ทฤษฏีทำร้าย..คนรัก

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย หญิงจัน, 17 มิถุนายน 2009.

  1. หญิงจัน

    หญิงจัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +2,655

    [​IMG]

    คุณเชื่อทฤษฎีนี้ไหม?


    ตอนที่เรายังไม่รักใคร เราอาจมีแก่ใจทำดีกับเขา
    แต่เมื่อไหร่ที่รู้ว่าเขารักเรา เราจะเริ่มอยากทำร้ายเขาทันที!


    คุณเชื่อไหมว่าที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะลึกๆเราอยากหาใครสักคนมาเป็นข้าทาสเอามาเป็นที่รองรับอารมณ์ เอามาก่นด่าได้แรงๆ ดูถูกเหยียดหยามได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องกลัวว่าเขาหรือเธอ (ที่เราเรียกในใจว่า ‘มัน’) จะไปฟ้องตำรวจ?​

    คุณเชื่อไหมว่าเราเห็นคนแปลกหน้าทั้งหลายเป็นอื่น เมื่อจะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายหรือกระแทกวาจาทำร้ายจิตใจ จะได้ถนัดถนี่หน่อย ไม่ต้องเกรงใจอย่างญาติเมื่อคนแปลกหน้ากลายเป็นคนใกล้ชิดจนยากจะถอนตัวออกห่างเราก็สามารถบังคับควบคุมให้เขาต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมโดยดี ไม่ว่าจะต้องทนทุกข์จากน้ำมือเราสักขนาดไหน?​

    หากทฤษฎีข้างต้นเป็นจริง ก็แปลว่าโลกนี้ไม่มีใครครองรักแล้วเป็นสุขกันสักรายเพราะหมายความว่าทันทีที่ยึดครองใครสักคนเป็นคนรัก คุณก็พร้อมจะกดขี่คนๆนั้นเยี่ยงทาสแล้วคงไม่มีใครเป็นสุขจากภาวะจองจำเยี่ยงทาส และแม้ผู้ผันตัวเองไปเป็นนาย
    ก็ย่อมมีชีวิตที่แห้งแล้ง เพราะทราบอยู่แก่ใจลึกๆว่าตนไม่มีคนรัก
    มีแต่คนใกล้ชิดที่อึดอัดทรมานเพราะเรา เราย่อมไม่รู้สึกอบอุ่นกับการใช้ชีวิตคู่เคียงกันผิดจุดประสงค์เริ่มแรกแห่งการจับคู่ ที่มนุษย์ทั้งหลายปรารถนาความรัก ความอบอุ่น ความไยดีอาทร และมีลูกหลานมีครอบครัวอันปรองดองไปจนกว่าจะตายจากกัน

    ทุกคนปรารถนาความปรองดอง แต่ทฤษฎีทำร้ายคนรักกลับบอกเราว่าเมื่อใดคนสองคนเริ่มรักกัน ก็รอดูได้เลยว่าใครจะเป็นฝ่ายข่มเหงและใครจะเป็นฝ่ายถูกรังแก หรืออีกทีก็รอดูว่าถ้าต่างฝ่ายต่างตั้งท่ารังแกกันและกันในที่สุดใครจะแพ้ ใครจะชนะ ลงเอยคือจะแตกแยกกันเมื่อใด คงไม่มีสักกี่รายที่ทนทำหน้าบูด ทู่ซี้อยู่ได้นานพอจะรอมัจจุราชมาเป็นกรรมการยุติการชกในชาตินี้

    หากอยากยืนยันว่าทฤษฎีทำร้ายคนรักเป็นเรื่องจริงก่อนอื่นเราต้องตั้งสมมุติฐานว่าเมื่อตกลงเป็นคนรักกัน "ทุกคู่"ต้องพูดจาหรือทำเรื่องน่าเจ็บใจให้แก่กันและกันเสมอ
    หากพิสูจน์ได้ว่ามีคู่รักแม้แต่คู่เดียวในโลกที่ครองชีวิตกันดีๆ มีแต่พูดหวานๆ เอาอกเอาใจกันตลอดรอดฝั่งไปจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรก็ให้ถือว่าทฤษฎีทำร้ายคนรัก"ไม่จริง" หรือ "มีข้อยกเว้นให้พิจารณาเป็นกรณีไป"

    พฤติกรรมที่เห็นได้ทั่วไปเป็นอย่างไร?

    ข้าทำได้ แต่แกห้ามทำ!


    ข้าพูดได้ แต่แกห้ามพูด!

    ข้าคิดได้ แต่แกห้ามแม้จะแอบคิด!


