ผมอยากรู้เกี่ยวกับจุดมุ่งหมายของเวบนี้ (เกี่ยวข้องกับเรื่องการโพสต์ธรรมปฏิรูป)

ขออนุญาติครับ ผมขอเรียนถามจุดมุ่งหมายของเวบนี้ ได้บ้างหรือไม่
ว่าตั้งขึ้น เพื่อประโยชน์อันใด
เพื่อพระพุทธศานา ใช่หรือไม่
เพื่อพระอริยเจ้า ใช่หรือไม่
เพื่อบุคคลทั้งหลายอันสนใจในพระพุทธศาสนาใช่หรือไม่
เพื่อชนทั้งหลายมีความเข้าใจถูกต้องในพระพุทธศาสนา ใช่หรือไม่ เพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช่หรือไม่
เพื่อเผยแพร่คำสั่งสอนของพระอริยเจ้า พระสุปฏิปันโน ทั้งหลาย ใช่หรือไม่
เพื่อเหล่าพุทธศาสนิกชน ได้เข้ามาพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความเห็นทั้งทางโลก และทางธรรม ใช่หรือไม่
เพื่อเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าพุทธบริษัททั้งปวง เป็นทั้งศาลาเพื่อการปฏิบัติตามธรรม และพักผ่อนตามควร ใช่หรือไม่ครับ

แล้วกาลบัดนี้ เกิดสิ่งใดขึ้นกับเวบแห่งนี้
ทำไมถึงได้มีใครต่อใครพากันเอาความคิดอันร้ายกาจ ทำลายซึ่งพระศาสนา บิดเบือนพระธรรมคำสั่งสอน เอามิจฉาทิฏฐิของตนมาแสดง เผยแพร่ให้คนทั้งหลายมาอ่าน แล้วผู้ไม่เข้าใจ ผู้เริ่มต้น จะเข้าใจพระธรรมนี้ได้ถูกต้องเพียงใด เข้าใจอะไร จะดำเนินไปถูกทางหรือไม่
หลายครั้งที่มีการประกาศว่า server ของเวบไม่เพียงพอ ถ้าลองคิดว่าเอาไอ้ความคิดขยะๆ เหล่านั้น ออกไป ท่านว่ามันจะประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้นหรือไม่ หลายครั้งที่ไม่เข้าว่า พอคนบางคนเอาความคิดแย่ๆ จนถึงขั้นเลวต่อพระพุทธศาสนามาลง มาโพสต์ แล้วผู้ดูแลลบทิ้ง บุคคลนั้นมาประกาศใหม่ โวยวาย ว่าความคิดของตนนั้นถูกลบไป ส่วนคนทั้งหลายก็ไม่พยายามทำความเข้าใจ ไปเห็นดีเห็นงามกับคนนั้น ก็ทำให้ผู้ดูแลหนักใจ จนถึงกับเปิดห้อง บางห้องให้ใหม่เพื่อคนเหล่านั้นจะได้มีที่ระบาย ทั้งที่เวบอื่นก็มี ทำไมไม่ไป มาทำอะไรเลวๆ ที่เวบนี้
ทำไมเราไม่ช่างเขาบ้าง เราทำเพื่อพุทธบูชา เพื่อพระพุทธศาสนา ไม่เห็นต้องไปแคร์ ปากคนมันห้ามไม่ได้อยู่แล้ว
เอามันออกไปซะ จะได้ไม่รกเนื้อที่เวบ
ผมรู้ว่าบางคนหวังดี มีใจเพื่อพระพุทธศาสนา หรือเพื่อผู้อื่น แต่เขารู้หรือไม่ว่าความคิดที่เขาเผยแพร่นั้น เป็นภัยอย่างร้ายกาจ ต่อพระธรรม คำสั่งสอน เอาความคิดที่หลายครั้งค้านกับการปฏิบัติอย่างรุนแรง ค้านกับพระธรรม อย่างรุนแรง ค้านกับความถูกต้องอย่างรุนแรง ถ้าถามว่าผมรู้ได้อย่างไร ผมก็มีบรรทัดฐานของผมเอง เขาก็มีบรรทัดฐานของเขา ผมว่า แต่ก็สมควรต้องมีการตัดสิน
ผมว่าผมทนที่จะไม่เขียนกระทู้อย่างนี้มานานแล้ว แต่ก็เหมือนไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนที่โพสต์อะไรตามมิจฉาทิฏฐิของตน
จะโพสต์เรื่องเรื่อยเปื่อย ตามประสาโลกอะไร ก็มีหลายห้อง
แต่การโพสต์ที่คิดว่าเพื่อพระพุทธศาสนา แต่เป็นการนำแนวความคิดของตน ทั้งที่ไม่ได้ใครครวญก่อนว่าใช่ ดี ถูกต้องแล้วหรือไม่ แล้วเอามาประกาศ บอกต่อ เผยแพร่ไปนั้น มันจัญไรมาก มากจริงๆ ถ้าท่านอยากเผยแพร่แนวความคิดใหม่ของท่าน ก็ไปที่อื่นสิ ไปตั้งลัทธิเสีย มากวนกันทำไม หนังสือก็มี กระดาษก็มีเขียนเข้าไประบายเข้าไป
ผมขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมเคารพพระพุทธเจ้า พระเดชพระคุณ หลวงปู่ หลวงพ่อ หลายต่อ หลายรูปในเวบนี้ ท่านทั้งหลายเหล่านี้คือบรรทัดฐานของผม ใครจะทำไม ดังนั้นผมก็จะถือว่าท่านนี่แหละบรรทัดฐาน จะได้เข้าใจว่า บรรทัดฐาน ของผมคืออะไร อย่างไหน
ผมขอเถอะครับผู้ดูแลเวบ และท่านทั้งหลายที่เข้ามาในเวบนี้ ช่วยกันสอดส่อง ดูแล เพราะว่าเจ้าหน้าที่คงไม่เพียงพอ แต่คนเข้ามาดูเพียงพอแน่ครับ ใครที่โพสต์อะไรเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา แล้วเป็นลักษณะเอาความคิดตนเองมาโชว์ว่า อย่างนั้นอย่างนี้ นิพพานต้องอย่างนั้น การปฏิบัติต้องอย่างนี้ ทั้งที่มีพระธรรม พระพุทธเข้า หลวงปู่ หลวงพ่อ อยู่แล้ว แต่จะคิดใหม่เพื่ออะไร ดีกว่าตรงไหน ไม่มีใครจะแสดงธรรมได้ดีกว่าพระพุทธเจ้า และไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์ปราณีต กว่าพระธรรมอีกแล้ว ตัดก็ขาด เติมก็เกิน
และอีกอย่างบุคคลที่อ้างว่าพระธรรม พระไตรปิฏกในปัจจุบันนั้น ไม่ถูกต้อง ไอ้คนจัญไรพรรค์นี้ ก็เอาด้วยนะครับ ถ้าไม่ดีจริง หลวงปู่ หลวงพ่อ ทั้งหลายท่านจะปฏิบัติจนบรรลุได้อย่างไร (ผมเชื่อว่าท่านบรรลุ ชนขวางโลกพวกค้านพระไตรปิฏกอย่า...ถาม) ดังนั้น พระไตรปิฎกในส่วนแห่งการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นยังสมบูรณ์ครบทีเดียว
ช่วยกันหน่อยเถิดครับ ขอเถิด

