คุณรู้ไหมคนเราทุกๆคนนั้นมีเทวดาประจำตัวคอยดูแลเราอยู่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 16 มิถุนายน 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,238
    คุณรู้ไหมคนเราทุกๆคนนั้นมีเทวดาประจำตัวคอยดูแลเราอยู่

    เทวดาประจำตัว
    ทุก ๆ คนจะมีเทวดาประจำตัวด้วยกันทุกคน ( ไม่ใช่องค์หรือองค์ใน )โดยปกติแล้วเมื่อเราเป็นมนุษย์ เป็นคนที่มีทาน มีศีล มีสมาธิ
    และมีธรรม เมื่อตายจากการเป็นมนุษย์ในชาตินี้ไปแล้ว ก็จะไปเกิดบนสวรรค์ จะไปอยู่ชั้นไหนนั้นก็อยู่ที่ว่าบุญบารมีที่สร้างตอนเป็นมนุษย์มีมากเท่าไรและไปสมพงศ์กับพ่อแม่ที่อยู่บนสวรรค์คู่ไหนด้วยเทวดาก็มีรัก มีโลภ มีโกรธ มีหลง มีกิเลส มีตัญหา มีอะไรอีกหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกับมนุษย์เหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่มีรูปร่าง มีกายเนื้อหรือมีตัวตนเหมือนกับเราเท่านั้นเอง เขามีแต่กายทิพย์ และ ทุกอย่างก็เป็นทิพย์ไปทั้งหมด อยากได้อะไรก็นึกคิดเอา ก็จะได้อย่างที่คิดสมปรารถนา
    ทุกประการ ไปเกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าจะมีแต่ความสุข ความเกษมสำราญแต่เพียงอย่างเดียว เทวดาจะทุกข์ก็ตอนที่บุญจะหมดและ
    พอบุญหมดแล้วก็ต้องไปเกิดใหม่ พอรู้ว่าไปเกิดใหม่แล้วจะไม่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็จะทุกข์หนัก การมาเกิดเป็นมนุษย์ของเทวดานั้นมีหลายสาเหตุ เช่น ทำผิดกฎของสวรรค์ หมดบุญ สุดท้ายนี้พิเศษหน่อย
    ไม่หมดบุญและก็ไม่ได้ทำผิดกฎสวรรค์ แต่มาเกิดเพราะมาทำหน้าที่ๆ

