หลวงปู่คำคนิง บุกเมืองพญานาค ตอน 3

แก่งลี่ผี​

<DD>แก่งลี่ผีอยู่ที่ไหนครับ
แก่งลี่ผีอยู่ในแม่น้ำโขงเบื้องทิศใต้นครจำปาศักดิ์ลงไปแม่น้ำโขงแถว ๆ นั้นมีเกาะแก่งมากมายนับร้อย ๆ เกาะแล้วมีภูเขาลูกหนึ่งขวางกั้นแม่น้ำโขงอยู่ แม่น้ำโขงข้ามเขาไปกลายเป็นน้ำตกไป ชาวบ้านเรียกว่าลี่ผี หมายถึงที่ดักปลาของภูตผีท่อนซุงใหญ่ ๆ ขนาดหลายคนโอบตกลงไปในแก่งลี่ผีจะแหลกละเอียดหมด เรือแพผ่านเข้าไปไม่ได้เป็นวังน้ำวน แก่งน้ำตกมฤตยู แล้วยังมีอุโมงค์ใต้น้ำให้น้ำโขงไหลลอดภูเขาด้วยหลายอุโมงค์

<DD>ภูเขาลูกนี้ลึกลับอาถรรพณ์ เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ พวกฤาษีชีไพรตั้งแต่สมัยโบราณแล้วชอบไปบำเพ็ญเพียรอยู่ที่นั่นเพราะเงียบสงบ คนไปรบกวนไม่ได้

<DD>ดาบสฤาษีตนนี้ มาทำไมที่นี่

<DD>หลวงปู่ถามดูแล้ว ท่านดาบสผู้มีอายุยืนนานเล่าให้ฟังว่าพวกบังบดนิมนต์ท่านมาเทศนาธรรม

<DD>พวกบังบด คืออะไรครับ

<DD>หมายถึงพวกลับแล หรือพวกมีสภาวะเป็นทิพย์อย่างพวกพญานาคนี้ก็ถือว่า เป็นพวกลับแลพวกหนึ่งได้เหมือนกันเพราะมีสภาวะทิพย์

<DD>พระฤาษีดาบสบอกว่าท่านมาเทศนาธรรมอบรมชาวลับแบได้สามวันแล้ว ต่อจากนั้นก็จะเดินทางไปบำเพ็ญเพียรอยู่ภูจอมทองฝั่งลาว

<DD>หลวงปู่ถามว่า แล้วพวกชาวเมืองลับแลไปไหนหมด ทำไมไม่เห็นสักคนเดียว ท่านตอบว่า พวกชาวลับแลไม่อยากแสดงตัวให้เห็น หลวงปู่เลยบอกท่านว่า จะเข้าไปเที่ยวดูชมข้างในต่อไป ท่านได้ห้ามไว้

<DD>ทำไมพระฤาษีถึงห้ามไว้ครับ

พระฤาษีท่านบอกว่า ข้างในเป็นเวียงวังของพญานาค เป็นเขตอาถรรพณ์หากมนุษย์เข้าไปแล้วจะต้องอยู่ที่นั่นเลย กลับออกมาไม่ได้ ถ้ากลับออกมาต้องตาย มนุษย์ที่จะเข้าไปได้ต้องเป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ มีวิชาอาคมได้ฌานสมาบัติ ถึงจะมีอำนาจต้านทานพิษร้ายแรงของพญานาคได้ แต่เมื่อเข้าไปแล้วต้องจำพรรษาอยู่ในเวียงวังพญานาคตลอดไป จะออกมาไม่ได้


<DD>ทำไมถึงกลับออกมาไม่ได้ครับ
มันเป็นกฎลึกลับของบ้านเมืองบาดาลเป็นอย่างนั้น อย่างพระฤาษีดาบสท่านมาจากแก่งลี่ผีท่านก็ยับยั้งอยู่ แค่เขตวัดมหาเจดีย์ทองคำนี้เอง ไม่เข้าไปในเขตเวียงวังของพญานาค ถ้าเข้าไปแล้วท่านว่าต้องอยู่เป็นสมภารเจ้าวัดในเมืองบาดาลตลอดไป กลับออกมาอีกไม่ได้ ดังนั้นพวกพญานาคจึงออกจากเวียงวังชั้นในมาฟังธรรมเทศนาของท่านที่ข้างนอกแห่งนี้

<DD>แล้วหลวงปู่ไปไหนอีก
พระฤาษีดาบสท่านบอกให้หลวงปู่กลับ ท่านว่าหลวงปู่มาสามวันแล้ว อย่าอยู่นานกว่านี้เลยไม่ดี อาจแพ้พิษของพวกพญานาคได้ เพราะในอาณาเขตใต้พิภพเมืองบาดาลนี้ พวกพญานาคคายพิษอันตรายไว้ทั่วไป อากาศเป็นพิษกับมนุษย์และสัตว์ทั่วไป หลวงปู่ได้รับคำเตือนเช่นนั้นก็เลยกลับออกมา

<DD>กลับออกมายังไงครับ

<DD>กลับออกมาทางเก่า พอข้ามแม่น้ำที่หลวงปู่ทำเครื่องหมายกองหินไว้ก็พบพญางูใหญ่ตัวนั้นอีก แปลกแท้ ๆ เขามารออยู่แล้วคล้ายรู้ว่าหลวงปู่จะกลับ

<DD>พญางูตัวนั้นนำทางอีกใช่ไหมครับ

<DD>เออ.....ขากลับนี้เขาเลื้อยนำหน้าพากลับทางลัดเป็นอุโมงค์มีขั้นบันไดหินสูงชันมากสองข้างอุโมงค์มีแสงสว่างคล้ายแก้วระยิบระยับแล้วมีกลิ่นหอมคล้ายดอกพิกุล หลวงปู่รู้สึกว่ามาประมาณเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้วราวสักครึ่งชั่วโมงกระมั้ง

<DD>กลับมาถึงไหนครับ

<DD>ก็กลับมาถึงถ้ำมืดนั่นแหละ

<DD>หลวงปู่ไม่ได้ฝันไปแน่นะครับ

<DD>จะฝันอะไร ก็หลวงปู่เดินไปนี้แหละ หลวงปู่ได้ไปเห็นมาจริง ๆ ก็เล่าให้พระสงฆ์ องค์เจ้าด้วยกันฟังรู้กันหมด



<DD>คืออย่างนี้หลวงปู่ลืมเล่าให้ฟังตอนแรก ทีแรกนั้นจะได้ไปถ้ำมืดเพื่อค้นหาถ้ำเมือง พญานาคใต้บาดาล ท่านอาจารย์คำดี บ้านแก่งยางพาพวกชาวบ้านจากจังหวัดศรีสะเกษมาไหว้หลวงปู่มากันเต็มสองคันรถเลย
พวกอาจารย์คำดีอยากได้พระเครื่องของโบราณในถ้ำมืดไปบูชาแล้วก็มีพวกฆราวาสที่มาด้วยเป็นนักวิชาอาคมเก่งไสยศาสตร์ เขาอยากค้นหาเหล็กไหลในถ้ำมืดด้วย ทีนี้อยากจะให้หลวงปู่พาไปถ้ำมืด ลำพังพวกพระพวกโยมที่มาจากศรีสะเกษกลัวจะแพ้ภัยตัวเอง เป็นอันตรายเพราะข่าวเล่าลือว่าถ้ำมืดศักดิ์สิทธิ์เฮี้ยน กลายเป็นเมืองลับแลมีงูใหญ่ตัวเท่าต้นตาลให้คนเห็นอยู่บ่อย ๆ พวกเขาหวังพึ่งหลวงปู่ในเรื่องนี้ว่า คงจะช่วยคุ้มครองให้เขาได้

<DD>หลวงปู่ไม่อยากขัดศรัทธาก็เลยไป เพราะได้ตั้งใจไว้อยู่แล้วเหมือนกัน อยากจะไปพิสูจน์ความจริงเรื่องถ้ำมืดนี้พวกที่ไปด้วย ทำไมไม่เข้าไปเที่ยวเมืองพญานาคกับหลวงปู่ล่ะครับ

