การฝึกวิชาพลังจิต(ขั้นพื้นฐานเพื่อสุขภาพที่ดี)

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย Baby_par, 22 มีนาคม 2009.

  1. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    พอดีปลาไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง เป็นครูดีอีกท่านหนึ่งท่านเมตตามาเขียนหนังสือปรกติเขาจะเป็นหมอรักษาโรคโดยใช้คลื่นแม้เหล็กไฟฟ้าในจิตใต้สำนึก ชื่อของเราคืออ"หมอแกน กายสิทธิ์" (หนังสือชื่ออะไรไปลุ้นหาเอาเอง อิอิ)

    ไม่รู้ว่าคุณหมอคนนี้จะเข้ามาซุ่มอยู่ในเวปพลังจิตกับเขาหรือป่าว อิอิ

    ปลายอมรับว่าอ่านเล่นนี้ยังไม่จบ เพราะยังฝึกขั้นพื้นฐานยังไม่ผ่าน ห้าๆๆๆๆ

    และหนังสือเล่มนี้ ไม่เห็นมีลิขสิทหวงห้ามไว้ เขาเมตตาจริงๆ ปลาเลยอยากจะเอามาเผยแพร่ใครคนที่เขาสนใจค่ะ

    งั้นก่อนแรกปลาจะลงวิธีฝึกเลยนะค่ะ แล้วจะเอาข้มูลพื้นฐานๆลงเพื่อฆ่าเวลา อิอิ

    การฝึกพลังจิตมี 5 ขั้นตอน


    ขั้นตอนแรก คือ การดูลมหายใจเข้าออกและเปิดตาที่ 3ของเราที่อยู่กลางหน้าผาก ขั้นตอนนี้จะสัมพันธ์กับการไหลเวียนเลือด ผลดีของการฝึกดูลมหายใจเข้าออกนี้ก็คือสุขภาพจะดีขึ้นเป็นลำดับจนหาย หัวใจจะเต้นช้าลงอย่างเเข็งแรง บางคนถามผมว่าหัวใจเต้นช้าจะดีหรือ ผมเลยยกตัวอย่างว่าคุณลองนึกดูระหว่างคนที่ว่างอกกำลังกายหัวใจเต้นถี่ขึ้นกับคนที่นั่งเฉยๆหัวใจเขาเต้นช้าปกติ ฉะนั้นลองคิดดูว่าหารเต้นของหัวใจที่เร็วจะเหนื่อยกว่าหรือไม่ การวัดหัวใจคุณว่ามันเต้นเท่าไรใน 1 นาทีวัดที่โรงพยาบาลก็ได้ คุณก็ลองฝึกวิธีนี้ 1เดือน รับลองเลยว่า หัวใจของขคุณจะเต้นช้าลงและเเข็งแรงขึ้น โดยกระมาณการหายใจ 3-5 ครั้ง/นาที ซึ่งคนปกติ 15-20ครั้ง/นาที ผมพวงของมันคือจะทำให้อายุคุณยืนยาวนานขึ้น
     
  2. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    วิธีฝึก
    1.1 ให้ผู้ปฏิบตินั่งบนเก้าอี้ที่มีพนิกพิงควรมีเบาะนิ่มปานกลางวางเท้าลงกับพื้นห้ามใสรองเท้า หลังจากนั้นให้ผู้ปฏิบัติสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ 3 ครั้งแรกๆ เปรียบเสมือนว่าคุณได้เอาไม้ทะบวงอะไรบางอย่างออกไป มือขวาประสามมือมซ้าย นิ้วโป้งจรดกัน

    1.2 หลังจากหายใจลึกๆ 3 ครั้งแล้วให้ผู้ฏิบัติเหลือบตาลงแต่ตาด้านในยังคงเปิดอยู่และมองไปข้างหน้าระดับ 15 องศาต่ำกว่านราบคล้ายกับกำลังค้นหาอะไรอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  3. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    1.3ดูลมหายใจเข้า-ออกอย่างเป็นธรรมชาติที่ปรายโพรงจมูกอย่าไปบังคับมัน ส่วนที่ใช้ดูลมหายใจที่ปลายจมูกนั้น

    วิธีก็คือคล้ายกับว่าเราเอาจิตที่มีลักษณะคล้ายกับลูกแก้วขาวใสสว่างวางไว้ท้ายทอยหลังจากจินตนาการลูกแก้วให้หยุดจินตนาการ แต่ให้เราเริ่มเอาจิตมองลมหายใจสกปรกกำลังออกมา ดูอย่างนี้ไปสัก 5 นาทีแรก ก็เริ่มให้จิตมองลมหายใจว่ามันเข้าไปลึกแค่ไหน ใหม่ๆ ลมหายใจอาจจะเข้าออกสั้นๆ เช่น ลมหายใจเดินทางจากโพรงจมูกไปแค่สันจมูก บ่อยเข้าลมหายใจเดินทางจากปลายจมูกไปสู่ลำคอหรือปอด แต่มีวิธีการที่ดีที่สุดคือลมหายใจเข้า ลมทั้งหมดจะไปดันท้องเราให้ป่องขึ้น และเมื่อเราหายใจออกท้องเราก็แฟบลง เมื่อลมออกไปได้หมดขอให้ผู้ปฏิบัติกลั้นหายใจสัก3-5วินาทีและที่หายใจเข้าจนสุดท้องและขณะหายใจออกจนสุดท้านเช่นกัน ทำอย่างนี้เรื่อยๆในระยะเวลาขั้นต่ำ 15 -30 นาที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  4. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    1.4. เพื่อจิตเราที่เป็นลูกแก้วมีรัศมีขาวใสสว่างตรงบริเวณท้ายทอยปลิวไปให้เราเรียกลูกแก้วกลับมาโดนสูดลมหายใจลึกๆทันที 1 ครั้ง เพื่อเป็นการย้ำสติของเราให้กลับมา ส่วนบางท่านอาจรู้สึกปวดตา ข้อปฏิบัติที่ดีในการแก้ไขคือ มองตาเฉียงลงล่างอีก 15 องศาก็ช่วยได้
    1.5. ในขณะจิตมองลมหายใจเข้าออกอยู่นั้น ขอให้ผู้ปฏิบัติจินตนาการว่าขณะนี้ศรีษะเริ่มเบาขึ้น หัวไหล่เริ่มเบาขึ้น แขน ขา ลำตัวเริ่มเบาขึ้นตามลำดับ ขณะที่ร่างกายรู้สึกเบาขึ้นให้เริ่มจินตนาการว่าร่างกายเราเหมือนหินใหญ่กลมๆ เท่าตัวเราหนึ่งก้อนและมีลมเข้าออกอยู่ข้างห้าก้อนหินก้อนนั้น ส่วนด้านหลังก็จินตนาการว่ามีจิต คือ ลูกแก้วขาวใสสว่างลอยอยู่ด้านหลังก้อนหินนั้น ให้จินตนาการจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่การวาดภาพขึ้น ทำอย่างนี้เรื่อยไป หลังจากผ่านพ้นไปได้ระยะหนึ่งก็ให้ผู้ปฏิบัติจินตนาการว่าร่างกายเหมือนกลุ่มควันไมมีรูปร่างตั้งแต่หัวจรดเท้า และดูลมหายใจเข้าออกที่ปลายจมูกเหมือนเดิมจนกว่าลมนั้นจะเบาบางและจางหายไป นั้นคืการฝึกเพื่อเปิดตาที่ 3(ไม่รู้จริงป่าวนะ - -")



    1.6 เมื่อผู้ปฏิบัติทำอย่างนี้จนครบกำหนดเวลาแล้วก็ให้ ผู้ปฏิบัติ สูดลมเข้า-ออกลึกๆ 3 ครั้ง แล้วจึงลืมตาขึ้นช้าๆ

    1.7 สถานที่ที่ผู้ปฏิบัติควรใช้จะต้องเงียบสงบ และจะต้องเป็นเวลาเดิมเสมอที่ปฏิบัติทุกครั้ง
     
  5. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ข้อสังเกตุ

    ขณะที่ปฏิบัติรู้สึกเมื่อยสามารถที่จะขยับตัวได้หรือคันก็เกาได้เช่นกัน เพราะเรากำลังฝึกจิตอยู่ไม่ได้ฝึกที่ร่างกายเรา ผมขอบอกอะไรคุณผู้อ่านอย่างหนึ่ง เพื่อข้อเป็นคิด กายของเรามันเกิดมันเจ็บ มันแก่ มันป่วย มันตายได้ เราหนุดมันไม่ได้หรอกมันมีการเปลี่ยนแลปงตลอดเวลา แต่จิตของเรามันยังอยู่เท่าเดิมไม่เคยแก่เลย แต่จิตมันจะใส หรือมันจะหม่นก็ขึ้นอยู่กับการฝึกจิจตของเรา


    ตัวอย่างเช่น

    ตอนเราอายุ 10 ขวบเรามีความสุขกับการได้รับการดูแลจากพ่อแม่ พ่อแม่ให้ทุกอยางที่เราอยากด้ พอถึงช่วงหนึ่งของอายุ เช่น 30 ปี พ่อแม่ไม่อยู่กับเราแล้ว ท่านก็ไม่ทิ้งอะไรไว้ให้เรา แต่ขณะเราโตขึ้น ผมบรศรีษะเราเริ่มลางลง แต่ทำไมจิตเรายังนึกถึงวันเก่าๆ ขณะจิตนั้นก็มีความสุข แต่เมือ่เราหยุดการนึกคิดเราก็จะรู้ความจริงว่าผมบางศรีษะเรามันยังคงบางอยู่เหมือนเดิม นั่นแสดงว่าเราทุกแค่กายเท่านั้นเอง

    เมื่อกี้ยังยิ้มได้ถึงเรื่องเก่าๆ ตอนนี้เราก็ตองทำจิต ให้มันยิ้มได้เหมือนกัน มันึข้นอยู่กับว่าคุณจะเอาจิตไว้ที่ใด หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือ

    ขณะที่คุณได้ทำการสนทนากับเพื่อนอยู่ ขณะนั้นคุณกับเพื่อนที่ได้คุยกับเพื่อนขำขัน อยู่ดีๆ ก็มีคนมาบอกว่าน้องชายถูกรถชน ในวินาทีนั้นคุณกระสับกระส่ายเป็นห่วงน้องคุณขึ้นมาทันที แต่ทำไมเมื่อสักครู่ยังกัวเราะอยู่เลย สิ่งที่ผมจะพูดทั้งหมดคือ เมือ่เราได้ฝึกการดูลมหายใจเขาออกอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ตาที่ 3 ของเราจะเปิดเพื่อรับคลื่นเสียงหรือคลื่นแม้เหล็ไฟฟ้าเข้ามาเปิดเป็นภาพให้เราได้เห็นใหม่ๆ อาจเป็นภาพนิ่งนานๆเข้าก็สามารถเห็นเป็นภาพคลื่นไหวได้ แค่ในบางคนที่ฝึกอาจเห็นเป็นสัญลักมาแทน ต่อจากจิตใต้สำนึกก็แปลงเป็นค่าความหมายนั้นให้เราอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเหตุการณ์นั้นๆโดยตัวแปลค่าคือลูกแก้วที่หลังท้ายทอยนั้นเอง


    จบขั้นตอนที่1 ขอขอบคุณพี่ แกน กายสอทธิ์สำหรับข้อมูลและสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ

    .
     
  6. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ปลาก็ไม่รู้หรอกนะค่ะว่ามันเปิดได้จริงหรือป่าว

    แต่ปลาอยากให้ลองดูเพราะเราจะได้สุขภาพที่แข็งแรง

    ไม่ได้เจาะจงว่าตาที่ 3 จะต้องเปิดหรืออย่างใด ดังหัวข้อกระทู้ที่ตั้งไว้นะค่ะ

    ลองฝึกดูแล้วลองเข้ามาแชร์ประสพการณ์กันนะคะ


    เดี๋ยวการฝึกขึ้นตอนที่ 2 มีเกมส์ ฝึกสะดุดจิตมาให้เล่น 555 ปลาก็อยากเล่น แต่ขั้นที่ 1 ยังไม่ผ่านเลย ว่าจะมาหาเพื่อนๆ เล่นกันนนี่ละคะ อิอิ
     
  7. ป๋าปี๋ปู้

    ป๋าปี๋ปู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270
    อนุโมทนาสาธุค่ะ ^^

    มีสิทธิ เปิดได้นะ....

    แต่ได้ไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย......*o*......

    ไว้จะลองทำเด้อ แทงคิ้วหลายๆ อิ_อิ
     
  8. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    รีบเข้ามาอ่านเลย ว่าจะลองซะหน่อย
    เจอบรรทัดแรกของการฝึกให้เปิดตาที่3 ก่อนเลย ผมหมดสิทธิ์เลยมีแค่ 2ตา
    วิธีนี้เป็นขั้นสูง คนที่ยังไม่เปิดตาที่3ไม่ต้องอ่านต่อไปแล้วครับ อิ อิ

    ข้ามเลย ขอเล่นเกมส์สะดุดจิตเลยแล้วกันนะครับ
     
  9. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    จะลองฝึกดูนะคะ (เป็นอีกแบบของการฝึกจิตนะ) โมทนาค่ะ
     
  10. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ไม่สูงสำหรับคนที่ทำหรอกค่ะ แต่สูงสำหรับคนที่ไม่ทำ
     
  11. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    ปลาว่าการที่คนเรายังไม่ทันได้ทำอะไร หรืออ่านอะไรให้เข้าใจถี่ด้วนเสียก่อน

    ทำให้บางครั้ง อาจไม่ใช่ครั่งที่ผ่านมา หรืออาจไมใชครั้งนี้ทำให้เราเสียโอกาส หรืออะไรดีๆไปเหมือนกันนะคะ

    จากที่ปลาทำความเข้าใจกับข้อความที่ได้อ่านและพิมมา ปลาเองก็ไม่มีตาที่3 และเชื่อว่าหลายๆคนในที่นี้มีทั้งมีและไม่มีตาที่ 3

    ตาที่ 3 ของพระพุทธศาสนา ตามหลักความเข้าใจของปลา คือ ทิพยเนตร
    ตาที่ 3 ของหลักวิทยาศาสตร์ ปลาเข้าใจว่า คือ เซนต์ ของคนเรานี่เอง
    และเชื่อว่าคนเรานั้นมีเซนต์เหมือนกันหมดค่ะ

    และการฝึกข้างบนเป็นการฝึก"การมีสติ"หรือ"การฝึกจิต"หรือ"การฝึกลมปราณแบบง่าย"ของเรานั้นเอง

    ปลาไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับตาที่ 3 ตรงไหน ถ้าจะมีก็แค่ว่า มันอาจจะไปกระตุ้นอะไรบางอย่างของตาที่3เท่านั้นเองค่ะ หรือเรียกง่ายๆว่า เป็นประโยชน์ทางอ้อมเท่านั้น

    ปลาบอกแล้วว่า ไม่รู้ว่าจะเปิดได้จริงหรือป่าว แต่ตามหัวข้อที่ปลาตั้งมาคือ

    "เพื่อสุขภาพที่ดี" จริงไหมค่ะ ถ้าปลาจะเน้นเรื่องตาที่3 ทำไมปลาไม่ตั้งชื่อกระทู้ว่า"การฝึกเกิดตาที่3"เสียเลยละจริงไหมค่ะ
     
  12. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    อันนี้มาโพสให้อ่านเล่นๆนะค่ะ ฆ่าเวลาสำหรับคนที่สนใจข้างบนแล้วนำไปฝึกค่ะ



    พลังจิตจะใช้พลังทางจิตทางจิตใต้สำนึก ซึ่งมีอยู่ในโสดสมองของเราอยู่แล้ว โดยปกติสมองของเราจะมีโสตการรับคลื่นความถี่อยู่ 2 ส่วน

    ส่วนที่ 1 คือ สามัญสำนึก ซึ่งมีขาดเล็กกว่าส่วนที่


    2 คือจิตใต้สำนึก

    สมมัญสำนึกเปรียบเสมือน RAM ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนนี้จะเก็บข้อมูลที่เกิดจากการใช้ความจำทั้งสิ้น การคำณวน การหาข้อสงสัยต่างๆ


    ส่วนพลังจิตใต้สำนึก เปรียบเสมือน Rom ที่อ่านค่าได้อย่างเดียวไม่สามารถลบออกไปได้ จิตใต้สำนึกจะเก็บได้เพียงแค่ภาพเสียงและกลิ่น วิธีเก็บภาพจิตใต้สำนึกเปรียบเสมือนการถ่ายภาพในกล้องถ่ายรูปส่วนตัว Shutter เปรียบเสมือนตสที่ 3 ในมโนจิตเมื่อหลับตาลงภาพที่เห็นจะปรากฏเป็นมโนภาพนั้นๆ ส่วนเนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนแผ่น negative(แผ่นฟิล์ม) เมื่อเราต้องการใช้มันกี่ครั้งเนื้อหามันก็จะปรากฏเช่นเดิม





    พลังจิตคือ พลังงานอย่างหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ 2 ทาง

    ทางแรก คือ พลังงานที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของ ATOM(อะตอม) ที่อยู่รอบกายเราแล้วมาสัมผัสกับจิตใต้สำนึกของเรา

    เช่นความรู้สึกเมื่อเราเห็นเพื่อนกำลังมีอาการโกรธเราจะหน้าแดงขึ้น ทันใดนั้นเองเราก็รู้สึกได้เลยว่าเขามีอารมโมโหผ่านเข้าในโสดจิตใต้สำนึกของเรานั้นเอง(หรือเรียกง่ายๆว่าอารมโกรธเขาเข้ามากระทบให้เราได้ทราบว่าเขาโกรธ)




    ทองที่สอง คือพลังงานคลื่นไฟฟ้า พลังงานนี้เปรียบได้กับหลังงานคลื่นวิทยุ

    เช่นเครื่องวิทยุแต่เดิมมันเป็นฉนวนไฟฟ้าเช่นเดียวกับไม้แต่ด้วยที่ว่าในตัวเครื่องมีอุปกรณ์รับสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อวิทยุทีเราอยากฟังก็เพียงหมุนไปหาคลื่นรับส่งนั้นๆ ทั้งที่ผู้ส่งคลื่นก็อยู่ในตัวตึกซึ่งตัวอย่างจากดีเจคลื่นวิทยุ นั้นเอง





    ทางกระเทศในยุโรป ออสเจเรีย อเมริกา นิวซีแลนด์
    พวกนักพลังจิตเขาแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
    1.สามารถรับคลื่นเข้าไปในความคิดจองคนอืนได้หรือแม้กระทั่งใส่ความคิดของเราไปในจิตคนอื่น (รับส่งโทรจิต)


    2.สามารถรับรู้เรื่องต่างๆ ที่เป็นข้อมูลโดนตัวเราเป็นตัวแทนหรือสื่อกลาง (ลองไปอ่านเรื่องเล่า..ก่อนนอนของผู้มีตาทิพค่ะ เห็นชัดที่สุด)


    3.สามารถรู้เหตุการล่วงหน้าและทำนายอนาคต


    4.ใช้จิตไปบังคับสิ่งของต่างๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  13. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    พลังจิตเกิดขึ้นได้แบ่งออกเป็น 4 ทางค่ะ


    1.ทางเสียง ทางนี้สำหรับผู้ไม่ได้ฝึกก็เกิดขึ้นได้เหมือนกันค่ะ อย่างเช่นจะออกจากบ้านแล้วจิ่งจกทัก จิตใต้สำนึกของเราจะบอกว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี(แต่บางทีจิ้งจกมันชุม เลยทักมั่ว ห้าๆ)


    2.ทางกลิ่น ทางนี้เกิดได้ยากมาก สำหรับคนปรกติที่ไมได้ฝึกมาก่อน เช่น เราออกไปนานโรงแรมแล้วได้กลิ่นเน่า ต่อมาครั้งชั่วโมงมีคนโทรมาว่าเกิดเรื่องร้ายหรือมีการตายเกิดขึ้นเป็นต้น


    3.ทางความฝัน อันนี้น่าจะรู้ดีก็พวกลางบอกเหตุค่ะ


    4.การถอดจิต เป็นการฝึกขั้นสูงสุดของผู้อ่าน(เขาบอกมางั้นอะ) สงสัยถือว่าเป็นขั้นสุดยอดแล้วกระมังค่ะ เหอๆๆๆๆ