    ได้รับจากเบื้องบน แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน คนเหล่านี้ จะมีอะไรพิเศษกว่ามนุษย์โดยทั่วไป พวกนี้พอเกิดมาแล้วจะหลงตัวเอง ว่า
    ตัวเองเก่ง ตัวเองเลิศ ไม่ฟังความคิดเห็นของใคร มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีสัมผัสที่หก เข้าถึงสิ่งเร้นลับได้ ทีนี้ไม่ว่าเราจะหมดบุญ
    ทำผิดกฎสวรรค์ หรือถูกส่งมาทำหน้าที่ก็ตาม เราจะมาเกิดกับพ่อแม่คู่ใหม่ยังโลกมนุษย์พ่อ แม่ พี่ น้อง ของเราบนสวรรค์องค์ใดองค์หนึ่ง ก็จะลงมาพร้อมกับดวงจิตของเรา เพื่อที่จะคอยดูแลช่วยเหลือเราและ
    ป้องกันมิให้มารพาเราไปทำชั่ว เดี๋ยวจะกลับสวรรค์ไม่ได้ ถ้าหากเราเกิดมาแล้วทำแต่ความไม่ดี จิตที่เป็นอกุศลของเราส่งผล ทำให้มาร
    มีพลังมากกว่าเทวดาประจำตัวของเรา ท่านก็จะเข้าใกล้และช่วยเหลืออะไรเราได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าจิตที่เป็นกุศลของเราส่งผลเทวดาประจำตัวของเราก็จะมีพลังมากมารก็เข้าใกล้ตัวเราไม่ได้เมื่อเข้าใกล้ตัวของเราไม่ได้ มารก็จะขวางและทำอะไรเราไม่ได้เช่นกัน ที่นี้เราทำอะไรก็สำเร็จไปทุกอย่าง เรารู้แล้วหรือยังว่าเทวดาประจำตัวของเราคือใคร? มีพระนามว่าอะไร? เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร? ภูมิชั้นต่างๆ ของเทพเทวดานับจากมนุษย์ขึ้นไปจะเป็นเทพเทวดา๖ ชั้น มีชั้นที่๑ เรียกชั้นจาตุมหาราชิกา ชั้นที่๒ เรียกชั้นตาวะติงสา(ดาวดึงส์) ชั้นที่๓ เรียกชั้นยามา ชั้นที่๔ เรียกชั้นดุสิต ชั้นที่๕ เรียกชั้นนิมมานรดี ชั้นที่๖ เรียกชั้ปรนิมมิตวสวัตตี สวรรค์ชั้นเทวดาจะมีแค่๖ ชั้นเท่านั้น สูงจากชั้นของเทวดาขึ้นไปอีก ๑๖ ชั้น จะเป็นชั้นของรูปพรหม สูงจากชั้นของรูปพรหมขึ้นไปอีก๔ ชั้น จะเป็นชั้นของอรูปพรหม สูงจากชั้น ของอรูปพรหมขึ้นไปอีก๑ ชั้นก็จะเป็นชั้นของพระโสดาบัน สูงจากชั้นของพระโสดาบันขึ้นไปอีก ๑ชั้น ก็จะเป็นชั้นของพระสกทาคามี สูงจากชั้นของพระสกทาคามีขึ้นไปอีก๑ ชั้นก็จะเป็นชั้นของพระอนาคามี สูงจากชั้นของพระอนาคามีขึ้นไปอีก๑ ชั้น ก็จะเป็นชั้นของพระอรหันต์ ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดก็เข้าสู่แดนนิพพานไปเลยเลยคือ ไม่ต้องวนเวียนว่ายตายเกิดใน ๓๑ ภูมินี้อีกต่อไป ก็คือหลุดพ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนา ส่วนชั้นที่ต่ำกว่ามนุษย์ลงไปนั้น ก็มีชั้นของสัตว์ดิรัจฉาน (อยู่รวมกับมนุษย์) ชั้นที่ต่ำกว่าสัตว์ดิรัจฉานลงไปอีกก็จะเป็นของสัตว์นรก ต่ำกว่าชั้นของสัตว์นรกลงไปอีก
    ก็เป็นชั้นของเปรตและต่ำกว่าชั้นของเปรตชั้นสุดท้ายก็เป็นชั้นของอสูรกาย ส่วนมารก็จะมีที่อยู่ของเขาอีกต่างหาก เขาจะมีหน้าที่ในทาง
