เคล็ดการใช้อำนาจบุญแก้กรรมเก่า-ปัญหาชีวิต

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย anndromedra, 2 สิงหาคม 2009.

  1. anndromedra

    anndromedra สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    เคล็ดการใช้อำนาจบุญแก้กรรมเก่า-ปัญหาชีวิต
    โดย พระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล
    วัดป่าสามแยก อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
    (ก่อนอ่านตั้งนะโม 3 จบ)

    ผู้เปิดเผยเคล็ดเรื่องนี้คือ ท่านพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า พระอริยะเจ้าแห่งวัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2529 ท่านมีประสบการณ์ทางจิตที่โลดโผนพิสดาร แม้เดินจงกรมก็สามารถเดินเหยียบอากาศเอาผ้าไปพาดไว้บนกิ่งไม้สูงสิบเมตรได้ ทั้งสามารถมองเห็นภูตผีปีศาจ นาค ครุฑ ยักษ์ อย่างชัดเจนแม้กระทั่งลืมตา มีญาณระลึกชาติย้อนหลังได้มากมายหลายชาติ เป็นพระสงฆ์ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวไปในนรก สวรรค์ ปานเรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์โลก นับครั้งไม่ถ้วน ด้วยท่านเป็นพระที่ไม่สนใจเรื่องลาภยศ ชื่อเสียง ทั้งเทพยาดาสูง-ต่ำ ตลอดจนภูตผี ปีศาจ ต่างให้ความเคารพท่านมาก วัดของท่านจึงเป็นที่รวมของเทพยาดา และภูตผี ปีศาจ อสูรกาย สัมภเวสี ที่ตกทุกข์ได้ยากทั่วสารทิศ พากันหลั่งไหลมุ่งไปขอความช่วยเหลือจากท่าน

    แต่ละวันผู้คนมากหน้าหลายตาต่างดั้นด้นข้ามป่าข้ามเขาผ่านหนทางอันทุรกันดารไปกราบท่าน เพื่อขอให้ท่านช่วยแก้ไขปัญหาเคราะห์กรรมต่างๆ ซึ่งท่านก็เพียงแต่แนะนำหลักการใช้บุญกรรมแบบง่ายๆ แต่ทว่า ได้ผลชะงักชะงันอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งเรามักท่องเป็นคาถาอยู่ร่ำไปว่าเวรกรรมนั้นแก้ไม่ได้ แต่พระอาจารย์ท่านนี้ท่านยืนยันรับประกันอย่างหนักแน่นว่า แก้ได้! โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ไม่ต้องทำพิธีสวดอะไรให้ใหญ่โตเสียมากมาย แต่ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ว่า ทุกวันนี้คนทำบุญกันไม่เป็น ดึงบุญที่เคยทำมาใช้ก็ทำไม่เป็น เป็นแต่ตะบี้ตะบันก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมอย่างจนตรอกอยู่ท่าเดียว

    หลายท่านเมื่อได้นำคำสอนที่ท่านแนะนำไปปฏิบัติต่างก็ได้รับผลดีเกินคาด ท่านจะมีเมตตามากในการเทศน์สอนญาติโยม แม้กลางคืนก็ยังต้อนรับผู้มาเยือนจากแดนทิพย์ไม่หยุดหย่อน พร่ำสอนเผยแพร่เคล็ดนี้ทั้งวันทั้งคืน ท่านมีแผ่นซีดีแจกจ่ายให้นำไปฟังแล้วบอกว่า

    ฟังแล้วให้นำไปปฏิบัติแล้วแจกจ่ายกันฟังต่อ ฟังเข้าใจแล้วไม่จำเป็นต้องมาหาท่านที่วัด เพราะวันๆท่านก็เหนื่อยพออยู่แล้ว การทำบุญจะทำที่ไหนก็ได้ เช่นทำบุญกับพ่อแม่เป็นพระอรหันต์อยู่ที่บ้าน แล้วอุทิศบุญให้เทวดาและเหล่าสรรพสัตว์ในโลกทิพย์ก็ได้ผลเท่ากับถวายทานให้พระอรหันต์ วัดของท่านมีพอกินพอใช้แล้ว ไม่ขาดแคลนอะไรจึงไม่ต้องหลังไหลมาทำบุญกับท่านก็ได้

    วิชาเจริญเมตตาแผ่กุศลนี้ พระอาจารย์กล่าวว่าเคยใช้กันมานานตั้งแต่สมัยพระพุทธกาล แต่เพิ่งสาบสูญไปเมื่อ 300-400 ปีมานี่เอง ถ้าค้นคว้าในพระไตรปิฎกก็พบมากแห่งที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญและเทวดาผู้รับบุญ ท่านมีเรื่องราวพิสดารมหัศจรรย์ในกรรมฐานอย่างมากมาย การตอบคำถามถึงปัญหาในการปฏิบัติธรรมท่านจะตอบอย่างห้าวหาญ ทั้งคำถามในด้านโลกียะและโลกุตระ ความหยาบละเอียดของอารมณ์พระอริยะเจ้าแต่ละระดับ ทะลุไปจนถึงพระนิพพาน ทุกคำถามมีคำตอบจากท่าน สุดแต่ผู้ถามจะถามปัญหาใด ลีลาการตอบคำถามของท่านจะออกแบบบ้านๆ ฟังแล้วเข้าใจง่ายไม่ต้องตีความ นำไปสู่การปฏิบัติพัฒนาทางจิตยิ่งๆขึ้นไป หนังสือที่ประมวลสรุปไว้นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่ออ่านแล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ ท่านก็จักประสบความสุขสำเร็จตามปรารถนา แต่เรื่องนี้มิได้มุ่งหวังให้ใครไม่ต้องตาย มิได้มุ่งหวังให้ใครอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาล กฎของไตรลักษณ์ย่อมเป็นไปตามไตรลักษณ์ ไหนๆเราก็ต้องตาย แต่ในเมื่อเรามีทางเลือกที่จะตายได้อย่างสุขสงบ ตายได้อย่างไม่ต้องมีทุกขเวทนา และตายได้อย่างมีสติถึงพร้อม อย่างนี้แล้วเราจะปฏิเสธได้หรือ

