เทวดาประจำตัว

อย่าติดในสมมติดังนั้นเลย เราอาจเป็นคนถ่อยใจทราม แต่แสร้งใช้คำหวานก็ได้


หรืออีกวันหนึ่ง เราอาจแปลงนามแฝงใหม่ แล้วใช้สำนวนอักษรอย่างใหม่ก็ได้


ตัวตนเราแท้ คือนักเรียนธรรม เราไม่ใช่ผู้บรรลุธรรม


ขอเสริมใจความว่า บุญ จากการทำความดีใด ไม่ใช่เพียงการร่วมยินดี


ควรอย่างยิ่ง เป็นผู้ลงมือกระทำโดยเต็มใจ อย่ามองข้าม แม้เรื่องเล็ก

 

ถ้าผู้สนใจอยากรู้ว่าเทวดาประจำตัวคือใครมาจากไหน?

อ่านเรื่องแล้วรู้สึกว่าคล้ายๆ กับที่เคยประสบถามพระพระอาจารย์ธุดงค์ ท่านก็ไม่ตอบ ท่านบอกว่าไม่ทราบเพราะร่างที่เห็นเป็นพลังงานเรืองแสงเท่านั้น

พอดีไปเจอกับพระธุดงค์อีกองค์หนึ่งท่านก็จ้องหลายรอบเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าท่านก็ไม่เห็นเหมือนกัน เพราะโปร่งแสง..

พอดีเจอเพื่อนที่เป็นคนอินเดียมีพลังจิตสูงเขาก็บอกว่ามีพลังงานบางอย่างที่เขาสัมผัสได้อยู่ข้างๆ แต่มองไม่เห็น ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าเป็นอะไร แต่พอข้าพเจ้าเดินไปเดินมา พลังงานนี้ก็ติดตามตลอดทำให้เพื่อนมั่นใจว่าเป็นพลังงานที่ตามมาคุ้มครอง เพราะพลังงานที่สัมผัสเป็นพลังงานที่ดี

จนท้ายที่สุดแล้วก็ไปเจอ..ต้องเรียกว่าปรมาจารย์เลย..ท่านสามารถติดต่อกับเทวดาประจำตัวได้พร้อมสนทนากันทางจิต..
ท่านก็ถามตอบกับเทวดาประจำตัวแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรมากเพราะเทวดาท่านไม่ค่อยคุยด้วยค่ะ รู้แต่ว่าตามมาหลายชาติเหมือนกัน....ท่านบอกว่าต้องค้นหาด้วยตัวเองค่ะ ถึงเวลาก็จะรู้ได้ด้วยตนเอง

 

เรื่องสนุกดี แต่ความจริงก็คือ ไม่มีระบบ เทวดาประจำตัว ในสุคติ

ระบบการปกครองของเทวดาไม่เจาะจงคนใดคนหนึ่ง การดูแลโลกมนุษย์ใช้การแบ่งเป็นพื้นที่ จึงมีแต่เทวดาประจำเขตซึ่งคือระดับภุมมเทวาเท่านั้น และก็แทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของมนุษย์เลย หน้าที่หลักก็คือจดบัญชีบุญส่งต่อกันไปเป็นทอดไปยังเทวดาที่สูงกว่าจนถึงท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ซึ่งก็จะรวบรวมบัญชีบุญนำไปรายงานให้ท้าวสักกะเทวราชจอมเทพได้รับทราบในวันพระ 15 ค่ำ เทวดาในชั้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็จะมาชุมนุมเพื่ออนุโมทนา และจะปิติใจหากมนุษย์หมั่นทำบุญกุศลกันมาก แต่ถ้ามนุษย์ทำกุศลกันน้อย เทวดาก็จะสลดใจในความประมาทมัวเมาของมวลมนุษย์ การเกี่ยวข้องระหว่างมนุษย์กับเทวดาก็มีเพียงเท่านี้ ยกเว้นกรณีของมนุษย์บางคนเท่านั้นที่มีศีลบริสุทธิ์ มีธรรมประจำใจ หรือเป็นพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมี เทวดาก็อาจเข้ามาช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ได้มาเฝ้าประจำแก่คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ ส่วนคนทั่วไปที่ศีล 5 ไม่ค่อยจะครบ เทวดาไม่มายุ่งกับมนุษย์ให้เสียเวลาแต่อย่างใด

 

อย่ามั่นใจอะไรนักเลยสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาอาจไม่ถูกต้องเสมอไปก็ได้
ดีที่สุดให้รู้ได้ด้วยตนเอง
กำลังพยายามอยู่
แต่รู้สึกอยู่ว่ามีใครอยู่กับเราตลอดเหมือนกัน
แรกๆก็รู้สึกแปลก
แต่ตอนนี้ชินแล้วดีเหมือนกันจะได้มีเพื่อน
เสียอย่างเดียวยังสื่อกันไม่ได้มากนัก
เพราะฉนั้นเชื่อว่าเขาสามารถอยู่กับเราได้ตลอด
ท่านใดไม่เชื่อก็เรื่องของท่าน
คนเราไม่เหมื่อนกัน
อย่าคิดว่าจะต้องมีจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้อย่างเดียวกัน
ไม่มีอะไรที่แน่นอนจริงจังยิ่งกว่าเกิดมาต้องตายอีกแล้วล่ะ

 

ขออภัยผู้ที่ติดตามเรื่องนี้ทุกท่านนะครับ

พอดีว่าช่วงระยะหลังตั้งใจจะปฏิบัติ

เลยไม่ได้เข้ามานะครับ

เอาเป็นว่าถ้าท่านใดสงสัยเรื่องเทวดาประจำตัว

ฝากคำถามไว้ก็แล้วกันนะครับ

ช่วงนี้(คงจะ)ได้เข้ามาบ่อยน่ะครับ

 

ไม่ทราบว่าผมมีเทวดาประจําตัวไหมครับพี่คนไชยา

 

มนุษย์ทุกคน

ถ้าเป็นคนดีก็มีเทวดาประจะตัวครับ

ถ้าเป็นคนชั่วก็จะมีจำพวกมารมาประจำอยู่แทนครับ

ถ้าท่านอยากทำความเข้าใจให้ดีขึ้น

ท่านควรอ่านตั้งแต่หน้าแรกของกระทู้นี้เลยครับ

ถ้าท่านไม่เข้าใจผมจะอธิบายให้ครับ

 

1. เทวดาไม่มีเพศครับ
2. เวลาอยู่ในครรภ์มารดา จะมีวิญญาณขั้นต่ำมาสิงร่างอยู่ และถ้าเขามีบุญพอก็จะมีเทวดามาคอยอารักขาร่าง โดยที่บุญนั้นจะเป็นเจ้าของร่างที่แท้จริง เพราะฉะนั้นบางคนจึงไม่มีเทวดาประจำตัว แต่อาศัยบุญของตัวเอง ในขณะที่บางคนก็มีหลายองค์ครับ
ส่วนวิญญาณที่แท้จริงจะเข้าร่างเมื่อคลอดครับ
และสามารถเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆตามอายุและการพัฒนาทางธรรมของร่างครับ

 

อ่านไปอ่านมา งง เลย อนุโมทนาครับได้ความรู้เพิ่มมาอีกอย่างครับ

 

เอาเท่าที่รู้นะครับ.....เทวดา ประจำตน.....

๑. มี เพราะ เราปฎิบัติดี..ถึงระดับ ที่สมควรมี...ได้แก่ ดวงวิญญาณ มนุษย์ และสัตว์ ตามปกติ
๒. มี เพราะ เรามีหน้าที่ต้องชดใช้กรรม...ได้แก่ ..ดวงวิญญญาณ พระโพธิสัตว์ และ พระมหากษัตริย์ หรือ เทพชั้นสูง....อยู่ขาลง...
๓. มี เพราะ เรามีหน้าที่ในการสร้างบารมี ได้แก่ ดวงวิญญาณ ที่เหมือนกับ ข้อ ๒ แต่ อยู่ขาขึ้น...

....ทำอย่างไรจึงจะรู้...

