ทำบุญไม่หวังสิ่งตอบแทน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ยม๑, 15 เมษายน 2009.

  1. ยม๑

    ยม๑ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +4
    อยากทราบว่าทำบุญไม่หวังสิ่งตอบแทนคือแบบไหนครับ
    เช่น ผมทำบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร อย่างนี้ผมหวังสิ่งตอบแทนหรือไม่ครับ
    หรือ ทำบุญแล้วขอให้สิ่งศักสิทธิ์คุ้มครองอย่างนี้หวังสิ่งตอบแทนหรือไม่ครับ
    และขอคำแนะนำการทำบุญไม่หวังสิ่งตอบแทนด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  2. กล้าแก้ว

    กล้าแก้ว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +81
    ตามที่ผู้เขียนทราบมานะคะ...

    การทำความดี ทำบุญ ที่หวังผลตอบแทน คือ

    การทำบุญโดยมีเจตนาจะหาผลประโยชน์จากการทำบุญนั้น เช่น

    การบริจาคเงินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง หรือ การทำบุญเอาหน้านั่นเอง(ต้องมีเจตนาประกอบด้วยนะ)

    หรือ การออกเงินช่วยสร้างเสนาสนะให้วัด โดยมีเงื่อนไขว่า จะขอรับปัจจัยจากงานกฐิน/ผ้าป่า/งานฉลองต่างๆของทางวัด

    ซึ่งเท่าที่ทราบมาเจ้าภาพผู้ใจบุญ(หรือเปล่า???)ได้กำไรอื้อเลย

    สำหรับที่คุณยม๑ เล่าว่า ทำบุญแล้วอุทิศให้กับผู้ที่เราไปล่วงเกิน เบียดเบียนไว้นั้น จัดว่าเป็นการอุทิศส่วนบุญกุศลค่ะ (จัดเป็น ๑ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ข้อปัตติทานมัย) ซึ่งเป็น ๑ ในวิธีการทำบุญค่ะ (ได้บุญเพิ่ม)

    สำหรับการขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองนั้น ไม่จัดว่า เป็นการหวังผลตอบแทนค่ะ จัดเป็นการอธิษฐานจิต

    การอธิษฐานจิตหลังการทำบุญนั้น เท่ากับ เป็นการวางแผนการใช้บุญที่เกิดขึ้นนั้นเพื่อเป้าหมายที่อธิษฐาน

    เหมือนเราวางแผนไว้ว่า เงินเดือนที่กำลังจะออกของเดือนนี้เราจะเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง

    เวลาเราทำบุญยังไงมันก็ต้องได้บุญอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่อธิษจิตคือวางแผนการใช้บุญเอาไว้ให้ถูกวิธี

    เราก็อาจดำเนินชีวิตผิดพลาดได้ เหมือนคนที่ไม่รู้จักวางแผนการใช้เงิน แม้จะไม่จน แต่ก็จะไม่รวยขึ้นเป็นต้น ฯลฯ

    เหตุนี้ การอธิษฐานจิต(วางแผนการใช้บุญของตน/ทำชีวิตให้มีเป้าหมาย) จึงเป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศน์ที่เปลี่ยนคนธรรมดา ให้กลายเป็นพระพุทธเจ้า ,พระอรหันต์, พระเจ้าจักรพรรดิได้ นั่นเพราะมีการแผนการใช้บุญ(อธิษฐานจิต)อย่างถูกวิธีนั่นเอง

    ฯลฯ

    อ้างอิงบทความจาก http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=19217
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2009
  3. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ทาน แปลว่า ให้

    ถ้าให้แปลว่า ไม่เอา

    ไม่เอาแม้แต่บุญบารมี นี้ละเรียกว่าทำบุญไม่หวังสิ่งตอบแทน<!-- google_ad_section_end -->

    หากจ้องเอาบุญบารมี ก็เป็นตัณหาในบุญบารมี เป็นกิเลสซ้อนบุญบารมี

    ไม่ตรงต่อสัจจะธรรมแห่งความไม่ยึดมั่น

    ที่แม้แต่บุญบารมีก็เป็นของยึดเอาไม่ได้

    การให้นั่น ได้บุญบารมีตามธรรมดาของกฏแห่งกรรม

    เพียงอย่ามีเรา ไปซ้อนเข้าเป็นอัตตาในบุญบารมี เป็นอุปทานในบุญบารมี เป็นตัวตนในบุญบารมี

    หากมีเราไปซ้อนเข้ากับบุญบารมี

    ทีนี้ก็ตามใช้กรรมกัน สาละวนกันในแต่สวรรค์ แต่พรหม แต่มนุษย์

    ไม่ได้จบจริงตามองค์พุทธะพระอรหันต์

    องค์พุทธะพระอรหันต์ ที่ท่านจบ จบโดยแจ้งในสัจจะธรรมแห่งความไม่ยึดมั่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2009
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    อนุโมทนาครับ เข้ามาอ่านจ้า เเต่ยังไง จขกท ก็ทําดีอยู่เเล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ทําดียังไงย่อมได้ดีเเน่นอน เเม้เราไ่ม่ขอท่าน ท่านก็จะให้เราเเน่นอน ไม่ช้าก็เร็วครับ
     
  5. เหมันต์

    เหมันต์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    อยู่ที่ใจครับ ถ้าคิดว่าทำแล้ว ให้ขาด ไม่เศร้าหมอง ไม่หดหู่ ไม่มีความอยาก เจตนา จะเป็นตัวกำหนด

    และดูที่ใจ ถ้าใจว่างๆ สบายๆ มีความยินดี ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ ก็ใช่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...