กรรมที่กำหนดสีผิว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย รักบุญ, 31 กรกฎาคม 2009.

  1. รักบุญ

    รักบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +160
    ถาม – ผิวสีถูกกำหนดขึ้นจากกรรมอะไรคะ? <!--colorc--><!--/colorc-->

    มี ปัจจัยหลายประการครับ ถ้าพูดแบบผิวเผินที่สุด สีของ ผิวกายในปัจจุบันชาติ สะท้อนให้เห็นสีของจิตในอดีตชาติ ถ้าสั่งสมกรรมชนิดที่ ปรุงแต่งจิตให้เป็นเมตตามากๆ ผิวพรรณก็จะออกแนวโน้มไปทางขาวละเอียด แต่ถ้า สั่งสมกรรมชนิดที่ปรุงแต่งจิตให้เป็นพยาบาทมากๆ ผิวพรรณก็จะออกแนวโน้มไปทางดำ กระด้าง

    คุณสมบัติหลักๆอันเป็นเครื่อง ชี้ว่าจิตมีเมตตาสูง ได้แก่ ความเป็นคนโกรธยากหายง่าย และเป็นผู้สละให้คนอื่นง่ายแต่กอบโกยเข้าตัว ยาก การมีเมตตาสูงมิใช่สิ่งที่จงใจกำหนดได้เองลอยๆ แต่ต้องเป็นผู้กระทำกรรมทาง กาย วาจา ใจในทางเป็นกุศล ดังนี้
    ๑) ความคิดในเชิงสละมลทินออกจากจิต นับแต่ความ คิดสละความตระหนี่ ความคิดสละความผูกใจเจ็บแค้นอาฆาต และความคิดสละความเห็นผิด ทำนองคลองธรรม นอกจากนี้ยังมีทางลัดแบบภิกษุในพุทธศาสนา คือเจริญเมตตา ตั้งจิต ไว้เป็นสุขอย่างใหญ่ แล้วแผ่ไปไม่มีประมาณ กระทั่งเป็นอัปปมัญญา คือรวมจิตถึง ฌานด้วยอำนาจความสุขที่แผ่ไปทั่วทุกทิศอย่างไร้ขอบเขตนั้น หากเจริญเมตตาได้เป็น ปกติตลอดชีวิต ก็ยากที่จะเกิดโทสะเปื้อนจิตได้เกินอึดใจ อย่าว่าแต่จะยกระดับ ขึ้นเป็นความอาฆาตพยาบาทยืดเยื้อยาวนาน

    ๒) คำพูดในเชิงประนีประนอมประสานประโยชน์ นับแต่ คำพูดถึงความจริงอย่างตรงไปตรงมา คำพูดที่ไพเราะเสนาะหู คำพูดที่นุ่มนวลปราศจาก การให้ร้าย และคำพูดที่เปี่ยมด้วยสติไม่เพ้อเจ้อเลอะเทอะ วจีกรรมที่ขาวสะอาดจะ ปรุงแต่งจิตให้ขาวสะอาดตามไปด้วย และเป็นที่ตั้งแห่งพยาบาทได้ยากเช่น กัน

    ๓) การกระทำในเชิงให้คุณ นับแต่การเก็บมือไม้และ กายส่วนต่างๆไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่นในทางใดทางหนึ่ง ไปจนกระทั่งการใช้มือไม้ และกายส่วนต่างๆสงเคราะห์ผู้ต้องการความช่วยเหลือ แม้เมื่อให้ทานยังค้อมหลังก้ม ลงให้ ไม่ใช่โยนให้อย่างเศษเดน ความนุ่มนวลทางกิริยาจะปรุงแต่งจิตให้โน้มน้อมไป ในทางถ่อมตน ปราศจากความกระด้าง เป็นปฏิปักษ์กันกับนิสัยก้าวร้าว ไม่เป็นที่ ตั้งของโทสะและพยาบาท
    กรรมขาวที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้ ‘ใจดี’ มีประกายเมตตา มีความ ขาว ซึ่งยิ่งประกอบกันมากเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้นิมิตของ ‘กาย ใน’ เป็นไปในทางขาวมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเกิดใหม่จริง พลังกรรมก็จะรวมตัวไปคุมรูปร่างและผิวพรรณวรรณะให้เหมือน กายในดังกล่าวนั่นเอง
    ส่วนคุณสมบัติหลักๆอันเป็นเครื่องชี้ว่าจิตมีความ พยาบาท สูง ได้แก่ ความเป็นคนโกรธง่ายหายช้า และเป็นผู้สละให้คนอื่นยากแต่กอบโกยเข้า ตัวง่าย การมีความพยาบาทสูงมิใช่สิ่งที่จงใจกำหนดได้เองลอยๆ แต่ต้องเป็นผู้ กระทำกรรมทางกาย วาจา ใจในทางเป็นอกุศล ดังนี้

