ทำไมขนลุกตอนแผ่เมตตาทุกทีเลยล่ะครับทั้งๆที่เราน่าจะออกมาจากขั้นที่ทำให้เกิดปีติแล้ว

คือปกติตอนนั่งสมาธิแล้วขนลุกหรือตัวโยกไปมาก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นอาการของปีติ ในขั้นของอุปจารสมาธิ แต่พอเราคิดอยากแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายวิญญาณทั้งหลาย ผมเข้าใจว่าเราน่าจะออกจากขึ้นอุปจารถอยมาอยู่ในขั้น ขณิกสมาธิ แล้วนะครับ แต่ทำไมพอเริ่มแ่ผ่เมตตาตามบทแ่ผ่เมตตา ลองทั้งแบบเปล่งเสียงและแผ่ในใจ ก็เกิดอาการขนลุกขนพองจนบางทีตัวสั่นเลยก็มี ก็เลยสงสัยว่าอาการขนลุกนี้เกิดจากอะไรครับ หรือที่ผมคิดว่าผมออกจากอุปจารสมาธิจริงๆแล้วยังไม่ได้ออกมา คือผมหมายความว่าผมแผ่เมตตาในขณะที่อยู่ในขั้นอุปจารสมาธิก็เลยเกิดอาการของปีติขึ้นมาแบบนั้นรึเปล่าครับ พี่ๆน้องๆทุกท่านช่วยแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าขอให้คุณพระรัตนตรัยรักษาคุ้มครองทุกท่านนะครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ

 

เข้าใจถูกแล้ว....การที่กำหนดจิตแผ่ท่านอยู่ในอุปจารสมาธิครับ....

ปิติไม่ใช่จะเกิดแต่เวลานั่งสมาธิเท่านั้นนะครับ...

 

ผมก็เป็นนะครับ แม้ว่าไม่ได้ทำสมาธิเลยแต่เวลาที่คิดถึงบุญกุศลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นครับ ขนลุกซ่าเลย ตั้งแ่ต่หัวจรดเท้าเลย เป็นเพราะอะไรครับ;aa31

 

อาการขนลุกเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
- จิตอยู่ในสมาธิ เกิดปีติ จึงมีอาการขนลุกได้
- มี อมนุษย์ เทพ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มา ท่านที่สามารถรับสัมผัสได้
ก็จะมีอาการขนลุกค่ะ

 

สังเกตุให้ดี ๆ นะ ปิติ จากสมาธิ กับอาการอ่อนไหวทางอารมณ์มันต่างกันนะ
ต่างกันที่เจตนา หากสังเกตุดี ๆ ไม่เหมือนกัน

 

เดชคัมภีร์ เมตตากรรมฐาน

 

ฝึกแผ่เมตตาบ่อยดีแล้วครับ.....ความจริงการที่เราแผ่เมตตาหรือมีความหวังดีต่อผู้อื่น.....

เป็นกรรมฐานกองหนึ่งในกรรมฐาน 40 ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้..มีชื่อว่า พรหมวิหาร 4......

เป็นกรรมฐานที่เหมาะสมในการปราบ โทสะ....และเหมาะสมกับโทสะจริตครับ....

โมทนาด้วยนะครับ...ตั้งใจปฏิบัติ....

 

แสดงว่าเป็นคนชอบให้ความเมตตากับผู้อื่นเป็นทุน ทำแล้วเกิดความสบายใจ อย่างยิ่งยวด แล้วเป็น ปิติ เกิดขึ้น นั้นคือ กำลังใจของการทำความดีชนิดหนึ่งครับ
อนุโมทนาครับ

 

ผมก็เป็นครับ แต่เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง อย่างเมื่อคืนก็เป็น หลังจากนั่งสมาธิแล้วแผ่เมตตาขนลุกซู่เลย