๑. แม้ไม่รวย ก็ ไม่อับจน...เป็นคนมี ลางสังหรณ์ที่แม่นยำ...สามารถล่วงรู้ คุณธรรมของผู้อื่นได้ (รู้ว่า ใคร เป็นคนดี หรือ ไม่ดี)
๒. มีจิตใจเยือกเย็น....ใฝ่ในธรรม...เวลาสวดมนต์ นั่งสมาธิ มักได้กลิ่นหอม หรือ ธูปเทียน ตามลำดับชั้นเทพประจำตน...ที่สูงสุดจริงๆนั้น..คนอื่นๆจะมองไม่เห็นยกเว้น ตัวเรา ที่ท่านจะปรากฎให้เห็นตลอดเวลา ที่เราต้องการเห็น...ของท่านใด ก็ ท่านนั้น..ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน....
๓. มีพลังงานบวกล้นออกมานอกกาย.....เช่นรังสีต่างๆ
๔. เข้าใจในกฎแห่งกรรมดี....ไม่หลงใหลในเครื่องรางของขลัง หรือ มนต์ดำ
๕. สามารถ ตรวจสอบได้โดยพื้นดวงชะตา...ใช้กับ ดวงวิญญาณดวงใหญ่ เท่านั้น...และ
๖. เป็นบุคคลที่ หมอดู ทำนายไม่ค่อยถูก....
...ผม..ไม่ใช่หมอดู...กรุณา อย่า ถามว่า ดูดวงได้อย่างไรนะครับ...
๗. ศีลไม่ครบ มีเทวดา ประจำตนได้ ใหม?...ได้ หาก ความบกพร่องในศีลนั้น ทำไป เพื่อ ประโยชน์ ต่อตนเอง และ ผู้อื่น...และ เพื่อ ชำระใช้หนี้กรรมให้ทุเลาเบาบาง...แต่ท่านมักไม่มาหาเราบ่อยๆ จะให้ เทพองค์อื่นที่ใกล้ชิดภพภูมิมนุษย์ ดูแลแทน...

 

น่าสนใจค่ะ เราเองก็คิดอยู่เสมอนะว่าตัวเองมีเทวดาประจำตัว ปกป้องรักษาเราอยู่ บางครั้งอยู่คนเดียวจะได้กลิ่นหอม เป็นกลิ่นหอมที่หอมแบบอธิบายไม่ถูกนะ จะว่ากลิ่นดอกไม้ ก็ยังนึกไม่ออกเลยว่า ดอกไม้อะไร? ทำไมหอมแปลกๆ หอมรัญจวนมากขนาดนี้ บางครั้งก็ได้กลิ่นน้ำหอมอบ เหมือนคนโบราณเขาใช้กัน เป็นกลิ่นหอมๆแบบโบราณๆ กลิ่นหอมๆนี้จะได้กลิ่นเสมอค่ะ ยิ่งถ้าวันไหนวันพระนะ เราจะได้กลิ่นธูปล่วงหน้าก่อนสองวัน จะไปไหนก็ช่าง กลิ่นนั้นจะตามเสมอ ถ้าเข้าร้านค้าไปซื้อของ กลิ่นธูปก็จะยิ่งแรง เราก็รู้แล้วว่า ต้องเป็นวันพระแน่นอน พูดง่ายๆเราเชื่อนะว่า เทวดาประจำตัว ท่านมาเตือนค่ะ ว่าใกล้ถึงวันพระแล้ว เราไม่มีปฎิทินไทยก็เลยไม่รู้ว่า วันพระวันไหน ก็เลยอาศัยกลิ่นธูป หรือกลิ่นหอมๆ ที่ท่านมาเตือนแหละ เคยทดลองหลายครั้งแล้วนะว่า ตัวเองคิดไปหรือว่า เทวดาท่านมาเตือนกันแน่ พอได้กลิ่นธูป ก็โทรหาแม่ที่เมืองไทย ถามท่านว่า วันพระเมื่อไร ท่านบอกวันพระ ก็วันที่เราโทรถามนั้นแหละ ซึ่งก็ตรงทุกครั้ง ที่เราสงสัย ตั้งแต่นั้นมา เราก็เชื่อเลยว่า
ถ้าได้กลิ่นธูปหอมๆ เมื่อไรก็ใช่เลยวันพระใกล้เข้ามาเทวดาท่านมาเตือนเรา ให้สวดมนต์ ไหว้พระ ซึ่งเราทำเป็นประจำทุกวันพระค่ะ
และเราก็ไม่ลืมอุทิศผลบุญให้แก่เทวดาที่ปกปักรักษาเรา ลูก สามี พ่อแม่พี่น้อง และเทวดาที่ปกปักรักษาบ้านเราด้วยค่ะ เป็นความเชื่อของแต่ละคนนะค่ะ ..เพียงแค่อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ

 

ที่ผมอ่านหนังสือพระเล้มหนึ่นะครับ เห็นเค้าถ้าเทวดาประจำจากเราไป เราก็จะตาย จริงไหม

อะครับ ใครรู้ก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

 

บางคนก็ไม่ได้มีเทวดาประจำตัวนะครับ

ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะว่า

ภพภูมิก่อนหน้าที่จะมา เกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้

แตกต่างกันครับ

บางคน มาจากขุมนรก

บางคน มาจากสัมภเวสี พวกผีเร่ร่อน

บางคน มาจากพวกสัตว์นรก ที่โชคดีหน่อย โทษน้อยแล้วโมทนาบุญ แล้วจึงได้มาเกิด

บางคน มาจาก สวรรค์ชั้น ต่าง ๆ แตกต่างกันไป

บางคน มาจาก ชั้นพรหม ต่าง ๆ ชั้น แตกกต่างกันไป

บางคน มาจากฟากฟ้าที่ไกลโพ้น ลงมาจากที่สูง ลงมาเพื่อสร้างบารมี

เป็นต้นว่า เคยปรารถนาเอาไว้ เลยต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ให้เต็มแล้วจึงกลับขึ้นไปใหม่

เช่น พระอริยะเจ้าทั้งหลายทุกๆชั้นก็ดี สมเด็จพระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี พระโพธิสัตว์ก็ดีเป็นต้น

ดั้งนั้นแล้ว ภพภูมิที่เราจากมาแต่ก่อน บ่งบอกโดยอัตโนมัติอยู่แล้วว่า

เทวดาประจำตัวจึงไม่ได้มีกันทุกคน ตามที่เข้าใจ

คือ ผมหมายความว่า ภพภูมิที่ได้จากมานั้น บ่งบอกถึงเทวดาและเทพประจำตัวที่ต่างกัน

ของในแต่ละบุคคล!

เพราะว่า เทวดาบางองค์ก็ไม่ได้ตกนรกไปกับเราด้วยนะ

ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมพวกนักการเมืองถึงมียศตำแหน่งใหญ่โต

โกงกิน คอรับชั่น ฉ้อฉล ฯลฯ

ก็เพราะ เทวดาบางพวกเขาส่งเสริมคนชั่ว ซึ่งยุคนี้มากมายจริงๆ

ที่พูดอย่างนี้ คือ ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ให้ฟัง

ถ้าเราดื่มเหล้า เมาสุรา เทวดาที่ดื่มเหล้า เมาสุราก็จะมาอยู่กับเราด้วย

ถ้าเราเล่นพนัน แทงบ่อน ฯลฯ เทวดาที่เล่นพนันก็จะมาอยู่กับเราด้วย

แต่ถ้าเราเข้าวัด รักษาศีล สวดมนต์ ภาวนา เทวดาที่เขาชอบทางนี้

เขาก็จะมาอยู่กับเราด้วย แล้วทำแบบเดียวกับที่เราทำ

เทวดาบางองค์มาอยู่กับเรา เพื่อต้องการอาศัยผลบุญที่เราทำไว้ในชาตินี้

เพื่อต่ออายุให้กับตัวเขาเอง มันก็มี

ฉะนั้น เราต้องระวัง คิดง่าย ๆ ว่า เหมือนกับเราคบเพื่อน เราก็จะต้องเลือกคบ!

ถ้าจะถามว่า เทวดาที่ดีๆ มีไหม

มีครับ แต่ไม่ได้มีกันทุกคน ตามที่เข้าใจ

บางคนมีเทพกายทิพย์อยู่ติดตามตัว แต่เขาไมให้เราเห็น ก็มี

ส่วนจะมาจากที่สูง หรือมาจากที่ต่ำ ก็ต้องดูกันอีกทีหนึ่ง

อีกกรณีนึง ก็คือ บาปกรรม เวรกรรมที่คุณเคยทำเข้าไว้

เขาตามมาถึงชาตินี้ มาอยู่ใกล้ๆ ตัวคุณ มันก็มี

แต่นี่ยังไม่นับที่เขา ทบต้น ทบดอก คิดดอกเบี้ยเพิ่มไปยังอีกภพหน้านะ

เรื่องนี้ก็ เป็นอีกเรื่องนึง

ก็แค่เล่าสู่กันฟัง

 