    ๓.๑ ความคิดในเชิงสะสมมลทินเข้าจิต นับแต่ความคิด โลภเอาเข้าตัว ความคิดผูกใจเจ็บไม่เลิก และความคิดหลงสำคัญผิดอันเป็นไปเพื่อ ความฟุ้งซ่านแส่ส่าย ความมืดดำเป็นอกุศล นอกจากนี้ยังมีทางด่วนพิเศษไปสู่ความ หายนะทางจิต คือเลือกเชื่อ หรือปลูกฝังความเชื่อตามลัทธิที่ชักชวนให้หลงผิด เช่น ร่ำเรียนไสยดำ นับถือบูชายักษ์มารเป็นสรณะ ปฏิเสธบุญคุณพ่อแม่แต่หันไป เลื่อมใสบุญคุณเทพหรือเจ้าลัทธิแทน ความหลงผิดจะทำให้จิตมืด จิตมืดจะเป็นที่ ตั้งของโทสะและพยาบาทได้ง่าย

    ๓.๒ คำพูดในเชิงก่อโทษและเพิ่มรอยร้าว นับแต่คำ พูดบิดเบือนความจริง คำพูดก้าวร้าวหยาบคาย คำพูดให้ร้าย และคำพูดไร้สติที่ทำให้ ใจเราใจเขาพล่านไปอย่างปราศจากทิศทาง วจีกรรมที่ดำสกปรกจะปรุงแต่งจิตให้ดำสกปรก ตามไปด้วย และเป็นที่ตั้งแห่งพยาบาทได้ง่ายเช่นกัน

    ๓.๓ การกระทำในเชิงให้โทษ นับแต่การลงไม้ลงมือ เบียดเบียนผู้อื่นในทางใดทางหนึ่ง ไปจนกระทั่งการเก็บมือเก็บไม้ไม่ยอมสงเคราะห์ ผู้ต้องการความช่วยเหลือ การเคลื่อนไหวแบบผลุนผลันปึงปัง การนิยมวิธีใช้กำลัง บังคับผู้อ่อนแอกว่า ก็ล้วนเป็นที่มาของใจกระด้างกระเดื่อง เป็นมิ่งมิตรกันกับ นิสัยก้าวร้าว เป็นที่ตั้งอันมั่นคงของโทสะและพยาบาท
    กรรมดำที่กล่าวมาจะทำให้ ‘ใจดำ’ มีความมืดชนิดแผ่รังสี อำมหิต ซึ่งยิ่งหนาแน่นเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้นิมิตของ ‘กายใน’ เป็นไปในทางดำมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเกิดใหม่ จริง พลังกรรมก็จะรวมตัวไปคุมรูปร่างและผิวพรรณวรรณะให้เหมือนกายในดังกล่าวนั่น เอง
    ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับ ต้องกล่าวว่า ถ้า ‘กายใน’ เสื่อม ลงหรือเจริญขึ้น ขัดแย้งกับ ‘ของเก่า’ อย่าง เห็นได้ชัด คุณไม่ต้องรอเกิดครั้งหน้าก็สามารถเห็นเค้านิมิตกายใหม่ได้ผ่านผิว พรรณนี่เอง เท่าที่ผมเห็นกับตามาหลายครั้งนะครับ บางคนนี่แรกๆดูดำๆสกปรก หรือ แม้ผิวขาวก็ดูหมองไร้ราศี พอหันมาศรัทธากรรมวิบาก หมั่นให้ทานรักษาศีลเป็น นิตย์ ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งสดใสขึ้นชนิดคนรอบข้างอ้าปากหวอกันเป็นแถว ยิ่งถ้าบุญ เก่าดีอยู่แล้ว และมาตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยว บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ไม่ผิดศีล แม้ด้วยความคิด ก็แทบเห็นจะจะชนิด ‘ขาวด้วยบุญใหญ่ข้าม คืน’ กันเลยทีเดียว

    กล่าวโดยสรุป ถ้าจิตกระเดียดไปทางอารมณ์ดี จะมีกระแส เมตตาคุมรูปให้ขาวละเอียด สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าความไม่ถือโกรธมีวิบากเป็น ผิวพรรณประณีต ถ้าจิตกระเดียดไปทางเจ้าโทสะ จะมีกระแสอาฆาตคุมรูปให้ดำกระด้าง สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าความมักโกรธมีวิบากเป็นผิว
    พรรณทราม

