กว่าจะเป็นอรหันต์ (ตอนจบ) - หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Lokudtradham, 25 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. Lokudtradham

    Lokudtradham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +339
    <TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    13 พฤษภาคม 2537
    ณ วัดป่าธรรมสถิต

    <O:p</O:p
    พ่อแม่ก็มีอันจะกินอยู่ แต่ไม่ได้เคยสนใจในเรื่องธรรมะเลย แต่ครั้นต่อมาก็ได้ครบอายุเวลา 21 ปี ก็ได้เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา บังเอิญได้กัลยาณมิตรที่ดี คือท่านอาจารย์กงมาเป็นคู่นาคกัน ท่านอาจารย์ลีที่วัดอโศการาม แล้วเป็นศิษย์ของท่านเป็นอุปัชฌาย์ อุปัชฌาย์ของท่านนั้นน่ะ เป็นกัลยาณมิตรของครูอาจารย์มั่นมาชื่อเจ้าคุณปัญญาธิสารเถร ทีหลังมาอยู่วัดสระปทุม อือ คู่นั้นแล้วอาตมาก็ได้มาบวช บวชกับพระครูนฤนาถที่จังหวัดจันทบุรี โดยไม่ค่อยมีใจศรัทธาหรอก แต่ว่าพุทธศาสนาเนี่ยถ้าเราไม่ได้อบรมทำจิตทำใจแล้วมันก็เป็นสิ่งที่มองยากเพราะต้องดูที่หัวใจธรรมะทั้งหมดอยู่ที่หัวใจของบุคคลเราไม่ใช่อยู่ที่ตัวตน

    ครั้งหนึ่งอาตมาเข้ามายังไม่ทันจะบวชกำลังฝึกนาคอยู่ คืนหนึ่งท่านอาจารย์กงมาท่านก็เทศน์ แล้วก็อาตมาก็นั่งเข้าสมาธิมันก็เป็นเหตุให้แปลกอยู่ พอฟังไปฟังไปแล้วมันก็เกิดสมาธิแต่เราไม่รู้ว่าเป็นสมาธิ มันรวมจนกระทั่งไม่มีตัว ตัวของอาตมานี่ก็หมอบลงไปฟุบกับกองทรายเลย เพราะตัวนี้มันอ่อนไปหมด ปรากฏว่าในขณะนั้นเราปรากฏไม่มีตัวเรา จนกระทั่งท่านเทศน์จบ เราก็รู้สึกตัวแล้วก็ลุกขึ้นมาก็มาถามถามท่านว่า ท่านอาจารย์ครับเมื่อตะกี้ทำไม ผมนั่งฟังเทศน์ทำไมไม่มีตัว แต่ตัวผมน่ะไปหมอบที่ที่ทรายนั้นน่ะ ทำไมเป็นอย่างนั้น ท่านก็บอกไม่เป็นไร เออ ทำไปทำไป ครั้งต้นครั้งแรกที่จะเข้ามาบวช แล้วที่นี้ก็บวช พอบวชมาก็คนหนุ่มน่ะอย่างว่าเนี่ยะ พรรษาแรกแรก ก็ขี้เกียจ เอะอะ ก็จะหลบเข้าไปนอนนี้พอกลางกลาง พรรษาหรืออะไรนี้แหละจำไม่ค่อยได้ ก็มานึกนึกตำหนิตัวเรา

    เอ๊ะ เรากินข้าวชาวบ้านแล้วทำไมเราขี้เกียจ หืม แต่ก่อนเราเคยทำงานทำการแจวเรือทั้งวันทั้งคืนเราแจวได้ แล้วเวลานี้เราเป็นพระ ก็ด่าเจ้าของ ไอ้ห่า มึงเป็นพระให้เขากราบเขาไหว้แล้วมึงภาวนาพุทโธ ไม่ได้สัก 30 40 (นาที) แล้วมึงบวชมาทำไม แล้วมันก็ด่าขึ้นมาเอง ที่นี้ใจมันก็สู้ เนี่ยขั้นต้นเป็นอย่างนี้ แล้วที่นี้พอมันสู้เข้า ท่านก็บอกให้ภาวนาพุทโธ เราก็พยายามเดินจงกรม เดินเข้าเดินเข้ามันก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ใจมันก็สงบ บางทีเดินตั้ง 3 4 ชั่วโมง แหลกเกลี้ยงเหลือแค่เนี้ย (หญ้า) เพราะต่อมาพรรษา 2 ก็ถือเนสัชชิก ไม่ไม่นอนทั้งพรรษาเลย แต่กลางวันนอนบ้างนะ แต่ก็ตั้งสัจจะไว้เรานั่งกลางวันนี้เราก็ต้องนอนพอสมควรนะ ตั้งแต่ต้นต้องเดินจงกรมนั่งสมาธิ 3 หน แต่เวลากลางคืนไม่นอนเลย 7 วัน มันก็แย่เหมือนกัน 7 วันแรก ทำท่าหงุดหงิด ว้าไม่ไหวเฮะ แต่ว่าก่อนที่จะทำอย่างนั้นก็ไปนั่งกราบพระเสร็จก็ไปตั้งสัตยาอธิษฐาน