    อีกอย่างหนึ่ง ข้อมูลสาระนี้จะไม่เป็นประโยชน์อันใดต่อท่านที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับมานะสังโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ขาดซึ่งอิทธิบาท 4 เช่นนี้ แม้ฟ้าดินก็หมดปัญญาที่จะเข้าไปยุ่งอะไรกับท่าน เมื่อป้อนยาเข้าปากแต่ไม่ยอมกลืนยา จะคายทิ้งก็สุดแต่ท่านเถิด

    ที่มาของการเปิดเผยเคล็ดการแผ่บุญแก้กรรม
    ชีวิตของมนุษย์และสัตว์ทั้งในโลกนี้และโลกทิพย์ล้วนมีส่วนสัมพันธ์ถึงกันในเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่ตลอดเวลา ในการเวียนว่ายตายเกิดไปๆมาๆ จะหาที่ไม่เคยเป็นญาติ ไม่เคยเป็นเพื่อน ไม่เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันนั้นไม่มี ชีวิตของทุกผู้ทุกคนจึงมีส่วนสัมพันธ์กันไม่มากก็น้อย ทั้งในส่วนดีมากและดีน้อย ทั้งในส่วนเลวมากและเลวน้อย ทั้งในส่วนที่ทำให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังมากและชิงชังน้อย ทั้งในส่วนที่รักและอุปการะมากและน้อยตามแต่ละกรณี

    การได้ดี การตกยาก เจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์และสัตว์ ส่วนหนึ่งเกิดจากผลกรรมในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ อีกส่วนหนึ่งได้รับเหตุปัจจัยกระทบจากสิ่งรอบข้าง อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการกระทำของวิญญาณลี้ลับที่เรามองไม่เห็น เช่น เทวดาช่วยเหลือ เทวดาให้โทษ ผีให้โทษ เจ้ากรรมนายเวรที่เคียดแค้นชิงชังให้โทษ ในคนทุกคน สัตว์ทุกตัว จะมีเทวดารักษาอย่างน้อย 2 องค์ เทวดาประจำตัวนี้แหละที่มีอิทธิพลต่อเราอย่างคาดไม่ถึง บ้างก็ชอบช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จ หรือช่วยปกป้องคุ้มครองให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายที่น่าหวาดเสียวได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งบางทีเราก็ยกให้เป็นอานุภาพของวัตถุมงคลที่แขวนคอเสียก็มี เด็กน้อยบางคนแม้ไม่มีวัตถุมงคลแขวนคอเลย แต่ตกบ้านตกเรือนด้วยความซุกซน แต่ก็ไม่ได้รับอันตรายเพราะเหมือนมีใครมาอุ้มไว้ก่อนถึงพื้นก็มี บุคคลบางคนไม่มีวัตถุมงคลติดตัวเลยแต่สามารถหลุดพ้นจากอุบัติเหตุและการดักทำร้ายของศัตรูมาได้อย่างปาฏิหาริย์ นั่นคือ การปกป้องรักษาจากเทวดาประจำตัวเขาและ/หรือญาติในโลกทิพย์ของเขา
    ในเรื่องของกฎแห่งกรรม เราชาวพุทธคงไม่มีใครปฏิเสธ เมื่อตนเองกำลังเดือดร้อน กำลังเครียด หรือกำลังทุกข์ทรมานในเรื่องใดๆที่จำต้องยอมทนอย่างไม่มีทางเลือก

    หลายๆท่านมักจะจงนึกจงคิดแต่เพียงว่าจะขอรับชะตากรรมนั้น หวังจะชดใช้กรรมให้มันหมดเวรหมดกรรมจบๆกันไป การคิดเช่นนี้ดูจะเข้าท่าตามหลักการยอมรับในกฎแห่งกรรม แต่ออกจะหยาบและดูปิดโอกาสปิดช่องทางของตนเองอย่างสิ้นเชิง

    นี่เองท่านพระอาจารย์กล่าวว่า พวกเราไม่รู้ว่ามันยังมีทางออกมีทางเลือกที่แสนจะง่าย ทั้งๆที่เรามีทางเลือกที่จะยอมรับในผลกรรมด้วยวิธีของตนเองได้ ทั้งๆที่เรามีวิธีที่จะชำระล้างหนี้แค้นหนี้กรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวรเขา โดยที่เราไม่ได้เบี้ยวหนี้ โดยที่เรายังเคารพในกฎแห่งกรรม โดยที่เราไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่ต้องกลุ้มไม่ต้องเครียด

