แห่กินจักจั่นมีเขา หามส่งรพ.ระนาว

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 13 มิถุนายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    กินไม่ได้ - จักจั่นมีเขาหรือว่านจักจั่น ที่ชาวบ้าน จ.ร้อยเอ็ด นำไปกินเพราะเชื่อว่าจะรักษาโรคได้ ปรากฏว่าหลายคนกินแล้วอาเจียนท้องร่วง จนสสจ.ร้อยเอ็ด ต้องเตือนอันตราย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ชาวบ้านเจอดี "ว่านจักจั่น" ที่ร้อยเอ็ด หลังยกโขยงแห่ขุดต้มกินสดๆ ซดน้ำ เชื่อร่าง กายแข็งแรงล่าสุดพ่นพิษแล้ว หลังกิน 3-4 ชั่วโมง ถึงกับหน้ามืด อ้วกแตก ท้องร่วงรุนแรง หามส่งร.พ. ระนาว "สธ.ร้อยเอ็ด" ชี้ตัวว่านฝังดินมาหลายปี ดูดซับสารเคมีหรือแร่ธาตุไว้มาก อาจมีสารพิษเจือปน ทางที่ดีไม่ควรกิน

    จากกรณีมีชาวบ้านจากหลายอำเภอในจ.ร้อย เอ็ด และจังหวัดข้างเคียง เช่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม แห่กันไปที่ป่าบ้านเหล่าตำแย ต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อขุดหาจักจั่นมีเขา คล้ายรากไม้งอกออกมา เรียกว่า ว่านจักจั่น และจับได้กันเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคล ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

    ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายอภิเชษฐ์ สังวิบุตร นายกอบต.สีแก้ว ว่า มีชาวบ้านหลายราย นำเอาจักจั่นมีเขาที่จับได้มาต้มกิน บางรายก็กินดิบๆ เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ จนเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน ท้องร่วง ต้องนำส่งร.พ. จึงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงหมู่บ้าน พบนายบุญโฮม ยาวะรักษ์ อายุ 40 ปี และเป็นสมาชิกอบต.หมู่ 4 นอนซมอยู่หลังกลับจากร.พ.ร้อยเอ็ด นายบุญโฮม ยอมรับว่า กินว่านจักจั่นสดๆ เข้าไป เพราะคิดว่าเป็นของมงคล จะทำให้ร่างกายดีขึ้น แต่พอกินไปได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เกิดอาการหน้ามืด คลื่นเหียน อาเจียน และท้องร่วงอย่างแรง จนญาติต้องนำส่งร.พ. แพทย์ให้ยารับประทานอาการดีขึ้นจึงกลับมาพักผ่อนที่บ้าน

    นายบุญโฮมกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีนายมานะ ขันธิรัตน์ อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่นำเอาว่านจักจั่นจำนวน 2 ตัวต้มน้ำกิน หลังกินน้ำต้มจนหมดก็กินตัวว่านตาม หลังกินเสร็จเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง ก็เกิดอาการในลักษณะเดียว กัน ญาติต้องนำส่งร.พ. แต่ตอนนี้กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว และอีกรายคือนายจู เพ็งรัตน์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกัน กินว่านดิบๆ เกิดอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ ส่วนที่หมู่บ้านอื่นก็ทราบว่ามีหลายคนกินว่านจักจั่นเข้าไป เกิดอาการ ในลักษณะเดียวกันต้องเข้าทั้งสถานีอนามัยและร.พ.ใกล้เคียง

    น.พ.ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เท่าที่ทราบว่านจักจั่นดังกล่าวชาวบ้านเชื่อว่าเป็นของมงคล ต่างแสวงหาเอามาไว้กิน แต่ควรศึกษาให้ดีเสียก่อน เพราะจักจั่นมีเขาหรือว่านจักจั่นฝังตัวอยู่ในดินเป็นเวลาหลายปี อาจดูดซับสารเคมีหรือแร่ธาตุต่างๆ เก็บไว้ในตัว และอาจมีสารมีพิษเจือปน เมื่อรับประทานเข้าไปทำให้เกิดอันตรายได้ ทางที่ดีไม่ควรนำมารับประทาน ไม่ว่าจะต้มหรือกินสดๆ
    ˹ѧ
     