    ข้าพเจ้าจะถือเนสัชชิก ตลอดทั้งพรรษาในเวลาค่ำคืนไม่นอน ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ถ้าแม้นว่าไม่ทำตามนั้นสัจจะนั้น ขอให้ฟ้าฝ่าตาย ประการที่ 2 แผ่นดินสูบ ประการที่ 3 ไฟไหม้ น้ำท่วมตาย นะ พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ถ้าไม่ได้อย่างนั้น ก็เอาให้มันเกิดขึ้นมาอย่างนั้นเลย 4 ตัวนี้ถือเป็นตัวสำคัญ ทีนี้พอพรรษา 2 ก็เอาละเริ่มภาวนาที่นี้คนเราทุกคนถ้าเมื่อไม่ได้เข้ามาอบรม มันก็เป็นสิ่งที่ไม่รู้ว่าเราเนี่ย มีธรรมอยู่ในตัวเรา แต่เราไม่ได้ใช้ เอาไปใช้กับทางโลก ทั้งหมดเลย

    ไม่เป็นอันที่จะเอามาใช้ในทางธรรมความดีมันอยู่ที่ตัวเรานี้ ที่จะต้องกระทำแต่ทีนี้เรามีพ่อมีแม่ พ่อแม่ก็มีคุณสมบัติในเรื่องทางโลกต้องการที่จะให้หาเงินหาทองและก็ให้มีครอบมีครัวนี่ ถ้าว่าถึงความจริงนะมันเป็นตัวถ่วงอย่างมหันต์ มองดูให้ลึกๆ มองดูให้ถึงใจที่สงบแล้ว การมีครอบมีครัวมีลูกมีเต้าเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานนั้น มันแสนที่จะกังวล เดือดร้อนวุ่นวาย ไม่มีเวลาที่จะทำบุญให้ทานสักน้อยเลย โอกาสที่จะนั่งภาวนาก็ไม่มีแต่คนเราไอ้โลกมันนิยมไปอย่างนั้น เนี่ยะ เพราะฉะนั้นจึงว่ามันเป็นสิ่งที่ยากเมื่อเป็นเข้าแล้วการที่จะนั่งภาวนา รักษาศีลมันจึงไม่ค่อยมีเวลา

    นี่คุณโยมแต่ทั้งนั้น พระพุทธศาสนานี้มีหลักการที่ให้เราทำสมาธิคือไม่ต้องเอาอะไรทั้งหมด อย่างครูอาจารย์มั่นท่านสอนให้เอาพุทโธตัวเดียว แต่วิธีการภาวนาก็ต้องมีวิธีอันหนึ่งเป็นมติของอาตมา เวลาที่เราเข้าสมาธินั่งภาวนาต้องว่าพุทโธนะ ให้เร็วเร็ว อย่าให้ช้าคือเร็วจนไม่อยากให้ใจมันนะ คิดที่อื่น ตัวนี้นะเป็นหลักสำคัญ ถ้าเรานึกเอาลมเข้าลมออก พุทโธเข้า พุทโธออก คิดหมดไม่ไม่สงบนะ มีเคยถามคุณหญิงคนหนึ่งเธอทำอานาปา หลาย 10 ปี

    คุณหญิงเคยสงบมั้ย แต่อย่าไปออกชื่อน่ะ เสียชื่อหมด ไม่เคยสงบเลย อ้าว แล้วกัน วันนั้นอาตมาก็เสือกไปหน่อยเขาเป็นคุณหญิงนะ เพราะฉะนั้นอย่างพวกคุณโยมนี่มีโอกาสทำ ไม่ต้องอะไรคุณโยม ไปไหนก็พุทโธ พุทโธ พุทโธ ให้อยู่ตลอด พอกลางค่ำกลางคืนเราก็นั่งสักชั่วโมงนึง อย่างที่อาตมาว่านั้นนะ ถ้าไม่ชั่วโมงขาหักกูก็ไม่ออก.......................( ยังมีต่อจะนำมาให้อ่านต่อครับ โปรดติดตามตอนต่อไป พิมพ์ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ )

    <O:p</O:p
    ข้อสังเกต : เรื่องสัจจะ เป็นสิ่งสำคัญในการจะทำสิ่งใดๆ อย่างเรื่องภาวนาก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ

    ตอนที่ 2
    พอกลางค่ำกลางคืนเราก็นั่งสักชั่วโมงนึง อย่างที่อาตมาว่านั้นนะ ถ้าไม่ชั่วโมงขาหักกูก็ไม่ออก อืม ต้องให้ได้ชั่วโมงนึง พอหลายหลายคืน 10 กว่าคืน 20 คืน 30 คืน ประเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองละคุณโยม เมื่อใจตัวนั้นได้ถูกบังคับ ให้มันอยู่กับพุทโธต้องว่าให้เร็ว ความคิดทั้งหมดมันมันก็จะค่อยดับไป เมื่อเวลาว่าไป ว่าไป ว่าไป ว่าไป อย่างนั้น ใจเราว่าพุทโธ พุทโธ พุทโธ ต่ออยู่ตลอดมันมันก็จะเริ่มดีนะ คุณโยมให้สังเกตอย่างนั้นนะเนี่ยะ เพราะฉะนั้นทำได้ทุกคนเนี่ยะ แต่ทีนี้เราไปอ้างว่าเราไม่มีเวร่ำเวลา ไปอ้างนั้นซะหมด ทีนี้ทิ้งโอกาสอันดีงามของเรา แล้วก็ต้องมาคิดถึงความตาย เราสร้างโลกสร้างสงสาร สมบัติทุกข์ทั้งนั้น ข้าวของเงินทอง ที่ เยอะแยะไปหมด

    แล้วเวลาตายอย่างคุณคุณโยมเนี่ยะ เห็นไหมเพราะฉะนั้นให้พระไปชักบังสุกุลเนี่ยะ ไม่ให้ไปชักเอาตังค์น่ะ เฮอ ชักให้ไปเป็นตัวอย่างเท่านั้นเอง อนิจจา วต สังขาราเนี่ยไม่เที่ยงตายเหมือนกัน เธอจงพิจารณา เนี่ยะมันเป็นอย่างนั้น เนี่ยะแต่ทีนี้เราเราไม่เป็นอย่างนั้น มันไปเจริญอย่างอื่น มันไม่คิดกลับมา มันมันก็ไม่เป็นอนิจจา วต สังขารา เออเนี่ยะ เพราะฉะนั้นจึงว่า ถ้าเราได้ทำจิตทำใจให้อยู่กับพุทโธนานนานเข้า หลายหลายวัน หลายเดือนเป็นปี ขึ้นไปที่หลังก็จะติด ไปไหนใจก็พุทโธ พุทโธ พุทโธ อยู่เรื่อยใจก็ติด อาตมาลุยใหญ่ ทีนี้ว่าของอาตมาบ้าง ว่าพุทโธถ้ามึงไม่สงบให้มึงเดินอยู่เป็นชั่วโมงอย่านั้นมันก็สงบ บางคราวมันก็ลอยโยมเคยครั้งหนึ่ง มันจะลอยให้ได้ อ้าว ลอยสิลอยสิ ก็โขย่งตัวขึ้นไปอีกไม่ลอยขึ้นสักที เดินสนุกเดินเป็นชั่วโมง เหงื่อแตกซิบหมด เดินหลายชั่วโมงนั้นแหละเดินจงกรม สนุก โอ๊ยมันทีนี้นะ พอเป็นอย่างนี้ปุ๊บ พอใจมันมันได้รับความสุข ปุ๊บ มันก็ติดใจ ติดใจทีนี้ พอพรรษาที่ 2 ก็เอาแล้วอธิษฐานสักหน่อย พรรษา 2 ก็เริ่มเริ่มภาวนา ก็ค่อยเกิดความสงบ บางทีนิมิตนี้ไม่ได้อวดว่าถึงความจริงขอกล่าวถึงความจริงให้พวกโยมฟัง บางทีเราทำ หลับตาเหวลึกลงไปอย่างนั้น ลึกจนสุด โอ้โห นี่ตกตายนะเนี่ยะ หึ ตายก็ตายสิเอ้า เพ่งดูอยู่อยางนั้นประเดี๋ยวก็หาย บางทีนี้ตัวใหญ่ ตุ่มนี่โตขนาดนี้ตัวตัวเรานี้เป็นตุ่ม เรียกว่า อุคคหนิมิต เนี่ยมันเกิดขึ้น เอ๊ะ ทำไมเป็นอย่างนี้นะ มันเป็นห่างๆ

    แต่ทีนี้พอทำเข้าทำเข้าใจก็สงบก็ไปถามท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์จะให้ผมพิจารณาอย่างไร ท่านก็บอกให้พิจารณากายนะ อาตมาก็มันคิดเล่นเล่น พอใจมันสงบดีปุ๊บ ก็นึกถึงเล็บนิ้วหัว เล็บนิ้วชี้ นี้วกลาง นิ้วก้อย ข้อนิ้วหัวมีกี่ข้อก็นึกตัด ข้อนิ้วชี้มีกี่ข้อก็นึกตัด นิ้วกลางมีกี่ข้อก็นึกตัด นิ้วนางนิ้วก้อย ตัดให้หมด ตัดเสร็จแล้วก็มาตัดเป็น 5 นิ้ว ตัด <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:metricconverter>5 นิ้ว แล้วก็มาตัดข้อตานกเอี้ยง ขึ้นมาตรงกลางต่อ แล้วก็มาถึงข้อศอก แล้วก็มาตัดหัวไหล่ พอตรงนั้นเสร็จก็มาตัดแขนซ้าย เอาตั้งแต่เล็บนิ้วหัวใหญ่ เดินอย่างนี้ จนสุดสุดตัว สุดตัวปุ๊บ ทีนี้ก็มาเจาะตา นึกให้ตาขวาหลุด ตาซ้ายหลุด จมูกขวาหลุด จมูกซ้ายหลุด ริมฝีปากบนหลุด ริมฝีปากล่างหลุด ใบหูหลุด แก้มหลุด ทีนี้เอาละ เออ เอาให้หมดทั้งหัว หัวเสร็จตัดคอ ฝ่าออก เอาไปวางนึก แต่ลักษณะอย่างนี้มันมันทำยาก โยม อันนี้ทีหลังไปดูในแบบแผนตำรับตำรา อาตามก็ไม่เคยดู ทีนั้น พอกลับมาครูบาอาจารย์ ท่านอาจารย์จันทร์กับท่านมหาทองสุข ท่านก็เฝ้าวัดอยู่ที่บ้านอาตมานี่แหละ เมื่ออาตมากลับไปท่านก็บอกว่า เจี๊ยะเอ้ย ท่านไปอยู่กับครูบาอาจารย์ตั้งหลายปี พวกเรานี่จากท่านมาก็ตั้งหลายปี เพราะฉะนั้นก็ให้ท่านเฝ้าวัด อาตมาก็เอาตำรามาเช็คดู สมเด็จมหาสมณะเจ้า ท่านรจนาไว้นะ เอามาดู เราเอามาอ่านแล้ว

    โอ้โห นี่มันตรงกับที่เราปฏิบัติทุกอย่าง ก็ก็รู้สึกปลื้มใจ แต่ว่าในช่วงหนึ่งเวลาที่เราพิจารณากายมากเข้าไป นี่ พิจารณาตั้งชั่วโมงนึกดูซิตัวเรานี่เป็นชั่วโมงอย่างนั้นไม่ให้มีอารมณ์คิดเข้าไปเลย แล้วเวลาที่เราเลิกจากการภาวนานั้นอย่างนั้น ปุ๊บ เรามานั่งสมาธิ คือเราไม่ต้องมาใช้ความคิดตรงนั้น มาเข้าความสงบ มันสงบ แจ้ง แจ่มใส อยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมงชั่วโมงน่ะโยม แล้วทำไมมันเป็นไปได้ เราไม่มีความเชื่อเลย ว่ามันจะเป็นไปได้ แต่พอทำเข้ามันเป็นนะเนี่ยะ เป็นจนเกิดมหัศจรรย์ ยิ่งทำก็ยิ่งดีขึ้นทุกวันทุกคืน ไม่เอาอะไรแล้วทีหลัง มาพักหนึ่งเกิดโวหารปฏิภาณ จะเป็นแบบพระยันตระก็ไม่รู้ นะอือ พอเห็นคนมาอยู่ในโลกนี้มันได้ประโยชน์อะไร เป็นขี้ข้ากันทั้งนั้นน่ะ มันออกความเห็นความรู้คิด แหม เทศน์เก่งเลยนะน่ะ อ้าว่ะยังไง ชักจะบ้า เอาใหม่ มาพิจารณากายพรึบ ทีนี้เอาอย่างเก่าเดินเต็มที่ เดินไปเดินมาก็คิดพิจารณากาย อยู่อย่างนั้น ที่นี้ เข้าพรรษา 3 ถึงกลางพรรษาอย่างไงนี่ พอพรรษา 3 ก็ค้นค้นพิจารณาใหญ่เพื่อเร่งอารมณ์ตัวนั้นที่มันเกิด โวหารปฏิภาณก็ดับดับหมดเพราะมันเต็มที่พรรษา 3 นิ่งนึกตลอดตัวตน ตับไตไส้พุง หัวจงหัวใจซี่โครงซ้าย ซี่โครงขวา ไหปลาร้าอะไรอะไรในตัวนี้ นั่งนึกหมดทั้งตัวเลย จนเกลี้ยงจนถึงปลายตีนขึ้นมาอีก ไม่รู้กี่ที นั้น พรรษา 3 มันก็ลงตูม

    แต่พูดอีกคำหนึ่ง มันก็เป็นสิ่งที่น่าเกลียด แต่ก็พูดถึง ความจริงอาตมาเอาเรื่องนี้ปิดเป็นความลับ ไม่บอกให้คนรู้หมดทั้งประเทศไทย พอลงทีนี้ปุ๊บ ทีนี้ ก็นึกถึงท่านอาจารย์มั่นเลยนะ เรื่องนี้เราต้องไปเล่าให้ท่านอาจารย์มั่นฟัง พอออกพรรษาปุ๊บ เตรียมลาตัว เก็บข้าวเก็บของเสร็จ ก็ลาลาท่านอาจารย์กงมา ท่านก็อีกเพราะคนไปฟ้องท่านว่าเรานี่เป็นคนดื้อ ซนที่สุดในตำบลนั้นนะ มันมันแสบที่สุด ต้องว่าไอ้ตัวแสบ หึหึ ไปอยู่กับครูอาจารย์<st1:personName ProductID="ได้เหรอ สวนพับทันที" w:st="on">ได้เหรอ สวนพับทันที</st1:personName> อ้าว คนเหมือนกันทำไมอยู่ด้วยกันไม่ได้ ท่านอาจารย์ ไม่ให้ผมไปผมไปเลยนะ ...........(ยังไม่จบ พิมพ์พิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)<O:p></O:p>

    ตอนจบ<O:p</O:p
    เราเตรียมของเสร็จ ทีนี้ท่านพ่อลี อยู่วัดป่าคลองกุ้ง ก็ต้องไปลาท่านอีกองค์เพราะเป็นกรรมวาจาสวดนะก็ไปลา แต่ก็ไม่ได้เล่าความลับนะ แต่ว่าผมจะไปหาครูอาจารย์มั่นนะ ท่านกลัวไปองค์เดียวจะถูกด่า ก็เลยให้อาจารย์เฟื่องไปด้วย ก็ไปด้วยกันไปถึงก็ไปถึงวันนี้พอดีท่านห่มผ้าดักเพราะเดินไป 2 วันโน้น นะ ใจที่มันนะ ที่นึกถึงท่านเป็นพันพัน หมื่นหมื่น เอ๊ มันทุกข์ขเวทนาคล้ายโรคเก๊าท์ เสียบตามข้อเดินไปวัน 2 เดินเกือบไม่ไหว เดิน 1 เส้น ก็ต้องหยุดสักทีนึง เอ้า ไปอีกเร่งเต็มที่เปิดเต็มที่จนกระทั่งถึงนั้น แปลกเหมือนกันท่านก็ห่มผ้าดักอยู่

    อาตมาว่าเวลาเวลาระหว่างที่เรานึกไปถึงท่านเนี่ยะ องค์ภาพอาตมาไปปรากฏให้ท่านเห็นแต่ท่านไม่พูดหรอก แต่คิดว่าต้องไปปรากฏ เพราะว่านึกเป็นหมื่นหมื่น แสนแสน มันเป็นอย่างนั้นต้องไปปรากฏที่ท่านมันก็ชอบกล แต่ท่านไม่พูดอะไรนะ พอไปถึงก็นั่ง นั่งกราบเสร็จท่านก็ถามว่า เฮ้ย ไปอยู่กับใครมา และก็เป็นลูกศิษย์ใคร ก็บอก ลูกศิษย์ท่านอาจารย์กงมา แต่ท่านอาจารย์ลีด้วยครับ 2 องค์ เออ ก็ลูกศิษย์เรา พอเสร็จนั้นปุ๊บ อาตามก็เล่า ครูอาจารย์ผมขอโอกาส จะเล่าเรื่องภาวนาให้ท่านฟัง เราก็บรรยายเลย จะให้ผมสงบแล้วผมก็พิจารณา ตัดเล็บนิ้วหัว นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วก้อย เล็บออกทั้งเนื้อ ทั้งตัวนี้หมด เอาอย่างนี้เลย เร่งอยู่ 3 เดือนเท่านั้น เอาอยู่อย่างนี้ มันก็ลง คืนหนึ่งลงปรากฏว่าในพื้นโลกเนี่ยะมันละลายเกลี้ยง เหลือใจที่บริสุทธิ์อันเดียว เนี่ยะ แล้วท่านก็ฟัง แล้วเราก็ถามท่านต่อไปว่าครูอาจารย์จะให้ผมทำอย่างไงต่อ

    ก็เอาอย่างเก่า ท่าว่าอย่างนั้น แล้วอยู่กันต่อมาหลายปี เพราะฉะนั้นจึงว่าพระพุทธศาสนาเนี่ยะ ถ้าพวกคุณโยมไม่เคยทำขอโอกาสให้อุตสาห์ ตั้งใจเถิด นั้นเป็นประโยชน์สำคัญเหลือเกินเมื่อเราได้ทำสมาธิเกิดความสงบแล้วเราจะรู้จักว่า ไอ้ใจเราของเรานี่นะ มันมีโอกาสที่จะปล่อยว่างปล่อยวางความคิด ความนึก ความปรุงแต่งหรือว่าอารมณ์ทั้งหลาย ของใจที่มันทำให้ฟุ้งซ่าน นอนไม่หลับ คนกินยานอนหลับเนี่ยะ เมื่อเราทำสมาธิให้เกิดความสงบแล้ว มันจะได้เกิดประโยชน์ใจเราที่คิดวุ่นวายมาเข้าเราก็ว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ สัก 5 นาที มันก็เกิดความสงบ เนี่ยะ ตัวนี้เป็นยาประเสริฐที่สุด ยานอนหลับกี่ร้อยกี่พันเม็ดมันก็สู้ไม่ได้ เราก็เกิดความสงบใจก็สงบ ใจเป็นบุญเป็นกุศล เป็นสมาธิ ตายไปก็ได้สุขคตินะโยม อ้า

