จะแก้ไขปัญหาพวกแก๊งค์ปาหิน ยิงหนังกระติ๊ก ยังไงกันดี หลายคนเจ็บ หลายคนตาย

มีข่าวทีวี แทบจะทุกวันครับ ผมว่ามันเข้าขั้นพฤติกรรมเลียนแบบแล้วล่ะครับ ฃ

ตอนแรกเป็นปาหิน ตอนนี้หนักเข้ากลายเป็นยิงหนังกระติ๊กใส่รถอยากให้เพื่อนๆเสนอความคิดเห็นครับ ว่าจะอยากให้เจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องทำยังไงกับพวกนี้ดี!!!!

เพราะ ผมคิดว่า ไอ้การที่เสนอข่าวแล้วจับไม่ได้ เท่ากับเป็นการยั่วยุให้พวกที่ ทำ และที่กำลังคิดจะทำเกิดการย่ามใจครับ

เห็นใจผู้ใช้รถใช้ถนนตอนกลางค่ำกลางคืนครับ เพื่อนๆ คนไหน อยากเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ลองเสนอมาดูครับ

คิดคนเดียวไม่เท่ากับความคิดหลายๆคน

 

"ไอ้การที่เสนอข่าวแล้วจับไม่ได้ เท่ากับเป็นการยั่วยุให้พวกที่ ทำ และที่กำลังคิดจะทำเกิดการย่ามใจครับ"

เห็นด้วยกับท่าน < ๙ ตาล ๙ > ครับ

 

ถ้าแก๊งค์ปาหินมิใช้ลูกคนใหญ่คนโต ก็คงจะดี ^^

คิดเล่นๆน๊ะค่ะ (_/l\_ ขอโทษไว้ก่อนค่ะ)

รบกวนท่านที่ได้อภิญญา หันหน้ามาช่วยชาติกันนิดนึง จะจับ จะแตะ จะสัมผัสหิน หรืออะไรก็ตาม คิดว่าไม่น่าจะเกินวิสัย หรือเกินกำลัง

สาธุค่ะ ​

 

ขับคันนี้ก็ได้ครับ อิอิ

จับกินซะเลย นิ ปาอยู่ได้

วิธีแก้ ขับไปเกิน 20 ก.ม. ต่อชั่วโมงเวลาโดนปาจะได้ไม่อันตราย พกหินไว้ในรถ และจอดทุกๆ 100 เมตร แล้วปาหินใส่จุดที่หน้าสงสัย ชิงปาก่อนที่มันจะปา มันจะได้ตกใจหนี เห้อ ไร้สาระแล้วเรา ขำๆนะครับ ^^


คงต้องติดฟีม กันกระสุนครับ เวลาโดนปาหินจะได้ไม่ทะลุเข้ามาในรถ

 

งดออกข่าวครับ

สาเหตุเพราะสื่อออกข่าวแล้วจับคนทำไม่ได้

มันเลยกลายเป็นการลอกเลียนแบบของพวกเหี้ยๆ

ยิ่งทำแล้วจับไม่ได้มันเลยเหลิงครับ

ถ้าจับคนทำที่อายุต่ำกว่า18ก็ปล่อยไป มันก็ทำอีก

ต้องจัดการให้หนักครับ

 

แบบนี้ ต้องเจอกับตัวหรือไม่ก็กับครอบครัวของเค้า เค้าจะได้รู้สึก แย่ครับ แบบนี้

ดีนะที่ยังไม่ไปที่ ศรีสะเกษ

ผใคงห่วงพ่อ แม่ พี่ น้อง ของผมมากเลยนะ

 

ปาหินนี่จับยากอ่ะ เพราะว่าถ้าเป็นกระสุนนี่อาจพอตามสืบได้
อย่างงี้ถ้าโกรธใครแอบปาหินใส่คนนั้นเลยดีมั้ย(เอิ้กๆ)

 

เชื่อเหอะสักวัน กรรมจะตามทัน

 

ทุกครั้งที่ได้ยินได้ฟังข่าวนี้ทำให้ผมฉุนอย่างมากทีเดียวมันเป็นการกระทำที่เห็นชีวิตผู้อื่นเป็นของเล่นสังเวยความสนุกคึกคะนองของตัวเองที่อำหิตมาก. ผมเคยนึกเล่นๆนะครับว่าถ้าหากผมโดนเข้าอย่างนี้บ้างและหากไม่บาดเจ็บมากนักผมจะตามไปยิงไอ้พวกระยำโหดอำมหิตนั่นให้ไปเกิดใหม่ครับให้เป็นข่าวหน้าหนึ่งเพื่อที่จะทำให้พวกที่คิดจะทำอย่างนี้ต่อไปต้องคิดให้ดีครับว่ามันอาจจะหมายถึงการเอาชีวิตของพวกมันมาเป็นเดิมพันเช่นกัน. นี่ก็ไม่รู้ว่าไอ้พวกระยำโหดพวกนี้โชคดีหรือผมโชคดีที่บังเอิญไม่มาพบกัน. ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ออกความคิดเห็นแรงไป.