 

มันมีบางส่วนที่เป็น สีสรรค์ของเว็บครับ
และ ผมคิดว่า ผุ้ดูแลไม่สามารถจะห้ามคนที่เขามาโพสได้ ก็ต้องมีวิธีการจัดการ คือ จัดสรรค์พื้นที่
เพื่อให้คนเหล่านั้นได้มีที่ ยืน แล้วเขาจะได้ไม่ก่อกวน

ผุ้ดูและ และ เว็บสโนว์ เขาก็ทำถูกต้องแล้วครับ
ผมว่า คุณก็ควรจะเข้าใจ จนทผู้ดูแล ครับ

 

ตาใคร ตามัน
ใจใคร ใจมัน
ความคิดใคร ความคิดมัน

 

ทราบแล้วเปลี่ยนครับ

ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ที่ทำให้ผมคิด สาธุสาธุสาธุ

 

...ทุกอย่างมันมีสองด้านเสมอ...

...มีดี..มีชั่ว..มีกลัว..มีกล้า..

...ดีก็รับไว้...

...มั่วก็ปล่อยเขาไป...

...ถ้าเขาบิดเบือนแล้วไปเชื่อ...

...อันนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม...

...ธรรมย่อมเป็นธรรม...

...เจ้าของกระทู้้..และผู้ดูแลเว็บ..ทำถูกต้องแล้วครับ...

...ขออนุโมทนา..

 

สุดแต่ใจจะไขว่คว้า
ชอบขวาทำขาวชอบดำทำดำ
โลกก็เป็นเช่นนี้แล

 

ถูกใจ ใช่เลย ครับ จิงๆๆ บางทีก็เกินไปทำกันเกินงาม มันทางโลกเกินไปสนับสนุน

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
เว็บนี้สำหรับผู้ที่ศรัทธาใจพระพุทธศาสนา
ถ้าไม่มีการห้ามกันบ้างจะยิ่งเลอะไปกันใหญ่

 

แล้วนี่ห้องไรอะ เจ้าของกระทู้ก็โพสไม่ดูห้องอะ

 

ก็... บางอันก็รับได้ บางอันก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัว เอามาเล่าสู่กันฟัง บางอันก็ถามเล่นๆ ก็ไม่เป็นไร
แต่บางอันก็มั่วเป็นนิทาน บางอันเข้าข่าย เลอะเทอะ บางครั้งอาจจะุถึงขั้น วิปลาส

 

สนุกจะตายไป

มีพวกสีอานเพียบ ที่ผ่านมาหลายปีนี้ ผมนับๆมา ได้เกือบสิบตัวแล้วหล่ะ

ปล. ทำอีท่าไหนหว่า ถึงคิดว่าตัวเองเป็น สีอาน ....