    ท่านทั้งหลายจงทำใจให้สงบตายแล้วจะได้สุขคติ ถ้าใจไม่สงบ ตายไปแล้วไปทุกคติ ก็มีนี่ท่านบ่อยบ่อย อยู่ว่ามีชาดกอันหนึ่ง แต่คนเดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยเชื่อนะ วันหนึ่งพระพุทธเจ้าไปบิณฑบาตรไปถึงหน้าบ้านของโกษยะพราหมณ์ โกษยะพราหมณ์ เนี่ยะตายไปเกิดเป็นหมาพอเข้าไปถึง หมาตัวนั้นมันก็เห่าท่านสิ เก่าท่านก็บอกดูก่อน โกษยะพราหมณ์ เอ็งมาเห่าข้าทำไม ที่นี้ลูกชายมันกำลังเป็นหนุ่ม มันก็ออกออกมาก็ต่อว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อ้าว ท่านสมณะโคดม ทำไม ไปว่าหมาตัวนี้เป็นพ่อผมละ อ้า บุรุษเธอจงให้น้ำ ข้า ให้ที่หลับที่นอน หมาตัวนี้ดีนะ แล้วนานไปหมาตัวนี้ จะพาเธอเอาขุมทรัพย์อยู่มานานนานเข้า หมาตัวนี้ใกล้จะตาย ก็หลุมไปนอนอยู่ที่หลุมไอ้ถาดทองคำที่ฝังไว้อยู่ที่กลางบ้าน ก็ไปคุ้ยใหญ่คุ้ยไปคุ้ยมาก็ขาดใจตายตรงนั้นเลย ไอ้ลูกชายก็สงสัย เอ๊ พระสมณโคดม เคยว่าไว้ว่าพ่อเราเนี่ยะจะให้เราเอาสมบัติ อืม ให้เลี้ยงให้ดีดี แล้วเธอจะได้สมบัติ ก็ลองขุดตรงที่คุ้ยนั้นแหละ ที่แท้ถาดทองคำอยู่ในนั้นเต็มหมดนะ เนี่ยะ มันเป็นชาดก เพราะฉะนั้นอย่างพวกโยมเนี่ยะ อย่าไปห่วงสมบัติมาก ตายแล้วไปเกิดเป็นทุกคตินะ เออ เพราะฉะนั้นต้องภาวนาแก้ให้ดี ไม่ต้องอะไร พุทโธ พุทโธ พุทโธ ให้ใจสงบ แล้วก็ใช้ได้แล้ว


    แต่สงบแล้วเราก็ต้องใช้เจริญปัญญา เดินปัญญา เพื่อให้นึกถึงการพิจารณาอย่างอาตมาอธิบายนั้นนะ ตัวเนี่ยะเป็นตัวปัญญาแต่ถ้าไปพูดให้นักปฏิบัติที่เป็นนักเรียนนั้น เขาไม่ค่อยเชื่อหรอก เขาจะว่า เอ๊ มันเอาตำราที่ไหนมานะ แต่อาตมา เล่าให้หลวงปู่มั่นฟังองค์เดียวท่านไม่คัดค้านเลย นิ่งนึกวางเฉย จนจบประโยคแล้วทีนี้ต่อมาจะพูดอย่างนี้ไม่เฉย ทีนี้ท่านอาจารย์มหา เข้าไปอยู่ปีแรกเข้าไปอยู่กันครบที่นั้น ท่านก็พูดขึ้นมากลางคืนนั้นท่านเทศน์จบเทศน์จบเสร็จท่านก็ว่า เออ ท่านรู้จักท่านรู้จักหลวงปู่ขาว เจี๊ยะเอ้ย ท่านรู้จักท่านขาวมั้ย ท่านขาวเนี่ยะ เธอได้พิจารณาของเธอแล้วมาเล่าให้เราฟัง ท่านก็ว่าอย่างนั้น อาตมา ก็นึกปั๊บ เอ๊ะ ปู่ขาวก็พุทธะชั้นหนึ่งอยู่องค์ ท่านก็บอกว่าเธอปฏิบัติ 3 4 ปี มันก็ลงเหมือนกันที่นครนายก

    ท่านว่างั้น ท่านพูดอย่างนี้มันก็เฉย เพราะนั้นว่าการปฏิบัติธรรมะเนี่ยะ คนจะดื้อซนขนาดไหน ถ้าเมื่อได้อบรมทำจิตทำใจให้เป็นสมาธิแล้ว มันก็ได้ทั้งนั้นแหละ เป็นเป็นหมดทุกคน เราอย่าไปว่าเราไม่มีบุญไม่มีวาสนา จึงปฏิบัติไม่ได้ เนี่ยะ อ้าง อ้างเอาขวากหนามไปกันเราหมด เพราะฉะนั้นต้องให้อุตส่าห์ กระทำเนี่ยะตันนี้เป็นตัวสำคัญ ถ้าเราไม่ไปทำมันก็ไม่เกิดโยม เราต้องนึกเสียว่าเราเลี้ยงข้าว เลี้ยงปลา ให้เขากินทุกวัน แต่เขาก็ใช้งานเราทุกวัน แต่ใจที่มันจะดีที่จะบริสุทธิ์ ได้นะ มันก็ต้องอาศัยทรมานเหมือนกัน อ่ะ ข้าเลี้ยงข้าวเอ็งให้เอ็งนั่งภาวนาสักครึ่งชั่วโมง ชั่วโมงนึงไม่ได้เหรอ ก็ต้องทรมานมันนะ ต้องเอาให้ได้ครึ่งชั่วโมงให้ได้ สิ ทีหลังได้ชั่วโมง ทีหลังชั่วโมงครึ่ง ต่อไปพอสมาธิดีมันก็ได้ 2 ชั่วโมง ดีดีขึ้นไปอีก 3 4 ชั่วโมง ขึ้นไปนะโยม