    ตรงกันข้ามคือทำอกุศลหรือความไม่ดีเพียงอย่างเดียว ถ้าหากตัวของเรามีปัญหาอะไร ให้จุดธูป ๑๖ ดอกบอกกล่าวให้เทวดาประจำตัว
    และเทวดาที่มาสร้างบารมีให้ท่านช่วยเหลือและเวลาเราไปทำบุญทำกุศลอะไร ก็บอกให้ท่านได้อนุโมทนาบุญกับเราด้วยทุกครั้ง แต่ถ้า
    หากเทวดาถูกอาจารย์ขมังเวทย์สะกด ท่านก็ช่วยอะไรเราไม่ได้เช่นกัน ฉะนั้นเวลาไปที่ไหนก็ให้ระวังตัวบ้าง ทั้งเทวดาและก็ตัวเราด้วย ......
    เทวดามาสร้างบารมี
    จะคล้ายกับเทวดาประจำตัวของเรา จะแตกต่างตรงที่ว่า เทพเทวดาเหล่านี้ จะมีความเกี่ยวข้องกับเราสมัยยังเป็นมนุษย์มาแล้ว เช่น เราเคยเกิดเป็นข้าทาสหรือบริวารของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง พอเรามาเกิดในชาตินี้ ท่านก็จะตามมาช่วยเหลือและดูแลเรา ส่วนมากจะเรียกว่า “ มีองค์ หรือ องค์ใน ” บางคนมีความเกี่ยวข้องกันก่อนสมัยพระพุทธองค์เสียอีก ถ้าหากมีมารขวาง ท่านก็ช่วยเราไม่ได้อีกเช่นกันเผลอ ๆ มารก็จะปลอมเป็นองค์ใน หรือ ตัวของท่านเสียเลย ตาเนื้อของมนุษย์มองไม่เห็น จึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีจริง ทำให้เกิดความไม่เชื่อ พอไม่เชื่อบางคนก็ลบหลู่ ผลกรรมก็จะเกิดกับตัวของเขาเอง จะส่งผลก็ต่อเมื่อกรรมที่เป็นอกุศลในตัวของเขาส่งผลหรือว่าบุญของเขาหมดก่อนนั่นแหละ ทุก ๆ วันนี้ต้องพูดด้วยเหตุผลและหลักฐานจึงจะ
    ยอมรับกัน แต่บางสิ่งบางอย่างในโลกนี้ ก็หาหลักฐานและเหตุผลมาพิสูจน์ไม่ได้เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องของนาม เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ การที่จะสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ได้ จิตจะต้องได้รับการฝึกจิตมาดีพอสมควร
    ทั้งในเรื่องของทาน ศีล สมาธิและธรรม ฝึกจนจิตได้ญาณ อย่าลืมนะว่าคนที่คอยช่วยเหลือเราก็คือ เทวดาประจำตัวของเราและเทพเทวดาที่มาสร้างบารมีร่วมกับเรา แต่ในที่นี้ต้องไม่มีมารแทรกอยู่ เขาถึงจะช่วยเราได้เต็มที่ ทำไมเราจึงเห็นคนบางคนมีองค์หรือมีอะไรแฝงอยู่ซึ่งไม่เหมือนกับคนธรรมดามีที่มาพอจะเล่าให้ทราบย่อ ๆ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งพระอานนท์ได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า อีกนานเท่าไรคำสอนของพระพุทธองค์จะหมดไปจากโลกนี้ พระพุทธองค์ตอบ พระอานนท์ว่าอีก ๕,๐๐๐ ปี เมื่อทราบว่าเป็นเช่นนี้พระภิกษุ พระภิกษุณี สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เป็นผู้ขอทำนุบำรุงดูแลรักษาคำสอนทาง
    พระพุทธศาสนา ๒๕๐๐ ปี ส่วน ๒,๕๐๐ ปีหลังเหล่าองค์เทพเทวดาทั้ง
    หลาย ขอลง มาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อจากมนุษย์ทั้งหลาย
    เป็นเวลา ๑,๒๕๐ ปีและส่วนที่เหลืออีก ๑,๒๕๐ ปี สุดท้าย พวก ยักษ์

    พวกมาร ขอลงมาทำนุบำรุงดูแลพระพุทธศาสนาในช่วงสุดท้ายแทนต่อจากเหล่าเทพเทวดา จึงต้องทำให้คำสอนของพระพุทธเจ้าพระ
    องค์นี้ต้องหมดไปเพราะพวกยักษ์ พวกมารย่อมไม่ทำให้เจริญแน่นอนซึ่งในช่วงนี้ก็เป็นช่วงของเหล่าเทพเทวดาลงมาทำนุบำรุงพระพุทธ
    ศาสนา เวลาก็ได้ผ่านไปแล้วในปัจจุบันนี้ผ่านได้ ๔๘ ปี ที่เข้าสู่ช่วงเหล่าเทพเทวดา เราจะเห็นว่าในปัจจุบันจะมีการค้าพระพุทธ
    ขุดพระธรรมและก็ยำพระสงฆ์ให้เห็นกันอยู่ประจำ ค้าพระพุทธหมายความว่า มีการหล่อ กดพิมพ์พระพุทธรูปขายกันเป็นสินค้ากันและก็วางขายกันอย่างกับ ไม่ใช่ของสูงที่เคารพบูชาอย่างนั้น ส่วนขุดพระธรรมก็หมายถึง การพิมพ์ ตำรับตำราขายกันจริงบ้างหลอกบ้าง ส่วนยำพระสงฆ์ทุกท่านก็คงเห็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ทำลายภาพพจน์ของพระสงฆ์ทำลายความศรัทราของชาวพุทธที่มีต่อพระศาสนาลงไปเรื่อย ๆ ส่วนเหล่าเทพเทวดาก็ยังทำ อะไรได้ไม่เต็มที่ เพราะเทวดาเป็นแค่ดวงจิต ดวงวิญญาณ ไม่มีร่างกาย ฉะนั้นการที่จะมาทำงานตรงนี้ได้ ให้สำฤทธิ์ผลก็จะต้องมีร่างกายที่สามารถจับต้องและเคลื่อนไหวได้ ท่านก็เลยต้องหาร่าง
    และร่างที่ดีที่สุดก็คือร่างของมนุษย์นี่แหละ จู่ๆท่านจะไปเอาหรือยึด ใครมาเป็นร่าง
    ของท่านเลยทันทีไม่ได้ ผู้ที่จะเป็นร่างของท่านได้นั้น ในอดีตจะต้อง
    เป็นสายเลือดมี ความผูกพันกันมาก่อนเช่น ลูกศิษย์กับอาจารย์เป็นต้น
    บางทีเราไม่ยอมรับท่าน ท่านก็จะทำให้เรา ต้องยอมรับท่านให้ได้ ถ้า
    หากเราไม่รู้ท่านก็จะทำให้เรารู้จนได้ ก็ทำให้เราเดือดร้อน เป็นทุกข์
    มีปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งการเงิน การงาน สุขภาพ ทำให้เราเจ็บป่วย
    หมอก็หาสาเหตุของโรคไม่เจอ คนที่มีและเคยผ่านประสบการณ์ตรง
    นี้ก็มีมากเหมือนกันและก็ไม่สามารถที่จะพูดและอธิบายให้ใครๆฟังได้
    คน ที่เจอกับตัวเองจริงๆ ถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร พอมนุษย์บางคนมี
    ตรงนี้แล้ว ก็ต้องพากันสร้างบุญบารมีทั้งตัวมนุษย์และเทวดา ไม่ใช่ว่ามา
    ข่มและอวดบารมีกันว่า ข้าองค์ใหญ่ ท่านองค์เล็ก ของข้าบารมีเยอะของท่านบารมีน้อย ข้ามาก่อนส่วนแกมาทีหลัง พอมนุษย์เป็น
    อย่างนี้ มารก็ได้โอกาสชิงเป็นตัวของท่านไปเสียเลย ทำให้เสียทั้งคนและเสียทั้งเทวดาไปเลย เทวดาก็เลยหมดโอกาสที่จะได้สร้าง
    บุญบารมีและมารก็จะพามนุษย์คนนั้นให้ตกต่ำไป ยิ่งตัวมนุษย์ไม่มี ศีล มีธรรมแล้ว มารยิ่งมีพลังมาก พอตัวของเรามีปัญหาเขาจะทักเรา
    ว่า “ มีองค์ ” จะต้อง ทำการรับขันธ์และเสริมบารมี อาจารย์ขอบอกตรงๆ ว่าอย่าทำและอย่ารับเด็ดขาดคุณ จะถูกสะกดเป็นบริวารและก็
    เทวดาของคุณด้วย ถ้าใครรับแล้วให้ทำการถอนขันธ์เสีย เขาจะเอาบริวารของเขาใส่ไว้ในขันธ์ คอยสืบข่าวดูเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเรา ว่า
    เป็นอะไรอย่างไร พอเราเข้าไปหาเขาเขาก็จะถามบริวารของเขาที่อยู่กับเรา มันจะรายงานเขาหมดเลย เราก็เลยเห็นว่าเขาเก่ง ดูแม่น รู้ไปหมดทุกอย่างเลยเกี่ยวกับตัวเรา สังเกตดูคุณจะดีในช่วงแรก ๆ เท่านั้น
    หลังจากที่เข้าไปหาเขาแล้ว ต่อจากนั้นคุณก็จะต้องเข้าไปหาเขาอีก ส่วนเวลาที่เหลืออีกหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบปีหลังที่เหลือ พวกลูก
    ยักษ์หลานมาร ขอมาเป็นผู้ทำนุบำรุงดูแลพระพุทธศาสนาในช่วงสุดท้าย ที่นี้ไม่ต้องพูดและคิดแล้วว่า อะไรจะเกิดขึ้น กับคำสั่งสอน
    ของพระพุทธองค์ ว่าจะเป็นอย่างไร ขณะที่พระพุทธองค์ ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ พวกมารยังขัดขวางและจะทำลายเลย พระพุทธองค์ใคร
    ขอใคร นิมนต์อะไรท่านก็ทรงให้หมด หลังจากช่วงที่พวกลูกยักษ์หลานมารเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว สังคมมนุษย์ก็จะเข้าสู่กลียุค
    ไปเรื่อยทุก ๆ วัน มนุษย์จะห่างไกลจากคำสอนในทางพระพุทธศาสนา ไม่มีศีล เข่นฆ่ากัน ขาดการปฏิบัติธรรม ไม่มีความเชื่อความ