 

สนุกจะตายไป

มีพวกสีอานเพียบ ที่ผ่านมาหลายปีนี้ ผมนับๆมา ได้เกือบสิบตัวแล้วหล่ะ

ปล. ทำอีท่าไหนหว่า ถึงคิดว่าตัวเองเป็น สีอาน ....

แต่ฉันว่า สีทนได้นะ

 

นานาจิตตังค่ะ

 

ใครค้านพระไตรปิฎกคนนั้นก็จัญไรซิครับ

 

ใครค้านพระไตรปิฎกคนนั้นก็จัญไรซิครับ

 

ดีใจมากค่ะ กลับมาเล่นบอร์ดได้แล้ว.....^___/\\___^

 

​

“อย่าโกธรเมื่อใครติเตียนพระพุทธเจ้า” ​

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! คนเหล่าอื่นอาจกล่าวติเตียนเรา
ติเตียนพระธรรมหรือติเตียนพระสงฆ์.
ท่านทั้งหลายไม่พึงผูกอาฆาต
ขุ่นเคืองไม่พอใจในบุคคลเหล่านั้น.​

เพราะถ้าท่านทั้งหลายโกธรเคือง
หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตือนเรา
ติเตีอนพระธรรมหรือติเตียนพระสงฆ์นั้น,
อันตรายเพราะความโกธรเคืองนั้น
ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.​

ถ้าท่านทั้งหลาย โกธรเคือง
หรือไม่พอใจในบุคคลที่กล่าวติเตือนเรา
ติเตียนพระธรรม หรือติเตียนพระสงฆ์
จะรู้ได้ละหรือว่า คำกล่าวของคนเหล่าอื่นนั้น
เป็นคำกล่าวที่ดี (สุภาษิต)หรือไม่ดี (ทุพภาษิต)?
“ไม่ทราบ พระเจ้าข้า.” ​

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!
ท่านทั้งหลายพึงชี้แจง(คลี่คลาย)
เรื่องที่ไม่เป็นจริงให้เห็นว่าไม่เป็นจริง
ในข้อที่คนเหล่าอื่นติเตียนเรา
ติเตียนพระธรรมหรือติเตียนพระสฆ์
ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นไม่จริง ข้อนั้นไม่แท้
ข้อนั้นไม่มีในพวกเรา ข้อนั้นไม่ปรากฏในพวกเราดังนี้.” ​

พรหมชาลสูตร 9/3​

<O</O

“อย่าดีใจตื่นเต้นเมื่อใครชมเชยพระพุทธเจ้า” ​

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! คนเหล่าอื่นอาจกล่าวชมเชยเรา
ชมเชยพระธรรมหรือชมเชยพระสงฆ์.
ท่านทั้งหลายไม่พึงแสดงความชื่นชมโสมนัส
หรือความรู้สึกตื้นเต้นในบุคคลเหล่านั้น
เพราะถ้าท่านทั้งหลายมีความชื่นชมโสมนัส
มีความตื่นเต้นในบุคคลที่กล่าวชมเชยเรา
ชมเชยพระธรรม หรือชมเชยพระสงฆ์
อันตรายเพราะเหตุนั้น ก็จะพึงเป็นของท่านทั้งหลายเอง.​

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!
ท่านทั้งหลายพึงรับรอง
เรื่องที่เป็นจริงให้เห็นว่าเป็นจริง
ในข้อที่คนเหล่าอื่นเกล่าชมเชยเรา
ชมเชยพระธรรมหรือชมเชยพระสงฆ์
ให้เขาเห็นว่าข้อนั้นจริง ข้อนั้นแท้
ข้อนั้นมีในพวกเราข้อนั้นปรากฏในพวกเราดังนี้.” ​

พรหมชาลสูตร 9/4 ​

:z8:z8:z8:z8:z8

 

โลกมันบวม ก็รู้ตัวว่า โลกมันบวม
โลกมันบ้า ก็รู้ตัวว่า โลกมันบ้า
โลกมันปกติ ก็รู้ตัวว่า โลกมันปกติ

ถ้าหลุดจาก รู้ตัว ก็ หลงไปกับโลกนะสิ
ถ้ารู้ตัว ก็ยังได้อยู่ใกล้ความเป็นจริงของโลกนะสิ
ก็แล้วแต่ ศรัทธาและปฏิปทาของท่านแล้วกัน เราก็ยังบวมๆ บ้าๆ อยู่เลย
ไม่รู้ว่าเพราะเขาบ้า หรือเราบ้ากว่านะนี่ เฮ้อ...
ปกติ ของโลกธรรม คงต้องบ้าๆบวม มีเจริญก็มีเสื่อม มีขึ้นก็มีลง
ถ้าปกติ ของธรรม ของพระผู้หลุดพ้นจากโลกธรรม ก็ไม่มีเจริญและเสื่อม เป็นกลาง หรือหนอ...(ยังไม่รู้เหมือนกัน)

 

*** ไปให้ถึงที่สุด ****

รู้แล้ว ต้องพยายามตัดลดนิสัยนั้นให้ได้
ถ้ารู้แล้ว ผ่านไป นิสัยก็ไม่ลด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "