พุทธภูมิเขาแบ่งหรือดูกันอย่างไรค่ะ

เมื่อก่อนเคยรู้จักพี่ในเวปพลังจิตหลายคนอยู่ เขาก็บอกว่าเขาเป็นพุทธภูมิ

แล้วถามเขาว่าเขารู้ได้อย่างไรเขาบอกว่า "มีคนบอก"

หลังจากนั้นเขาก็ปักใจเชื่อมาจนบัดนี้เลยละคะ

แล้วปลาก็เคยเห็นกระทู้ของสมัยก่อนที่เขารับดูว่าเป็นพุทธภูมิหรือนิพพานไอ้เราซึ่งไม่ค่อยได้เข้าห้องนี้ก้เลยไม่รู้ว่าเดียวนี้เขามีอยู่หรือป่าว

เเต่ปลาก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจอะไร เพราะเมื่อก่อนหวังนิพพานจริงๆ

เพราะว่าสภาวะแวดล้อมมันทำให้เบื่อมากๆ เบื่อจนอยากจะหายเข้าพระนิพพานไปเลยค่ะ

แต่แล้ววันหนึ่งไม่รู้เมื่อใดเหมือนกันซึ่งครูบาอาจารย์ที่ปลานับถือและปฏิบัตตามก็มีอยู่หลายองค์แต่พอจะถูๆไถๆไปตามแนวท่านที่สุดก็คือ

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ(วัดสะแก) กับ พระอาจารย์วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า(วัดถ้ำเมืองนะ)

หลังจากที่เบื่อเซงสุดๆอยากจะหายเข้าพระนิพพานไปแล้ว

มารู้ตัวว่าตัวเองอีกทีกลับหลายว่า กลับยังไม่อยากไปนิพพานซะอีกแหนะ ก็เลยเหมารวมว่าตัวเองเป็นพุทธภูมิหรือป่าว

เพระว่ามีอาการที่ว่า "ยังไม่อยากเข้าพระนิพพาน แต่ไม่คิดถึงการสร้างบารมี แต่คิดเพียงแต่ว่าชีวิตนี้เกิดมาอยากจะช่วยเหลือคนให้ได้สุดกำลังของเรา แต่ไม่ใช่ว่าช่วยเหลือเขาจนสุดโต่งจนเราเอาตัวไม่รอดนะคะ แต่ช่วยเหลือเขาเท่าที่เราช่วยเขาได้
แถมพอเมื่อก่อนเมื่อเกิดทุก เบื่อ โกรธ จะอยากหายเข้าพระนิพพานไม่อยากรรับรู้อะไรเลย แต่เดียวนี้กลับเป็นว่า ไม่ว่าจะทุกข์มากมาย หรือเบื่อ จะโมโห จะมีปัญหาอะไรต่างๆเข้ามากลับว่าใจแน่วแน่ว่ายังไม่อยากไปนิพพานยังจะอยากช่วยเหลือคนอีกมาก อยากจะเกิดมาช่วยเหลือคนทุกๆชาติเท่าที่เราช่วยได้ไป"

อย่างนี้ละมั้งเลยเหมารวมว่าตัวเองเป็น"พุทธภูมิ"

พอเหมารวมว่าเป็นพุทธภูมิแลล้วมาวันหนึ่งมีคนที่รู้จักมาถามเราอยากเป็นพุทธภูมิ เขาจะแบ่งออกไปอีกสักสามสายนี่ละ มีสายสั้น สายกลาง และสายยาวที่สุด(หมายถึงการปฏิบัติเก็บเกี่ยวบารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า สายสั้นก็คือเร่งปฏิบัติรวบรัดที่สุด สายยาวก็คืออยุ่สร้างอีกนาน)
หลังจากที่เจอคำถามอย่างนั้นคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก รู้แต่ว่าอยากจะช่วยเหลือคนอย่างเดียวเลยค่ะ(อย่าพึ่งหมั่นไส้กันไปก่อนนะ)

รบกวนหลวงหลายๆคนที่รู้ช่วยตอบหน่อยค่ะ ว่าเราเป็นสายพุทธภูมิหรือป่าว แล้วแต่ละประเภทแบ่งแยกสาย(การเก็บบารมี)อย่างไรค่ะ พุทธภูมิแต่ละสายเขามีข้อแตกต่างกันปะคะ


จริงๆไม่เคยคิดจริงจังหรรือสงสัยอะไรหรอกแต่อ่านกู้ทู้ในหมวดนี้กระทู้หนึ่งก้เลยชักมันส์คะ ตั้งกระทู้ถามเสียเลย

 

ผมแน่วแน่ว่าจะไม่ขอกลับมาเกิดอีกแล้วนะ จะพยายามพิจารณาตัดความอยากที่จะสร้าง

บารมีเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก

 

ขออนุโมทนาค่ะ

 

เบื้องต้นอ่านที่นี่ก็น่าจะพอได้ครับ http://www.geocities.com/ss12345_th/304.html
พอดีไม่ว่างพอจะหาที่อื่นน่ะครับ

 

คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวคุณเองนั้นแหละว่ามีความปราถนาโพธิญาณหรือเปล่าทดสอบง่ายๆเมื่ออ่านพุทธประวัติแล้วเกิดกุศลจิตที่อยากเป็นแบบพระพุทธเจ้าหรือเปล่าเช่น อยากจะตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์สู้กับพญามาร สยบองคุลิมาร ให้อภัยพระเทวทัต อยากจะสั่งสอนคนให้ไปนิพพาน ฯลฯ เมื่อทำบุญครั้งใดก็ปราถณาพุทธภูมิ แล้วถ้าเจออุปสรรคในการสร้างบารมีอย่างในทศชาติยังมีความมั่นคงต่อพระโพธิญาณอยู่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ถือว่าคุณคือพุทธภูมิคนหนึ่ง พุทธภมิมี3สายคือ สายปัญญาธิกะบำเพ็ญบารมี 4 อสมไขย ,ศรัทธาธิกะ บำเพ็ญบารมี 8 อสมไขย ,วิระยะธิกะ บำเพ็ญบารมี 16 อสมไขย แต่ละสายก็มีผลถึงคนทีจะมาเกิดในศาสนา

 

อ่านพุทธประวัติแล้วเกิดกุศลจิตที่อยากเป็นแบบพระพุทธเจ้าหรือเปล่า (เฉยๆนะคะ)

อยากจะตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์สู้กับพญามาร (ไม่เคยคิดว่าอยากตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์)

สยบองคุลิมาร ให้อภัยพระเทวทัต (50% คะ เพราะสองคนนี้ขึ้นชื่อว่าได้รับบทเป็นตัวร้ายแต่ต้น แต่ก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรมากมาย)

อยากจะสั่งสอนคนให้ไปนิพพาน (อยากคะ)

เมื่อทำบุญครั้งใดก็ปราถณาพุทธภูมิ (ทำบุญครั้งใดคคิดเพียงแต่ว่าเงินที่เราทำไป จะสามารถนำไปเป็นประโยชน์แก่คนหลายคนแค่นั้นเองคะ เพราะปลาไม่ใช่ว่าเป็นคนเลือกทำบุญ แต่ทำเท่าที่มีโอกาสและความสามารถของตัวเอง จะว่าไม่เลือกก็เลือกนะ ว่าจะคิดแค่ว่าทำบุญอย่างนี้ๆๆจะช่วยอะไรใครได้มากน้อยแค่ไหน บางทีที่ทำไปไม่คิดว่าเป็นบุญหรอกแค่คิดว่า"อยากจะช่วยเขา"แค่นั้นเอง)


ถ้าเจออุปสรรคในการสร้างบารมีอย่างในทศชาติยังมีความมั่นคงต่อพระโพธิญาณ (ใช่ค่ะ)

แต่ส่วนใหญ่ที่ช่วยเหลือหรือทำไปเพราะว่า คิดแค่ว่าอยากจะ"แค่ช่วยคน" แม้อะไรเล็กๆน้อยๆหรือใหญ่โต ช่วยที่เราช่วยได้ แค่นั้นเอง

แล้วตกลงใช่หรือไม่

เพราะส่วนใหญ่ทำบุญอะไร หรือช่วยอะไรไม่ได้หวังพุทธภูมิแค่คิดว่า อยากจะช่วยเหลือเขาเท่านั้นเอง