    การถอดจิตนี้เร็วสุดก็1เดือน ช้าสุดก็....... คิดเองนะคะ แต่บางคนก็ไม่ได้เลย เพราะไม่มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะฝึกมันอย่างจริงจัง แต่มากไปก็ไม่ดีนะคะ ^ ^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  14. ป๋าปี๋ปู้

    ป๋าปี๋ปู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270
    นู๋ปลา พิมพ์เว้น บรรทัดหน่อยนะคะ *o*

    มึนตา พะย่ะค่ะ @_@
     
  15. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    การฝึกหายใจ จมูก+ตาที่สามช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลงได้จริงๆค่ะ จากประสบการณ์ตรงเดิมอัตราการเต้นของหัวใจไม่เคยต่ำกว่า 100ครั้งต่อนาที หายใจจมูก +ตาที่3มาประมาณ 2เดือน ตอนนี้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 70-80 ครั้งต่อนาทีค่ะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอื่นเลย ไม่ได้ออกกำลังกายด้วย ก่อนหน้านี้ก็หาคำตอบอยู่เหมือนกันว่าอะไรทำให้เปลี่ยนไป มาอ่านเจอในนี้เลยได้คำตอบ
     
  16. bluephoenix

    bluephoenix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +40
    อ่ะ หัวใจเราสิ เต้นประมาณ 60 ต้นๆเอง ตอนแรกๆก้อตกใจเหมือนกัน - -

    ใจไม่เต้น เพื่อเขา ส่วนใหญ่ 80 ขึ้น - -

    ถึงตาที่สามไม่เปิดเราก้อฝึกได้

    เราฝึกจิตกันนินะ ไม่ได้ว่าต้องได้ตามที่สามเสมอนิ ^^

    ฝึกไปก่อนก้อดี
     
  17. ขันติธรรม

    ขันติธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +372
    อนุโมทนา สาธุ

    rat_wting
    กำลังฝึกจิตอยู่เหมือนกันได้เป็นระยะ ๆ ก็เพื่อขอให้มีสติไปในทางที่ดีที่ถูก ทำงานก็คิดออกทำได้สำเร็จด้วยดี ได้ผลจริงด้วย แต่ก่อนจะได้ผลลัพธ์ต้องผ่านอุปสรรคทำด้วยความอดทนอดกลั้นขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ (ตั้งขื่อเองนะ ด่าน 18 อรหันต์เสียก่อน) บางครั้งเกิดผลพลอยได้เป็นกำลังใจแถมให้ เหมือนจะแจ้งให้รู้ว่าทำแต่สิ่งดี สิ่งที่เรามองด้วยสายตาเปล่าไม่เห็น ท่านเห็นนะ
     
  18. raggio di sole

    raggio di sole Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +56
    สวัสดีเจ้าของกระทู้ค่ะ ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ดีๆที่นำมาแบ่งปัน ตอนนี้กำลังเริ่มฝึกสมาธิค่ะ เพราะรู้สึกว่าตัวเองสมาธิสั้นมากๆ
    จะนำไปปฏิบัติค่ะเผื่อว่าจะได้มีสมาธิ สติจะได้มาและปัญญาจะได้เกิดซะทีค่ะ อิอิ
    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  19. jdean

    jdean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +147
    อนุโมทนาบุญกับคุณปลาด้วยนะครับ

    สำหรับวิธีฝึกดีๆ
     
  20. ป๋าปี๋ปู้

    ป๋าปี๋ปู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270
    ดูเดะ ToT พอคิดจะทำ ตัวขี้เกียจ ก็ เข้ามาเยย

    ก็ดูมัน สักพัก ก็ดับไป (สักพักในที่นี่ ไม่รู้กี่วินะ *o* จุ๊บุ)

    มันหาเรื่องไม่ให้เค้าทำ เหอๆ

    ช่างเหอะเนอะ มารไม่มี บารมี ไม่เกิด คุคุ

    ยังไงก็จะหาเรื่องทำอยู่ดี หึหึ
     

แชร์หน้านี้

Loading...