    ถ้าพบพฤติกรรมทำนองนี้ทั่วทุกหย่อมหญ้า
    ก็แปลว่าทฤษฎีทำร้ายคนรักมีแนวโน้มจะเป็นจริงเนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องของคนบ้าอำนาจ อยากยึดครองสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น โลกนี้ไม่มีสิ่งใดน่ารังเกียจเท่าการสูญเสียสิทธิเสรีภาพและความเป็นตัวของตัวเอง แต่พฤติกรรมของผู้ที่อ้างว่าเป็นคนรักส่วนใหญ่ กลับเอนเอียงไปทางใช้สิทธิ์ของคนรัก ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของอีกฝ่ายเกือบทั้งสิ้น!


    ความหมายของคนรักคืออะไร?


    ต้องทำตัวน่ารัก หรือสมควรจะทำให้คู่รักของตนมีความสุขมิใช่หรือ? มิฉะนั้นจะมีศัพท์เรียกว่าเป็น "คู่รัก" ได้อย่างไร? ต้องเรียกว่าเป็นคู่เวร "คู่แค้น" หรือคู่ทิ่มแทงเสียมากกว่า ทำไมการณ์กลายเป็นเรื่องกลับตาลปัตรไปอย่างนี้ได้?


    เพื่อความเข้าใจ ก็ต้องขุดค้นกันให้ลึกลงไปอีกหน่อยถามว่าเหตุผลของการ "ต้องมี​

    คนรัก" คืออะไรแน่นอนว่าสิ่งที่เราจะคิดถึงเป็นอันดับแรกน่าจะได้แก่การหาใครสักคนมาแก้เหงา มาเอาสนุกมนุษย์เป็นสัตว์แสนเหงา อยู่คนเดียวนานๆไม่ได้ ต้องหาคนที่คุยกันรู้เรื่องมาเป็นเพื่อนและมนุษย์ก็เป็นสัตว์เสพความบันเทิง อยู่เปล่าๆแล้วแห้งเหี่ยว ต้องหาเพศตรงข้ามมาจอยกันให้สนุก

    ถ้าแก้เหงาได้จริง ถ้าร่วมสนุกได้มาก ธรรมดาเราก็จะเกิดการหวงแหนเห็นคนรักเป็น "สมบัติส่วนตัว" แถมอยากให้เป็น "ของตายในมือ" อีกด้วย คนอื่นไม่มีสิทธิ์แม้แต่เกร่เข้ามาเจ๊าะแจ๊ะสักคำสองคำ แถมจะเห็นคนรักเป็นบริกรเอนกประสงค์ อยากเรียกใช้บริการที่ไหนเมื่อไหร่ต้องได้ ห้ามมาช้า ห้ามบ่นปอดแปด

    เห็นจุดเริ่มต้นของการอยากครอบงำคนรักให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือยัง? หากไม่ได้ดังใจนะครับ คนเราก็จะหาวิธีต่างๆนานา หาจุดอ่อนของคนรักให้เจอ เพื่องัดไม้เด็ดมาใช้ให้ถูกจุด จนกว่าจะครอบงำและควบคุมความนึกคิดของคนรักได้ทั้งตัว

    จากเริ่มต้นที่ตั้งความหวังไว้ว่าคนรักจะเป็นแหล่งรวมอารมณ์ดีของฉัน ในที่สุดก็กลายเป็นแหล่งรวมความได้อย่างใจของกู


    เมื่อรักกัน คบหาสนิทกัน ใครสมควรเตรียมตัวเป็น ฝ่ายซวย ใครสมควรเป็น ตัวซวยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เกมรักกลายเป็นว่าใครหงอก่อน เปิดช่องโหว่ให้ก่อน ก็จะมีสิทธิ์เป็นฝ่ายซวยก่อน ใครแสดงความเข้มแข็ง หรือมารยาเพทุบายดีกว่า คนนั้นก็ได้ตำแหน่งตัวซวยประจำชีวิตของคนรักไป

    คนเรากลัวการสูญเสีย แต่ก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างเหตุแห่งความสูญเสียกันอย่างไม่ต้องหยุดต้องหย่อนบางทีรู้แก่ใจว่าเป็นตัวซวย ทำชีวิตคนรักให้อับเฉา อึดอัดคับอกคับใจก็ขี้เกียจเกินกว่าจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง จะเปลี่ยนทำไม ได้เป็นนายแล้วนี่

    เอาล่ะ! เดี๋ยวจะเครียดเกินไป มามองด้านดีบ้างเพราะเห็นเงื่อนไขของการเป็นคนร้ายหลังคบกับคนรักกันไปแล้วคราวนี้หากจะเป็นคนรักที่ทำตัวน่ารักอย่างยั่งยืน เราต้อง "สมมุติ" ให้มีเงื่อนไขอะไรอยู่บ้าง?

