ประสบการณ์การปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แบบอานาปานสติ

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย chonatad, 6 พฤษภาคม 2009.

  1. chonatad

    chonatad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +372
    ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่สนใจครับ
    VIPASSANA MEDITATION WEBSITE
     
  2. chingchamp

    chingchamp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    788
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +503
    สถานที่ สัปปายะ น่าปฎิบัติธรรมมากๆเลยครับ

    ขออนุโมทนาสาธุ.......
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อ นุ โ ม ท น า สา ธุ

    คุณหนุ่ย อย่าทิ้งการปฎิบัตินะครับ ทำต่อไปเรื่อย ๆ ... ทำได้ดีแล้ว


    .
     
  4. chonatad

    chonatad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +372
    ขอบคุณครับ คุณปอ ตั้งใจจะปฎิบัติต่อไปครับ ในการปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มันทำให้เข้าถึงความสงบของจิตอย่างแท้จริง สามารถขจัดกิเลสส่วนลึกของจิตใจได้ การปฎิบัติบ่อยๆเหมือนเรา "ผ่าตัดจิตใจ" ซ่อมแซมส่วนที่ไม่ดีออก ตอนนี้ก็พยายามนั่งให้ได้ 1 ชั่วโมง ทุกวัน แต่หลังจากที่กลับมาได้เกือบ 2 อาทิตย์ ยังทำไม่เต็มที่ครับ เพราะหวัดเล่นงาน วันนี้ก็ยังมีไออยู่เลย คุณปอคงอ่านละเอียดแล้วนะครับ ว่าการที่ใจเราเป็น "อุเบกขา" จะลดภพภูมิของเราได้ด้วยครับ "เมื่อใดที่ใจของเราเป็นอุเบกขา เท่ากับเราประสบความสำเร็จ" การปฎิบัติก็เพื่อสิ่งนี้เองครับ จริงๆแล้วอยากนั่งวันละ 2 ชั่วโมง รอให้สุขภาพดีๆกว่านี้ก่อนครับ
     
  5. O.K.

    O.K. สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ด้วยกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนา และทุกลัทธิการเมืองตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวพระสยามเทวาธิราชมาคุยด้วย ขันธปริตร ในหลวง ร.๙ มรดกโลกอันล้ำค่า ความเป็นมาของรัชกาลที่ ๑๐ ไปเที่ยวเขาพระสุเมรมา ฟังวิทยุอยู่ อยู่ๆก็มีแสงพุ่งออกมาจากวิทยุ ในหลวง ร.๙ เคยเกิดเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ อากงอาม่าหนีร้อนอพยพมาจากแผ่นดินจีน คำพยากรณ์ดวงเมืองไทย ปี พ.ศ.๒๕๕๒ วัชพืชของประเทศไทย ความเป็นไทยย่อมถึงกาลวิบัติไปถ้าเข้าไปใกล้ส่วนสุด ๒อย่างนี้ พระโพธิสัตว์ประจำรัชกาลที่ ๙ มารักษาประเทศไทย
    เล่าเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของแก้วนารายณ์
    กำเนิดแก้วนารายณ์ เจออาจารย์ใหญ่พระกรรมฐาน ทะเลาะกับองค์ใน พุทธานุสติชินบัญชร ฝันว่าในหลวง ร.๙ พระราชินี ทรงมีพระเมตตาเสด็จมาหา พระเจ้าตากสินมหาราชทรงออกรบ ถอดจิตจากอารมณ์พระโสดาบัน พิจารณาเวทนาในเวทนา ถอดจิตจากอารมณ์พระอานาคามี พิจารณาจิตในจิต ถอดจิตจากอารมณ์พระอรหันต์ พิจารณาธรรมในธรรม โดนผีอำกดหน้าอกจนขาดใจตาย กินยาผิดเกินขนาดขาดใจตาย การแก้กรรมที่เหลือเชื่อ ถูกวางยาใจสั่นจนขาดใจ วิ่งหนีตายสุดๆที่สุดในชีวิต ลอยคอกลางทะเลนึกว่าตายแน่ ผมเป็นพระโสดาบัน มาแทนเจ้าที่คนเก่า กระผมเป็นพระอานาคามี จะขอตายแทนท่านเองขอรับ โดนผีหลอก วิ่งเข้ามาทางเท้าทั้ง ๒ ข้าง รบกับขอม ฟันแทงไม่เข้า ถอดจิตออดจากความโกรธ จิตหลุดออกไปจากความยินดีดีใจสุดขีด จิตหลุดเข้าไปในปาก โดนค้างคาวนับไม่ถ้วนบินชนนานหลายนาที ได้ยินเสียงพระท่านมาบอกว่า จะมีสาวคอมมิวนิสต์มาหา โดนผีสาวงามเมืองตามอาฆาตพยาบาท นางอารตี พระสนมในหลวง ร.๗ หลวงปู่ครูบาธรรมชัย เรียกไปฉันเพลด้วย เดินจงกรมฉบับสมบูรณ์ เดินถอยหลังชนกับพระเทพฯ หลวงพ่อพระครูปัญญาโสภิต วัดสร้อยทอง รับเป็นลูก เจ้าประคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำจับหัวผม มีต่อเรื่อยๆ
     