    <!--coloro:#3366FF--><!--/coloro-->ถาม – ผิวขาวกับผิวดำมีหลายแบบ ขาวซีดก็มี ขาวอมชมพูก็ มี ดำน่าเกลียดก็มี ดำเนียนตาก็มี อย่างนี้ขึ้นอยู่กับความต่างของเมตตาหรือ พยาบาทอย่างไรคะ?<!--colorc--><!--/colorc-->

    ขอจำแนกลักษณะผิวเป็นข้อๆพร้อมกรรมอันเป็นต้นเค้าดังนี้ ครับ

    ๑) ผิวขาวเผือด เกิดจากการมีความโกรธเบาบาง ไม่ ค่อยผูกพยาบาท ทว่าขณะเดียวกันก็เมตตาแบบงั้นๆ คือไม่ได้มีความรักเอ็นดูใน เพื่อนร่วมทุกข์ทั้งคนและสัตว์สักเท่าไร

    ๒) ผิวขาวอมชมพู เกิดจากการมีจิตฝักใฝ่ในเมตตา ธรรม และเป็นเมตตาที่ทอรัศมีออกมาจากความเอ็นดูรักใคร่คนและสัตว์อย่างลึกซึ้ง ขอให้สังเกตว่าคนผิวขาวสวย มักมีเนื้อหนังนุ่มแน่นและเนียนละเอียดเหมือนแผ่นหยก ด้วย ผู้มีความสมบูรณ์แบบทางผิวพรรณชนิดไร้ที่ติประเภทนี้ จะสะท้อนอดีตกรรมใน ปางก่อน คือเต็มเปี่ยมด้วยเมตตาอย่างไร้ที่ติตลอดชีวิต จึงมีกำลังส่งจากกรรม เก่าคุมรูปให้ขาวสวยอย่างยืดเยื้อยาวนาน แม้พลาดพลั้งทำบาปอกุศลก็ไม่เห็นผล เปลี่ยนแปลงเป็นความเสื่อมโทรมคล้ำหมองของผิวง่ายนัก

    ๓) ผิวดำขำ เกิดจากการมีเมตตาที่เจืออยู่ด้วย โทสะอ่อนๆ ขอให้นึกถึงคนปากร้ายใจดี ซึ่งก็แยกย่อยได้อีกหลายแบบ ปากร้ายน้อยใจ ดีมาก ปากร้ายมากใจดีน้อย ถ้าปกติใจดีแบบเยือกเย็น ก็จะเป็นตัวกำหนดความเนียน ของผิวมากเป็นพิเศษ

    ๔) ผิวดำน่าเกลียด เกิดจากการมีแต่โทสะท่าเดียว หาเมตตาทำยายาก ขอให้นึกถึงคนใจร้าย มักโกรธ โกรธง่ายหายช้า คุณจะไม่นึกไม่ออก เลยว่าจิตใจเขามีความสว่างหรือมีความเย็นกับใครได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใจร้าย แล้วปากยังพ่นเป็นแต่คำหยาบคาย ชาติถัดมาจะมีผิวพรรณทรามถึงขั้นรู้สึกเป็นปม ด้อย หรือกระทั่งเป็นโรคผิวหนังบางอย่างที่ส่งกลิ่นเหม็นผิดปกติ ชำระให้สะอาด หรือประพรมให้หอมได้ยาก ขอให้สังเกตว่าบางคนทั้งผิวทั้งกลิ่นปากจะน่ารังเกียจ ควบคู่กัน นั่นก็เพราะกรรมทางวาจาบางอย่างมีวิบากแรง แสดงผลทั้งทางผิวหนังและ กลิ่นปากอย่างชัดเจน นอกจากนี้ แม้หันมาใฝ่ใจทำทานรักษาศีล ก็อาจต้องใช้เวลา หรือต้องใช้กำลังใจมากหน่อย ผิวพรรณจึงจะดูเปล่งปลั่งขึ้นได้ด้วยรัศมีบุญ ใหม่

    ๕) ผิวไม่ดำไม่ขาว ไม่งามไม่น่าเกลียด คือเป็น กลางๆ เกิดจากการมีเมตตาและพยาบาทในแบบที่คาดเดาได้ เรียกว่าสถานการณ์เป็นอย่าง ไรก็ใจดีใจร้ายตามกระแสโลกไปเรื่อย ไม่มีการควบคุมตัวเอง ไม่มีหลักการใดเป็น พิเศษ เช่น ถ้าโดนด่าแรงๆก็จะโกรธแรงและผูกใจเจ็บแรง พอเขามาง้อหรือขอโทษก็ค่อย อโหสิให้ แตกต่างจากพวกใจดี ที่แม้โดนเล่นงานก่อนก็ทำใจอภัยได้เอง โดยไม่ต้องมี ใครมาขอโทษ แล้วก็แตกต่างจากพวกใจร้าย ที่แม้ใครทำดีให้ก็อาจหมั่นไส้ จับผิด เพ่งโทษได้ สำหรับผิวเป็นกลางๆนี้ก็คือคนทั่วไปในระดับเฉลี่ย แปรปรวนตามกรรม ใหม่ง่าย คือถ้าทำบาปมากๆผิวอาจแปรเป็นหมองคล้ำอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าทำบุญใหญ่ๆ ผิวอาจผุดผาดขึ้นทันตา
    นอกจากนี้ยังอาจมีกรณียกเว้นที่ไม่เข้าข่ายข้าง ต้น เช่น บางคนมีผิวดำสนิท ทั้งที่จิตใจดีงามมาก ไม่มีเค้าเลยว่าจะเคยเป็นพวกเจ้าโทสะ นั่นเป็นเพราะอดีตชาติเคยเห็นแล้วชอบใจในผิวสีแบบนั้น เป็นกรรมทางใจที่ส่งให้ไป เสวยภพของคนผิวดำสนิทได้เหมือนกัน พูดง่ายๆคือโลภะพาไป และในทางตรงข้าม หากชอบ ให้ของ ชอบให้อภัย ชอบช่วยคน มีความโลภน้อยยิ่ง ถึงแม้ขี้หงุดหงิดขึ้งเคียดเก่ง ก็อาจจะยังมีบุญฝ่ายขาวคุ้มผิวให้ขาวได้อยู่
    อีกพวกคือไม่ได้เจ้าโทสะ แต่จมปลักอยู่กับความหม่นหมอง เศร้าสร้อยเป็นนิตย์ อันนี้ก็มีสิทธิ์เกิดเป็นคนผิวดำคล้ำหมองไม่น่าดูได้เหมือน กัน พูดง่ายๆคือโมหะพาไป และในทางตรงข้าม หากฝึกที่จะมีสติตื่นตัวสดใส เป็นอยู่ ด้วยความกระตือรือร้น เกิดปัญหาแล้วใช้ปัญญามากกว่าอารมณ์ อันนี้แม้อารมณ์บูด อยู่เรื่อยๆก็ไม่ถึงขั้นทำให้ผิวพรรณหยาบกร้านนัก
    ขอ ตั้งข้อสังเกตอีกแง่หนึ่ง คือการบำรุงผิวและการรู้จัก เคล็ดลับออกกำลังกายให้เลือดลมเดินดี อาจทำให้ผิวงามขึ้น แต่จะขาดรัศมีหรือ กระแสทางใจที่ก่อให้เกิดความรู้สึกด้านดี คล้ายคุณเห็นหุ่นขี้ผึ้งของยอดฝีมือ ไร้ที่ติ พอสัมผัสใกล้ชิดก็รู้สึกว่าขาดชีวิตจิตใจ แห้งแล้ง ไม่ชุ่มชื่น แตก ต่างจากความงามที่เปล่งออกมาจากแรงบุญ ซึ่งชวนให้เกิดความชื่นใจ รู้สึกมีชีวิต ชีวาได้ยิ่งกว่ากันมาก