    ศรัทธาในพระพุทธ ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ว่าปฏิบัติแล้วจะมีความสุขความเจริญได้ จริงความเชื่อความศรัทธาก็ลดน้อยลง พอพลัง
    ศรัทธาหมดลดน้อยลง ผู้ที่เป็นพระ ที่มีหน้าที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาก็ต้องออกทำมาหา กิน ปลูกผักปลูกหญ้าและหุงหาอาหารกิน
    กันเอง เวลาที่จะ ไปศึกษาธรรม และปฏิบัติธรรมก็ไม่มี สุดท้ายที่สุดก็เหลือผ้าเหลืองน้อยห้อยหู ห้อยคอ หรือผูกข้อมือเอาไว้เป็นเครื่อง
    แสดงว่านี่แหละคือพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา มีไว้เป็นผู้ประกอบหรือทำพิธีกรรมต่างๆเท่านั้น หลังจากครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้วคำสอนก็
    หมดไป มนุษย์ก็เข้าสู่กาลของกลียุค มนุษย์จะไม่มีศีลไม่มีธรรม อยู่กันอย่าง สัตว์ดิรัจฉานไม่รู้จักพ่อ ไม่รู้จักแม่ไม่รู้จักลูก พอแต่งงาน
    กันได้ลูกหญิงหรือลูกชาย พอลูกโตขึ้น พ่อก็เอาลูกหญิงเป็นภรรยา
    แม่ก็เอาลูกชายเป็นสามี พี่เอาน้อง น้องเอาพี่ สังคมของมนุษย์จะเห็น
    แก่ตัวกันมากขึ้น เริ่มจากคนรอบข้างก่อนหลังจากนั้นก็คนที่ไกลตัว
    ออกไป ท้ายสุดก็ตัวใครตัวมัน ความผูกพันในสายเลือดก็หมดไป
    ในปัจจุบันก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้จะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ จนกว่ามนุษย์จะมีอายุขัยเพียง ๑๐ ปีแล้วก็จะตาย พออายุได้ปีสองปี
    ก็ต้องมีครอบครัวกันแล้ว ตอนนั้นมนุษย์จะตัวเตี้ย จะต้องสอยพริกสอยมะเขือกิน จะเข่นฆ่ากันเอง หลังจากนั้นมนุษย์ก็เริ่มรู้ว่าอะไรชั่ว
    และอะไรดีแล้ว ก็หันกลับมารักษาศีล มาปฏิบัติธรรม กันชีวิตของมนุษย์ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสิบปี เป็นยี่สิบ สามสิบ เป็นร้อย เป็นพัน
    เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นโกฏิ จนถึงหนึ่งอสงไขย พออายุยืนนานมาก มนุษย์ก็ไม่รู้จักความตายจึงเกิดความประมาท อายุก็ลดลงมาๆ
    จนถึงแปดหมื่นปีถึงจะตาย กาลนั้นแหละก็จะเป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย จะเป็นยุคเริ่มต้นของมนุษย์ที่มี ศีลธรรมเจริญรุ่ง
    เรืองมากที่สุด ส่วนผู้ที่ปรารถนาจะไปเกิดในยุคของพระศรีอาริเมตไตรก็ให้ทำดังนี้คือ ๑. รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์
    ๒.ฟังเทศน์พระเวสสันดรสิบสามกัณฑ์ให้จบภายในหนึ่งวันและหนึ่งคืน
    ๓. ให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ได้ไปเกิดร่วมพระชาติเดียวกันกับพระ
    องค์ท่าน ตอนนี้ท่านเป็นเทพ อยู่สวรรค์ชั้นดุสิต ( ชั้น ๔ ) พอหมดบุญ
    จากสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว จะมาจุติยังโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อจะมา สร้าง
    บำเพ็ญทานบารมี มีเช่นเดียวกับพระเวสสันดร พอดับจาก
    ชาติที่ บำเพ็ญทานบารมีนี้แล้ว ก็จะไปจุติยังสวรรค์ชั้นดุสิตอีก หลัง
    จากนั้นจึงจะมาจุติยังโลกมนุษย์อีกครั้ง มาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระอร
    หันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์สุดท้ายในจักรวาลนี้ มีพระนามว่า “สม
    เด็จพระศรีอาริเมตไตร” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    จะหมดและมีเพียงเท่านี้ยังมีอีกอย่างน้อยก็อีก ๘ ถึง ๙ พระองค์ เรา
    ยังจะต้องเวียนตายเวียนเกิดกันอีกนาน...........เทวดาที่จะมา
    สร้างบารมี ของเราเป็นใคร? มีพระนามว่าอะไร ? น้อมจิตน้อมใจรับรู้
    และตั้งรับองค์ท่านเสีย พากันให้ทาน พากันรักษาศีล พากันเจริญ
    สมาธิและศึกษาธรรม ทำให้ถูกต้อง ความสุข ความสบาย ความ
    เจริญ ทรัพย์สินเงินทอง ความร่ำรวย สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
    ทุกสิ่งทั้งหมดทั้งหลายจะได้ตกอยู่ที่ตัวของเรา โดยการสร้างบารมี
    ของเราไปพร้อมกับพระองค์ท่าน ……