  6. chonatad

    chonatad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +372
    มีข่าวมาแจ้งสำหรับท่านที่สนใจไปปฎิบัติธรรมครับ

    สำหรับหลักสูตร 10 วัน เริ่ม วันพุธ 3 มิ.ย. - วันอาทิตย์ 14 มิ.ย. พ.ศ. 2552

    ได้เปิดศูนย์ปฎิบัติทั้งหมด 3 ศูนย์ด้วยกันครับ

    1.) ศูนย์ธรรมกาญจนา (กาญจน์บุรี) รับเฉพาะฆราวาส

    2.) ศูนย์ธรรมกมลา (ปราจีนบุรี) รับ ฆราวาส , พระ , นักบวช

    3.) ศูนย์ธรรมสุวรรณ (ขอนแก่น) รับ ฆราวาส , พระ , นักบวช

    สำหรับผุ้ที่ไปปฎิบัตินั้นรับรับอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีครับ

    ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ.....

    VIPASSANA MEDITATION WEBSITE

    ถ้าคิวในวัน และ เวลา ดังกล่าวเต็มแล้ว ก็ให้ดูวันเวลาใหม่ในวันถัดไป โดย คลิ๊ก ที่.. ตารางการอบรม และต้องจองคิวอย่างน้อยภายใน 1 เดือน *--* 2 เดือนครับ..ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2009
  7. เสาร์ ๕

