ทานเกื้อหนุนศีล ศีลเกื้อหนุนภาวนา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย NUI, 7 สิงหาคม 2009.

  1. NUI

    NUI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    389
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +983
    ทานเกื้อหนุนศีล ศีลเกื้อหนุนภาวนา

    กล่าวถึงเรื่องการทำบุญให้ทานพอมาเป็นความรู้ สำหรับผู้ที่ใส่ใจในทางธรรมมากกว่าทางโลก ส่วนผู้ที่ใส่ใจทางโลกมากกว่าทางธรรมก็จะคิดตรงกันข้าม แต่เราจะมาพูดถึงทางธรรมกันว่าการให้ทานควรให้ให้เป็นอย่างไร อย่าให้ทานแล้วเอากิเลส (ความโลภ) มาเป็นของแถมเก็บไว้ในใจ คือทำทานอย่าหวังผลในทางโลกนั่นเอง

    การหวังผลต่างๆในทางโลกจะทำให้เป็นผู้ที่หนีกิเลสความโลภได้ยากแต่บางคนก็อธิษฐานหวังผลในทางธรรมก็มีมากมาย เช่นบางคนเขาทำบุญให้ทานแล้วอธิษฐานขอให้เป็นไปเพื่อสู่การพ้นทุกข์ เป็นต้น ความเป็นจริงแล้วการให้ทานแต่เพียงอย่างเดียวมิได้ทำให้ถึงการพ้นทุกข์ได้ การจะพ้นทุกข์ได้นั้นต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐาน

    ส่วนการอธิษฐานจิตเพื่อเป็นไปในทางธรรมนั้นก็อาจเปรียบเหมือนการร่างแบบแปลนพิมพ์เขียวเพื่อสร้างบ้าน หรือการวางเตรียมแผนงานก่อนทำการงานใดๆก็ว่าได้ ซึ่งอาจเป็นเหตุปัจจัยให้ได้มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานกันต่อๆไปเพื่อสู่การพ้นทุกข์ตามที่เคยอธิษฐานไว้เมื่อคราวทำบุญนั้นๆ เพราะการอธิษฐานเป็นบารมีอย่างหนึ่ง(อธิษฐานบารมี)

    ดีกว่าทำบุญให้ทานแล้วหวังผลทางโลกที่จะทำให้กิเลสแห่งความโลภมาพอกพูนใจ นั่นเป็นการสะสมกิเลสในใจให้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ทางแห่งการบำเพ็ญทานที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว้ เพราะทานที่พระองค์ทรงสอนนั้นเป็นไปเพื่อการละ การวาง การไม่ยึดมั่นถือมั่น การเสียสละ เพื่อให้ใจไม่ยึด ปล่อยวางได้ ตัดกิเลสความโลภ ไม่ใช่ให้ทานเพื่อจะเอาแต่ทางโลก หรือ เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางโลก การทำบุญให้ทานไม่ใช่ทำเพื่อการค้าที่จะหวังเอาผลกำไร หวังดอกเบี้ยแห่งบุญ เนื่องจากการให้ทานนั้นมีผลแห่งทานโดยตรงอยู่แล้ว จะขอก็ได้ผล จะไม่ขอก็ได้ผล แม้จะไม่อยากได้ผลแห่งทานก็ตาม ผลแห่งทานที่ได้ทำไว้แล้วก็ยังตามมาส่งผลให้ เราทำเหตุอะไรก็ย่อมได้ผลตามนั้น ผลมาตามเหตุ

    เปรียบเปรยเหมือนเราปลูกอะไรก็ได้ผลอย่างนั้น ยกตัวอย่าง เช่น เราปลูกข้าว ปลูกขนุน ปลูกมะม่วง ปลูกมะละกอ ปลูกทุเรียน เป็นต้น เราก็จะได้ผลของต้นไม้ที่เราปลูกไว้ตามนั้น แม้เราจะขอร้องวิงวอนต้นไม้ที่เราปลูกว่าอย่าออกดอกออกผลให้เราเลยเรากินไม่ไหวหรอก เราเพียงแค่ปลูกไว้ดูเล่นๆเท่านั้น แต่ต้นไม้ที่เราปลูกไว้ก็ไม่เชื่อฟังเรา เมื่อถึงกาลเวลาถึงฤดูกาลที่จะออกดอกออกผลเขาก็ออกผลให้เราเพราะเราไปปลูกเอาไว้