 

ขอโทษนะครับ..ขอออกความเห็นบ้างนิดหน่อย ในพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่าผู้่ที่ปรารถนาเป็นโพธิสัตว์(พุทธภูมิ) เมื่อปรารถนาแล้ว เวลาที่เกิดเป็นมนุษย์จะไม่เกิดเป็นหญิง จะเกิดเป็นชายฝ่ายเดียว (ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)

 

ในถานะที่เธอบำเพ็ญพุทธภูมิ แต่ยังไม่แน่ใจ ขอบอกให้ท่านทราบว่านิสัยที่คิดจะผู้อื่นให้ได้รับความรอดก่อน ตนเองที่หลัง ยังคาพุทธภูมิจิตจึงไม่ดับเข้านิพพาน แต่เนื่องจากคุณเกิดมาอยากจะช่วยเหลือคนให้ได้สุดกำลังของคุณ แต่ไม่ใช่ว่าช่วยเหลือเขาจนสุดโต่งจนเราเอาตัวไม่รอด นั่นนับว่าเป็นสิ่งที่ดีของพระโพธิสัตว์ ที่มากด้วยปัญญา

กว่าจะมาสำเร็จเป็น "พุทธะ" แต่ละพระองค์นั้นก็จะต้องผ่านการเวียนว่ายตายเกิดไปสู่ภพภูมิต่าง ๆ ซึ่งทำให้จิตเกิดความรู้ความเข้าใจและเก็บบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ทั้งดีทั้งชั่วเอาไว้ภายในเจตสิก แต่ยังมิได้นำมาแยกแยะแจกแจงในช่วงเวลานั้น ๆ เพราะสิ่งที่ท่านไปสัมผัส และเรียนรู้มายังไม่มากพอ ยังไม่ครบบริบูรณ์ บารมีธรรมยังไม่เต็ม ยังต้องอาศัยปัจจัยต่าง ๆ เช่น
1 การบำเพ็ญบารมี 30 ทัศยังไม่ครบถ้วนก็ไม่สามารถสำเร็จได้
2 ต้องบำเพ็ญเพียรมหาโพธิสัตว์ให้เต็มบารมีเสียก่อน
3 เมื่อกาลนั้นมาถึง เหล่าเทพเทวาก็จะอันเชิญมาลงจุติ
4 ต้องรอพุทธทำนายจากพุทธะในอดีตเสียก่อน
5 การที่จะสำเร็จเป็นพุทธะได้ จะต้องตรัสรู้ด้วยตนเอง.
กว่าบารมีของมหาโพธิสัตว์จะสมบูรณ์เต็มบารมีได้นั้น ก็ต้องผ่านการศึกษาเรียนรู้ในสัจธรรมของธรรมชาติมาเป็นอย่างดี จนรู้แจ้งเห็นจริงในสัรรพสิ่งทั้งปวงแล้ว มหาโพธิสัตว์ก็จะเปี่ยมล้นไปด้วยบุญบารมี เลยกระแสของนิพพานเข้าไปยิ่ง ๆ เลยความเป็นอรหันตมรรค อรหันตผลเข้าไปยิ่ง ๆ ก็จะถึงกาลที่ต้องลงมาทำหน้าที่ในการขึ้นแนะนำแยกแยะ
ดีชั่วให้มวลมนุษย์ สัตว์ และเทพเทวาได้รู้จักสัจธรรมของความพ้นทุกข์ หลุดพ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารของความไม่เที่ยง

 

ขอขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของทุกท่านคะ

 

แต่ว่าในที่นี่เวลาหมายถึงว่าคนที่หวังพุทธภูมิ

หรือคนที่กำลังบำเพ็ญเก็บสะสมบารมีไว้เพื่อในอนาคตจะได้หวังเป็นพระพุทธเจ้า

ไม่ได้หมายถึงว่าต้องเป็นพุทธภูมิหรือโพธิ์ญาณหรือตรัสรู้ในชาตินี้นะคะ แหะๆๆๆๆ

 

จะปรารถนาอะไรไม่เห็นต้องสนใจเลย จิตใจอยากจะทำความดี เพื่อส่วนรวม

ถือว่าเป็นจิตที่เป็นพุทธะแล้วนะ เป็นกำลังใจเพื่อสาธารณะ ต้องการทำความดีให้ผู้อื่น