<DD>เขากลัวกันไม่กล้าเข้าไปด้วยกับหลวงปู่น่ะซี พวกเขาทำพิธีเซ่นสรวงสักการะเจ้าเขาเจ้าถ้ำกัน อ้อนวอนขอพระเครื่องพระบูชาของโบราณและขอเหล็กไหลด้วย หลวงปู่ไม่ยุ่งด้วยกับพิธีของเขา หลวงปู่ใช้สมาธิอธิษฐานธรรมตรวจสอบ ทีนี้พวกเขาเกิดกลัวกันขึ้นมาเพราะมีนิมิตอะไรบางอย่างในพิธีของเขา รู้สึกว่าเขาจะพบนิมิตเป็นงูใหญ่น่ากลัวมาก พอหลวงปู่จะเข้าถ้ำลึก พวกเขาไม่ยอมเข้าไปด้วย หลวงปู่ก็ฉุดแขนพระอาจารย์คำดีจะให้มุดรูถ้ำไปด้วยกัน พระอาจารย์คำดีกลับมากไม่ยอมเข้าท่าเดียว บอกว่าจะคอยอยู่ข้างนอกถ้ำมืด

<DD>เมื่อพวกเขากลัวกันไม่ยอมเข้าไปด้วย หลวงปู่ก็ไล่ให้พระอาจารย์คำดีพาญาติโยมทั้งหมดหนีไปให้ห่างไกล อย่าอยู่ใกล้ถ้ำมืดเป็นอันขาด เพราะหากมีอะไรออกมาแปลก ๆ เช่น พญางูใหญ่ออกมาจะทำให้พวกเขาตกใจกลัว อาจพากันวิ่งหนีด้วยความเสียขวัญตกเหวตกหน้าผาตายกันหมด

<DD>พวกเขาก็เชื่อ พากันรีบหนีออกจากถ้ำมืดไปคอยหลวงปู่อยู่ตั้งไกลสามวันให้หลังเมื่อหลวงปู่กลับออกมา พวกเขาก็ยังคอยอยู่ หลวงปู่ไม่ได้อะไรออกมาฝากพวกพระอาจารย์คำดีบ้างหรือครับ อย่างเช่น พระเครื่องของโบราณ

<DD>ไม่มี......หลวงปู่ไม่เห็นมีพระเครื่องที่ขาอยากได้กัน อีกอย่างไม่กล้าหยิบเอาอะไรออกมาเพราะได้บอกเจ้าถ้ำเจ้าเขาแล้วว่า ไม่ต้องการอะไรอยากจะเข้าไปดูชมเพื่อเป็นวาสนาบุญตาเท่านั้น <DD>เหล็กไหลมีไหมครับ หลวงปู่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้
เหล็กไหลเป็นของมีจริงไหมครับ

<DD>เป็นธาตุอย่างหนึ่งมีจริง หลวงปู่เคยพบในถ้ำบ่อย ๆ เหล็กไหลเป็นของลึกลับศักดิ์สิทธิ์มีพวกยักษ์รักษา ยักษ์นี้เป็นเทวดาพวกหนึ่งมีฤทธิ์มาก หลวงปู่เป็นพระไม่อยากได้ เพราะไม่รู้จะเอาไปทำไม
บางทีหลวงปู่นั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำ พวกยักษ์เขาลองใจให้เหล็กไหลหล่นลงมาใส่ ในบาตรดังป๊อก หลวงปู่หยิบดูรู้ว่าเป็นเหล็กไหลก็พูดดัง ๆ บอกกล่าวว่า เอากลับคืนไปเถอะ ไม่อยากได้ เพราะเหล็กไหลหรือสิ่งกายสิทธิ์ฬด ๆ ไม่สามารถทำให้พ้นทุกข์ บรรลุมรรคผล นิพพานได้

<DD>พวกยักษ์เขาก็เอาเหล็กไหลกลับคืนไป รู้สึกเขาพอใจมาก อนุโมทนาสาธุการกันในปฏิปทาของหลวงปู่ที่แน่วแน่มั่นคงในพระธรรมไม่เกิดกิเลสความอยากได้ในสิ่งอื่นใด นอกจาก พระธรรมอย่างเดียว

<DD>เรื่องเหล็กไหลนี้แล้วแต่วาสนาบารมี ถ้าใครมีวาสนาบารมีก็ได้เองง่าย ๆ พวกที่ใช้วิชาอาคมแก่กล้าไปตัดเอาเหล็กไหลมาได้ ส่วนมากมักจะแพ้ภัยตัวเองในภายหลังถ้าเหล็กไหล ไม่หนีกลับ ก็อาจมีอันพบกับความเสื่อมทรามวิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งจนได้
</DD>

 

อ่านเเล้ว มันส์มาก

 

ดีครับ....ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ.....

 

ไว้ค่อยมาอ่านค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ใครมีเรื่องเกี่ยวกับพญานาคเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