ขอถามความเห็นเรื่องขนลุกหน่อยครับ มีครั้งนึงผมไปวัด ไปเจอผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาว อายุประมาณ 30กว่าๆ 40 ได้มั๊งกำลังขายหนังสือธรรมะอยู่เล่มหนึ่ง(เพื่อมอบเงินให้วัดหรือไงนี่แหละ) ผมก็เข้าไปดู เออปกสวยดีนะ รูปภาพในเล่มก็สวยจับใจ และเป็นประวัติของบทพาหุง ผมก็ตกลงซื้อเล่มนึง ทันทีที่พี่ท่านนั้นหยิบหนังสือจากมือผมไป(หนังสืออยู่ระหว่างมือของสองคน) เพื่อจะใส่ถุงพลาสติกให้ ผมขนลุกซู่เลย พี่เขาก็บอกว่า เอ๊ะทำไมเขาขนลุกซู่เลย ผมก็บอกพี่เขาว่า เนี่ย ผมก็เป็นเหมือนกัน พี่เขาเลยบอกว่า อย่างนี้เราน่าจะมีบุญได้พบกันอีกนะ ไว้เจอกันในงานบุญครั้งหน้านะ
จบครับ
ใครคิดเห็นประการใด หรือเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างครับ

 

ในความคิดของผมนะ น่าจะมีผู้มาอนุโมทนาบุญด้วย ผมก็เคยตอนแผ่เมตตาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งสมาธิหรือตอนที่ไปตักบาตรแล้วพอแผ่เมตตาแผ่บุญกุศลเสร็จปุ๊บก็ขนลุกซุ่รู้สึกปีตินิดๆ แม้ว่าไม่ได้นั่งสมาธิก็ตาม

 

ก็ประมาณว่า พื้นจิตนั้นเสมอกัน คือ มีศีล จาคะ ศรัทธา ปัญญา เสมอกัน

พอพื้นจิตเสมอกัน สภาวะธรรมจึงส่งถึงกันได้ง่ายๆ คล้ายคลื่นมันตรงกัน
จึงรับกระแสจิตของกันและกันได้

ก็ให้เห็นแล้วผ่านๆไปครับ อย่าเอามาอุปทาน หากวันไหนพื้นจิตมีคุณภาพ
ต่างกันไปก็จะไม่เห็นอีก

แต่ถ้ายังใกล้ๆเคียงกัน ก็จะเป็นแบบที่คุณป้าเขาว่าแหละครับ หากมีงานบุญ
อะไรขึ้นมา เวลาหันซ้ายหันขวาก็จะเจอกันโดยง่าย

แต่ถ้าเอามาอุปทานนะ ก็อาจจะหันหน้าออกจากทางธรรมกันไป ดีไม่ดีหัน
ไปไกลกว่าการเห็นทางธรรมอีกนะ

เนขขัมมะดีกว่า

 

คุณเชื่อผมไหม ว่าคุณมีองค์ เทพในตัว ไม่เชื่อ ลองนักสมาธิระดับ หนึ่งท่านจะได้ยินเสียงแว้วๆ เรียกคุณ เชื่อผม แล้วปฏิบัติดีบ่อยๆละครับ ดีแล้ว

 

ผมก็เป็นครับ ขนลุกตอนแผ่เมตตา

 

เป็นปกติครับ รับรู้ไว้แล้วปล่อยให้มันดับไป

ขอ อนุโมทนา สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุคะ
ปฏิบัติไปเรื่อยๆนะคะ นั่นเป็นอาการปิติระดับหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งในระดับขณิกสมาธิและอุปจารสมาธิของแต่ละคน ขนลุกก็ขนลุกไป อย่าไปรับอารมณ์ให้เป็นวิตกหรือนิวรณ์ตามมา ความเปลี่ยแปลงเกิดขึ้นตามระดับของสมาธิ เพียงเรามีสติอยู่ตลอดเวลาทุกอิริยบท ธรรมจะเกิดขึ้นในปัญญาของเราเอง อย่าลืมว่าปฏิบัติเอง รู้ได้ด้วยตนเอง ธรรมรู้ได้เฉพาะตนนะคะ

 

.................



อนุโมทนาสาธุกับธรรมอันสูงสุดของท่านคะ
เห็นด้วยทุกอย่างที่กล่าวมา ปรารถนาให้ทุกท่านเจริญในธรรมและรับพระนิพพานได้สำเร็จทุกท่านคะ

 

อนุโมทนาสาธุครับ ผมก็เป็น ตอนเข้าถึงสมาธิ แล้วแผ่เมตตาครับ