    เหตุแห่งการทำบุญให้ทานมีผลให้ผู้ให้ทานมีทรัพย์สินเงินทองมีฐานะซึ่งเกิดจากผลแห่งการที่เคยให้ทานไว้ในอดีตชาติ ชาติใหม่เกิดมาจึงได้เกิดกับครอบครัวคนรวย คนมีฐานะดีหรือแม้อยู่ในครอบครัวฐานะปานกลางที่ไม่ใช่ครอบครัวลำบากยากจน ซึ่งเป็นไปตามเหตุแห่งทานที่ทำไว้เมื่ออดีตชาติ ทำบุญทำทานไว้มากหรือทำไว้น้อย เป็นต้น ส่วนผู้ที่ไม่เคยให้ทานมาก่อนแม้ในอดีตชาติ เมื่อมาเกิดใหม่มีผลทำให้เกิดมาอยู่ในครอบครัวที่ยากจนลำบากแร้นแค้น ไม่มีทรัพย์สินเงินทองมากพอที่จะประทังชีวิตให้สบาย ดีไม่ดีก็มีหนี้สินล้นพ้นท่วมท้น

    กล่าวถึงเรื่องการผิดศีล เหตุแห่งการไม่เคยให้ทานมาก่อนแม้ในอดีตชาตินี้ เป็นผลให้เกิดมายากจนมีชีวิตความเป็นอยู่อัตคัดขัดสน ทำให้เป็นผู้มีโอกาสในการผิดศีล ศีลขาด บกพร่องในศีลได้ง่ายมากกว่าผู้ที่มีอันจะกิน ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายในการผิดศีลข้อที่หนึ่งคือข้อที่ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เนื่องจากคนยากคนจนไม่มีเงินซื้อกับข้าวกินจำเป็นต้องไปยิงนกตกปลามาทำอาหาร เลี้ยงเป็ด ไก่ วัว ควายแล้วเชือดฆ่าด้วยมือตนเองมาทำอาหารกิน เป็นต้น

    ตามมาด้วยโอกาสแห่งการผิดศีลข้อสองห้ามลักทรัพย์ เพราะความจนไม่มีจะกินจะใช้ วิธีที่ง่ายแต่เสี่ยงหน่อยก็คือการลักทรัพย์ ตามมาด้วยโอกาสแห่งการผิดศีลข้อสาม คนจนๆไม่มีใครเขาอยากอยู่เป็นคู่ครองด้วย หรือถูกพ่อแม่อีกฝ่ายกีดกัน เมื่อแอบรักใครชอบใครอาจฉุดลากเขามาทำภรรยาหรือข่มขืนเขาได้ ตามมาด้วยโอกาสแห่งการผิดศีลข้อที่สี่คือการพูดเท็จ เนื่องจากความจนอาจไปลักทรัพย์ใครมาเมื่อเขาจับได้ก็โกหกปฏิเสธเพราะกลัวผิดกลัวโทษ เป็นต้น

    ตามมาด้วยโอกาสแห่งการผิดศีลข้อที่ห้าดื่มสุราเมรัยน้ำเมา คนจนมักกลุ้มใจลงเอยด้วยน้ำเมา คนจนส่วนใหญ่ดื่มเหล้าเป็นอันมากเมากันหัวราน้ำเพราะเครียดที่จนไม่มีเงินจึงจับกลุ่มกันกินเหล้าเมาสุราคนจนมักจะรักษาศีลห้าไม่ค่อยได้ครบทุกข้อ บางคนผิดศีลห้าทุกข้อ บางคนรักษาได้ข้อเดียวหรือสองข้อ แต่ไม่ใช่ว่าคนจนทุกคนจะรักษาศีลห้าไม่ได้เลย บางคนก็รักษาศีลห้าได้ถ้าเขาเชื่อเรื่องกรรมเขาก็ย่อมตั้งใจรักษาศีลได้ แม้ความจนจะบีบบังคับก็ตามเขาก็ไม่ยอมผิดศีล

    จะว่าแต่คนจนมีโอกาสผิดศีลสูงเลย แม้แต่พวกคนมีอันจะกินที่ไม่กลัวบาปกรรมก็ทำผิดศีลกันมาก บางคนก็ไปตกกุ้งตกปลาทั้งๆที่มีเงินซื้ออาหารที่ทำจากกุ้งปลากินก็ได้ เพราะเขาไม่กลัวบาปจึงไม่สนใจเรื่องศีลธรรม อาจคิดเป็นเกมกีฬาสนุก ทั้งๆที่เกมกีฬาสนุกๆอย่างอื่นมีมากมาย

    คนที่มีอันจะกินมีฐานะดีแต่ยังทำตนผิดศีลธรรมนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายนัก ทั้งๆที่ไม่มีเรื่องปากท้องมาบีบคั้นให้มีโอกาสทำผิดศีล แต่คนมีอันจะกินบางคนก็มีความโลภมากอยู่ในใจไม่เกรงกลัวบาปจึงไม่คิดรักษาศีลนั่นเอง บางคนโกงกิน ทำตนผิดศีลห้าทุกข้อก็มี บกพร่องบางข้อก็มีมากมาย ทั้งๆที่โอกาสแห่งการผิดศีลนั้นมีโอกาสเกิดน้อยกว่าคนจนที่ถูกความจนบีบคั้นจำต้องผิดศีล แต่คนมีอันจะกินก็ปล่อยให้กิเลสครอบคลุมใจตนให้ผิดศีลได้

    ทานนั้นได้เกื้อหนุนศีล
    ด้วยเรื่องผลแห่งทานนั้นเปิดโอกาสให้ผู้ทำเคยทำทานไว้เกิดมามีอันจะกินไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องปากท้องหิวโหย โอกาสผิดศีลแทบไม่มีเลย ถ้าเป็นคนเกรงกลัวต่อบาป เชื่อเรื่องเวรกรรม ไม่ทำอะไรตามกิเลส และรักษาศีลห้าได้มั่นคง

    ส่วนคนจนบางคนที่ผิดศีลนั้นส่วนใหญ่เกิดจากความยากจน ความหิวโหย บีบคั้น แต่บางคนก็ผิดศีลเพราะกิเลสพาไป ที่เห็นๆจะมีโอกาสผิดศีลได้ง่ายก็คือผิดศีลข้อหนึ่งฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เช่นตกปลากิน เป็นต้น ,ศีลข้อสองลักทรัพย์ และศีลข้อห้าดื่มสุรา เป็นต้น

    ศีลเกื้อหนุนภาวนา
    ผู้ที่มีศีลจะเจริญภาวนาได้ง่ายกว่าผู้ที่ไม่มีศีลหรือขาดตกบกพร่องในศีล เนื่องจากผู้ที่รักษาศีลนั้นจิตใจจะไม่มีเรื่องที่ทำผิดศีลธรรมมารบกวนใจในขณะเจริญภาวนา แต่ผู้ที่ผิดศีลจะถูกกรรมที่ทำผิดศีลนั้นรบกวนใจในขณะภาวนาได้ง่ายทำให้ใจไม่สงบ การผิดศีลข้อหนึ่งข้อสองข้อสามข้อสี่ก่อกวนรบกวนให้ใจไม่สงบและมีจิตฟุ้งซ่านได้ง่าย ส่วนการผิดศีลข้อที่ห้าในขณะดื่มน้ำเมาอยู่ทำให้ขาดสติไม่สามารถเจริญภาวนาได้ในขณะนั้นเพราะมีอาการเมาค้างอยู่

    พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านจึงสอนให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายพึงมั่น ทำบุญให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 สิงหาคม 2009
  2. NUI

    NUI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    389
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +983
    [​IMG]
     
  3. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    อนุโมทนา... การให้ทาน การถือศีล การภวานา อาจมีการอธิฐานทางโลกก็ถือว่าเป็นแรงจูงใจในการสร้างบุญกุศล วันนี้อาจมองไม่เห็นธรรม แต่ต่อไปก็อาจจะได้เห็นธรรม แต่ถ้าทำแบบสร้างภาพตนเองจะไม่ได้อะไรเลย ก็ยังมีทุกข์ใจอยู่ ในภพหน้าอาจเกิดมามีทรัพย์มาก แต่ก็ยังมีทุกข์อยู่ จึงเห็นด้วยว่าควรทำให้พร้อมทั้งกายและใจ แล้วน้อมจิตให้เห็นตามความจริงเพื่อตัดกิเลสมุ่งพระนิพพาน สิ่งเหล่านี้ต้องค่อย ๆ สะสมสอนจิตไปเรื่อย ๆ ปัญญาก็จะเริ่มมีจะคิดได้และเริ่มปล่อยวางความอยากลงได้
     
  4. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...