    ขณะเดียวกันเจ้ากรรมนายเวรก็พอใจกับประโยชน์สุขนี้อย่างเต็มที่ ความเคียดแค้นพยาบาทอะไรต่างๆที่มีต่อเราก็จางมลายหายไปสิ้น เขาก็เป็นสุข เราก็เป็นสุข แต่นี่เรากลับให้เขาเลือกที่จะเล่นงานเราอยู่ฝ่ายเดียว ต่างฝ่ายก็ต่างเป็นทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ เราก็ทุกข์ด้วยเวทนา เขาก็ทุกข์กรุ่นอยู่กับความพยาบาทอาฆาตเพราะคอยจ้องแต่จะเล่นงานเราอย่างไม่เลิกราอย่ากระนั้นเลย เรามายอมรับกฎของกรรมโดยดีในแบบฉบับที่เราเลือกได้ด้วย บุญกันดีกว่า

    คนเราล้วนเคยสั่งสมบุญ ให้ทานกันมาแล้วทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและชาตินี้ ถ้านึกถึงบุญมันก็จะเยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธีชำระหนี้แค้นให้แก่เจ้ากรรมนายเวรดั่งว่านี้ ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้ตายซะก่อนแล้วจึงค่อยไปรับบุญในสรวงสวรรค์ แล้วพากันเอาแต่บ่นว่า บุญอะไรก็ทำมาหมดแล้ว ชีวิตไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาสักที ก็จะดีได้อย่างไร

    ในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น มัวแต่จะรอไปอุทิศให้ตอนกรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาเลยไม่ได้รับ บ้างก็ไม่เคยเผื่อแผ่บุญให้แก่เทวดาที่รักษาตนเอง ไม่เคยให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ทีอาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่เทวดาที่ดูแลรักษากิจการงานห้างร้าน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตนเอง แถมบางทีการแผ่อุทิศบุญก็ไม่เฉพาะเจาะจงอีก หรือดันไปให้ตอนที่แสงบุญหมดแล้ว

    เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อยฤทธิ์น้อยจึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับอานิสงส์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อยๆ เขาจะกลายเป็นเทวดาที่มีฤทธิ์ มีอำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย

    วิธีทำบุญให้เกิดสัมฤทธิ์ผล
    พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่มาแห่งบุญไว้ 3 ประการดังนี้

    1. บุญอันเกิดจากการให้ทาน
    2. บุญอันเกิดจากการรักษาศีล
    3. บุญอันเกิดจากการภาวนาอบรมจิตใจ

    การสร้างความดีทุกประการนั้นล้วนเป็นแหล่งของการเกิดผลบุญกุศลทั้งสิ้น แล้วก่อให้เกิดอานิสงส์ที่จะสร้างความสำเร็จในชีวิตได้ทุกเรื่อง


    1. บุญอันเกิดจากการให้ทาน เมื่อถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ หรือให้สิ่งของแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นให้ของแก่พ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะเกิดกระแสบุญเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันทีและเพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายไปเบื้องบนแล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก

    ดังนั้นจึงขอเน้นย้ำว่าหลักที่สำคัญที่สุดคือ ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร/ถวายของให้สงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิษฐานจิตแผ่บุญในทันที อย่าไปรอตอนพระสวดยะถาสัพพี เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระสวดยะถาฯเหมือนอย่างที่เคยปฏิบัติมานั้น กระแสบุญได้เลือนรางจางหายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญให้ทันทีทันใดว่า

    บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเทวดา ภูต ผี ปีศาจ ครุฑ นาค ยักษ์ ที่สถิตย์อยู่ในสถานที่เรือกสวนไร่นา หรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้าเป็นต้น ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการแก้ไขปัญหากลัดกลุ้มเรื่องไหน

    2. บุญอันเกิดจากการรักษาศีล การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีลก็ย่อมเกิดบุญกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่ระลึกถึงศีลที่ตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษาศีลนี้จงถึงแก่..............

    หรือในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติคิดดี การช่วยเหลือคน การได้ทำประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือได้บุญ ให้รีบส่งบุญถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที

    3. บุญอันเกิดจากการภาวนาให้อธิษฐานก่อน เช่นว่า ขอบุญที่จะเกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย (เป็นอะไร) หรือเราจะให้ใครก็ให้อธิษฐานเอาเอง แล้วก็เริ่มภาวนาได้เลย

    หลังจากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้จะมีพลานุภาพแรงยิ่งกว่าบุญจากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูตผีชั้นต่ำมักจะรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะเตรียมรับตามกำลังความสามารถของตนเอง

    เพราะถ้าหากจะให้ตอนที่ภาวนาเสร็จแล้วจึงให้ ก็เปรียบเหมือนเราปล่อยน้ำที่พุ่งออกจากท่อดับเพลิง แต่เขาเอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารองรับ เราจะรับไม่ได้เนื่องจากกำลังจิตของเขาไม่แรงพอ หากเอาอธิษฐานให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อน ก็เหมือนกับเปิดก๊อกน้ำออกค่อยๆ ใครมีภาชนะน้อยก็เอามาตวงรับได้ตามกำลังที่เขามี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ท่านสามารถรับบุญใหญ่หลังการภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิงนั่นเอง