ขนาดตัวเรายังไม่ใช่เรา แล้วเทวดาประจำตัว จะมีอยู่ฤา พิจารณา

 

ทำอย่างไรถึงจะรู้ว่ามีเทวดาประจำตัวและรู้ท่านเป็นใครครับ

 

เทวดาประจำตัวเหรอ เจ้ากรรมนายเวร ผีตายโหงตายห่า พ่อมหาจำเริญที่ไหน หรือจะเป็นใครก็ช่างเถอะ
ถ้าต้องติดตามฉันไป แบบปาปาราซซี่เนี่ยนะ

อึดอัดแย่ ต้องขาดความเป็นส่วนตัวแน่เลย (กลายเป็นส่วนรวมแทน)
ความเห็นส่วนตัวนะ ไม่เห็นจะอยากมี
คือเกรงใจน่ะ
คิดว่าถ้าตามเราไปนะ คงเบื่อแย่ไปเลย
ก็คนที่เคยอยู่กับเรา แทบเป็นบ้าไปก็หลายคน

ฮึๆๆ
อย่าตามมานะ
แล้วอย่าหาว่าไม่เตือน

เอ๊ะ รึน่าจะเป็นพ่อกับแม่เรานะที่เป็นเทวดาประจำตัวเรา
เพราะปกป้องรักและดูแลตลอด

 

ไม่เชื่อ

กรุณา

อย่าลบหลู่

 

.....คนดี...เวลาจะตาย...ยมทูต จะมารับ โดยยืนอยู่ทางปลายเท้าของผู้ตาย....

...คนเลว...เวลาจะตาย...ยมทูต จะมารับ โดยยืนอยู่ทาง ศีรษะ ของผุ้ตาย....

...คนที่มี เทพยาดา คุ้มครอง...เวลาจะตาย...มักสะสางเรื่องราวต่างๆได้เรียบร้อย และ รู้ตัวล่วงหน้า...อาการตาย มัก เป็นไปโดยสงบ ไม่มี ทุกขเวทนามาก...เป็นเหตุให้เข้า ถึง สุขคติ โดยง่าย...ถึงตอนนี้ จะมีหรือ ไม่มี เทวดา...ก็ ไปดี กันทุกท่านนั่นแหล่ะครับ..ว่า ที่จริง ...ผม ยังเชื่อนะว่า..เทวดาท่านอยู่กับ คนดีเสมอ...แม้ ตราบ ลมหายใจสุดท้าย.....

..เทวดา ท่านไม่ได้ มาอยู่กับเรา แบบ เงาติดตามตัว...แต่ท่านมาคุ้มครองรักษาเรา...ก็ เท่านั้น....ภพภูมิ มนุษย์ ..ก็ ไม่มี อะไร ที่ดีไปกว่า สภาพที่เป็นทิพย์ อยู่แล้ว....เทวดาที่ใหน ท่านอยากจะอยู่ กับ มนุษย์ ในทุกที่เล่า?...ใครที่คิดว่า ตนเอง ดีกว่า เทวดา...ก็ เป็นเรื่อง ของเขา.......ดูแล ตนเอง ให้ดี ก็แล้วกัน.....ย้ำอีกที ก็ได้ว่า...คนดี..ไม่ว่า จะมีภูมิหลัง มาจาก ที่สูง หรือ ต่ำอย่างไร...ย่อมมีเทวดารักษาคุ้มครองอยู่เสมอ..จะ เรียกว่า บุญรักษา ก็ คงได้ กระมัง....ทุกอย่าง จึง ขึ้นอยู่กับ บุญบารมี......

ปล. ผม นับถือ ท่านยมทูต เเบบ เทวทูต เลย ต้อง มาแก้ไข ข้อความใหม่ เพราะ กลัวจะไม่เหมือนคตินิยม ทั่วๆไป...

 

ผมติดต่อกับโลกทิพย์ ไม่ได้ แต่ฝันแม่น และรู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นกับตนเองในอนาคตด้วยการสังเกตความรู้สึกมันจะบอกเองมันว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่เกิน 7วัน ซึ่งมันก็เป็นจริงทำให้เราหาทางป้องกันเอาไว้แต่บางครั้งเอาไม่อยู่เกิดขึ้นจนได้..อาการอย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรดี