ร่วมบุญกฐินกับ 3 วัด จำนวน 200 บาท รับพระยอดธง 1 องค์

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pattana, 4 กันยายน 2009.

  1. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    เรื่องราวพระดีของหลวงพ่อวัดโขงขาว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. จารุ

    จารุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    23,747
    ค่าพลัง:
    +236,438
    เอ้าผมเหมา 9องค์ครับ พี่ยิ้มผมขอก่อนนะครับ เพื่อนเยอะ
     
  3. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,669
    ค่าพลัง:
    +203,772
    พระหมดอีกแล้วครับ เดี๋ยวต้องรอจากท่านนายหัวเมืองคอนว่าจะเหลือมากี่องค์นะครับ
     
  4. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    คุณจารุเป็น 9 องค์..โอนมาแล้ว 5 องค์..ค่าส่งไม่ต้องโอนมาเพิ่มนะครับ
    ลักยิ้มเป็นกรรมการด้วยนะครับ..
    คุณพงศ์กฤต 5 องค์
    ศิษย์ปลายแถว 2 องค์
    คุณคมสัน 10 องค์
    คุณpalm96 ..1องค์

    ....
    คุณจารุและคุณคมสันต์ช่วยยืนยันว่ากี่องค์นะครับ..
     
  5. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    พี่บ่าวใต้ส่งพระมาเพิ่มให้ 10 องค์..พระมีมาเพิ่ม10องค์
     
  6. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    รายชื่อกรรมการผมจะส่งให้หลวงพ่อหลวงพี่ทุกครั้งนะครับ...
     
  7. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,669
    ค่าพลัง:
    +203,772
    คุณ จารุ โอนแล้ว 5 ขอรับเพิ่มอีก 9 องค์ รวม 14 องค์ครับ
    คุณ พงศ์กฤต 5 องค์
    คุณ ศิษย์ปลายแถว 2 องค์
    คุณ คมสัน 10 องค์
    คุณ palm96 ..1องค์

    รวมทั้งสิ้นในขณะนี้ 32 องค์ครับ

     
  8. จารุ

    จารุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    23,747
    ค่าพลัง:
    +236,438
    พี่ครับงั้นผมเบ็ดเสร็จทั้งหมดขอ 15 องค์ครับ(14+1)
     
  9. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    ชวนคนนั้นคนนี้ให้มาเป็นกรรมการบุญ..ทำกันมาก็หลายครั้งเพื่อทุกท่านได้มั่นใจในสิ่งที่ทำก็เลยส่งเรื่อง..อานิสงส์ของการบอกบุญเชิญชวนให้คนได้ทำบุญ..เป็นการเพิ่มเติมกำลังใจของเราให้อยู่ในบุญกุศลด้วย..<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ...เชิญติดตามโดยเร็วพลัน..<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สันตติมหาอำมาตย์<o:p></o:p>
    ความมีอยู่ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จยับยั้งสำราญพระอิริยาบถอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ในตอนนั้นองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงปรารภ สันตติมาหาอำมาตย์ ว่าเป็นอำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระเจ้าปเสนทิโกศล<o:p></o:p>
    เนื้อความย่อมีอยู่ว่า เมื่อท่านเข้ามาเป็นมหาอำมาตย์แล้ว ในตอนนั้นองค์สมเด็จพระประทีปแก้วประทับอยู่ที่พระเชตวันขณะนั้นก็ปรากฏว่ามีกองทัพคือมีการแข็งเมืองในปัจจันตชนบทของพระเจ้าปเสนทิโกศลเกิดขึ้น หมายความว่าเมืองขึ้นเขาแข็งเมืองไม่ยอมส่งส่วย คือไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นตามเดิม พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ส่งสันตติมหาอำมาตย์เป็นแม่ทัพใหญ่ให้ไปปราบปราม ในที่สุดสันตติมหาอำมาตย์ก็ปราบได้ ตำแหน่งมหาอำมาตย์บรรดาท่านพุทธบริษัท เป็นตำแหน่งสูงสุดในขณะนั้น ตำแหน่งสูงขึ้นไปกว่านั้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน<o:p></o:p>
    พระราชาแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ 7 วัน<o:p></o:p>
    ในเมื่อสันตติมหาอำมาตย์มีความสามารถมีความดีมาก พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ไม่ทราบจะให้อะไร จึงแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ 7 วัน ใน 7 วันนี่มีอำนาจเท่าพระมหากษัตริย์ ต้องว่าราชการ เงินทองในท้องพระคลังมีอำนาจจับจ่าย ในเมื่อท่านเป็นกษัตริย์ 7 วันก็ไม่ต้องว่าราชการ ท่านก็อยู่ด้วยความเมา เมาคอพับคออ่อนอยู่บนคอช้าง แล้วก็มีนางฟ้อนคนหนึ่งสวยมาก รำก็สวย ฟ้อนก็สวย เมื่อเขาแสดงได้ดีท่านก็ให้รางวัลมาก<o:p></o:p>
    เมื่อคืนนี้ดูบาลี คราวก่อนๆน่ากลัวจะจำพลาดปรากฏว่าเป็นวันที่ 7 พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมไปด้วยพระอานนท์ไปบิณฑบาตสายนั้น ขณะที่ญาติโยมกำลังจะใส่บาตร สมเด็จพระบรมโลกนาถก็เห็นสันตติมหาอำมาตย์ แต่ความจริงท่านทราบแล้ว แล้วก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ ตามธรรมดาพระพุทธเจ้าแย้มพระโอษฐ์ คือยิ้มนี่ก็ต้องมีเรื่อง<o:p></o:p>
    พระอานนท์เห็นเข้าก็กราบทูลถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า<o:p></o:p>
    “ภันเต ภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญพระพุทธเจ้าข้า ทรงแย้มพระโอษฐ์เรื่องอะไร”<o:p></o:p>
    สมเด็จพระจอมไตรก็ตรัสว่า<o:p></o:p>
    “อานันทะ ดูก่อนอานนท์ วันนี้สันตติมหาอำมาตย์จะเป็นพระอรหันต์แล้วก็จะนิพพานในวันนี้”<o:p></o:p>
    พอพระพุทธเจ้าพูดอย่างนั้น คนที่กำลังจะใส่บาตรก็มีอยู่มาก เขาฟังองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพูด คนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิไม่เคารพพระพุทธเจ้า คนที่อยู่ในที่นั้น ไม่ใช่คนใส่บาตรฝ่ายเดียว คนไม่ใส่บาตรก็มี คนที่ไม่เคารพในพระพุทธเจ้าก็พากันโจษว่า วันนี้เราจะจับผิดพระสมณโคดม ในฐานะพูดมุสาวาทคือโกหกว่าคนกำลังเมาอยู่อย่างนี้<o:p></o:p>
    1.จะเป็นพระอรหันต์<o:p></o:p>
    2.จะนิพพานในวันนี้<o:p></o:p>
    พวกที่นับถือพระพุทธเจ้าก็พากันกล่าวว่า วันนี้เราจะดูลีลาของพระพุทธเจ้าซึ่งทำให้สันตติมหาอำมาตย์ ให้เป็นพระอรหันต์ แล้วจะดูการเยื้องกรายของสันตติมหาอำมาตย์ที่จะแสดงการนิพพานให้ปรากฏ ก็เป็นอันว่าทุกคนคอยตั้งท่า ฝ่ายหนึ่งคอยจับผิดพระพุทธเจ้า อีกฝ่ายหนึ่งอยากจะชมพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าพระพุทธเจ้ากลับไปแล้ว สันตติมหาอำมาตย์ก็ดูฟ้อนรำขับร้องตามประเพณี แล้วก็เมาคอพับคออ่อนอยู่บนคอช้าง<o:p></o:p>
    ในตอนสายนั้นเองบรรดาท่านพุทธบริษัท หญิงฟ้อนคนที่งามที่สุด และที่ฟ้อนดีที่สุด ได้รับรางวัลมากที่สุด ล้มลงขาดใจตายเฉยๆ ตามพระบาลีท่านกล่าวว่า เพราะอาศัยในตอน 7 วันเธอฟ้อนดี สวยดี ก็คิดว่าถ้าอ้วนมันก็จะรำไม่สวย ฟ้อนไม่สวย ก็เลยกินข้าวน้อยๆ อาหารไม่พอลมกำเริบขาดใจตาย<o:p></o:p>
    สันตติมหาอำมาตย์เห็นเธอตายแล้ว ก็คิดในใจว่า หญิงคนนี้ความจริงอายุไม่ใช่คราวลูกมันเป็นคราวหลานอยู่ๆก็ตาย แล้วเป็นหญิงที่เธอรักมาก ก็เกิดความเสียใจสร่างจากความเมา เมื่อความเมาหายไปก็คิดว่า เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อประโยชน์อะไร การรับราชการได้รับเบี้ยหวัดเงินเดือนก็เป็นของดี มีฐานะดีแล้ว แต่สมเด็จองค์พระประทีปแก้วเคยตรัสว่า<o:p></o:p>
    คนมียศถาบรรดาศักดิ์ก็ดี ฐานะก็ดี ดีมากขนาดไหนก็ตาม ไม่พ้นจากความตาย เวลานี้เรายังไม่ตายมีความทุกข์หนักเพราะหลานที่รักต้องถือว่าเป็นหลาน เธอก็คิดในใจว่าบุคคลที่จะเปลื้องความทุกข์ได้ไม่มีใครต้องเป็นพระพุทธเจ้า จึงเข้าไปลาพระเจ้าปเสนทิโกศลออกจากราชการ ก็ติดตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่มหาวิหาร คือพระเชตวันมหาวิหารในกรุงสาวัตถี ซึ่งไม่ไกลกันนัก<o:p></o:p>
    เมื่อไปถึงแล้วก็กราบบังคมทูลองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ตั้งใจฟังธรรม พอฟังธรรมจบ พระพุทธเจ้ากล่าวธรรมง่ายๆ ท่านบอกว่าเวลานี้ท่านมีทุกข์มาก ขอพระพุทธเจ้าช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าก็พูดสั้นๆว่า<o:p></o:p>
    “กิเลสเครื่องกังวลใดของเธอมีอยู่ เธอจงตัดกังวลในกิเลสนั้น คืออารมณ์ใดที่เธอขัดข้องที่มีกำลังใจมีความห่วงใยอยู่ เธอจงตัดเครื่องห่วงใยนั้นเสียเท่านั้นเอง”<o:p></o:p>
    พอเทศน์จบก็ปรากฏว่าท่านเป็นอรหันต์พร้อมไปด้วยปฏิสัมภิทาญาณ เมื่อท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็พิจารณาดู อายุขัยของตัวเองก็ทราบว่าอายุขัยของเราหมดวันนี้จะต้องตาย จึงกราบลาองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาขอลาไปนิพพาน ข้อนี้ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททราบด้วยว่า พระจะไปนิพพานท่านขอลาไปนิพพาน ท่านไม่ได้ขอลาไปดับสูญ นี่พึงเข้าใจว่านิพพานคงไม่ดับสูญแน่ เพราะพระลาไปนิพพาน พระพุทธเจ้ากล่าวว่า<o:p></o:p>
    อานิสงส์บอกบุญ<o:p></o:p>
    สันตติภิกขุ ถ้าเจ้าจะไปนิพพานวันนี้ ก็เป็นการสมควรเพราะว่าวันนี้เป็นวันหมดอายุขัยของเธอ แต่ก่อนจะไปนิพพานวันนี้เธอจงกล่าวถึงอานิสงส์ที่เธอสร้างความดีไว้ว่า<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1.เธอได้รับราชการเป็นอำมาตย์ผู้ใหญ่รองจากพระมหากษัตริย์คือมหาอำมาตย์<o:p></o:p>
    2.เมื่อฟังเทศน์จากตถาคตสั้นๆเพียงประโยคเดียวก็ได้บรรลุอรหัตผลพร้อมไปด้วยปฏิสัมภิทาญาณ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ก็อยากจะทราบว่าอานิสงส์ในการก่อนนั้น เธอทำความดีอะไรไว้จึงมีผลดีถึงขนาดนี้ ก่อนที่เธอจะแสดงถึงผลแห่งความดีในกาลก่อน เธอจงไปยืนอยู่บนอากาศกล่าวเนื้อความนั้น<o:p></o:p>
    ท่านสันตติภิกขุก็กราบพระพุทธเจ้าแล้วก็ยืนบนอากาศ 1 ช่วงยอดตาล ลงมากราบใหม่จนถึง 7 ช่วงยอดตาล เมื่อถึง 7 ช่วงยอดตาล ก็ยืนบนนั้นกล่าวประวัติความเป็นมาของท่าน ท่านกล่าวกับพระพุทธเจ้าว่า<o:p></o:p>
    ภันเต ภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ พระพุทธเจ้าข้า ถอยหลังจากนี้ไป 91 กัป เวลานั้นมีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งมีนามว่า วิปัสสี อยู่ในเมือง พันธุมนคร แล้วก็มีพระเจ้าพันธุมราช เป็นพระราชา เป็นราชบิดา<o:p></o:p>
    ระหว่างนั้นข้าพระพุทธเจ้าเกิดในสมัยนั้น คนสมัยนั้นมีอายุ 8 หมื่นปี ก็มาคิดในใจว่าเคยฟังเทศน์ขององค์สมเด็จพระจอมไตรก็เคยฟัง บาตรก็เคยใส่ ของอย่างอื่นก็เคยถวาย คิดว่าเราจะทำบุญอะไรหนอที่มันง่ายที่สุด ที่บรรดาคนจะทำบุญก็เบาไม่หนัก ไม่ต้องใช้ทรัพย์มาก ไม่ต้องลำบากมาก ก็คิดในใจว่าการบอกบุญกันนี่เป็นความดี ไม่หนักใจเรา ไม่หนักใจเขา คนรับฟังแล้วก็ทำตามกำลัง จะมีทรัพย์ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้เพราะการทำบุญมีหลายอย่าง นี่ตอนเช้าตรู่ท่านก็เดินไปประกาศกับชาวบ้านว่า<o:p></o:p>
    พ่อเอ๋ย แม่เอ๋ย เวลานี้พระพุทธเจ้ามาแล้ว<o:p></o:p>
    อันดับแรกหนึ่ง จงตั้งใจใส่บาตรกันตามกำลัง<o:p></o:p>
    ประการที่ 2 ตั้งใจฟังเทศน์<o:p></o:p>
    ประการที่ 3 ตั้งใจถวายทานอะไรก็ตามเถอะ รักษาอุโบสถบ้าง รักษาศีล 5 บ้างมีทรัพย์สินอาหารบ้างก็ใส่บาตร มีทรัพย์สินบ้างก็ทำทานอย่างอื่น และพากันไปฟังเทศน์ ขอบรรดาท่านทุกคนเลือกกันทำบุญตามอัธยาศัย<o:p></o:p>
    ท่านประกาศอย่างนี้อยู่พักหนึ่งก็ปรากฏว่าท่านพันธุมราชพระราชาพ่อของพระพุทธเจ้าวิปัสสี ได้ฟังตอนเช้ามืดทุกวัน ก็ให้คนเรียกมาถามว่า เธอทำอะไร ท่านก็บอกว่าผมหรือว่าข้าพเจ้าบอกประกาศให้ชาวบ้านทำบุญ ให้ทำตามสบายพระเจ้าพันธุมราชก็บอกว่า อย่างนั้นการเดินไปของเธอไม่สมควรให้ใช้ม้า แล้วก็พระราชทานม้าตัวที่ฝึกดีแล้วให้ขี่ ต่อมาเธอก็ขี่ม้าประกาศบุญ<o:p></o:p>
    ต่อมาพระเจ้าพันธุมราชก็เรียกมาถามว่า เวลานี้เธอใช้อะไรเป็นยานพาหนะ เธอก็บอกว่า ใช้ม้าตัวที่พระองค์พระราชทาน ท่านบอกม้าที่ประทานให้ก็ยังดีไม่พอ ใช้รถเทียมม้า แล้วก็พระราชทานรถเทียมม้าไปให้ ต่อมาก็ถามอีกว่าเธอใช้อะไรก็บอกว่าใช้รถ พระเจ้าพันธุมราชก็บอกว่าไม่ดี ให้ใช้ช้างซึ่งประดับแล้ว<o:p></o:p>
    รวมความว่าสันตติมหาอำมาตย์ ประกาศกับบรรดาท่านพุทธบริษัท และกราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบว่า การที่บรรลุมรรคผลได้เร็วก็ดีในชาติหลังนี้ เป็นคนที่บอกบุญนั่นเอง การบอกบุญไม่มีเกณฑ์บังคับ ใครจะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ เอาอานิสงส์ในการบอกบุญด้วย แล้วตนเองก็ทำกุศลด้วย<o:p></o:p>
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ที่เอาเรื่องมาเทศน์ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัทเพราะว่าเห็นเป็นเรื่องฟังง่ายๆ ถ้าจะฟังมากเสียหน่อยก็ตรงที่ลิ้นมันไม่ดี ฟังง่ายๆแล้วก็เข้าใจง่ายเป็นการทำบุญง่ายๆ การบอกบุญประกาศข่าวบุญแก่บุคคลอื่นที่มีความเลื่อมใสในการสงเคราะห์ทานก็ดีจัดว่าเป็นบุญมหาศาล ซึ่งองค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสว่า เป็นการสะสมความดีเรื่องบุญกุศล แล้วเป็นปัจจัยให้ตนเองเกิดปัญญาสามารถตัดกิเลสเป็นสมุทเฉทปหานได้<o:p></o:p>
     
  10. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,669
    ค่าพลัง:
    +203,772
    ปรับ Font ใหม่ให้อ่านง่ายขึ้นครับ

    ชวนคนนั้นคนนี้ให้มาเป็นกรรมการบุญ..ทำกันมาก็หลายครั้งเพื่อทุกท่านได้มั่นใจในสิ่งที่ทำก็เลยส่งเรื่อง..อานิสงส์ของการบอกบุญเชิญชวนให้คนได้ทำบุญ..เป็นการเพิ่มเติมกำลังใจของเราให้อยู่ในบุญกุศลด้วย..
    <O:p</O:p
    ...เชิญติดตามโดยเร็วพลัน..


    <O:p</O:p
    สันตติมหาอำมาตย์<O:p</O:p


    ความมีอยู่ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จยับยั้งสำราญพระอิริยาบถอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ในตอนนั้นองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงปรารภ สันตติมาหาอำมาตย์ ว่าเป็นอำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระเจ้าปเสนทิโกศล<O:p</O:p
    เนื้อความย่อมีอยู่ว่า เมื่อท่านเข้ามาเป็นมหาอำมาตย์แล้ว ในตอนนั้นองค์สมเด็จพระประทีปแก้วประทับอยู่ที่พระเชตวันขณะนั้นก็ปรากฏว่ามีกองทัพคือมีการแข็งเมืองในปัจจันตชนบทของพระเจ้าปเสนทิโกศลเกิดขึ้น หมายความว่าเมืองขึ้นเขาแข็งเมืองไม่ยอมส่งส่วย คือไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นตามเดิม พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ส่งสันตติมหาอำมาตย์เป็นแม่ทัพใหญ่ให้ไปปราบปราม ในที่สุดสันตติมหาอำมาตย์ก็ปราบได้ ตำแหน่งมหาอำมาตย์บรรดาท่านพุทธบริษัท เป็นตำแหน่งสูงสุดในขณะนั้น ตำแหน่งสูงขึ้นไปกว่านั้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน<O:p</O:p
    พระราชาแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ 7 วัน<O:p</O:p
    ในเมื่อสันตติมหาอำมาตย์มีความสามารถมีความดีมาก พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ไม่ทราบจะให้อะไร จึงแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ 7 วัน ใน 7 วันนี่มีอำนาจเท่าพระมหากษัตริย์ ต้องว่าราชการ เงินทองในท้องพระคลังมีอำนาจจับจ่าย ในเมื่อท่านเป็นกษัตริย์ 7 วันก็ไม่ต้องว่าราชการ ท่านก็อยู่ด้วยความเมา เมาคอพับคออ่อนอยู่บนคอช้าง แล้วก็มีนางฟ้อนคนหนึ่งสวยมาก รำก็สวย ฟ้อนก็สวย เมื่อเขาแสดงได้ดีท่านก็ให้รางวัลมาก<O:p</O:p
    เมื่อคืนนี้ดูบาลี คราวก่อนๆน่ากลัวจะจำพลาดปรากฏว่าเป็นวันที่ 7 พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมไปด้วยพระอานนท์ไปบิณฑบาตสายนั้น ขณะที่ญาติโยมกำลังจะใส่บาตร สมเด็จพระบรมโลกนาถก็เห็นสันตติมหาอำมาตย์ แต่ความจริงท่านทราบแล้ว แล้วก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ ตามธรรมดาพระพุทธเจ้าแย้มพระโอษฐ์ คือยิ้มนี่ก็ต้องมีเรื่อง<O:p</O:p
    พระอานนท์เห็นเข้าก็กราบทูลถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า<O:p</O:p
    “ภันเต ภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญพระพุทธเจ้าข้า ทรงแย้มพระโอษฐ์เรื่องอะไร”<O:p</O:p
    สมเด็จพระจอมไตรก็ตรัสว่า<O:p</O:p
    “อานันทะ ดูก่อนอานนท์ วันนี้สันตติมหาอำมาตย์จะเป็นพระอรหันต์แล้วก็จะนิพพานในวันนี้”<O:p</O:p
    พอพระพุทธเจ้าพูดอย่างนั้น คนที่กำลังจะใส่บาตรก็มีอยู่มาก เขาฟังองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพูด คนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิไม่เคารพพระพุทธเจ้า คนที่อยู่ในที่นั้น ไม่ใช่คนใส่บาตรฝ่ายเดียว คนไม่ใส่บาตรก็มี คนที่ไม่เคารพในพระพุทธเจ้าก็พากันโจษว่า วันนี้เราจะจับผิดพระสมณโคดม ในฐานะพูดมุสาวาทคือโกหกว่าคนกำลังเมาอยู่อย่างนี้<O:p</O:p
    1.จะเป็นพระอรหันต์<O:p</O:p
    2.จะนิพพานในวันนี้<O:p</O:p
    พวกที่นับถือพระพุทธเจ้าก็พากันกล่าวว่า วันนี้เราจะดูลีลาของพระพุทธเจ้าซึ่งทำให้สันตติมหาอำมาตย์ ให้เป็นพระอรหันต์ แล้วจะดูการเยื้องกรายของสันตติมหาอำมาตย์ที่จะแสดงการนิพพานให้ปรากฏ ก็เป็นอันว่าทุกคนคอยตั้งท่า ฝ่ายหนึ่งคอยจับผิดพระพุทธเจ้า อีกฝ่ายหนึ่งอยากจะชมพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าพระพุทธเจ้ากลับไปแล้ว สันตติมหาอำมาตย์ก็ดูฟ้อนรำขับร้องตามประเพณี แล้วก็เมาคอพับคออ่อนอยู่บนคอช้าง<O:p</O:p
    ในตอนสายนั้นเองบรรดาท่านพุทธบริษัท หญิงฟ้อนคนที่งามที่สุด และที่ฟ้อนดีที่สุด ได้รับรางวัลมากที่สุด ล้มลงขาดใจตายเฉยๆ ตามพระบาลีท่านกล่าวว่า เพราะอาศัยในตอน 7 วันเธอฟ้อนดี สวยดี ก็คิดว่าถ้าอ้วนมันก็จะรำไม่สวย ฟ้อนไม่สวย ก็เลยกินข้าวน้อยๆ อาหารไม่พอลมกำเริบขาดใจตาย<O:p</O:p
    สันตติมหาอำมาตย์เห็นเธอตายแล้ว ก็คิดในใจว่า หญิงคนนี้ความจริงอายุไม่ใช่คราวลูกมันเป็นคราวหลานอยู่ๆก็ตาย แล้วเป็นหญิงที่เธอรักมาก ก็เกิดความเสียใจสร่างจากความเมา เมื่อความเมาหายไปก็คิดว่า เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อประโยชน์อะไร การรับราชการได้รับเบี้ยหวัดเงินเดือนก็เป็นของดี มีฐานะดีแล้ว แต่สมเด็จองค์พระประทีปแก้วเคยตรัสว่า<O:p</O:p
    คนมียศถาบรรดาศักดิ์ก็ดี ฐานะก็ดี ดีมากขนาดไหนก็ตาม ไม่พ้นจากความตาย เวลานี้เรายังไม่ตายมีความทุกข์หนักเพราะหลานที่รักต้องถือว่าเป็นหลาน เธอก็คิดในใจว่าบุคคลที่จะเปลื้องความทุกข์ได้ไม่มีใครต้องเป็นพระพุทธเจ้า จึงเข้าไปลาพระเจ้าปเสนทิโกศลออกจากราชการ ก็ติดตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่มหาวิหาร คือพระเชตวันมหาวิหารในกรุงสาวัตถี ซึ่งไม่ไกลกันนัก<O:p</O:p
    เมื่อไปถึงแล้วก็กราบบังคมทูลองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ตั้งใจฟังธรรม พอฟังธรรมจบ พระพุทธเจ้ากล่าวธรรมง่ายๆ ท่านบอกว่าเวลานี้ท่านมีทุกข์มาก ขอพระพุทธเจ้าช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าก็พูดสั้นๆว่า<O:p</O:p
    “กิเลสเครื่องกังวลใดของเธอมีอยู่ เธอจงตัดกังวลในกิเลสนั้น คืออารมณ์ใดที่เธอขัดข้องที่มีกำลังใจมีความห่วงใยอยู่ เธอจงตัดเครื่องห่วงใยนั้นเสียเท่านั้นเอง”<O:p</O:p
    พอเทศน์จบก็ปรากฏว่าท่านเป็นอรหันต์พร้อมไปด้วยปฏิสัมภิทาญาณ เมื่อท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็พิจารณาดู อายุขัยของตัวเองก็ทราบว่าอายุขัยของเราหมดวันนี้จะต้องตาย จึงกราบลาองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาขอลาไปนิพพาน ข้อนี้ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททราบด้วยว่า พระจะไปนิพพานท่านขอลาไปนิพพาน ท่านไม่ได้ขอลาไปดับสูญ นี่พึงเข้าใจว่านิพพานคงไม่ดับสูญแน่ เพราะพระลาไปนิพพาน พระพุทธเจ้ากล่าวว่า
    <O:p</O:p
    อานิสงส์บอกบุญ<O:p</O:p
    สันตติภิกขุ ถ้าเจ้าจะไปนิพพานวันนี้ ก็เป็นการสมควรเพราะว่าวันนี้เป็นวันหมดอายุขัยของเธอ แต่ก่อนจะไปนิพพานวันนี้เธอจงกล่าวถึงอานิสงส์ที่เธอสร้างความดีไว้ว่า
    <O:p</O:p</O:p
    1.เธอได้รับราชการเป็นอำมาตย์ผู้ใหญ่รองจากพระมหากษัตริย์คือมหาอำมาตย์<O:p</O:p
    2.เมื่อฟังเทศน์จากตถาคตสั้นๆเพียงประโยคเดียวก็ได้บรรลุอรหัตผลพร้อมไปด้วยปฏิสัมภิทาญาณ<O:p</O:p</O:p
    ก็อยากจะทราบว่าอานิสงส์ในการก่อนนั้น เธอทำความดีอะไรไว้จึงมีผลดีถึงขนาดนี้ ก่อนที่เธอจะแสดงถึงผลแห่งความดีในกาลก่อน เธอจงไปยืนอยู่บนอากาศกล่าวเนื้อความนั้น<O:p</O:p
    ท่านสันตติภิกขุก็กราบพระพุทธเจ้าแล้วก็ยืนบนอากาศ 1 ช่วงยอดตาล ลงมากราบใหม่จนถึง 7 ช่วงยอดตาล เมื่อถึง 7 ช่วงยอดตาล ก็ยืนบนนั้นกล่าวประวัติความเป็นมาของท่าน ท่านกล่าวกับพระพุทธเจ้าว่า<O:p</O:p
    ภันเต ภควา ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ พระพุทธเจ้าข้า ถอยหลังจากนี้ไป 91 กัป เวลานั้นมีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งมีนามว่า วิปัสสี อยู่ในเมือง พันธุมนคร แล้วก็มีพระเจ้าพันธุมราช เป็นพระราชา เป็นราชบิดา<O:p</O:p
    ระหว่างนั้นข้าพระพุทธเจ้าเกิดในสมัยนั้น คนสมัยนั้นมีอายุ 8 หมื่นปี ก็มาคิดในใจว่าเคยฟังเทศน์ขององค์สมเด็จพระจอมไตรก็เคยฟัง บาตรก็เคยใส่ ของอย่างอื่นก็เคยถวาย คิดว่าเราจะทำบุญอะไรหนอที่มันง่ายที่สุด ที่บรรดาคนจะทำบุญก็เบาไม่หนัก ไม่ต้องใช้ทรัพย์มาก ไม่ต้องลำบากมาก ก็คิดในใจว่าการบอกบุญกันนี่เป็นความดี ไม่หนักใจเรา ไม่หนักใจเขา คนรับฟังแล้วก็ทำตามกำลัง จะมีทรัพย์ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้เพราะการทำบุญมีหลายอย่าง นี่ตอนเช้าตรู่ท่านก็เดินไปประกาศกับชาวบ้านว่า<O:p</O:p
    พ่อเอ๋ย แม่เอ๋ย เวลานี้พระพุทธเจ้ามาแล้ว<O:p</O:p
    อันดับแรกหนึ่ง จงตั้งใจใส่บาตรกันตามกำลัง<O:p</O:p
    ประการที่ 2 ตั้งใจฟังเทศน์<O:p</O:p
    ประการที่ 3 ตั้งใจถวายทานอะไรก็ตามเถอะ รักษาอุโบสถบ้าง รักษาศีล 5 บ้างมีทรัพย์สินอาหารบ้างก็ใส่บาตร มีทรัพย์สินบ้างก็ทำทานอย่างอื่น และพากันไปฟังเทศน์ ขอบรรดาท่านทุกคนเลือกกันทำบุญตามอัธยาศัย<O:p</O:p
    ท่านประกาศอย่างนี้อยู่พักหนึ่งก็ปรากฏว่าท่านพันธุมราชพระราชาพ่อของพระพุทธเจ้าวิปัสสี ได้ฟังตอนเช้ามืดทุกวัน ก็ให้คนเรียกมาถามว่า เธอทำอะไร ท่านก็บอกว่าผมหรือว่าข้าพเจ้าบอกประกาศให้ชาวบ้านทำบุญ ให้ทำตามสบายพระเจ้าพันธุมราชก็บอกว่า อย่างนั้นการเดินไปของเธอไม่สมควรให้ใช้ม้า แล้วก็พระราชทานม้าตัวที่ฝึกดีแล้วให้ขี่ ต่อมาเธอก็ขี่ม้าประกาศบุญ<O:p</O:p
    ต่อมาพระเจ้าพันธุมราชก็เรียกมาถามว่า เวลานี้เธอใช้อะไรเป็นยานพาหนะ เธอก็บอกว่า ใช้ม้าตัวที่พระองค์พระราชทาน ท่านบอกม้าที่ประทานให้ก็ยังดีไม่พอ ใช้รถเทียมม้า แล้วก็พระราชทานรถเทียมม้าไปให้ ต่อมาก็ถามอีกว่าเธอใช้อะไรก็บอกว่าใช้รถ พระเจ้าพันธุมราชก็บอกว่าไม่ดี ให้ใช้ช้างซึ่งประดับแล้ว<O:p</O:p
    รวมความว่าสันตติมหาอำมาตย์ ประกาศกับบรรดาท่านพุทธบริษัท และกราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบว่า การที่บรรลุมรรคผลได้เร็วก็ดีในชาติหลังนี้ เป็นคนที่บอกบุญนั่นเอง การบอกบุญไม่มีเกณฑ์บังคับ ใครจะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ เอาอานิสงส์ในการบอกบุญด้วย แล้วตนเองก็ทำกุศลด้วย<O:p</O:p
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ที่เอาเรื่องมาเทศน์ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัทเพราะว่าเห็นเป็นเรื่องฟังง่ายๆ ถ้าจะฟังมากเสียหน่อยก็ตรงที่ลิ้นมันไม่ดี ฟังง่ายๆแล้วก็เข้าใจง่ายเป็นการทำบุญง่ายๆ การบอกบุญประกาศข่าวบุญแก่บุคคลอื่นที่มีความเลื่อมใสในการสงเคราะห์ทานก็ดีจัดว่าเป็นบุญมหาศาล ซึ่งองค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสว่า เป็นการสะสมความดีเรื่องบุญกุศล แล้วเป็นปัจจัยให้ตนเองเกิดปัญญาสามารถตัดกิเลสเป็นสมุทเฉทปหาน
     
  11. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,669
    ค่าพลัง:
    +203,772
    ท่านที่ร่วมทำบุญจำนวน 200 บาท จะได้รับพระยอดธง วัดโขงขาว จำนวน 1 องค์ (โปรดช่วยค่าส่ง 50 บาท)

    [​IMG] [​IMG]


    สรุปในขณะนี้ยังมีพระเหลืออยู่ 9 องค์ครับ

     
  12. pkomsan

    pkomsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    6,206
    ค่าพลัง:
    +21,298
    ครับมารับสิทธิ์ ครับ
    ให้ 10 องค์ ก็รับ 10 องค์ ครับ
    โมทนา สาธุครับ
    จะโอนเงินภายในวันศุกร์นี้ครับ
    โมทนาครับ
     
  13. sandland

    sandland เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +225
    ขอร่วมบุญ 1 องค์ค่ะ
     
  14. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,669
    ค่าพลัง:
    +203,772
    ต้องขอโทษคุณคมสันต์ด้วยครับ เป็นความผิดของผมเอง ความจริงของคุณคมสันต์จองไว้ 5 องค์ แต่ผมดันใส่ไป 10 องค์ ส่วนอีก 5 องค์เดี๋ยวผมจะขอรับไว้เองก็แล้วกันครับ เพราะทางนี้ผมยังไม่ได้ไปบอกใครเลยครับ
     
  15. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    คุณจารุ 15 องค์
    คุณพงกฤต 5 องค์
    ศิษย์ปลายแถว 2 องค์
    คุณคมสัน 5 องค์
    คุณpalm96..1องค์
    คุณsandland 1องค์
    คุณพัฒนา 5 องค์
    พระเหลือ..อีก 6 องค์..
    ...คิดว่าคงตามกลับมาได้เท่านี้แหละครับไม่มีเพิ่ม..อีกแร๊ะ..
    โมทนาบุญกับทุกท่านนะครับ..หลายท่านก็มีภารกิจเยอะมาก..อย่างท่านพัฒนา...ท่านคมสัน...ท่านลิกอ..
    แต่ก็อุตส่าห์มาช่วยงานบุญงานนี้อีก
     
  16. หวงจื้อเซวียน

    หวงจื้อเซวียน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +8,718
    ยังร่วมบุญได้อีกมั๊ยครับ ขอร่วมบุญ 2 องค์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  17. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,669
    ค่าพลัง:
    +203,772

    ยังร่วมทำบุญได้ครับ

    สรุปตอนนี้พระยังเหลืออยู่ 4 องค์ครับ
     
  18. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    ได้ครับ พระเหลือ4องค์
     
  19. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    ร่วมบุญกฐิน 1 องค์ครับ
    .........................
    โอนเงินให้แล้ววันนี้ (8/9/52) รายละเอียดแจ้งทางข้อความส่วนตัวแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2009
  20. บุญรักษา

    บุญรักษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +6,112
    พระเหลือ3องค์
     

แชร์หน้านี้

Loading...