    การเบิกบุญ
    การเบิกบุญเก่าที่เคยสั่งสมตั้งแต่อดีตมาใช้ บุญที่เราทำไว้แล้วมีมากมายที่สะสมอยู่ในสรวงสวรรค์ทั้งที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อนหรือได้ทำไว้ในชาตินี้ เราสามารถเบิกบุญนั้นมาแจกจ่ายอุทิศให้แก่ผู้อยู่ในโลกวิญญาณได้ เหมือนเรามีเงินเก็บไว้ในธนาคาร เราก็ใช้บัตร ATM กดเบิกเงินออกมาใช้-จ่าย แต่การเบิกบุญนั้นที่สำคัญลืมไม่ได้เลยคือ ต้องอาศัยอำนาจพระรัตนตรัยขึ้นนำก่อนเสมอ คือ ให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า

    ด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจของพระธรรม ด้วยอำนาจของพระสงฆ์ จงดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าที่ทำมาในอดีตจงถึงปัจจุบันถึงแก่............

    จะให้ใครนั้นก็คิดนึกเอาเอง การเบิกบุญแจกจ่ายนี้สามารถให้ได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อนึกขึ้นได้ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ดื่มอยู่ก็ตาม

    นานาปัญหาเคราะห์กรรมแก้ได้ด้วยบุญ
    ท่านที่ทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เกิดกับตัวเรานั้นสืบเนื่องมาจากการกระทำของเจ้ากรรมนายเวรผู้เคียดแค้นชิงชัง

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ผู้ฆ่าสัตว์ย่อมอายุสั้น ผู้เบียดเบียนสัตว์ย่อมสุขภาพไม่ดี" เชื้อโรคร้ายแรงต่างๆที่มีอยู่ในร่างกายก็ล้วนแต่เป็นเจ้ากรรมนายเวรทั้งนั้น โรคที่เรื้อรังร้ายแรง การรักษาด้วยวิธีการกินยา-ฉีดยาเข้าไปทำร้ายเขา หรือการใช้พลังจิตอำนาจสมาธิอย่างใดๆเข้าไปขับไล่

    นอกจากจะเป็นการรักษาที่ขาดเมตตาปราณีอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้ว ขณะเดียวกันก็ยิ่งทำให้เหล่าเจ้ากรรมนายเวรยิ่งทวีความพยาบาทเคียดแค้นผู้ป่วยมากขึ้นไปอีก หลายโรคจึงหมดหนทางเยียวยา ผู้ป่วยต้องจมอยู่กับความทุกขเวทนาไปต่างๆนาๆ จะตายก็ไม่ตาย จะหายก็ไม่หาย ทรัพย์สินที่มีก็พินาศไปกับค่ารักษา ทุกข์ทั้งคนป่วย ทุกข์ทั้งคนที่เป็นญาติ เป็นบริวาร ในที่สุดหลายรายต้องจบชีวิตลงไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่มีทางเลือก มีโอกาส และมีบุญอยู่ก็มากมาย แต่ก็ไม่รู้จักเบิกมาล้างแค้นให้แก่เขา

    ดังนั้น การเยียวยารักษาที่ถูกต้อง ต้องโอนบุญ-เบิกบุญไปให้เฉพาะเจาะจงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยนั้น (อย่าไปบอกว่าให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเหมือนอย่างที่เคยทำมา) และให้แก่เทวดาผู้รักษาตัวเราไปในขณะเดียวกัน การอธิษฐานเบิกบุญเก่าอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่รบกวน ควรทำวันละหลายๆครั้งจนเขาพอใจ อาการป่วยของเราจะหายเร็วขึ้น

    วิธีการให้บุญแก่เจ้ากรรมนายเวรควรทำดังนี้ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ป่วยด้วยมะเร็งปอดก็ส่งโอนบุญอย่างเฉพาะเจาะจงว่า

    บุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยมะเร็งปอด ฯลฯ (สุดแต่จะเป็นมะเร็งอะไร) พวกเชื้อมะเร็งเมื่อได้รับบุญแล้วขอให้เจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น มีภพภูมิที่สูงขึ้น จงหลุดจากภาวะชีวิตชั้นต่ำเดี๋ยวนี้ เมื่อเราหายแล้วเราจะทำบุญให้แก่พวกเจ้า ส่งชีวิตของพวกเจ้าให้สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าจงเลิกจองเวรจองกรรมในเราเสียที ตั้งแต่วันนี้เราจะตั้งตนอยู่ในศีลธรรม เลิกการเบียดเบียนเข่นฆ่าชีวิตสัตว์อื่น ขอส่งบุญที่เกิดจากการรักษาศีลแก่เจ้าด้วย

    คนที่กลัดกลุ้มเรื่องบุตรหลาน บริวาร ที่ชอบสร้างแต่ความเดือดร้อน สั่งสอนไม่ฟัง แบบนี้ต้องให้เทวดาผู้รักษาตัวเขาขนาบตักเตือน วิธีที่เทวดาตักเตือนนั้นท่านจะสั่งการดลไปที่ความรู้สึกนึกคิดจิตใจของเขา

    ถ้าเทวดาประจำตัวเขาเป็นมิจฉาทิฐิ เมื่อได้รับบุญบ่อยๆเทวดาท่านจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทิพย์ของตนเอง มีชีวิตที่สุขสบายขึ้น มีฤทธิ์อำนาจขึ้น เขาจะทราบได้เองว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้นมาจากไหน เมื่อเราอุทิศบุญไปให้ ก็อธิษฐานด้วยว่า