    เสาร์ ๕ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ถอดจิตออดจากความโกรธ
    แก้วนารายณ์:-แรกตอนเริ่มปฏิบัติธรรมตามสมควรนั้น เวลาความโกรมเกิดขึ้นก็จะลืมตัวเสียเป็นส่วนใหญ่ มารู้ตัวว่าโกรธเวลาก็ผ่านไปเป็นวัน ด้วยผลบุญจากการรู้ตัวนี้ จิตก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จนเหลือเป็นชั่วโมง นาที และแค่วินาที ตามลำดับ คล้ายกับเวลาที่เรารักษาศีลยังไงอย่างนั้น สุดท้ายก็สามารถระงับจิตรู้ทันไม่เผลอไปตบยุง เป็นต้น พอสามารถระงับความโกรธได้ทันทีทันใด ก็คิดว่าเราบรรลุพระนิพพานแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งความคิดมันขัดกันเอง เมื่อขณะพิจารณาขันธ์ ๕ ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตนของเรา งั้น! ความไม่โกรธตัวนี้ก็ไม่ใช่ตัวตนของเราน่ะสิ! ปกติเราก็ไม่ได้มีความโกรธตลอดเวลาอยู่แล้ว ไปดูในจิตตานุปัสสนา ที่ว่า จิตมีความโกรธก็รู้อยู่ จิตไม่มีความโกรธก็รู้อยู่ว่าจิตของเรามีความโกรธ หรือไม่มีความโกรธ ทั้ง ๒ ตัวนี้มันไม่เที่ยงย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนไปเสื่อมไปเป็นของธรรมดา เมื่อไม่เที่ยงก็เป็นทุกข์ เมื่อเป็นทุกข์ก็เป็นอนัตตา ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวตนของเรา แต่พิจารณาไปเท่าไหร่ก็ไม่เห็นว่าจะบรรลุพระนิพพานเลย อย่างมากก็แค่รู้ทันความโกรธและความไม่โกรธเท่านั้นเอง แต่ก็ยังดีที่ไม่สร้างความเสียหายเมื่อความโกรธเกิดขึ้นแล้ว เพราะสามารถระงับได้ทันท่วงที ต่อมาก็คิดว่าในเมื่อร่างกายของเรานี้ มันสกปรกเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนองต่างๆนานาไม่ใช่ตัวตนของเราซะหน่อย ใยเลยเราถึงจะมาทำให้ร่างกายสอาดบริสุทธิ์ปราศจากกิเลสอีกเล่า ที่ผ่านมาแสดงว่าปัญญาของเรานี้ยังไม่คมพอที่จะตัดกิเลสเป็นสมุทเฉทประหารได้ จีงเข้าฌาน ๔ หยาบใช้งาน ถอดจิตที่ประกอบไปด้วยสติระลึกรู้ สมาธิฌาน ๔ ออกจากร่างกาย และความโกรธ ถอยจิตลงมาที่ฌาน ๔ ซ้อนฌาน ๑ พิจารณาว่าความโกรธไม่ใช่ตัวตนของเรา ก็เกิดปัญญาญาณสว่างไสวไปทั้งจักรวาล ว่าความโกรธตัวนี้มันอยู่กับร่างกายขันธ์ ๕ มันไม่หายไปจากขันธ์ ๕ ตัวนี้หรอก แต่เราพยายามจะทำให้ความโกรธให้มันหมดไปจากขันธ์ ๕ พยายามจะทำให้ขันธ์ ๕ บริสุทธิ์ผุดผ่องนี่เอง ถึงไม่รู้แจ้งพระนิพพานเสียที ปัญญาที่คมกริบมิใช่ปัญญาของมนุษย์แม้จะฉลาดปราดเปรื่องที่สุดในทางโลก ก็ไม่มีทางจะตัดกิเลสเป็นสมุทเฉทประหารได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ปัญญายังไม่คมพอที่จะบรรลุซึ่งพระนิพพานได้นั่นเอง เพราะฌาน ๔ นี่เอง ที่เป็นประตูไปสู่ปัญญาอันคมกริบที่ทำให้สามารถจะตัดกิเลสเป็นสมุทเฉทประหารได้ ถ้าไม่มีฌาน ๔ ถ้าไม่สามารถถอดจิตออกจากความโกรธ ก็จะไม่มีทางจะตัดความโกรธได้เลย อย่างมากก็แค่ระงับความโกรธเพื่อไม่ให้ทำความชั่วเท่านั้นเอง เมื่อจิตเปลี่ยนไปเป็นความไม่โกรธ ก็คิดว่าขันธ์ ๕ เราบริสุทธิ์แล้ว ที่แท้ความไม่โกรธตัวนี้มันเป็นโมหะ ความหลงนั่นเอง ก็เข้าฌาน ๔ ออกจากความไม่โกรธอีกที แล้วถอยลงมาที่ฌาน ๔ หยาบใช้งาน ซ้อนฌานที่ ๑ พิจารณาว่าแม้ความไม่โกรธนี้ก็ไม่ใช่ตัวตนของเรา ถึงตรงนี้ คิดว่าเราบรรลุพระอรหันต์แล้วๆๆๆ เพราะเราสามารถถอดจิตผู้รู้ออกจากขันธ์ ๕ แล้วฆ่ามันด้วยปัญญาอันยิ่งเหนือปัญญาของมนุษย์ แต่ก็ไม่เห็นมีญาณหยั่งรู้ที่วิเศษวิโสอะไรเกิดขึ้นเลย จิตก็โพล่งขึ้นมาว่า อ๋อ! จิต คือ สติผู้รู้ สมาธิฌาน ๔ และปัญญาพิจารณาไตรลักษณ์ นี้ก็เป็นขันธ์ ๕ นี่หว่า! เราเพียงอาศัยความรู้บารมีที่ศึกษาปฏิบัติสร้างสมบารมีมาจนเต็มนี้เพื่อละตัวเอง ก็เกิดความสว่างไสว หาตัวตนไม่เจอต่อไป
    ก็มาทบทวนว่าตัวเราอยู่ตรงไหน ก็เห็นได้ในทันใดนั้นว่า ตัวเราคือพระนิพพาน อยู่ที่เห็นว่าอะไรๆก็ขันธ์ ๕ ทั้งนั้น ตัวของเราก็คือขันธ์ ๕ นั่นเอง​
     

แชร์หน้านี้

Loading...