การรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า คือหลักฐานหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าอนาคตได้ถูกกำหนดไว้บ้างแล้ว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย TKKH, 28 มีนาคม 2009.

  1. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ย้อนหลังไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผมเป็นคนหนึ่งที่มี Sixth sense คือมีลางสังหรณ์เหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลายครั้ง

    แต่มีครั้งหนึ่งซึ่งผมยังจำได้ไม่ลืม วันนั้นผมขับรถกลับจากไปพักผ่อนที่เชียงใหม่ช่วงปีใหม่ 2541 เมื่อขับรถข้ามสะพานเดชาที่ตัวเมืองนครสวรรค์ ตาข้างซ้ายผมกระตุก

    ซึ่งตอนนั้นทุกครั้งที่หนังตากระตุก ผมจะเอาจิตผมถามตัวเองว่าจิตกำลังจะบอกอะไร แล้วผมก็จะนึกไปถึงสถานที่และบุคคลต่างๆ พอนึกไปที่ใดหรือบุคคลใดแล้วไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ผมก็จะข้ามไปนึกถึงที่อื่นหรือคนอื่นๆต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนใกล้ชิด

    ถ้านึกถึงคนไหนหรือที่ไหนแล้วหนังตากระตุกถี่ๆ ผมก็จะคาดเอาว่าน่าจะมีเรื่องอะไรกับคนๆนั้นหรือสถานที่นั้น

    วันนั้นก็เหมือนกันพอหนังตากระตุกผมนึกถึงบ้านเกิด(ตอนนั้นอยู่กรุงเทพฯ) หนังตาก็เต้นถี่ขึ้นมาทันที ผมรู้สึกสังหรณ์ใจบอกไม่ถูก และหยิบโทรศัพท์โทรไปหาแม่ที่บ้าน

    ผมถามคำถามแรก คือ "แม่มีใครที่บ้านเป็นอะไรไหม" แม่ผมบอกว่าไม่มีใครเป็นอะไร มีแต่ย่าที่เป็นอัมพฤกษ์มือขาอ่อนแรงขยับไม่ค่อยได้ แต่จิตผมมันบอกว่ามันมีมากกว่านั้น วันนั้นแทนที่จะขับรถกลับกรุงเทพฯ ผมตัดสินใจเลี้ยวรถไปบ้านที่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์

    เมื่อไปถึงก็ไปเยี่ยมย่าที่ป่วยอยู่ ตอนนั้นพ่อผมลุงและพวกอาอยู่ครบทุกคน นั่งคุยกันถึงอาการของย่า เมื่อผมไปถึงก็เข้าไปสวัสดีย่า ย่าพยักหน้ารับแต่พูดไม่ได้ ผมบอกย่าว่าไหนว่าป่วยไม่เห็นเป็นไรเลยยังแข็งแรงดีนี่(แบบว่าให้กำลังใจน่ะ) ผมหยิบแก้วน้ำ(ไม่มีน้ำ)ให้ย่าลองออกแรงจับอย่าให้หล่นย่าก็จับได้ ผมบอกกับย่าว่าแข็งแรงแล้วเดี๋ยวก็หาย

    ผมนั่งคุยกับคนอื่นสักพัก ย่าทำหน้ายึกยัก พ่อผมและพวกอาถามว่าเป็นอะไรจะเอาอะไร ย่าพูดไม่ได้ทุกคนก็ถามไปเรื่อยๆสุดท้ายก็ได้ความว่าย่าหิวหมากจะกินหมาก พ่อผมจัดหมากให้คำหนึ่งให้ย่าเคี้ยว

    สักพักย่ามีอาการตาค้างนิ่งไป พวกเราคิดว่าหมากติดคอย่า จึงช่วยกันล้วงเอาหมากออกจากปากย่าจนหมดแต่ย่าก็ไม่ดีขึ้น หยุดหายใจไปเฉยๆ ผมให้คนรีบไปตามหมอ แล้วพยายามช่วยย่าอย่าสุดความสามารถ แต่อาการไม่ดีขึ้นย่าแน่นิ่งไป

    ผมปั้มหัวใจย่าอยู่ครู่หนึ่ง จึงเปลี่ยนมาผายปอดด้วยปาก แต่ก็ไม่ดีขึ้นผมพยายามอยู่นานจนกระทั่งหมอมาถึง หมอตรวจชีพพจรแล้วบอกว่าย่าเสียชีวิตแล้ว ทุกคนพากันเสียใจและตกใจมาก

    แต่สำหรับผมมันมีมากกว่านั้น เพราะจิตผมมันบอกล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น ตั้งแต่นั้นมาผมก็จะทดสอบทุกครั้งที่หนังตากระตุก ซึ่งบางครั้งจิตก็บอกเองว่าไม่มีอะไร แค่นอนดึกไป หรือหนังตากระตุกตามปกติ

    ผมชอบศึกษาจิตจากจิตของตัวเอง ความจริงมีอีกหลายอย่างไว้มีโอกาสจะมาเล่าสู่กันฟังอีก

    เรื่องการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้านี้ ถ้ามีจริงก็แสดงว่า อนาคตบางอย่างมันได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เท่าที่ผมทราบ มีผู้ที่จำอดีตชาติหลายราย ทั้งที่ผมสัมภาษณ์มาด้วยตัวเอง และในรายอื่นๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ก็มีการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ด้วยหลายคน อย่างกรณีของ รัตนา วงศ์สมบัติ เป็นต้น
    ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ ที่ www.reincarnation.tk
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2009
  2. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    เห้นด้วยครับ ชอบใจหัวข้อครับนึกดูก้อน่าจะจริงอย่างท่านว่าไว้ ครับ
    ขอบคุณครับ
     
  3. anuwats19

    anuwats19 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +16
    อนาคตเป็นไปตามหลักความน่าจะเป็น

    ส่วนสัมผัสที่หก คือจิตคุณสามารถสัมผัสกับวิญญาณ คน เรื่องราว และเหตุการณ์ต่างๆได้

    และก่อนที่ทุกคนจะมาเกิด ล้วนแต่มีแผนการที่กำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น เราแค่เกิดมาแล้วทำตามแผนให้สำเร็จเท่านั้นเอง โดยเป้าหมายสูงสุดคือ พัฒนาจิตวิญญาณให้ได้มากที่สุด
     
  4. MarkZilla

    MarkZilla เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +191
    ขออนุญาติปรึกษาหน่อยครับผมกระตุกที่หนังตาด้านซ้ายบ่อยมาก กระตุกมากบางครั้งถึงขั้นปวดหัวอย่างรุนแรง โดยนัยก้อพอทราบว่ามีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นแต่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนจึงอยากรบกวนปรึกษา ในเรื่องว่าต้องทำอย่างไรครับจึงพอที่จะระงับหรือระบุ ในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือผมต้องทำอย่างไรให้มันหายไป รวมถึงการได้เห็นอะไรแปลกๆ

    IM มาที่ kamoi98@hotmail.com
     
  5. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    การรู้เหตการณ์ล่วงหน้าจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่

    การรู้เหตการณ์ล่วงหน้านั้นมีหลายวิธีด้วยกัน

    1. รู้ได้ด้วยเทพนิมิต บางครั้งเทพก็มาเตือนเราให้รับรู้ในความฝัน เป็นเพราะอาจเคยเกื้อกูลกันมา หรือเอ็นดูเราที่มีศีลมีธรรม เทวดาก็พยายามเตือนให้รับรู้ แต่ทั้งนี้ขึ้นกับบุญเก่าที่เราเคยทำมา ถ้าเคยมีบุญตักเตือนผู้อื่นในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ก็จะมีบุญดึงดูดให้เทวดาอยากเตือนเรา ถ้าไม่มีบุญด้านนี้ แม้เทวดาจะกรุณาเรา แต่ก็จะทอดธุระไม่คิดหาทางเติอนเรา

    2. คือรู้ได้ด้วยบุญ เช่นบางครั้งเราอาจมีลางสังหรณ์ถึงอันตรายได้ ก็เพราะบุญเก่าที่เราทำไว้พยายามช่วยเหลือมาตัดรอนบาปกรรมที่กำลังส่งผล บุญจึงดลจิตให้เกิดตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างได้ล่วงหน้า เพื่อจะได้หลบเลี่ยง แต่จะหลบเลี่ยงได้แค่ไหนก็ขึ้นกับกำลังบุญและบาปว่าอันไหนแรงกว่ากัน กรณีของเจ้าของกระทู้เป็นแบบนี้

    3. รู้ได้ก้วยกำลังสมาธิ เบื้องต้นคือฌาน 4 สูงสุดคืออนาตังคสญาณของพระพุทธเจ้า เมื่อฝึกจิตดีแล้ว จิตจะใสสว่างมองทะลุอดีตและอนาคตได้ตามความละเอียดของจิต

    คนเป็นจำนวนมากเข้าใจว่าอนาคตถูกกำหนดไว้แล้ว ซึ่งมีทั้งถูกและผิด อนาคตบางอย่างก็เป็นสิ่งที่ตายตัว บางอย่างก็ไม่แน่ การมองเห็นอนาคตก็มีทั้งแน่นอนและไม่แน่นอนตามไปด้วย เพราะอะไรเป็นเหตุให้ อนาคตบางอย่างแน่นอน และอนาคตบางอย่างไม่แน่นอน ถ้าเข้าใจอนาคตว่าเป็นสิ่งแน่นอนอย่างเดียวก็จะไปเข้ากับลัทธิพรหมลิขิต ที่เชื่อว่าทุกอย่างในอนาคตถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว
    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าอนาคตคืออะไร แล้วจึงค่อยพิจารณาว่าทำไมเราจึงมองเห็นได้ จริงๆแล้วอนาคตคือ ผลจากอดีตที่สืบเนื่องกันมา ถ้าตามหลักของพระพุทธศาสนานั้นก็คือ เรื่องของกรรมและวิบาก กรรมก็คืออดีต ส่วนวิบากก็คืออนาคต เมื่อเราทำกรรมใดไว้ กฏแห่งกรรมก็จะเซ็ตโปรแกรมเป็นผังไว้โดยอัตโนมัติตามกำลังบุญและบาป เช่นถ้าทำบุญไว้ ผลบุญก็จะถูกกำหนดไว้ทันทีว่าจะมีทิพยสมบัติมากน้อยแค่ไหน อยู่ในเทวโลกกี่ล้านปี ไปเป็นท้าวสักกะกี่ชาติ หรือถ้าทำบาป ก็จะมีนรกรองรับทันทีเช่นกัน
    เอาเฉพาะการเห็นที่ถูกต้องเท่านั้น การเห็นอนาคตก็คือการไปเห็นวิบากแห่งบุญและบาปที่เตรียมส่งผลเหล่านี้นั่นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
    กรรมบางอย่างก็มีกำลังแรงจนผังไม่อาจเปบี่ยนแปลงได้แล้ว เช่นนิตยโพธิสัตว์ ที่สร้างบุญมามากจนผังแห่งความเป็นพระพุทธเจ้าแจ่มชัดไม่อาจถูกมารทำลายได้อีกแล้ว พระพุทธเจ้าก็จะทรงพยากรณ์ผู้นั้น แต่ถ้าบุญบารมียังไม่พอ ความเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตก็ยังไม่แน่นอน พระพุทธเจ้าก็จะพยากรณ์ไม่ได้ เพราะผังแห่งบารมียังไม่แน่นพอ
    ดังนั้นการเห็นอนาคตล่วงหน้าขึ้นกับกรรมที่กำลังจะส่งผลนั้นรุนแรงเพียงใด ถ้ากำลังมาก็ยากที่จะเลปี่ยนแปลงได้ ถ้ากำลังกรรมน้อยก็ยังแปรเปลี่ยนได้ การเห็นอนาคตจึงแปรผันไปตามกลังบุญและบาปที่เตรียมส่งผล ซึ่งบุญและบาปก็ตัดกันเองและแย่งกันส่งผลอยู่ตลอดเวลา
    ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของบุญและบาปที่ชิงช่วงกันส่งผลเท่านั้น
     
  6. piaratisit

    piaratisit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +14
    ผมเป็นคนหนึ่งที่มีลางสังหรณ์ และจะนิมิตเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนให้ตัวเราดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท หมั่นทำความดี สร้างกุศล นั่งสมาธิ เพื่อเตรียมรับเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นนะครับ
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    มันมีเหตุนี่

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.550182/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. อาจารย์เตี้ย

    อาจารย์เตี้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +603
    ผมก็เป็นครับเป็นบ่อยมากอยู่มันก็เป็น ผมกำลังทำอะไรไปไหนอยู่บางอย่างจู่มันก็คิดมาก

    เองว่า เหตุการณ์นี้มันผ่านมาแล้วนี่จิตมันบอกยังงี้ทั้งที่ความจริงมันยังไม่เคยผ่านมาด้วย

    ซ้ำมันเหมือนกับว่าเหตุการณืนี้เคยเกิดขึ้นแล้วนี่แล้วมันไม่ได้บอกว่าเคยเกิดขึ้นมันยังบอก

    ต่อว่าวินาทีต่อมาจะเป็นไงจะมีใครมามันบอกยาวไปเป็นนาที-2นาทีหรือมากกว่านั้นมันเป็น

    ลางสังหรณ์ที่แม่นมาโดยตลอดทุกวันนี้ก็ยังเป็นแต่ไม่ได้ทำให้มันเป็นด้วยตัวเรานะครับ

    มันมาเองโดยอัตโนมัตว่าทำให้เหมือนกับเราเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้วแล้วเหตุการณ์ที่จะ

    เกิดขึ้นเป็นไงต่อไปเราทราบได้ทันที บางที่ก็ถูกหมด บางทีก็ถูกไม่หมด มันเป็นแบบนี้และ

    ครับเรียกว่ารางสังหรณ์แต่มันทำให้เกิดมโนภาพขึ้นมาได้ด้วยนะครับคือเกิดภาพขึ้นมาใน

    ความคิดของเราว่าจะเกิดไรขึ้นต่อไป ไม่ใช่อยากให้มันเป็นตอนไหนมันก้เป็นมันไม่เป็นครับ

    บอกแล้วว่ามันมาเองบังคับมันไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มีนาคม 2009
  9. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ประสบการณ์ เดจาวู

    การได้ประสบกับเหตุการณ์ที่เหมือนกับว่า เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ หรือเคยพบเห็นมาก่อน เขาเรียกว่า Dejavu (เดจาวู) เป็นภาษาฝรั่งเศส อ่านว่า เดชาวี แปลว่า เคยเกิดขึ้นแล้ว หรือเคยพบเห็นมาก่อน ซึ่งจากการศึกษาพบว่าคนเราทุกคนมักจะได้ประสบเหตุการณ์ลักษณะนี้ อย่างน้อยก็หนึ่งครั้งในชีวิต ครับ
     
  10. anuwats19

    anuwats19 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +16
    ผมเป็นบ่อยมากๆ

    อย่างที่บอก ก่อนเกิดเราได้วางแผนชีวิตไว้แล้ว เมื่อเราเกิดเดจาวู แสดงว่าเราได้มาตามแผนที่วางไว้ เพราะเหตุการณ์ที่เราเห็น คือเหตุการณ์ที่เราคิดและเตรียมไว้ ก่อนที่จะลงมาเกิดนั่นเอง
     
  11. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,202
    ค่าพลัง:
    +235
    มาดูกูมั่งสิ เมื่อไหร่กูจะยึดครองโลกนี้ได้มั่ง?

    ว่ามา ...
     
  12. อาจารย์เตี้ย

    อาจารย์เตี้ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +603


    ใจเย็นครับพี่ใจเย็นๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...