    ถาม – ถวายดอกบัวแด่พระภิกษุสงฆ์จะช่วยเรื่องผิวพรรณ จริงหรือไม่?
    จริงครับ! แถมอาจเป็นความงามชวนตะลึงผิดธรรมดาเสีย ด้วย!
    อย่าง ไรก็ตาม บุญที่ตกแต่งผิวให้งามแลตะลึงได้การนี้ ต้องสร้างจากความปลื้มปีติโสมนัสเป็นตัวชูโรง คือขณะน้อมถวายดอกบัวนั้น จิตต้อง หน่วงบุญไว้หนักแน่น มีความตั้งมั่น มีความสุกสว่าง มีความเบากายสบายใจ อิ่มเอม เปรมปรีดิ์กับการถวายโดยปราศจากมลทินทางใจใดๆ
    ความ เนียนงามของกลีบบัวที่ตาเห็น รวมทั้งกลิ่นดอกบัวที่ จมูกได้กลิ่น มักเหนี่ยวนำให้จิตผู้หญิงนึกปรารถนาถึงการมีผิวพรรณงามละเอียด พอ ไปบวกกับการมีใจยินดี คิดว่าเราจะเอาของหอมของงามนี้ถวายเป็นบูชาแด่ภิกษุผู้สูง ส่งที่วัด หรือแด่พระปฏิมาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่บ้าน นิมิตของกรรมที่เกิดขึ้นให้ รับรู้ทางใจในขณะนั้นย่อมชัดเจน เสมือนผิวกายโดยรอบกลายเป็นดอกบัวแสนหอมแสนงาม ขึ้นมาชั่วขณะ
    นิมิตกรรม เกิดขึ้นก่อนในใจเรา รูปจริงๆค่อยตามมาทีหลัง ซึ่งอาจหมายถึงความเปลี่ยนแปลงที่เห็นทันตาชาตินี้ ในกรณีที่ไม่มีกรรมเก่ามา ต้านมากนัก แต่โดยมากบุญอันเกิดจากการอาศัยเครื่องเหนี่ยวนำจิตทำนองนี้ จะให้ผล ชัดเจนก็ต่อเมื่อเกิดใหม่แล้ว
    พูดให้ง่ายคือบุญที่ตกแต่งผิวให้งามนั้น ทั้งจิตและ เจตนาต้องสอดคล้องกัน กับทั้งทำบ่อยจนขึ้นใจไปทั้งชีวิต กระทั่งนิมิตกรรมแข็ง แรงตั้งมั่น เป็นส่วนประกอบตกแต่งอัตภาพใหม่อย่างชัดเจน

    คุณหนูอารมณ์ร้ายหลายคน ก็เข้าเกณฑ์นี้แหละครับ ผู้หญิง ที่อดีตชาติทำบุญอันเจืออยู่ด้วยความโลภในรูปงาม ชาติถัดมาที่ความปรารถนา สัมฤทธิ์ผล บุญเผล็ดผลดังใจ ก็จะมีความทะนงหลงรูปงามแห่งตนยิ่งยวด กับทั้งยึด มั่นถือมั่นรุนแรงว่าโฉมแห่งตนเป็นเลิศกว่าใคร เพียงอวดรูปสมบัติก็เพียงพอจะชนะ ใจทุกคนได้แล้ว ความเย่อหยิ่งจึงตามมา ความเอาแต่ใจจึงตามมา ความฉุนเฉียวง่าย จึงตามมา และชวนให้คนมองไม่อยากนึกว่าผิวงามกับเมตตาจะเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กัน

    โดย มากถ้ามักโกรธฉุนเฉียวง่าย เมื่อหมดบุญอันเกิดแต่การ ถวายดอกบัว หญิงเจ้าของผิวงามเหล่านี้มักเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว หากกรรมอัน เจือด้วยความโกรธง่ายไม่เร่าร้อนขนาดส่งถึงนรก ยังพอจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ อีกครั้ง ก็กลายเป็นหญิงผิวพรรณทราม กะดำกะด่าง หยาบกร้านไม่ชวนทัศนา ไม่เหลือ เค้า ไม่เหลือร่องรอยเดิมไปเลย
     
  2. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    แล้วนิโกรที่อาฟฟริกาละครับทำกรรมอะไรแล้วชาวเผ่าที่อาฟฟริกาอีกละครับแสดงว่าฝรั่งนี่อดีตชาติคงมีจิตดีไม่โกรธผมเห็นมีแต่ขาวๆทั้งนั้นและคนจีนที่ใต้หวันคนญี่ปุ่นก็คงมีแต่ทำดีทั้งนั้นส่วนคนเกาหลีนี้คงบุญมากนะครับเพราะผิวอมชมพูน่ารักมากๆ555555 สาธุ
     
  3. มุ่งสู่พระนิพพาน

    มุ่งสู่พระนิพพาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +87
    แล้วทำไมคนผิวดำมักโดนเหยียกหยามละครับ
     
  4. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +166
    อย่าเอาตัณหาราคะมากำหนดความดีความเลว สิ่งที่ว่านี้มันอยู่ภายในจิตใจ
    ไม่เกี่ยวกับสีผิว แล้วยิ่งสมัยนี้ยิ่งกำหนดความดี ความชั่วจากรูปร่างหน้า
    ตาไม่ได้ เพราะคนสวยคนงามแต่ละคนจอมปลอมทั้งนั้น ผ่าโน้นเสริมนี้
    หาใช่เป็นแต่กำเนิดไม่ โหงวเฮ้งแท้ๆไม่มีแล้ว
     
  5. Nukool

    Nukool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,073
    คนดีใช่ทีเปลือก แต่เป็นกระพี้
     
  6. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เพิ่งเคยได้ยินนี่แระ
     

แชร์หน้านี้

Loading...