    เมื่อเทวดาได้รับบุญแล้วขอให้มีความสุขมีกิน มีใช้ มีเสื้อผ้าที่อยู่อาศัย และขอให้ช่วยอบรมตักเตือนให้ลูกหลานของข้าเป็นคนดีด้วยดังนี้ ไม่นานหรอกจะเกิดเรื่องพิสดารขึ้นกับบุตรหลานเกเรคนนั้น จนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนดีแน่นอน

    คนที่กลัดกลุ้มเรื่องแฟน ครอบครัว สามี/ภรรยา เพื่อน/คนรอบข้าง ที่เป็นที่เอือมระอา อยากให้เป็นคนดี ละเลิกจากความประพฤติชั่วเหลวไหล ก็ให้ท่านทำวิธีแบบเดียวกันกับที่ให้บุญแก่เทวดารักษาบุตร แล้วท่านจะพบกับความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

    หากกิจการธุรกิจค้าขายของท่านล้มเหลวหรือซบเซา เมื่อท่านทำบุญทุกครั้งควรอุทิศให้แก่เทวดาประจำตัวของท่านและเทวดาที่ดูแลกิจการค้าไปด้วยพร้อมกัน แล้วอธิษฐานว่า

    เทวดาเมื่อรับบุญของเราแล้ว โปรดช่วยเหลือกิจการร้านค้า ธรุกิจของเราให้ประสบความสำเร็จด้วยเถิด ถ้าเราร่ำรวยขึ้นก็จะทำบุญให้ท่านยิ่งๆขึ้นไปอีกจะใช้คำเรียกตนเองว่าข้า หรือเราก็ได้ทั้งนั้น


    ท่านที่เปิดร้านค้าขาย จะเป็นร้านอะไรก็แล้วแต่ เมื่อทำบุญอุทิศให้แก่เทวดาที่รักษาร้านนั้นด้วย แล้วบอกว่า เทวดาเมื่อได้รับบุญแล้ว โปรดเรียกลูกค้ามาอุดหนุนให้มากๆด้วย
    การอุทิศโอนบุญ ไม่ต้องพูด อย่าไปอุทิศตอนกรวดน้ำ ให้ตั้งอธิษฐานจิต และต้องรีบทำทันที อย่ามัวรีรอชักช้าเป็นอันขาด เพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายวับไปอยู่ในสวรรค์

    ถ้าเราฝึกบ่อยๆเราจะชำนาญในการคิดอธิษฐานจิต เวลาหย่อนของลงในบาตรปั๊บให้คิดส่งบุญทันที และต้องคิดให้ชัดเจนอย่างรางเลือน ให้ของแก่ใคร เมื่อของหลุดจากมือ เราต้องคิดส่งบุญทันทีอย่ารอช้า

    ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวเนื่องกับการฆ่าสัตว์หรือเบียดเบียนสัตว์อื่น เช่น เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ คนขายเนื้อสัตว์ ชาวประมง คนขายปลาสดตามตลาด เชือดไก่ขาย คนเหล่านี้ต้องสร้างบาปกรรมทุกวัน จึงก่อให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังจากสัตว์ที่ถูกฆ่าอยู่ทุกวี่วัน เขาก็พยายามจองล้างจองผลาญ แต่ในขณะที่บุญของผู้นั้นยังคงมีอยู่ เจ้ากรรมนายเวรก็ทำอะไรไม่ได้ แต่หากว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาสบโอกาสได้ช่องเมื่อไหร่

    วิญญาณที่เคียดแค้นเหล่านั้นจะให้เคราะห์หามยามซวยแก่เราได้ทันที ดังนั้นต้องพยายามไถ่ถอนกรรมของตัวด้วยการทำบุญ แล้วโอนอุทิศให้วิญญาณสัตว์ที่ตัวเองฆ่า ทำบ่อยๆส่งบ่อยๆ เอาเนื้อสัตว์ที่เราขายนั้นทำอาหารถวายพระหรือเลี้ยงผู้อื่น อธิษฐานว่า

    บุญนี้ให้สัตว์ทั้งหลายที่เราได้ฆ่า หรือผู้อื่นฆ่าเพราะคำสั่งเรา เหล่าสัตว์ใดใดได้รับบุญแล้ว ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ มีชีวิตวิญญาณที่ดีขึ้น จงหลุดพ้นจากกรรมเวรที่ตัวเองเคยสร้างไว้ แล้วจงมีภพภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆไป จนกระทั่งเป็นเทวบุตรเทวดาในสรวงสวรรค์ เมื่อได้รับบุญแล้วจงอโหสิกรรมให้เราด้วย อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย เจ้าตายเพราะเรา แต่ก็มีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะเราดีกว่าเจ้าตายเอง หรือตายเพราะฝีมือผู้อื่น ซึ่งมีชีวิตที่ทุกข์ทรมาน

    ผู้ที่ถูกผีเข้า จงเอาของให้ทานแก่ผู้ทรงศีล จะพระหรือฆราวาสก็ได้ แล้วอุทิศบุญเจาะจงถึงผีในร่างผู้ป่วยขอให้ได้รับบุญนี้ เมื่อได้รับบุญแล้วขอให้ออกจากร่างผู้ป่วยเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ยอมออกก็ให้บ่อยๆ ให้สิ่งของเล็กๆน้อยๆ ให้เงินห้าบาทสิบบาท ให้กาแฟ ๑ แก้ว โอวัลติน ๑ แก้ว แล้วอุทิศได้ทั้งนั้น