    แต่ที่นี้เราขาดการกระทำ เมื่อขาดการกระทำสิ่งใดจะเกิดขึ้นละ คนเราขี้เกียจไม่ได้ออกไปหาเงินเลย ก็อดข้าวตายสิเนี่ยะคุณโยม แบบเดียวกัน เนี่ยะ ธรรมะมันอยู่ที่ตัวเราไม่ได้ไปหาที่อื่น ไม่ได้ไปหาที่คัมภีร์ มันอยู่ที่ตัวเรา พุทโธ พุทโธ อันเดียว พอ ไม่ต้องเอามาก เนี่ยะ โยม เพราะฉะนั้นก็อธิบายให้ฟังเนี่ยะ ก็โยมตั้งใจไปปฏิบัติเอา เกิดขึ้นมาเนี่ยะพระพุทธเจ้าทรงยกย่องนะว่าเราเป็นมนุษย์เป็นผู้ที่บริสุทธิ์ ร่างกายจิตใจบริบูรณ์สมบูรณ์ ทุกอย่างปราศจากง่อยเปลี้ยเสียสิทธิผิดมนุษย์ธรรมดาเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐสมบูรณ์แก่มรรคแก่ผล แต่ทีนี้เราไม่กระทำมันก็เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องกระทำถ้าไม่กระทำเรียนจบ 3 พระไตรปิฎก ก็อย่างมีชาดกอันนึงนะ มีพระอะไรล่ะเรียนพระไตรปิฎกเรียนจบทั้ง 3 สูตร ก็ไปทูลถามพระพุทธเจ้าโฆษะปฏิโสท่านเรียก พอเข้าไปท่านเห็นท่านบอกเฮ้ย

    โฆษะปฏิโส อาจารย์ของท่านอยู่ที่สระน้ำ สามเณรเคยเป็นคู่บารมีกันมาก็บอกว่า อาจารย์ของท่านอยู่ที่สระน้ำแล้วท่านก็ไป ไปก็เดินเข้าไปเดินไปทั้งไม่เลิกจีวร แล้วเพราะทำท่าจะเปียก ก็หยุดก่อนพระเจ้าข้า อ้าวทำไมละ แล้วก็ถามอะไรกันขึ้นมา สามเณรก็พูดปัญหาอันหนึ่งบอกว่า มีจอมปลวกอันหนึ่ง มีรูอยู่ 6 รู มีเหี้ยอยู่ในนั้นตัวหนึ่งเหี้ยคือใจ ใจที่ฟุ้งซ่านวุ่นวายตัวนั้นคือเหี้ยนะให้ท่านปิดทั้ง 5 รู แล้วเอาฟางเข้าไปฆ่าเหี้ยพูดเช่นนั้น ได้สำเร็จอรหันต์ทันทีนะ ปิดไปฆ่าเหี้ยให้ตาย ได้สำเร็จสักทีนะ

    ในแบบท่านก็เรียก สุขขาปฏิปทา ชิปปาภิญญา ปฏิบัติง่าย รู้เร็วที่สุดแล้วก็มีอีกอย่าง ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติยากรู้ยาก สุขขาปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติง่าย แต่รู้รู้ยากมันมีอย่างที่สวด ฟังแล้วก็มาเข้าใจ เออ ก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นว่าให้ญาติโยม อุตส่าห์ตั้งใจภาวนาเมื่อยังมีชีวิตอยู่ควรควรตั้งใจประพฤติปฏิบัติให้เกิดคุณงามความดีที่ใจเรา เออนั้น แล้วเป็นที่พึ่งที่สุดในชีวิตจะเกิดความสุขที่สุดในชีวิตของเรา เกิดมาเป็นมนุษย์ ที่สุดก็คือการภาวนาให้ใจสงบ คุณโยมเนี่ยะ เพราะฉะนั้นให้ทุกคนตั้งอกตั้งใจ และก็ขอให้ให้สำเร็จสมความปรารถนาทุกทุกคน ขอให้มีความสุขความเจริญในศาสนธรรมคำสั่งสอน.( จบแล้วครับ พิมพ์ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ)<O:p</O:p

    [​IMG]



    [​IMG]
    หลวงปู่มั่นภูริทัตโต
    " ....ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอนคอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ
    โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว
    ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิด
    ว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย
    จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า
    ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย"