ผมคิดว่าต้องเพิ่มโทษให้หนักถึงที่สุดเช่นจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตให้ตกตายตามกันในกรณีที่เหยื่อเสียชีวิตและถ้าเป็นพวกวัยรุ่นควรเอาผิดกับผู้ปกครองให้ถึงที่สุดด้วยครับ. ควรตั้งหน่วยฉ.ก.ขึ้นในแต่ละหมู่บ้านโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่หรือ อ.ส.ร่วมมือกันวางมาตราการป้องกันและปราบปรามโดยรัฐบาลต้องให้การสนับสนุนด้านงบประมาณและจัดตั้งรางวัลนำจับที่สูงมากๆให้กับผู้ชี้เบาะแสครับ. มาตราการป้องกันอย่างเช่นจัดชุดลาดตะเวนยามค่ำคืนและคอยสอดส่องกลุ่มวัยรุ่ยหรือกลุ่มคนที่กินเหล้ากันรวมไปถึงการจัดให้มีกิจกรรมร่วมกันในหมู่บ้านเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีและความเกรงกลัวต่อกฏหมายให้เกิดกับคนในหมู่บ้านโดยเฉพาะวัยรุ่นในพื้นที่ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทนอย่างมากครับ.

;aa44

 

มันเป็นการรับรู้ข่าวสารแล้วทำตามๆ กันไป เหมือนเด็กแถวบ้านยายผีป่าสมัยยายผีป่ารุ่นๆ เขาไม่เคยมีทีวีดู ไม่รู้จักยาเสพติดรุนแรงเกินกว่าคำว่าเหล้าเถื่อนและกัญชา สมัยนั้นใครเสพกัญชา นี่เขาเรียกว่าอันตรายสุดๆ แล้ว เฮโรอินนี่สำหรับพวกเข้ากรุงมาเรียน เป็นไฮโซขึ้นมาหน่อย ใครกลับบ้านไปเล่าว่า ลองเฮไหม เด้กรุ่นๆ งง...มันคืออะไร แต่มันหายากและแพง เขาก็ไม่สนใจแล้วว่ามันจะดีอย่างไร เอาอย่างเดิมดีแล้ว แต่พอมีทีวี โห...มีของใหม่ มีการกระทำแปลกๆ เข้ามาให้รับรู้ เพื่อนร่วมรุ่นยายผีป่าในหมู่บ้านเขาบอกว่า เอ็งรู้จักยาบ้าไหม รู้จักเฮไหม น่าลองนะ เขาก็พากันดิ้นรนไปหามาเพราะว่าอยากลอง คิดว่าทันสมัยในความรู้สึกของพวกเขาตอนนั้น


ไม่ต่างจากการปาหินเลยค่ะ

แรกๆ นั้น การาหินเกิดจากความโมโหที่มีรถสาดไฟหน้าสูงใส่ และขับเร็ว ทำให้รถของชาวบ้านที่ค่อยๆ ขับทางทางในเส้นขาวหล่นข้างทางประจำ คนโดนเบียดมันก็แค้น รอจังหวะ ถ้าไปไหนแล้วเจอรถใหญ่งี่เง่าใส่ เอามันเลย ทีนี้พอทำไปคนทำคนแรกล่องหน เพราะหาคนมายอมรับไม่ได้ ออกข่าวไป คนทำตามเรื่อยๆ กลายเป็นความคะนอง ประลองความกล้า และเผื่อได้สินทรัพย์ติดมือไปด้วย


ครูมหาวิทยาลัยแถวนครปฐมก็เพิ่งเจอแถวจุดเชื่อมต่อเมืองกาญจน์ แต่ไม่เป็นอะไรมาก กระจกร้าวนิดๆ จึงไม่เสียเวลาไปแจ้งความ


มันจะมาในลักษณะที่ขับรถชิดเลนส์เดียวกับรถของเราที่มุ่งหน้าไป แต่มันสวนกลับ พอได้ระยะที่จะขว้างได้ ก็เอาเลย ให้สังเกตว่าพวกนี้จะวิ่งตรงทางเปลี่ยว ไม่ใช่คนชิดในสวนเพื่อหาทางเลี้ยวเข้าซอย เพราะบริเวณนั้นไกลชุมชนมาก

รถมอร์เตอร์ไซด์จะนั่งเกินสองคน เปิดไฟหน้าสูงต้านสายตาเรา

ยายผีป่าตอนไปต่างจังหวัดก็คอยสังเกต ถ้ารู้สึกว่าน่าจะเข้าข่าย ถ้าอีกเลนส์ถนนว่าง ยายผีป่าจะบีบแตรเสียงต่อเนื่อง และเปิดไฟกระพริบให้รู้ แต่ถ้ากระชั้นชิด จะเปิดไฟสูงใส่พร้อมเบี่ยงออกไปอีกเลนส์ เพื่อให้ห่างจากวิถีก้อนหิน แต่เพื่อนยายผีป่าผู้ชายขาโหด เขาเล่าว่า

เขาขับรถไปแล้วมองไปข้างหน้าเห็นมีรถมอร์ไซด์จอดตรงต้นไม้ เปลี่ยวๆ มีคนตั้งท่าพร้อมออกรถ แสดงว่ารถไม่ได้เสีย ไม่รอใคร เปิดไฟแสดงว่าสตาร์ทรถรอจังหวะ เขาเริ่มผิดสังเกต จึงบีบแตรดังๆ แล้วขับช้าๆ แต่เบียดเข้าชิดรถคันนั้น พอเข้าใกล้ประมาณพอรู้ว่ามันมีพิรุจก็เบียดเลย เขาคิดว่าถ้าโดนปาหิน เขาจะหันรถกลับแล้วขับตาม ยายผีป่าเลยถามว่า เกิดรถเสียหลักล่ะ

เขาบอกว่า ผมระวัง เสียหลักยาก ผมกะจะตามไปไล่ชนมันเลย

โห...อย่างนี้คิดไม่ถูกเลยนะโหดไป เผื่อไม่ใช่นักปาหิน แกนั่นแหละจะได้ลงหน้าหนึ่ง


เราต้องมาแก้กันที่การให้ความรู้ความเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้มันไม่ควรทำ ผู้นำชุมชนควรออกไปดูว่า เวลากลางคืนลูกบ้านไหนชอบร่อนรถกันบ้าง ไปคุยกับพ่อแม่หรือเด็กๆ บางทีคนแก่วัยกลับก็ทำนะคะ อย่าไปโทษว่าน่าจะเป็นเด็กวัยรุ่นเท่านั้น

ทำประวัติในชุมชน เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวด ไม่รับสินบน ไม่ต้องเกรงใจคนที่เขามีอำนาจ(ในทางที่เข้าข้างคนของตน)

ขอให้ชุมชนเลิกอุ้มพวก ทำหน้าที่ของพลเมืองดีให้ดีที่สุด


เฮ้อ...คงยากหากความเคยชินของสังคมนั้นๆ มันเป็นแบบนั้น มันแก้ยาก คนที่ทำหน้าที่ตามที่หน่วยงานต่างๆ แนะนำด้วยการทำสปอร์ตโฆษณาหมดไปมากมาย แจ้งเบาะแสที่นี่ แต่พอแจ้งไป คนให้เบาะแสมีปัญหา เพราะเจ้าหน้าที่(บางคน)ปากไม่มีหูรูด เจ้าหน้าที่กินสินบน โอ้ย...นี่คือเมืองไทย ที่แก้ยากมาก คนดีน้อยกว่าคนเลว คนดีกลายเป็นคนผิดเสมอในสายตาพวกนั้น

 

....เรื่องนี้..ไม่ใช่ของใหม่...เกิดมานานแล้ว และ กลับมา ฮิต เป็นพักๆ เดี่ยว ก็ เลิกราไป แล้ว ย้อนมา ฮิต กันใหม่ คล้ายกับ เรื่องอื่นๆ ที่ไม่เคยแก้ไขอะไรได้

....อย่าว่าแต่...เรื่องเล็กๆ แบบนี้เลย แม้แต่ เรื่อง ใหญ่ๆ ก็ ไม่มี ผู้คน ให้ความสำคัญ และ ช่วยกัน เดือดร้อน แก้ไข ยกตัวอย่างให้ฟังสักเรื่อง ก็ ได้ เรื่อง กรณีการสูญเสียดินแดน กรณีี เขาพระวิหาร และ พื้นที่ทับซ้อน เกือบ ๔ ตารางกิโลเมตร ใน บริเวณใกล้เคียง ก็ มีเพียง คนกลุ่มเล็กๆเท่านั้น ที่เข้าใจ และ สนใจติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง นอกนั้น ก็ ไม่ทราบเหมือนกันว่า...ทำไมจึงมองข้ามกรณีเช่นนี้ไป....

..ทุกวันนี้...นักการเมืองเขาี พูดถึง เรื่องอะไรกันบ้าง...บอกหน่อยได้ใหม..หรือ มีแค่ อยากจะเป็นพรรคมาร และ พรรคเทพกัน

อยากจะแก้ไขปัญหา ต้องทราบก่อนว่า....ทำไม..จึงเป็นเช่นนี้...