    ผู้ที่ถูกคุณไสย ให้อธิษฐานดังนี้ ด้วยอำนาจพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจพระธรรม ด้วยอำนาจพระสงฆ์ โปรดจงลบอำนาจชั่วช้าต่ำทราม ที่มีผู้ส่งเข้าผู้ป่วยให้สูญสลายไป ณ บัดนี้

    จากนั้นให้ทานแก่ผู้ทรงศีลขณะนั้นอธิษฐานว่า

    ขอบุญนี้จงถึงวิญญาณชั่วร้ายที่มีคนส่งเข้าร่างผู้ป่วย เมื่อเจ้าได้รับบุญแล้วจงมีความสุขความเจริญ จงมีฤทธิ์อำนาจหลุดพ้นจากการบังคับกดขี่ของผู้ทรงเวทวิทยาคมที่ส่งเจ้ามา จงออกจากร่างคนป่วยเดี๋ยวนี้

    ถ้าไม่หายให้ทำบ่อยๆ เดี๋ยวอาการก็ดีขึ้นเองโดยไม่ต้องไปทำพิธีอะไรอื่น ไม่ต้องไปเสาะหาจ้างหมอผีผู้มีสิทยาคมที่ไหนมาแก้ เพราะอำนาจของพระรัตนตรัยนั้นยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างในสากลจักรวาลอยู่แล้ว

    หลีกเลี่ยงการสวดมนต์เพื่อขับไล่วิญญาณ บทสวดมนต์แต่ละบทมีอำนาจขับไล่และเบียดเบียนพวกวิญญาณชั้นต่ำในโลกทิพย์ให้ได้รับความเดือดร้อน พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติห้ามพระภิกษุทำน้ำมนต์ขับไล่ผีไว้ในพระวินัยบัญญัติ ดังนั้นการสวดมนต์เพื่อเจริญพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ โปรดอย่าตั้งจิตไปกำราบคุกคามภูตผี ปีศาจขั้นต่ำทั้งหลายให้ได้รับความเดือดร้อน เมื่อจะสวดให้ตั้งจิตระลึกเสียก่อนว่า

    ภูตผี ปีศาจชั้นต่ำทั้งหลาย บัดนี้เราได้กล่าวบทสวดมนต์ ใครชอบฟังเอาบุญกุศลก็ให้ตั้งใจฟัง หากใครฟังแล้วทรมานก็ให้หลีกหนีไปที่อื่นจนกว่าเราจะสวดมนต์เสร็จแล้ว จงกลับมาเถิด เราไม่ได้สวดเพื่อขับไล่ใคร แต่สวดเพื่อเจริญในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเท่านั้น

    โปรดอย่านิมนต์พระมาทำพิธีขับไล่ภูตผีในที่อยู่อาศัย ควรงดเด็ดขาด เพราะวิญญาณนั้นเขาอยู่อาศัยที่นั้นมาก่อนเราอย่างสงบสุข บางตนก็เป็นญาติที่เราเคารพรักมาก่อน ตายไปแล้วมีบุญกุศลน้อยก็เป็นภูตผีอาศัยอยู่ในบ้านนั้น ภูตผีบางตนมีความทุกข์เดือดร้อนก็พยายามส่งกระแสความเดือดร้อนมาให้เรารู้สึก เพื่อจะได้ทำบุญส่งไปให้เขา

    แต่คนไม่เข้าใจคิดว่าเขาเบียดเบียนหลอกหลอน จึงนิมนต์พระมาสวดขับไล่ เมื่อเราไปทำพิธีเขาก็ยิ่งเดือดร้อนหนักเข้าไปอีก แล้วพวกวิญญาณเหล่านั้นจะรวมหัวกลั่นแกล้งผู้คนในบ้านให้เดือดร้อนวุ่นวายมากขึ้น มีแต่เรื่องทะเลาะขัดแย้งกันเนืองๆ สังเกตดู บ้านไหนที่มีคนถือวิชาอาคมสวดมนต์ไล่ผีบ่อยๆ คนในบ้านจะหาความสุขสงบไม่ได้เลย พ่อ-แม่-ลูก สามี-ภรรยา ทะเลาะขัดแย้งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนฆ่ากันตายมานักต่อนัก

    ฉะนั้นต่อไปเมื่อมีเหตุเดือดร้อนภายในบ้านหรือภายในองค์กร ควรทำบุญอุทิศให้พวกเขา เมื่อพวกเขาอยู่สุขสบายก็จะเลิกรบกวนเรา แล้วจะกลับมาเป็นองครักษ์ชั้นดีที่คอยปกปักรักษาเราต่อไป

    หลีกเลี่ยงการติดผ้ายันต์กันภูตผีในบ้าน หรือพกพาเครื่องรางของขลังที่เบียดเบียนวิญญาณชั้นต่ำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะกระทบกระเทือนถึงวิญญาณชั้นต่ำให้ได้รับความเดือดร้อนและเคียดแค้น อันจะส่งผลให้เขาหันกลับมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรจองล้างจองผลาญเราไม่มีที่สิ้นสุดโดยที่เราไม่รู้ตัว บ้านเรือนเคหะสถานเป็นของที่มีอยู่ในโลกนี้ เป็นทั้งที่อยู่ของผู้มีชีวิตในโลกและในอีกมิติหนึ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ควรเห็นแก่ตัวว่าเป็นสมบัติของเราเพียงผู้เดียว ควรอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

