึงจุดที่ไม่สามารถจะรับได้ พระยาตากจึงตัดสินใจนำกำลังตีฝ่าวงล้มข้าศึกออกจากพระนคร มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก การถอยในครั้งนี้ก็เพื่อสงวนรักษาชีวิตเอาไว้ จะได้กลับมากอบกู้พระนครคืนภายหลัง เพราะหากปักหลักสู้ตายในพระนคร ผลที่ออกมาก็คือคงได้ตายสมใจ หากแต่ต้องตายเปล่า เพราะโอกาสรอดจากการถูกทำลายเหลือเป็นศูนย์

    ประวัติศาสตร์ก็บอกอยู่แล้วว่า ในที่สุดพระยาตากที่มีกองทหารขนาดเล็ก (Small) ติดตามจากพระนคร เมื่อตั้งหลักได้ที่จันทบุรีก็พัฒนาให้กองทัพใหญ่ขึ้น (Medium) กลายเป็นกองทัพ SME อันทรงพลัง เป็นฐานกำลังในการรุกคืนศัตรูเพื่อปลดปล่อยประเทศให้เป็นอิสระ เพียงใช้เวลาไม่นานก็พัฒนากองทัพ SME ให้กลายเป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมรบอย่างเต็มที่ จนในที่สุดก็สามารถปลดปล่อยประเทศจากการยึดครองของศัตรูได้
    แม้ประเทศปราศจากศัตรู แต่คนไทยยังแตกเป็นก๊กเป็นเหล่าเพราะอำนาจรัฐเดิมล่มสลายลง บรรดาขุนนางจริงและขุนนางเก๊ในหัวเมืองต่างๆก็ล้วนแต่อยากเป็นใหญ่ ต้องการสถาปนาอำนาจรัฐขึ้นมาใหม่ในเขตของตน แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำสูงสุด สถาปนาอำนาจรัฐที่สมบูรณ์ได้ แล้วผลก็ปรากฏว่า พระยาตากคือผู้นำคนดังกล่าว ที่ใช้ยุทธวิธีทั้งไม้อ่อนคือการเจรจา และไม้แข็งคือการใช้กำลังทหารตามความจำเป็น จนสามารถรวบรวมก๊กกลุ่มต่างๆให้เข้ามารวมศูนย์ที่กรุงธนบุรี การรวมชาติจึงบรรลุผลโดยสมบูรณ์
    เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ทำให้เราเห็นถึงคุณสมบัติผู้นำอันสมบูรณ์ของพระยาตาก โดยก่อนจะยกกำลังตีฝ่าออกจากพระนครเพื่อไปตั้งหลักที่ภาคตะวันออกนั้น ได้กำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไว้แล้ว ไม่ใช่การออกไปโดยไร้จุดมุ่งหมายชนิดไปตายเอาดาบหน้า ในที่นี้จะเรียบเรียงเป็นข้อๆตามลำดับเหตุการณ์เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
    1.สถานการณ์ในพระนคร พระยาตากวิเคราะห์แล้วว่าถูกยึดครองแน่นอน เมื่อประเทศถูกยึดครองจำต้องมีกำลังทหารที่จะใช้กอบกู้บ้านเมือง ดังนั้น จึงกำหนดยุทศาสตร์ในการดำเนินงานไว้เป็นขั้นเป็นตอน ยุทธศาสตร์แรกก็คือ การสร้างกองทัพขึ้นมาใหม่ ที่ต้องอาศัยยุทธภูมิอันเหมาะสม นั่นคือ เขตแดนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามน้อยที่สุด อยู่ใกล้ที่สุด และยังมีกำลังคนพร้อมเสบียงอาหารสมบูรณ์ นักรบที่มีประสบการณ์ช่ำชองอย่างพระเจ้าตากจึงมองทะลุปรุโปร่งว่า ภาคตะวันออกคือสถานที่ที่เหมาะสมในการใช้เป็นฐานที่มั่นเพื่อดำเนินยุทธศาสตร์การสร้างกองทัพใหม่ให้บรรลุผล ยุทธวิธีที่ใช้คือการถอยออกจากพระนคร มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก ใช้คุณสมบัติของผู้นำรวบรวมกำลังคนสร้างกองทัพขึ้น ด้วยยุทธวิธีทั้งการเจรจาและการใช้กำลังทหาร จนบรรลุยุทธศาสตร์แรกคือสร้างกองทัพขนาดใหญ่ได้สำเร็จ