  2. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    ตามความเชื่อที่เล่าขาน ว่านจักจั่นคือพืชที่จัดอยู่ในประเภทกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ต้นอยู่บนดินส่วนรากที่อยู่ใต้ดินนั้นกลับมีรูปร่างลักษณะเหมือนตัวจั๊กจั่นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหัว ลูกตา ลำตัว และขา แม้กระทั่งกลิ่น แถมวันดีคืนดียังจะมีเสียงจั๊กจั่นร้องดังขึ้นมาจากใต้ดินอีกเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    ว่านชนิดนี้พบเจอได้ยากยิ่งเพราะมีเทพดารักษา พระธุดงค์ที่เข้าไปปฏิบัติธรรมในป่าลึกแดนอาถรรพ์เล่าว่า ว่านจักจั่นเป็นพืชวิเศษมหัศจรรย์ มีเจตสิก มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เฝ้ารักษาอยู่ ถ้าไม่ต้องการให้ผู้ใดพบเห็นก็อย่าหวังเลยที่จะได้พบเจอ เพราะรุกขเทวดาจะบังตาไว้ไม่ให้ใครพบเห็น

    อานุภาพดีเด่นทางด้านโชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เมตตา แคล้วคลาดเตือนภัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2009
  3. paislam

    paislam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +146
    ชอบทานของแปลกก็ต้องเจอแบบนี้ละหนอ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  4. kosabunyo

    kosabunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +1,045
    เอาไว้บูชา ป็น ธรรมมะดีกว่า
     
  5. คนวัด

    คนวัด สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +13
    ของที่กินได้มีประโยชน์ก็ไม่กินกัน เช่นน้ำข้าวกล้องโอท็อป.ชอบกินแปลกๆก็อย่างนี้แหละ
     
  6. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    ไม่เคยรู้จักมาก่อน แปลกมากเหมือนแมลงมีเขา
     
  7. mkc

    mkc สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    แถวบ้านผมเค้าบูชากันที่ 89 มีวางให้เช่า
     
  8. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,842
    คล้านสมุนไพรจีน ตงฉงเซี่ยเฉ่า เลย
     
  9. bobbythegreat

    bobbythegreat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +19
    กราบขอบคุณหลวงพีที่เมตตาให้ความรู้ขอรับ
    เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมพึ่งได้มา2หัว จากจ.เลยครับ
    ผมเลยเก็บไว้ที่หิ้งพระ
    รู้เพียงแต่ว่า หลวงพ่อท่านแผ่เมตตาไว้ให้บุญรักษา
     
  10. ผู้หญิงธรรมดา

    ผู้หญิงธรรมดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +535
    ไม่ออกความคิดเห็นดีฟ่า
     
  11. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    (เพิ่มเติมรายละเอียดค่ะ ^_^)
    ชาวบ้านแห่เข้าป่า ขุดว่านจักจั่น เจออีกที่ร้อยเอ็ด


    [​IMG]


    ชาวบ้านจากหลายอำเภอ หลายจังหวัดแห่ขุดค้นหาเอาตัว "พญาจักจั่น" หรือ "จักจั่นจำศีล" ขึ้นมาขายสร้างรายได้งาม แน่นบริเวณ "ป่าดอนจันหนัน" เมืองร้อยเอ็ด ก่อนหน้านี้ก็เคยเจอที่อ. หนองหาน อ.น้ำโสมจ. อุดรฯ มาแล้ว...

    ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (9 มิ.ย.) ว่า นายบุญศรี อินทร์อุ่นโชติ กำนัน ต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด เข้าสังเกตการณ์ชาวบ้านจากหลายอำเภอและหลายจังหวัด ที่พากันแห่เข้าไปขุดค้นหา “ว่านพญาจักจั่น” หรือ “จักจั่นจำศีล”ในบริเวณ “ป่าดอนจันหนัน” ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1 ตารางกิโลเมตร อยู่ท้ายบ้านเหล่าตำแยต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด

    เมื่อไปถึง พบทั้งพ่อค้าคนกลาง และผู้ชอบสะสมของเก่า และวัตถุมงคล จากหลายจังหวัดเดินทางไปรับซื้อ ว่านพญาจักจั่นที่ชาวบ้านขุดขึ้นมาขาย สร้างรายได้จำนวนมากให้ชาวบ้านเป็นเวลา 3 วันมาแล้ว เพราะจักจั่นตัวที่มีชีวิตขนาดใหญ่ ขายได้ตัวละ 3 บาท ถึง 5 บาท ซึ่งชาวบ้านซื้อไปทำอาหารที่นิยมกันมากคือทำอาหารประเภทยำจักจั่นกับมะม่วงดิบ แต่เมื่อขุดเอาว่านพญาจักจั่นขึ้นมาขาย สามารถขายได้ในบริเวณที่ขุดพบ ราคาตัวละ 100 บาท เป็นอย่างต่ำ อย่างสูงถึงตัวละ 1,000 บาท

    ด้านนายบุญศรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. มีชาวบ้านจำนวนมากจาก จ.กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร และจากหลายอำเภอใน จ.ร้อยเอ็ด พากันนั่งรถกระบะ จักรยานยนต์ นำเสียมบุกเข้าไปในบริเวณป่า “ดอนจันหนัน” เพื่อเข้าไปขุดค้นหาตัวจักจั่นซึ่งตายแล้ว แต่จมอยู่ใต้ผิวดิน ซึ่งเป็นดินร่วนและชื้น มีกิ่งคล้ายรากไม้ชนิดหนึ่ง สีขาวนวล งอกออกจากตัวจักจั่นยาวแทงทะลุขึ้นมาเหนือผิวดิน ชาวอีสานบางคนเรียกว่า "พญาจักจั่น" บางคนเรียกว่า "จักจั่นจำศีล" ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านที่ชอบสะสมของแปลก และสะสมวัตถุมงคลจากจังหวัดใกล้เคียงทั้งร้อยเอ็ด ชลบุรี และจาก กทม.

    "ความคิดเห็นส่วนตัว เป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละบุคคล ที่ห้ามกันไม่ได้ แต่ในด้านเศรษฐกิจของหมู่บ้าน ถือว่า เป็นการสร้างรายได้เสริมที่ดีอย่างยิ่งให้ชาวบ้าน เพราะจักจั่นที่มีชีวิตชาวบ้านจับไปขายได้ตัวละ 3 บาท ถึง 5 บาท เท่านั้น แต่พญาจักจั่นเป็นตัวที่ตายแล้วสามารถขายได้ราคาสูงกว่าตัวมีชีวิตอย่างมาก"นายบุญศรี กล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนหนึ่งของตัวจักจั่นซึ่งตายแล้ว ฝังอยู่ใต้ผิวดินลึกประมาณ 4 - 5 นิ้ว มีกิ่งคล้ายพืชชนิดหนึ่งงอกจากลำตัว เป็นกิ่งยาวแทงดินทะลุขึ้นเหนือผิวดินมา ชาวอีสานบางคนเรียกว่า "ว่านพญาจักจั่น" หรือ "จักจั่นจำศีล" โดยกิ่งยาวโผล่เหนือดิน ปลายกิ่งเป็นสีแดง ยิ่งมีกิ่งหลายกิ่ง ยิ่งสีแดงเข้ม เป็นลักษณะที่ผู้ชอบสะสมของแปลก หรือ ผู้ชอบสะสมวัตถุมงคลด้าน“มหาเสน่ห์นิยม และค้าขายคล่อง” จะซื้อราคาสูง หลังจากนำไปเข้าพิธีปลุกเสกด้านไสยศาสตร์

    ก่อนหน้านี้ บริเวณวัดป่าศรีสุธาทิพย์ หมู่ที่ 7 ต. หนองเม็ก อ. หนองหาน จ. อุดรธานี ก็มีชาวบ้านขุดพบจักจั่นงอกเขา (หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าว่านจักจั่น) แน่นวัด จนเจ้าอาวาสต้องออกมาเตือนบริเวณวัดมีต้นไม้มากและยังมีพืชสมุนไพรอีกมากที่ทางวัดปลูกไว้สำหรับปรุงเป็นยาสมุนไพร อย่าได้ขุดทำลาย แม้กระทั้งที่บริเวณโคกผาทม บ้านเจริญสุข หมู่ 6 และหมู่ 10 ต.นางัว อ.น้ำโสม ก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านนับร้อยคน ต่างกำลังขุดหาตัวว่านจั๊กจั่นที่ฝั่งตัวอยู่ในดินเช่นกัน