    พวกวิญญาณต้องอาศัยบุญกุศลถึงจะอยู่ได้ ถ้าได้รับบุญจากมนุษย์ผู้อยู่อาศัยในผืนแผ่นดินเดียวกันเขาย่อมพึงพอใจ และจะรักษามนุษย์ให้มีความสุขความเจริญ แม้พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไว้ในเทวตาทิสสทักขิฌนุโมทนาว่า

    ยัสมิง ปะเทเส กัปเปติ วาสัง ปัฯฑิตะชาติโย
    สีลวันเตตถะ โภเชตวา สัญญะเต พรหมะจาริโน
    ยา ตัดถะ เทวตา อาสุง ตาสัง ทักขิฌะมาทิเส
    ตา ปูชิตา ปูชะยันติ มานิตา มานะยันติ นัง
    ตะโต นัง อนะกัมปันติ มาตา ปุตตัง วะ โอระสัง
    เทวะตานะกัมปิโต โปโส สะทา ภัทรานิ ปัสสะติ

    แปลความว่า ผู้ฉลาดชาติบัณฑิตเมื่ออาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งใด ควรเชื้อเชิญผู้ทรงศีลเข้าไปเลี้ยงดูในสถานที่แห่งนั้น แล้วอุทิศบุญให้แก่เทวดาผู้อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น เทวดาเมื่อได้รับการบูชาแล้วย่อมบูชาตอบ คือทำความอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้อุทิศบุญให้แล้วนั้น เหมือนบิดามารดาผู้รักบุตรย่อมอนุเคราะห์บุตร ผู้ใดได้รับการช่วยเหลือจากเทวดาแล้วย่อยมประสบความเจริญรุ่งเรืองเป็นนิจ.

    การให้ทานแก่บุคคลย่อมมีผลบุญแตกต่างกัน


    <DIR><DIR>- การให้ในพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานย่อมเกิดผลมากกว่าให้พระพุทธเจ้าองค์เดียว
    - การให้ในพระพุทธเจ้าย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระอรหันต์
    - การให้ในพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ในสถานภาพปกติ
    - การให้ในพระอรหันต์ย่อมมีผลเหนือกว่าให้ในพระอนาคามี
    - การให้ในพระอนาคามีย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระสกิทาคามี
    - การให้ในพระสกิทานามีย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระโสดาบัน
    - การให้ในพระโสดาบันย่อมมีผลมากกว่าให้แก่ผู้ทรงฌาน
    - การให้ในผู้ทรงฌานย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระผู้ประพฤติศีลตามปกติ
    - การให้ในผู้มีศีลย่อมมีผลมากกว่าให้ในผู้ไม่มีศีล
    - การให้ในคนย่อมมีผลมากกว่าให้ในสัตว์
    - การให้ในสัตว์ผู้โพธิสัตว์ย่อมมีผลมากกว่าให้ในสัตว์ธรรมดา
    - การให้ในสัตว์ที่มีคุณย่อมมีผลมากกว่าให้ในสัตว์ไม่มีคุณ


    </DIR></DIR>และแม้แต่ให้อาหารแก่พวกมด ปลวกก็ยังเกิดกุศล ดังนั้นชื่อว่าการให้ย่อมเกิดบุญกุศลทั้งสิ้น แต่จะมากจะน้อยก็ต่างกันไป เงิน ๑ บาท ถวายพระอรหันต์มีผลมากมายนับไม่ได้ แต่ให้ในพระภิกษุผู้ทุศีลมีผลน้อย นี่คือความแตกต่างของนาบุญ ถ้ารู้จักเลือกให้ก็เลือกเถิด แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ถวายให้ในสงฆ์ส่วนรวมก็มีอานิสงส์มาก


    คนในศาสนาไหนก็ส่งบุญได้ ไม่ว่า พุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ซิกซ์ ล้วนมีวิธีสร้างกุศลและผลบุญ สะสมคุณงามความดีด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อเกิดบุญกุศลขึ้นสามารถส่งถึงผู้อยู่ในโลกทิพย์ได้ด้วยวิธีเดียวกัน ก่อผลลัพธ์แบบเดียวกัน

    ผลที่จะเกิดจากการโอนบุญ-เบิกบุญ
    ทำให้เทวดาที่ได้รับบุญแล้วท่านจะมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น สามารถช่วยเหลือผู้ส่งบุญให้ได้รับความสำเร็จ เทวดาที่รักษาเคหะสถานบ้านช่องบางหลังก็แสดงอิทธิฤทธิ์แทนเจ้าของบ้าน เปิด-ปิดทีวี วิทยุ และไฟฟ้าในบ้านได้เอง

    ทำให้พวกโจรขโมยไม่กล้าเข้าไปยกเค้าเพราะเหมือนมีคนอยู่ในบ้าน ทั้งที่ความจริงไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย เทวดาสามารถป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้บ้าน ป้องกันภัยอันตรายจากพายุ ต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้าน บ้านไหนถูกไฟไหม้แสดงว่าเทวดาไม่รักษา เพราะเจ้าของบ้านมีบาปกรรม และไม่เคยส่งบุญไปให้เทวดาและเจ้ากรรมนายเวร