ให้นำมาเป็นการวางกำลังใจของตนเองที่จะทำเพื่อส่วนรวม

แต่ถ้าเรื่องความปรารถนาส่วนตัวอยากรู้จริงๆ ให้อธิษฐานขอรู้คำอธิษฐานของตนเองเอาเองนะจ้ะ

 

อธิฐานอย่างไรหรือคะ

 

เรียนรู้ร่วมกันนะครับ

พุทธภูมิ แบ่งเป็น พุทธบิดา พุทธมารดา

คู่บารมีอย่างนางแก้ว ของพระศรีอาริยะ

เพราะชั้นดุสิตนี้เข้าได้ ๓ พวกคือ
๑) พุทธบิดาพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า
๒) พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเข้มแข็งแล้ว
๓) พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงจะอยู่ชั้นนี้ได้

 

ผมแวะเข้่ามาปรากฏกายอักษรให้คุณปลาเห็นครับ เหอๆ

ยิ้ม..กริ่มครับคุณปลา

 

เวลาทำบุญ ให้อธิษฐานขอให้ข้าพเจ้ารู้คำอธิษฐานที่ข้าพเจ้าตั้งใจตั้งจิตอธิษฐาน
ไว้ในอดีต อธิษฐานต่อหน้าองค์พระพุทธเจ้า ก็ได้จ้า

 

อันนั้นคือกรณีของ นิยตโพธิสัตว์ ครับ
โพธิสัตว์ แปลว่า ผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตชาติ
นิยต แปลว่า แน่นอน
อนิยต แปลว่า ไม่แน่นอน

พระโพธิสัตว์ก็มีทั้ง อนิยตโพสัตว์ และ นิยตโพธิสัตว์
กรณีของอนิยตโพธิสัตว์นั้น บางครั้งก็พลาดเกิดเป็นหญิงได้
แต่ถ้าได้รับพุทธพยากรณ์แล้วก็จะถือว่าเป็น นิยตโพธิสัตว์ จะได้รับพร 18 ประการและหนึ่งในนั้นคือไม่มาเกิดเป็นเพศหญิง

 

ขอเปลี่ยนจากคำว่าบำเพ็ญเพื่อพุทธภูมิเป็น ทำความดีตามที่สมเด็จพระบรมศาสดาสั่งสอนมาและส่งเสริมให้ตนเองและคนรอบข้างเห็นหรือเข้าใจหัวใจของพระศาสนาอย่างแท้จริงอันมี
พระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง คือ ซื่อตรงต่อพระรัตนตรัย อย่างแน่วแน่
ทาน ศีล ภาวนา เป็นบาทฐาน
ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นแนวทาง
ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา และพรหมวิหารธรรม เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา เป็นเครื่องอยู่
เป็นผู้รู้จัก กตเวทิตา ต่อผู้มีพระคุณ อันมีบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ฯลฯ
ดับรูปนาม ด้วยธรรมทั้งหลายข้างต้นนี้ ซึ่งเป็นไปตามอริยะสัจย์ทั้ง ๔ และอริยะมรรคทั้ง๘

ธรรมทั้งหลายเหล่านี้เป็นธรรมที่จะทำตนให้สู่ความเป็นคนดีทั้งต่อตนและผู้อื่น ไม่เลือกว่า ชายหรือหญิง หากไม่สามารถถึงธรรมอันสุดท้าย ก็จะเป็นอุปนิสัยปัจจัยต่อไปในภายภาคหน้าได้ และจะได้ไม่อยู่กับความเพ้อฝันอีกต่อไป ซึ่งแน่นอนหากใคร่ครวญด้วยปัญญาจะพบว่าทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นธรรมของบารมีทั้งสิบทัศน์ทั้งสิ้น
หากทำได้ดังนี้ก็ขออนุโมทนาครับ