    ขอแนะนำเล็กๆน้อยๆ(ความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับบทความ)

    เวลาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลหลายๆคนชอบลืมเทวดาประจำตัวกัน

    อย่าลืมพวกเขานะครับ

    หากคุณหมั่นแผ่ให้

    พวกเขามีแต่จะเยอะขึ้น

    กำลังเพิ่มขึ้น

    และจะช่วยคุณได้มากทั้งตอนนี้และต่อไปในภายภาคหน้า

    แต่ขอให้มีศีล 5 เป็นพื้นฐานกันนะครับ

    จึงจะนับว่าเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง

    และพึงสังวรไว้ว่า กรรมไม่มีใครใหญ่เกินขอให้หมั่นทำดี

    แต่ใม่ใช่ให้กลัวกรรม

    แค้ต้องการให้เข้าใจตามสภาพ

    ขอให้เจริญในธรรมกันครับ.................



    อ้างอิง:นำมาจากเวบคนตาทิพย์เห็นน่าสนใจดีเลยนำมาให้อ่านกัน ^_^
     
  2. minidog

    minidog Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +91
    แล้วเจ้าชายสิทธถะ ก่อนจะตรัสรู้มีเทวดาด้วยมั้ย
     
  3. teelak

    teelak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +900
    อ่านแล้วเข้าใจอะไรๆมากขึ้นครับ

    อนุโมทนาครับ
     
  4. Farfalle

    Farfalle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +45
    อนุโมทนา สำหรับบทความดีๆค่ะ

    พอได้อ่านก็รู้อะได้เยอะขึ้น มากขึ้น ^^
     
  5. kriengkripob

    kriengkripob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,326
    ค่าพลัง:
    +2,048
    อนุโมทนา (ขออุทิศส่วนกุศลให้เทวดนางฟ้าพรหมที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า รวมทั้งขอให้ท่านพระยายมราชอนุโมทนาบุญและเป็นสักขีพยานบุญด้วย) สาธุ
     
  6. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,151
    ค่าพลัง:
    +18,075
    ให้ความรู้ดีจ้า งี้เราก็ม่ายเหงาเนอะมีเทวดาคอยอยู่ด้วยช่วยคุยตลอด 24 ชั่วโมง บ้านก็ม่ายต้องเช่า ข้าวก็ม่ายต้องเลี้ยง ดีจริงๆ อิอิ(ping) อีกอย่างเทวดานุสติก็เป็นหนึ่งในอนุสติ ๑๐ ถ้าระลึกนึกถึงบ่อยๆ ก็รอดอบายภูมิแหงมแซะ :boo:

    มีประสบการณ์ส่วนตัวมาเล่าให้ฟัง

    เคยมีคนบอกว่าให้ไปรับขันธ์ เพราะเด็กๆโดนผีอำบ่อย ญาติๆก็พาไปหาคนทรงเค้าบอกว่าให้รับขันธ์ แต่ด้วยความดื้อไม่ถูกใจวัยจ๊าบ เลยแผ่นกระจายตามระเบียบ พอมาอ่านข้อความที่คุณLukhgai ก๊อบมาให้ ก็ทำให้อยากเล่า อยากเม้าส์ อยากแงะ อยากแซะ อยากกกกกก...ด้วยความคัน (แพ้กิเลสอีกแล้วซิpig_cryy)

    แล้วเราแน่ใจได้ไงว่า "องค์ที่เราไปรับขันธ์" ไม่ใช่ "มารจำแลง" ซึ่งเรื่องนี้ก็ยากเกินตามนุษย์จะรู้แจ้งได้ จะให้ทำตามคนทรงหมอดูทีไหน เราแน่ใจได้ไงว่าท่านนั้นไม่ถูกอกุศลกรรมของเราเข้าไปบัง และ ทางพระพุทธเจ้าท่านก็สอนไว้ว่า "อย่าเชื่อโดยมิได้ใช้ปัญญาพิจารณาหรือพิสูจน์" ทำให้เกิดฟุ้งซ๋านนิดหน่อย จะพิสูจน์ไหงหว่า? ไอ้เราจะมนึกมโนก็ไม่แน่จะพลาดหรือเปล่า จะถามพระอย่างหลวงพ่อ ก็ไม่สามารถ ขนาดหลวงพ่อท่านยังเคยพลาดท่าพญามารจำแลงแล้ว ไอ้หางกระจ๊อกอย่างกระผมจาไปเหลือเรอะ คิดไม่ตก เอาไงดีหว่า เอาไงดี ????

    เกิดจิตคิดแว่บฟ้าแล่บแปล๊บๆๆ ถ้าจะต้องรับขันธ์ ทำไมจะไม่ได้...:VO พระพุทธบารมีอัปมาโณ ทรงเป็นที่สุดทั้งสามภพยากจะมีผู้ใดมาทัดเทียมได้ ในคำกล่าวอาราธนากรรมฐาน ก็มีประโยคที่ว่า "ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...."

    แล้วไม่กี่วันถัดมาแต่งพานดอกไม้3 สี ธูป3 เทียนขาว 5 หมากพลู เงินบูชาครู ยกเหนือเศียรเกล้าถวายพานขันธ์ครูแด่องค์บรมศาสดา เป็นที่เรียบร้อยพร้อมด้วยกาย วาจา ใจ

    หลังจากนั้นก็ฝันเห็น เทพเทวาท่านมาแจ้งในฝันว่า หากมีสิ่งใดให้ระลึกนึกถึงท่านได้ตลอดเวลา dannce_ทุกวันที่หยอดกระปุกบุญก็จะนึกถึงท่านให้ท่านโมทนาบุญ และแอบงกขอโมทนาบุญทั้งมวลของท่านด้วย :cool:

    ใครที่จะต้องรับขันธ์ ลองเอาไปทำบ้างก็ได้น่ะ ถ้าจำเป็นจริงๆ หรืออยากรับขันธ์ ก็ลองยกถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิแน่นอนที่สุดในจักรวาล อนันตจักรวาล chearr

     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ Lukhgai และคุณพี่ Khunkik ด้วยค่ะ

    เรื่องทำบุญทุก ๆ แล้วอุทิศให้และอนุโมทนาบุญกับเทวดาประจำตัวทุกวันค่ะ

    บุญรักษาทุกท่านค่ะ

    Numsai
    ;aa4
     

แชร์หน้านี้

Loading...