    -ทำให้เจ้ากรรมนายเวรหยุดการจองเวรแล้วกลับมาเป็นเทวดาที่ปกป้องรักษาตัวเรา
    -ทำให้เป็นที่รักของเทวดา มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย ไปทางไหนมาไหนก็มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น การเดินทางจะแคล้วคลาดจากภัยอันตราย

    -ธุรกิจการค้า หน้าที่การงาน จะราบรื่น จะพบช่องทางทำมาหากินที่แจ้งชัด ถ้าตกงานก็จะได้งานทำ ถ้าเจ้านายเกลียดก็จะรักชอบขึ้น

    - ร้านอาหาร ร้านขายของ ก็จะมีแขกเข้าร้านมากกว่าเดิม และอย่าลืม!!! ถ้ามีคนมาอุดหนุนให้อธิษฐานบุญให้แก่เทวดาที่รักษาลูกค้าที่มาอุดหนุนทันที ต่อมาเทวดาก็จะดลใจให้ลูกค้ากลับมาหาเราอีก

    - จะหลับก็ง่าย จะนอนก็สบาย ไม่ต้องใช้ยานอนหลับ ไม่ต้องสะดุ้งผวาตกใจ แม้ฝันก็ฝันดี สุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน

    - ครอบครัวจะอยู่กันอย่างอบอุ่นมีความสุข มีความเข้าอกเข้าใจกัน

    - เพื่อนบ้านที่เขม่นชิงชัง เป็นเกาเหลาต่อกัน ก็จะหันกลับมาเป็นมิตร รักใคร่ใยดี ให้ความเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน

    ในแต่ละวันขอให้ท่านขยันในการโอน-เบิกบุญให้ถี่ ๆ อยู่บ่อยๆ ท่านยิ่งให้ ท่านก็จะได้รับผลอย่างคาดไม่ถึง ทั้งบุญก็ได้เพิ่มขึ้นทวีคูณ อีกทั้งยังเป็นการเจริญเมตตาอยู่ในตัว ยิ่งถ้าท่านเป็นนักศีลนักบุญด้วยแล้ว ยิ่งให้ผลเร็วอย่างมาก

    คนจะเลิกทำบาปมาแสวงบุญก็เพราะได้ฟังธรรม คนจะสนใจให้ทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนาก็เพราะฟังธรรม คนจะหลุดพ้นจากทุกข์ได้ก็เพราะฟังธรรม พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมทาน คือ การให้ธรรมย่อมเหนือกว่าการให้สิ่งอื่นๆทั้งหมด แม้ในการถวายทานในพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ก็ยังไม่เหนือกว่าการให้ธรรมทานได้


    ผู้ใดอยากพิมพ์เป็นธรรมทาน ให้อนุญาตพิมพ์ได้ แต่ให้ใส่คำว่า ห้ามขาย ไว้ที่ปกหน้าและปกหลังของหนังสือด้วย

    บุญกุศลที่เกิดจากการให้ธรรมทานนี้ ข้าพเจ้าขอมอบแด่เทวดาที่รักษาข้าพเจ้า ท่านผู้อ่านและผู้ฟังทุกท่าน เมื่อเทวดาได้รับบุญนี้แล้วจงมีความสุขความเจริญ มีฤทธิ์ มีอำนาจ จงช่วยเหลือทุกท่านให้ประสบความรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป ตลอดกาลนานเทอญ.

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 สิงหาคม 2009
  2. pmicrobes

    pmicrobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +112
    ข้าขอโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ขออุทิศบุญนี้ให้สัตว์ทั้งหลายที่เราได้ฆ่า หรือผู้อื่นฆ่าเพราะคำสั่งเรา เหล่าสัตว์ใดใดได้รับบุญแล้ว ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ มีชีวิตวิญญาณที่ดีขึ้น จงหลุดพ้นจากกรรมเวรที่ตัวเองเคยสร้างไว้ แล้วจงมีภพภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆไป จนกระทั่งเป็นเทวบุตรเทวดาในสรวงสวรรค์ เมื่อได้รับบุญแล้วจงอโหสิกรรมให้เราด้วย อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย เจ้าตายเพราะเรา แต่ก็มีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะเราดีกว่าเจ้าตายเอง หรือตายเพราะฝีมือผู้อื่น ซึ่งมีชีวิตที่ทุกข์ทรมาน”
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,291
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ครับ ตั้งเเต่ผมใช้วิธีของหลวงพ่อวิธีนี้มาหลายเดือน รู้สึกได้เลยว่า ชีวิตเราดีขึ้นจริงๆครับ ต้องปฏิบัติดูครับ จะเห็นเอง ทําเเบบนี้บ่อยๆจะทําให้เรามีเมตตามากขึ้นครับไม่เว้นเเม้กระทั่งคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูของเราครับ เจริญในธรรมครับ จขกท
     
  4. walnut

    walnut สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ขออนุโมทนา ให้กับ พระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล
    และเจ้าของกระทู้ด้วยคับ ที่นำบทความดีๆของท่าน
    มาเผยแพร่ให้หลายๆคน ณ.ที่นี้ ได้รับรู้
    ซึ่งเป็นทางสว่างให้กับผู้ที่มีทุกข์ได้คลายทุกข์ (รวมทั้งผมด้วย)

    ขออนุโมทนา มากๆคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...