    2. เมื่อยุทธศาสตร์แรกคือการสร้างกองทัพบรรลุผล ยุทธศาสตร์ต่อมาก็คือการรุกคืนศัตรูเพื่อปลดปล่อยประเทศให้เป็นอิสระ โดยจะต้องโจมตีศัตรูให้เร็วที่สุด ด้วยกองทหารขนาดใหญ่ การที่จะสามารถเข้าโจมตีได้รวดเร็วได้ก็ต้องอาศัยการเดินทางด้วยเรือ ดังนั้นจึงมีการต่อเรือเพื่อนำกำลังทหารหลักรุกเข้าไปทางแม่น้ำแล้วขึ้นบกเข้าโจมตีตามจุดต่างๆ ผสานกับกองกำลังส่วนหนึ่งที่เข้าโจมตีทางบก ด้วยยุทธวิธีนี้จึงสามารถปลดปล่อยประเทศได้สำเร็จ ไม่มีกองทัพของศัตรูอยู่ในแผ่นดินอีก
    3.เมื่อยุทธศาสตร์ในการปลดปล่อยประเทศบรรลุผล ยุทศาสตร์ต่อมาก็คือการสปานาอำนาจรัฐใหม่ให้สมบูรณ์ โดยต้องรวบรวมผู้คนที่แตกเป็นก๊กเป็นเหล่าให้เข้ามาเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งตรงนี้แหละที่จะเป็นการพิสูจน์ความเป็นผู้นำที่โหดหินที่สุด เพราะเป็นการต่อสู้กับคนไทยด้วยกันเอง ที่จะต้องให้เสียเลือดเนื้อน้อยที่สุด โดยใช้ความเป็นธรรม ความชอบธรรม และการประสานผลประโยชน์เพื่อคนทุกกลุ่ม ซึ่งการณ์ปรากฏว่า พระเจ้าตากเมื่อปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว ได้ทรงใช้ยุทธวิธีการเจรจาก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง เพราะประเทศชาติต้องการกำลังคนในการฟื้นฟูพัฒนาบ้านเมืองหลังสงคราม หากมีความจำเป็นจริงๆจึงใช้กำลังทหาร ถ้าเลี่ยงได้ก็ทรงเลี่ยง เมื่อเห็นว่าผู้นำกลุ่มใดมีความรู้ความสามารถ ก็จะทรงเชื้อเชิญเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง ดังเช่นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช เป็นต้น ในที่สุด ยุทธศาสตร์ที่สามคือการรวมชาติก็บรรลุผลโดยสมบูรณ์
    ด้วยคุณสมบัติของผู้นำที่กล่าวไว้ในเบื้องต้น คือ มองการณ์ไกลเพื่ออนาคตของสังคม ทำความเข้าใจปัจจุบันเพื่อที่จะสร้างอนาคต มีปณิธานอันแน่วแน่ในการสร้างสรรค์ความเจริญแก่ชนหมู่มาก แล้วลงมือทำ นั้นเองจึงทำให้พระยาตากสามารถกอบกู้บ้านเมืองที่ล่มสลายจนสามารถสร้างอำนาจรัฐอันสมบูรณ์ขึ้นมาใหม่ ฟื้นฟูและพัฒนาประเทศเพื่อให้คนไทยทั้งมวลอยู่อย่างสบายตามอัตภาพ จึงทรงกลายเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย
    หันมามองสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ขณะนี้ประเทศไทยไม่ต่างอะไรกับเมื่อครั้งพม่าล้อมกรุงในช่วง พ.ศ.2309-2310 ศัตรูของไทยคือสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและสังคมของโลกที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต่างอะไรกับกองทัพพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยา สถานการณ์ทางการเมืองไทยก็ไม่ต่างอะไรกับการเมืองในกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งนั้น นั่นคือ ไร้ความหวังในการกอบกู้วิกฤติจนแทบจะสิ้นเชิง
    คนไทยจึงต้องการผู้นำที่มองปัจจุบันทะลุ วางแผนอนาคตได้ปรุโปร่ง มีปณิธานในการสร้างอนาคตเพื่อชนหมู่มากและพร้อมจะลงมือทำเหมือนพระยาตากเมื่อครั้งนั้น คำถามจึงมีอยู่ว่า ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีผู้นำแบบพระยาตากบ้างหรือไม่.
    … ​
    หมายเหตุ ยกมาจาก Kosolanusim.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...