1. ทานบารมีี จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
2. ศีลบารมี จิตของเราพร้อมในการทรงศีล
3. เนกขัมมบารมี จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะ แปลว่า การถือบวช
4. ปัญญาบารมี จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารกิเลสให้พินาศไป
5. วิริยบารมี วิิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ
6. ขันติบารมี ขันติ มีทั้งอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
7. สัจจะบารมี สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลา ว่าเราจะจริงทุกอย่าง ในด้านของการทำความดี
8. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
9. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น
10. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ เมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว ใช้คำว่า "ช่างมัน" ไว้ในใจ

 

อ่านพุทธประวัติแล้วเกิดกุศลจิตที่อยากเป็นแบบพระพุทธเจ้าหรือเปล่าเช่น
อ่านพุทธประวัติไม่เกิดอ่ะครับ เฉยๆ แต่ดูการ์ตูนพระพุทธเจ้าทุกวันตอนเรียนมหาลัย ขนลุกได้ทุกครั้งที่ดูเลย และก็ไม่ได้อยากเป็นพระพุทธเจ้าด้วยเพราะคิดว่าไกลเกินเอื้อม
อยากจะตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์สู้กับพญามาร
ไม่อยากเลยครับ
สยบองคุลิมาร
ไม่อยากเลยครับ
ให้อภัยพระเทวทัต
ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะให้อภัยได้ (ตอบ ณ ขณะจิตนี้)
อยากจะสั่งสอนคนให้ไปนิพพาน
อยากครับ เพราะตัวเองเห็นทุกข์แต่คนอื่นไม่เห็น สงสารเค้าครับ
ถ้าเจออุปสรรคในการสร้างบารมีอย่างในทศชาติยังมีความมั่นคงต่อพระโพธิญาณอยู่หรือไม่
ไม่แน่ใจครับ เพราะดูมันยิ่งใหญ่เหลือเกิน

....................................
สรุปตอนแรกไม่ได้อยากคิดจะเป็นพระพุทธเจ้าครับ แค่อยากจะช่วยเหลือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนเจ้าของกระทู้เป๊ะเลยครับ คิดเหมือนกันเลยแฮะ ตอนแรกคิดว่าตัวเอง post กระทู้แล้วลืมไปซะด้วยซ้ำ 555+ แต่ชาตินี้ไม่เคยอยากเข้าพระนิพพานเลยครับ มาถึงก็อธิษฐานช่วยเหลือมนุษย์เลย ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นจะบำเพ็ญโพธิญาณ แต่สิ่งที่เราอธิษฐานกลับเป็นโพธิญาณ เป็นก็เป็นครับ พึ่งเริ่มบำเพ็ญบารมีเอง และอาจจะถอดถอนในอนาคตเบื้องหน้าเมื่อไหร่ ก็มิอาจรู้ ก็สู้กันต่อไปครับ อยู่บำเพ็ญประโยชน์ช่วยคนอื่นไปทุกภพทุกชาติไปเรื่อยๆ

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

อ๊ะเด๊ะ ตอนแรกอ่านแล้ว งงๆใครว๊า ไม่ไม่จักกันมิใช่เหรอ พออ่านข้อความจบแล้ว เอาว๊ะยิ้มก็ยิ้ม อ๊ะเด๊ะ

งั้น อย่างเช่นเรานั่งสมาธิแล้วแผ่บุญแล้วอธิฐานแทนการทำบุญได้ใช่ไหมค่ะ ไม่ใช่ว่างกนะ แต่ปลาก็เป็นคนเลือกทำบุญ แถมเป็นคนไม่ชอบเข้าวัด แต่ชอบเข้าป่า(วัดป่า สำนักปฏิบัติในป่าชอบมากๆ) อย่าเข้าใจผิดไม่ได้งกนะ ห้าๆๆๆ


สุดท้าย คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->preaw3000<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2476975", true); </SCRIPT> ยินดีที่รู้จักค่ะ ^ ^ คนหัวอกเดียวกัน(มั้ง)

 

หุหุ ไม่ชอบเข้าวัดทำบุญ กลัวเจอพระไม่ดีหรอจ้ะ

บุญ ทำยังไงก็ได้ไม่จำเป็นต้องใช้แต่เงินหรอก กวาดวัด ทำความสะอาดวัด

ให้อาหารสัตว์ (ที่บ้าน) เป็นลูกที่ดีของครอบครัว ไม่ดื้อไม่ซน ช่วยงานบ้าน ฯลฯ