    มองบางคู่ที่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้จริง คนบางคนโชคดีเจอ "แจ็กพอตของชีวิต"โดยไม่ต้องพยายาม กล่าวคืออยู่ดีๆก็ได้เจอคนสมกัน มีความเลื่อมใสในชีวิตที่ดีงามเหมือนๆกัน มีความประพฤติอันใสสะอาดพอๆ มีความเสียสละไม่เอารัดเอาเปรียบได้เท่าๆกัน ตลอดจนมีความคิดอ่านในระดับเดียวกัน

    อันนี้สอดคล้องกับคุณสมบัติที่จะครองรักกันอย่างสมบูรณ์แบบตามอุดมคติพุทธนั่นคือมีศรัทธา มีศีล มีจาคะ และมีปัญญาเสมอกัน สำหรับคุณๆที่อาจยังไม่เคยเจอคู่แสนประเสริฐดังกล่าว ก็ขอให้ฟังหูไว้หู แบบเผื่อใจไว้แล้วกัน คิดว่า ถ้าคุณสมบัติเหล่านี้เป็นแค่เรื่องสมมุติ ก็แปลว่าไม่มีคู่ที่หลุดรอดจากทฤษฎีทำร้ายคนรัก แต่หากเป็นจริงได้เมื่อใด ก็แปลว่าทฤษฎีทำร้ายคนรักจะใช้ไม่ได้กับคู่นั้นอย่างเด็ดขาด!

    ผู้ที่ศรัทธาความบังเอิญ ย่อมไม่อาจเลื่อมใสว่าคู่ใดในโลกจะมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมดังกล่าวได้ ส่วนผู้ที่ศรัทธาพรหมลิขิต ย่อมเชื่อว่าถ้ามีการขีดชะตาไว้จากฝั่งฟ้าเบื้องบน ก็ย่อมมีอะไรเช่นนั้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย (และไม่ควรตั้งคำถามว่าทำไมจึงได้รับความกรุณาอย่างลำเอียงเช่นนั้น) ดังนั้นจึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตนเป็นคนร้าย ปล้นความสุขของคนรักกันต่อไป

    แต่สำหรับผู้ที่ศรัทธากรรมวิบาก ย่อมเชื่อในเรื่องของ "การพยายามทำให้มี" เชื่อในศักยภาพของมนุษย์ ว่าถ้าสมมุติอะไรขึ้นมาได้ก็แปลว่าคิดได้แล้ว และ "ถ้าคิดได้ก็ต้องทำได้" ขอเพียงมีวินัยและความซื่อสัตย์กับความตั้งใจของตนเองไปสักพัก เขาย่อมเห็นตามจริงดังที่พระพุทธเจ้าตรัส ว่าสามีภรรยาผู้มีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาเสมอกัน ควรแล้วที่จะครองรักอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตปัจจุบัน และจะได้พบกันอีกในปรโลก

    ชายหญิงคู่อื่นในโลกย่อมสลับกันเป็นฝ่ายกระทำและฝ่ายถูก กระทำ เมื่อทำเขาเจ็บ วันหนึ่งก็ต้องเจอใครสักคนทำให้เจ็บบ้าง และถ้าเห็นคนอื่นเป็นทาส วันหนึ่งย่อมตกอยู่ในฐานะข้าทาสบ้าง เป็นความยุติธรรมที่ได้ดุลดีในธรรม อันนั้นก็ปล่อยเขาไป แต่อย่าปล่อยตัวเราเองเลย ไม่มีใครสร้างกฎ แต่ก็ตกอยู่ภายใต้กฎนี้เหมือนๆกันหมด ถ้าเราทำถูกกฎ กฎย่อมสนองคืนเป็นความรู้สึกถูกต้อง และบันดาลรูปชีวิตที่เป็นสุขสืบไป ให้ปัจจุบันเป็นตัวกำหนดอนาคต อย่าปล่อยให้อดีตมาครอบงำปัจจุบันและอนาคตกันเลย



    สิ่งที่คนรักดูเหมือนน่าจะมี..... คือความพร้อมที่จะรัก
    แต่สิ่งที่ทุกคนมีอยู่แน่..... คือความพร้อมจะร้าย

    จาก : หนังสือคิดจากความว่าง 2
    ผู้เขียน : ดังตฤณ






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2009
  2. โลมาน้อยน้อย

    โลมาน้อยน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +14
    ถ้าอย่างนั้นอยู่คนเดียว ดีกว่ามั้ยคะ
     
  3. VikingsX

    VikingsX ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,668
    แล้ว ทฤษฏี " ข่มขื่นให้รัก " นี้ ต่างหรือคล้ายกันอย่างไร

    " ฉันไม่ได้ ใครก็อย่าได้ " ประการ หนึ่ง
    อีำก ประการหนึ่ง " ให้ทุก ๆๆ คน บอยคอร์ต เป็นส่วนเกินของสังคม " ด้วยวิธีการ ต่าง ๆๆ นานา เช่น

    ..... ฉันจะตามไปบ่อน ทำลาย โดยการเที่ยวตะเวณ สนตะพาย ปล่อยข่าว เป็น E แอบ อยู่เบื้องหลัง ลับ ๆๆ คือ ไม่ให้สาวไปถึงตัวเองได้ จะได้ ทำเก๊กท่าเป็น ผู้ดีมีตระกุล เป็น คนดีของสังคม เป็นคนมีการศึกษา

    อันนี้ เจอมา เกือบ 20 ปี แล้ว ยัง ปลดไม่ได้เลย.... เวรกรรมจริง ๆๆ

    ชีวิต ไม่ต้องไปไหนกัน... ต้องอยู่ไปวัน ๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  4. mintza

    mintza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2005
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +154
    อนุโมทนา ค่ะ

    ว่าชีวิตจริงเป็นเช่นนั้น

    เราทำให้ใครเจ็บปวด ก็จะมีใครสักคนมาทำให้เราเจ็บแบบเดียวกันเช่นกัน
     
  5. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    สู้ๆๆนะครับ
     
  6. patcha2001

    patcha2001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +174
    ทฤษฎีทำร้าย...คนรัก

    :z8piggi
    ไม่ทราบว่าคุณเป็นหญิงหรือชายนะ VikingsX

    ปกติแล้วคนที่มีความจริงใจต่อกัน ควรมีอนาคตร่วมกัน

    ไม่สนุกๆ เท่านั้น อันนั้นไม่ใช่วัฒนธรรมไทย

    ถ้าสาวๆ เจอคนประเภทนี้ ห้ามเล่นด้วยเด็ดขาด

    ถือว่าเป็นความซวยที่เจอชายโฉด บางครั้งการศึกษา

    และประวัติของครอบครัวก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าคนเป็นคน

    เอาการเอางาน จริงใจ และรับผิดชอบ(ไม่ใช่ Playboy)

    แต่ถ้าเจอแล้วประจานต่อหน้าสังคม เพื่อเป็นการกันคนชั่ว

    ไม่ให้มาทำร้ายตนเอง และผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์อีก และให้

    เขาไปอยู่ในสังคมของคนประเภทเดียวกับเขา มันก็ดีแล้ว

    ไม่ใช่หรือ

    ชีวิตคนไม่ใช่ของเล่น เกิดเขาไม่สามารถทำใจได้ ไม่สามารถ

    หลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่คุณสร้างขึ้นมา อนาคตของเขาและ

    ครอบครัวจะเป็นอย่างไร

    สำหรับผู้หญิงที่มีพฤติกรรมแบบชายดังกล่าว ดูสักระยะหนึ่งก็รู้

    ถ้าเรามองในแง่ความเป็นธรรมกับคนดีๆ นะ ก็ได้แต่อวยพรให้

    คนประเภทนี้อยู่ในบ่วงทุกข์ด้วยกัน

    ดูเรื่องเต๋ากับแฟนคนแล้วคนเล่าซิ(ยกเว้นนัท) เป็นตัวอย่างที่

    ไม่ดีสำหรับสังคมไทยมากๆ และก็คิดว่าพอๆกันทั้งคู่ พ่อแม่

    ฝ่ายหญิงน้ำตาตก สำหรับผู้ขายคุณคิดว่าชอบชีวิตอย่างเต๋าไหม

    oishi_be happy1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  7. golferjk

    golferjk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +15
    ๕๕๕ แบบว่ายังไม่มีแฟนอะโชคดีไปเรา
     
  8. mansum007

    mansum007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,238
    ค่าพลัง:
    +2,035
    ผมว่า การอยู่คนเดียวอาจช่วยได้นะครับ

    แต่ที่จริงอยู่ที่การยอมรับมากกว่า

    ถ้ารับได้และยอมให้เขาจากไปจะดีกว่า
     
  9. luxury

    luxury เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2006
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +583
    ให้ปัจจุบันเป็นตัวกำหนดอนาคต อย่าปล่อยให้อดีตมาครอบงำปัจจุบันและอนาคตกันเลย
    พี่ luxury เห็นด้วยกับประโยคนี้ค่ะ หรือบิ๋มว่าไงจ๊ะ?
     
  10. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    หากรักให้เป็น ก็จะรู้ว่า เมื่อไรควรปล่อยความรักไป เหมือนว่าวที่คอยเย่อแข่งกับแรงลม หลุดลอยไปเมื่อไร อิสระปลดล็อคใจทันที แล้วจะไม่มีความเจ็บปวดหรือเสียดายว่าวนั้นเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...