    ----------
    ไทยรัฐออนไลน์
    ข่าวไทยรัฐออนไลน์ - ชาวบ้านแห่เข้าป่า ขุดว่านจักจั่น เจออีกที่ร้อยเอ็ด
     
  12. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    คมชัดลึก :นักวิจัยฯ ชี้ “ว่านจักจั่น” เป็นแค่ราแมลง มีพิษหรือไม่ต้องศึกษาจากสปอร์รา เตือนชาวบ้านไม่ควร "บริโภค-พกติดตัว" อาจเป็นอันตราย เสี่ยงติดเชื้อราก่อโรคในคน
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";/* Kom-newdesign338x280story */google_ad_slot = "7614892621";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&dt=1245111596664&lmt=1245111596&output=html&slotname=7614892621&correlator=1245111596664&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20090616%2F17193%2F%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E2%80%9C%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E2%80%9D%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B2.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Findex.php&frm=0&ga_vid=3122359300531834400.1245111152&ga_sid=1245111152&ga_hid=712304234&ga_fc=true&flash=9.0.28.0&w=336&h=280&u_h=800&u_w=1280&u_ah=770&u_aw=1280&u_cd=32&u_tz=420&u_his=2&u_java=true&dtd=62&xpc=mHU2OtNW8y&p=http%3A//www.komchadluek.net" frameBorder=0 width=336 scrolling=no height=280 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>

    ว่านจักจั่นกำลังเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักเสี่ยงโชค ด้วยความเชื่อที่ว่า หากใครได้บูชาจะนำโชคลาภมาสู่ตัวนั้น ทำให้กระแสความต้องการว่านจักจั่นแรงขึ้นเป็นทวีคูณ ตามเว็บไซต์ต่างๆ มีการเสนอขายว่านจักจั่นกันจำนวนมาก เช่น
    “…สั่งด่วนของใกล้จะหมดแล้ว ราคากันเองเริ่มต้นที่ ตัวละ 99 บาท Tel. 087- 22XXXX …”
    “…รับเช่าว่านจักจั่น ราคาไม่เกิน 4,999 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพ และความสวยงาม สนใจ ติดต่อ 08265XXXXX…”
    “…สนใจเช่า-บูชา ติดต่อได้ที่ 0274XXXXX คู่ละ 799 บาท ฟรีค่าจัดส่ง พร้อมคู่มือประวัติความเป็นมา วิธีบูชา จาก จ.เลย แท้ๆ ค่ะ ว่านจักจั่น (ต่อเงินต่อทอง)…”
    หลากหลายข้อความโพสต์ขาย “ว่านจักจั่น” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเป็นกระแสยอดนิยมในหมู่นักเสี่ยงโชค ที่ร่ำลือกันว่า ว่านจักจั่น เป็นพืชที่จัดอยู่ในประเภท ว่านกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ต้นอยู่บนดิน ส่วนรากที่อยู่ใต้ดินนั้น กลับมีรูปร่างลักษณะเหมือนตัวจักจั่น แถมวันดีคืนดียังจะมีเสียงจักจั่นร้องดังขึ้นมาจากใต้ดินอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ใครได้ครอบครองจะให้โชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เมตตา แคล้วคลาด เตือนภัย
    ด้วยความเชื่อว่า “ว่านจักจั่น” เป็นเครื่องรางของขลังที่สามารถบันดาลโชคลาภได้ ทำให้กระแสความนิยมว่านจักจั่นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และบางคนก็มีความเชื่อว่า ว่านจักจั่น ยังช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยการนำว่านจักจั่นมาต้มน้ำดื่ม จนต้องหามส่งโรงพยาบาลกันเป็นทิวแถว
    หากมองในแง่ของวิทยาศาสตร์ “ว่านจักจั่น” อาจเป็นเพียงแค่ “เชื้อราแมลง” แห่งอาณาจักรเห็ดและรา ที่ไม่ใช่ทั้งพืชและสัตว์ อย่างที่เข้าใจกัน
    “ราแมลง มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ก่อให้เกิดโรคและทำให้จักจั่นตาย เมื่อจักจั่นตาย เชื้อราก็จะแทงเส้นใยเข้าไปเจริญในตัวจักจั่น เพื่อดูดน้ำเลี้ยงเป็นอาหาร และเจริญเติบโตเป็นโครงสร้างสืบพันธุ์ที่มีลักษณะคล้ายเขาบริเวณหัว ทำหน้าที่สร้างสปอร์เพื่อแพร่เชื้อราต่อไป” ดร.สายัณห์ สมฤทธิ์ผล นักวิจัยห้องปฏิบัติการราวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) อธิบายถึง ว่านจักจั่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวบ้าน
    สำหรับวงจรชีวิตของจักจั่นว่า เมื่อจักจั่นผสมพันธุ์กันแล้ว จะวางไข่ไว้บนเปลือกไม้ ก่อนล่วงลงสู่พื้นดิน และฝังตัวในระยะตัวอ่อนอยู่ใต้ดินนาน 2-17 ปี ส่วนที่เราเห็นตัวจักจั่นในช่วงฤดูร้อนที่ส่งเสียงร้องระงมอยู่บนต้นไม้นั้นเป็นเพียงเสี้ยวชีวิตสั้นๆ ของจักจั่นในช่วงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น ทั้งนี้ จักจั่นในระยะตัวอ่อนที่กำลังไต่ขึ้นมาเพื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยเหนือพื้นดิน ช่วงระยะการเปลี่ยนแปลงร่างกายอาจทำให้จักจั่นอ่อนแอ ประกอบกับช่วงต้นฤดูฝน มีความชื้นสูง จึงมีโอกาสติดเชื้อราแมลงได้
    ส่วนเชื้อราที่เกิดบนตัวจักจั่น เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นราสายพันธุ์ คอร์ไดเซฟ โซโบลิเฟอร์รา (Cordyceps sobolifera) ก่อนหน้านี้ ในประเทศไทยเคยมีการสำรวจพบราแมลงบนตัวจักจั่นแล้วหลายชนิด และมีชนิดที่น่าสนใจ คือ คอร์ไดเซฟ นิปปอนนิกา (Cordyceps niponnica) ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศไทยพบครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อปี 2544 และทีมวิจัยสามารถสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากเชื้อรา ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียด้วย
    “ว่านจักจั่นที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ เรายังไม่สามารถจำแนกสายพันธุ์ของเชื้อราได้ว่าเป็นชนิดใด ตอนนี้ทำได้เพียงให้ความรู้ในแง่ของวิทยาศาสตร์ว่า ว่านจักจั่น ไม่ใช่พืช แต่เป็นราแมลง”
    “ผมไม่แนะนำให้นำมาบริโภค หรือเก็บไว้ใกล้ตัว แม้ว่าเชื้อราในแมลงจะไม่ก่อโรคในคน แต่สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เนื่องจากราบนตัวจักจั่นที่ขุดขึ้นมาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ และสร้างสปอร์ หรือ แม้ว่านำมาทำความสะอาดแล้ว อาจมีเชื้อราหลงเหลืออยู่ หรืออาจทำให้เชื้อราชนิดอื่น มาเจริญเติบโตแทน หากเป็นเชื้อราที่ก่อโรคในคนก็อาจเป็นอันตรายได้” ดร.สายัณห์ เตือน
    จังหวะเดียวกันนี้...เพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่า ราบนตัวจักจั่นเป็นราชนิดใดกันแน่ รังสิมา ตัณฑเลขา ผู้จัดการโครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย (โครงการ BRT) ลงทุนสั่งซื้อว่านจักจั่นผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่ง จำนวน 5 คู่ คู่ละ 199 บาท แต่เมื่อเปิดกล่องพัสดุออกมาต้องตะลึงมึน เมื่อพบ ว่านจักจั่น ถูกเพิ่มมูลค่าเสียแล้ว ด้วยการเคลือบตัวด้วยกากเพชรสีเงินและสีทองระยิบระยับ จะนำมาวิจัยซากก็ทำได้ลำบาก และเท่าที่สำรวจเห็นก็ยังเป็นเพียงเชื้อราที่ยังอ่อน ยังไม่สร้างสปอร์ จึงยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็น เชื้อราสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดพิษ เหมือนกรณีการเกิดเห็ดพิษหรือไม่
     
  13. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    คมชัดลึก :นักวิจัยฯ ชี้ “ว่านจักจั่น” เป็นแค่ราแมลง มีพิษหรือไม่ต้องศึกษาจากสปอร์รา เตือนชาวบ้านไม่ควร "บริโภค-พกติดตัว" อาจเป็นอันตราย เสี่ยงติดเชื้อราก่อโรคในคน
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";/* Kom-newdesign338x280story */google_ad_slot = "7614892621";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"></INS></INS>

    ว่านจักจั่นกำลังเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักเสี่ยงโชค ด้วยความเชื่อที่ว่า หากใครได้บูชาจะนำโชคลาภมาสู่ตัวนั้น ทำให้กระแสความต้องการว่านจักจั่นแรงขึ้นเป็นทวีคูณ ตามเว็บไซต์ต่างๆ มีการเสนอขายว่านจักจั่นกันจำนวนมาก เช่น
    “…สั่งด่วนของใกล้จะหมดแล้ว ราคากันเองเริ่มต้นที่ ตัวละ 99 บาท Tel. 087- 22XXXX …”
    “…รับเช่าว่านจักจั่น ราคาไม่เกิน 4,999 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพ และความสวยงาม สนใจ ติดต่อ 08265XXXXX…”
    “…สนใจเช่า-บูชา ติดต่อได้ที่ 0274XXXXX คู่ละ 799 บาท ฟรีค่าจัดส่ง พร้อมคู่มือประวัติความเป็นมา วิธีบูชา จาก จ.เลย แท้ๆ ค่ะ ว่านจักจั่น (ต่อเงินต่อทอง)…”
    หลากหลายข้อความโพสต์ขาย “ว่านจักจั่น” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเป็นกระแสยอดนิยมในหมู่นักเสี่ยงโชค ที่ร่ำลือกันว่า ว่านจักจั่น เป็นพืชที่จัดอยู่ในประเภท ว่านกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ต้นอยู่บนดิน ส่วนรากที่อยู่ใต้ดินนั้น กลับมีรูปร่างลักษณะเหมือนตัวจักจั่น แถมวันดีคืนดียังจะมีเสียงจักจั่นร้องดังขึ้นมาจากใต้ดินอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ใครได้ครอบครองจะให้โชคลาภ เรียกเงิน เรียกทอง เมตตา แคล้วคลาด เตือนภัย
    ด้วยความเชื่อว่า “ว่านจักจั่น” เป็นเครื่องรางของขลังที่สามารถบันดาลโชคลาภได้ ทำให้กระแสความนิยมว่านจักจั่นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และบางคนก็มีความเชื่อว่า ว่านจักจั่น ยังช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยการนำว่านจักจั่นมาต้มน้ำดื่ม จนต้องหามส่งโรงพยาบาลกันเป็นทิวแถว
    หากมองในแง่ของวิทยาศาสตร์ “ว่านจักจั่น” อาจเป็นเพียงแค่ “เชื้อราแมลง” แห่งอาณาจักรเห็ดและรา ที่ไม่ใช่ทั้งพืชและสัตว์ อย่างที่เข้าใจกัน
    “ราแมลง มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ก่อให้เกิดโรคและทำให้จักจั่นตาย เมื่อจักจั่นตาย เชื้อราก็จะแทงเส้นใยเข้าไปเจริญในตัวจักจั่น เพื่อดูดน้ำเลี้ยงเป็นอาหาร และเจริญเติบโตเป็นโครงสร้างสืบพันธุ์ที่มีลักษณะคล้ายเขาบริเวณหัว ทำหน้าที่สร้างสปอร์เพื่อแพร่เชื้อราต่อไป” ดร.สายัณห์ สมฤทธิ์ผล นักวิจัยห้องปฏิบัติการราวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) อธิบายถึง ว่านจักจั่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวบ้าน
    สำหรับวงจรชีวิตของจักจั่นว่า เมื่อจักจั่นผสมพันธุ์กันแล้ว จะวางไข่ไว้บนเปลือกไม้ ก่อนล่วงลงสู่พื้นดิน และฝังตัวในระยะตัวอ่อนอยู่ใต้ดินนาน 2-17 ปี ส่วนที่เราเห็นตัวจักจั่นในช่วงฤดูร้อนที่ส่งเสียงร้องระงมอยู่บนต้นไม้นั้นเป็นเพียงเสี้ยวชีวิตสั้นๆ ของจักจั่นในช่วงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น ทั้งนี้ จักจั่นในระยะตัวอ่อนที่กำลังไต่ขึ้นมาเพื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยเหนือพื้นดิน ช่วงระยะการเปลี่ยนแปลงร่างกายอาจทำให้จักจั่นอ่อนแอ ประกอบกับช่วงต้นฤดูฝน มีความชื้นสูง จึงมีโอกาสติดเชื้อราแมลงได้
    ส่วนเชื้อราที่เกิดบนตัวจักจั่น เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นราสายพันธุ์ คอร์ไดเซฟ โซโบลิเฟอร์รา (Cordyceps sobolifera) ก่อนหน้านี้ ในประเทศไทยเคยมีการสำรวจพบราแมลงบนตัวจักจั่นแล้วหลายชนิด และมีชนิดที่น่าสนใจ คือ คอร์ไดเซฟ นิปปอนนิกา (Cordyceps niponnica) ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศไทยพบครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อปี 2544 และทีมวิจัยสามารถสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากเชื้อรา ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียด้วย
    “ว่านจักจั่นที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ เรายังไม่สามารถจำแนกสายพันธุ์ของเชื้อราได้ว่าเป็นชนิดใด ตอนนี้ทำได้เพียงให้ความรู้ในแง่ของวิทยาศาสตร์ว่า ว่านจักจั่น ไม่ใช่พืช แต่เป็นราแมลง”
    “ผมไม่แนะนำให้นำมาบริโภค หรือเก็บไว้ใกล้ตัว แม้ว่าเชื้อราในแมลงจะไม่ก่อโรคในคน แต่สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เนื่องจากราบนตัวจักจั่นที่ขุดขึ้นมาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ และสร้างสปอร์ หรือ แม้ว่านำมาทำความสะอาดแล้ว อาจมีเชื้อราหลงเหลืออยู่ หรืออาจทำให้เชื้อราชนิดอื่น มาเจริญเติบโตแทน หากเป็นเชื้อราที่ก่อโรคในคนก็อาจเป็นอันตรายได้” ดร.สายัณห์ เตือน
    จังหวะเดียวกันนี้...เพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่า ราบนตัวจักจั่นเป็นราชนิดใดกันแน่ รังสิมา ตัณฑเลขา ผู้จัดการโครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย (โครงการ BRT) ลงทุนสั่งซื้อว่านจักจั่นผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่ง จำนวน 5 คู่ คู่ละ 199 บาท แต่เมื่อเปิดกล่องพัสดุออกมาต้องตะลึงมึน เมื่อพบ ว่านจักจั่น ถูกเพิ่มมูลค่าเสียแล้ว ด้วยการเคลือบตัวด้วยกากเพชรสีเงินและสีทองระยิบระยับ จะนำมาวิจัยซากก็ทำได้ลำบาก และเท่าที่สำรวจเห็นก็ยังเป็นเพียงเชื้อราที่ยังอ่อน ยังไม่สร้างสปอร์ จึงยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็น เชื้อราสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดพิษ เหมือนกรณีการเกิดเห็ดพิษหรือไม่
     
  14. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    งมงาย! บูชา "ว่านจักจั่น" นักวิชาการเผย ชาวบ้านในหลายจังหวัดทางอีสานแห่ไปขุดดินหาในป่า เพราะเชื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้โชคลาภ นำมาปิดทองแล้วประกาศขายในราคาสูงลิบ ที่แท้เป็นตัวจักจั่นตายแล้วติดเชื้อรา พบมากในช่วงต้นฤดูฝน เตือนอย่าหลงเชื่อ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ต้องระวัง
    ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดเวทีเสวนาเรื่อง ว่านจักจั่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือความเข้าใจผิด จากกรณีเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าป่าขุดหาว่านจักจั่น เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ช่วยให้ถูกหวยและมีโชคลาภ โดยนำมาซื้อขายกันตั้งแต่ราคา 200 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท
    ดร.สายัณห์ สมฤทธิ์ผล นักวิจัยห้องปฏิบัติการราวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) กล่าวถึงว่านจักจั่นว่า แท้จริงแล้วคือตัวจักจั่นที่ตาย อันเกิดจากการติดเชื้อรา ไม่ใช่ว่านหรือพืชศักดิ์สิทธิ์อย่างที่เข้าใจกันแต่อย่างใด โดยเป็นจักจั่นอยู่ในระยะตัวอ่อนที่มีวงจรชีวิตอยู่ใต้ดิน และเตรียมไต่ขึ้นมาเพื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยเหนือพื้นดิน ในระยะนี้ร่างกายจักจั่นมีการเปลี่ยนแปลงทำให้อ่อนแอ ประกอบกับช่วงต้นฤดูฝน ความชื้นสูง จึงติดเชื้อราแมลงที่มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ก่อให้เกิดโรคและทำให้จักจั่นตายในที่สุด
    "เมื่อตัวอ่อนจักจั่นตาย เชื้อราก็จะแทงเส้นใยเข้าไปเจริญเติบโตในตัวจักจั่นเพื่อดูดน้ำเลี้ยงเป็นอาหาร ทำให้มีโครงสร้างสืบพันธุ์ที่มีลักษณะคล้ายเขาบริเวณหัว มีหน้าที่สร้างสปอร์เพื่อแพร่พันธุ์เชื้อราต่อไป เรียกลักษณะนี้ว่า ราแมลง แต่กลายเป็นว่าชาวบ้านไม่รู้จัก และต่างพากันคิดว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้โชคลาภ ส่งผลให้มีพ่อค้าหัวใสไปขุดหาในป่าแล้วนำมาทำความสะอาด ทาแล็กเกอร์เคลือบเงา บางคนปิดทองขายในราคาแพง เราจึงต้องออกมาชี้แจงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกหลอกจนเสียเงินเป็นจำนวนมาก" ดร.สายัณห์เปิดเผย
    เขากล่าวว่า จากการตรวจสอบพบการซื้อขายว่านจักจั่นในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด และหนองบัวลำภู บางชิ้นที่มีขนาดใหญ่ กิ่งก้านแตกแขนงสวยงาม คนขายตั้งราคาสูงถึงหลักหมื่นบาท รวมทั้งยังประกาศขายผ่านทางเว็บไซต์ ลงรูปภาพประกอบ และจัดส่งทางไปรษณีย์ถึงผู้ซื้ออีกด้วย ล่าสุดมีข่าวว่าชาวบ้านได้นำมาต้มกิน จนทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะและเข้ารักษาพยาบาลไปหลายราย ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่เข้าใจผิด เพราะขณะนี้ในทางการแพทย์ยังไม่ตัวยาใดๆ ที่ผลิตขึ้นจากราแมลงได้เป็นผลสำเร็จ เพียงแต่อยู่ในขั้นตอนศึกษาค้นคว้าเท่านั้น
    นอกจากนี้ สิ่งที่อยากเตือนประชาชนให้พึงระวังคือ แม้เชื้อราในแมลงจะก่อโรคที่จำเพาะต่อแมลงเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายต่อคน แต่สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เนื่องจากราบนตัวจักจั่นที่ขุดขึ้นมาอาจยังมีชีวิตอยู่และสร้างสปอร์ได้ อีกทั้งแม้จะนำจักจั่นมาทำความสะอาด ก็อาจจะมีราหลงเหลืออยู่ เพราะว่าราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมาก ที่สำคัญในช่วงนี้เป็นฤดูฝน อากาศมีความชื้นสูง ดังนั้น หากเก็บรักษาไม่ดีก็ทำให้เชื้อราชนิดอื่นๆ มาเจริญเติบโต หากเป็นเชื้อราที่ก่อโรคในคนแล้วก็จะเป็นอันตรายต่อผู้พกพา
    ชี้งมงายบูชา'ว่านจักจั่น'พบต้มกินถึงหามส่งรพ. | ไทยโพสต์
     
  15. สากัจฉา

    สากัจฉา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +115
    กินของแปลก โดยไม่หาข้อมูลก่อนอันตรายนะครับ ศรัทธาได้แต่อย่างมงายไร้เหตุผล
     

แชร์หน้านี้

Loading...