    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="images/smilies/tongue-smile.gif" smilieid="24" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" v:shapetype o<><v:shapetype id=_x0000_t75 class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="images/smilies/tongue-smile.gif" smilieid="24" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" v:shapetype o<><v:shapetype id=_x0000_t75 class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="images/smilies/tongue-smile.gif" smilieid="24" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" v:shapetype o<>
    [​IMG]
    สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
    สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
    (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต)
    พ.ศ. ๒๔๘๘-๒๕๐๑

    "พระต้องธุดงค์กันให้มากมาก ศาสนาจะได้เจริญรุ่งเรือง"



    [​IMG]

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    "ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย เราจะไม่กลับมาเกิดอีก"



    [​IMG]
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท​

    "ไปไหนอย่าลืม พุทโธ"



    [​IMG]
    พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

    "ถึงจะมีเงินเป็นแสนๆ ล้าน ก็ซื้อธรรมะในใจไม่ได้"



    <O:p</O:p
    หรือท่านสามารถดาวน์โหลดเพื่อรับฟังได้ที่

    http://www.luangta.com/salawatpa/thamma/thamma.php?CatID=3
    </v:shapetype></v:shapetype></v:shapetype>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2009
  2. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,948
    ค่าพลัง:
    +1,276
  3. Sitachack

    Sitachack Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +106
    สัทธา ทานัง อนุโมทามิ สัทธา ทานัง อนุโมทามิ สัทธา ทานัง อนุโมทามิ
     
  4. hamm

    hamm สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +13
    กะลัง มันๆ เจ๋งๆ ชอบหลวงปู่เจี้ยะ ตรงนี้แหระ ท่าน เป็นประเภท ลุยๆ แต่ทำจริงได้จริง

    อนุโมทนา
     
  5. ปทุมธานี

    ปทุมธานี ยอมไม่ทำดีกว่าทำร้ายคนอื่น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +1,217
    กราบหลวงปู่ครับ
     
  6. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    สัจจะใช้ได้กับบางท่าน

    แต่ก็ต้องละสัจจะสำหรับเรา
     
  7. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +425
    โมทนา สาธุ กับการนำธรรมที่ดีๆ มาเผยแพร่ให้อ่านกันครับ
     
  8. สักกะ

    สักกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3,405
    ค่าพลัง:
    +12,014
    สัทธา ทานัง อนุโมทามิ สัทธา ทานัง อนุโมทามิ สัทธา ทานัง อนุโมทามิ

    ดีมากเลย รออ่านต่อครับ
     
  9. หนึ่งเก้า

    หนึ่งเก้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +17
    สาธุ..คับ
    .......................................................................................
    มนุษย์เอ๋ยถ้าเจ้าสงสัย ธรรมะเเห่งพุทธศาสนา เจ้าคลายสงสัยด้วยการปฏิบัติ
     
  10. อรวี จุฑากรณ์

    อรวี จุฑากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +188
    อนุโมทนาสาธุ

    เคยอ่านประวัติของท่านแล้ว มีทั้งสนุก และได้คติธรรมหลายๆอย่าง ให้เราสาธุชนได้นำไปปฎิบัติ
     
  11. เกลี่ยง

    เกลี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +428
    สาธุ ได้อ่านแล้วรู้สึกอุ่นใจ มีกำลังใจในการปฏิบัติขึ้นเยอะ
     
  12. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,305
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้

    ขอกราบแทบพระบาทแด่พระอรหันต์ทุกพระองค์ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติครับ
     
  14. Sitachack

    Sitachack Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +106
    สัทธา ทานัง อนุโมทามิ สัทธา ทานัง อนุโมทามิ สัทธา ทานัง อนุโมทามิ
     
  15. Sudjai99

    Sudjai99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +399
    Sa--Tuu
     
  16. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    อนุโมทนาครับ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    ขอเชิญบริจาค โครงการสร้างทรัพยากรมนุษย์ผู้ด้อยโอกาส กับ หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=151788
    ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=140433
    ร่วมสร้าง พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง พระธาตุประจำปีจอ ตามคติทางล้านนา
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=160823
    ขอความเมตตา สร้างชีวิตใหม่ ช่วยน้องผ่าตัดใบหน้า ให้สดใสเหมือนเดิม
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1440317
    มาลองทำสังฆทานอย่างง่ายๆ ด้วยตนเองกันครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=144881
     
  17. orvet49

    orvet49 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +82
    [​IMG][​IMG][​IMG]อนุโมทนา สาธุครับ[​IMG][​IMG][​IMG]
     
  18. พาหุงมหากา

    พาหุงมหากา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +9
    อนุโมทนาสาธุคับ เคารพและศรัทธาในพระนักปฏิบัติสายพระป่าทุกรูปคับ สาธุคับ
     
  19. mrthanawat

    mrthanawat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +52
    อนุโมทนาด้วยนะครับ
    ข่าวดีมาถึงแล้ว!!! คอร์สอบรบเทคนิคการทำงานให้เจริญรุ่งเรืองอย่างน่าอัศจรรย์!
    http://palungjit.org/showthread.php?t=180134
     
  20. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    กราบนมัสการองค์หลวงปู่ทุกรูปเลยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...