คำทำนายพุทธกาล จากอินเดีย อาจเกี่ยวข้องกับปี 2012

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 17 มกราคม 2008.

  1. mayamo

    mayamo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +120
    ผมว่าน่าจะเป็นโลกที่เราอยู่นี่แหละครับยักษ์หิน
     
  2. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    สาเหตุที่ทำให้มนุษย์หันมาสนใจกับภัยพิบัติเตือนตนเพราะ ความกลัวตาย แล้วเหตุที่กลัว

    ตายเพราะต่างไม่แน่จว่าตายแล้วตนจะไปไหน ไม่แน่ใจว่าจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์มั้ย สรุป

    คือกลัวตายเพราะไม่แน่ใจในความดีของตน ไม่มั่นใจในความดีของพระรัตนตรัย หากมั่นใจ

    ในพระรัตนตรัย ย่อมไม่ต้องกลัวตายเพราะย่อมมั่นใจได้ว่าความตายเป็นการทอดทิ้งสังขาร

    อันเป็นกองทุกข์ แล้วอย่างน้อยๆก็ไปจุติยังสุคติภูมิ และที่สำคัญแม้ในเบื้องต้นหากไม่สนใจ

    ต่อความเป็นไปของร่างกายแล้วย่อมเข้าถึงการละสักกายทิษฐิ อันเป็นทางเบื้องต้นของพระ

    อริยบุคคล ขอให้ทุกท่านมีสติและเจริญในธรรม อย่าปล่อยเวลาด้วยการนั่งวิเคราะห์ภัยพิบัติ

    หรือคำเตือนใดๆในอดีตอยู่เลย คนเราไม่แน่ว่าเดินออกบ้านไปก็ิอาจโดนรถชนตายหรือนอน

    ที่บ้านพรุ่งนี้อาจไม่ตื่นอีกก็ได้ ในเมื่อความตายอยู่ใกล้และง่ายดายเพียงนี้ ท่านทั้งหลายจะ

    วิเคราะห์ถึงภัยพิบัติและตื่นตัวกับมันไปไย....
     
  3. jjbaview

    jjbaview เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +172
    การป้องกันที่ดีที่สุดคือเราต้องมีศีล 5 เป็นพื้นฐานเกาะป้องกันตัวนะครับ
    จากนั้นเราก็ฝึกการให้ทาน,ศีล,ภาวนา เป็นประจำ จากนั้นเราก็ให้เป็นไปตามเวรกรรมนะครับอย่าคิดมากเลย เพราะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ
     
  4. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    คิริมานนทสูตร ( อุบายรักษาโรค ) : พระยาธรรมิกราช
    แล้วจึงตรัสเทศนาต่อไปอีกว่า
    อานนฺท ดูกรอานนท์ บุคคลผู้มีปัญญาพึงคิดถึงตน แล้วปราบใจของตนให้พ้นจากทุกข์และความลำบาก และให้ออกจากบ่วงแห่งกิเลสมารให้ได้เถิด ถ้าไม่คิดอย่างนี้ แม้จะมีปัญญาก็มีเสียเปล่า ไม่นับเข้าในจำนวนที่มีปัญญา กิริยาที่พ้นทุกข์พ้นยากและพ้นออกจากบ่วงแห่งกิเลสมารได้ก็คือพ้นจากกิเลสตัณหาของเรา เมื่อพ้นจากกิเลสตัณหาได้เช่นนั้น ก็ได้ชื่อว่าพ้นจากความทุกข์ความยากโดยสิ้นเชิง ถ้ายังไม่พ้น ก็ได้ชื่อว่ายังไม่พ้นจากความทุกข์ความยาก เมื่อตนยังไม่หลุดไม่พ้นก็ไม่ควรสั่งสอนผู้อื่นเพราะตัวยังไม่พ้น จะสั่งสอนผู้อื่นให้พ้นได้ด้วยอาการอย่างไร เปรียบเหมือนบุคคลจะข้ามแม่น้ำ ถ้าตัวของเราข้ามไปถึงฝั่งฟากโน้นแล้ว จึงร้องบอกให้ท่านผู้อื่นข้ามมาตามตน เช่นนี้สมควรแท้ เมื่อเราร้องบอกเขา แล้วเขาพอใจจะไปหรือหาไม่ ก็แล้วแต่ใจเขา ส่วนตัวของเราข้ามไปได้สมประสงค์แล้ว ข้ออุปมานี้ฉันใด ผู้ที่เป็นครูเป็นอาจารย์สอนให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์ ก็ต้องทำตัวให้พ้นทุกข์เสียก่อน จึงสมควรจะสอนคนอื่น มีอุปไมยเหมือนผู้ที่จะพาข้ามแม่น้ำฉันนั้น บุคคลที่เปลื้องตัวให้พ้นออกจากกองกิเลสยังไม่ได้ แล้วจะไปเปลื้องปลดสัตว์ในป่าช้า ผีทั้งหลายเขาจะหัวเราเยาะเย้นว่า อะโห โอหนอ! ตัวของท่านก็ยังไม่พ้นทุกข์ แล้วจะมาพาเอาพวกข้าพเจ้าออกจากทุกข์ได้อย่างไร ตัวของท่านและพวกข้าพเจ้าก็ยังไม่พ้นนรกอยู่เหมือนกัน จะมาพาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากนรกได้ด้วยอาการอย่างไรฯ
    ดูกรอานนท์ บุคคลจำพวกใดที่ให้ผีในป่าช้าหัวเราเยาะเย้ยเล่น เช่นนี้ บุคคลจำพวกนั้น ถ้ามีขึ้นก็เป็นเหตุให้เกิดโรภภัยไข้เจ็บอันตรายต่างๆ หาความสุจความเจริญมิได้ฯ
    ดูกรอานนท์ คฤหัสถ์ก็ดี นักบวชก็ดี มากล่าวว่าตัวรู้ตัวเห็นและได้พูดจากับผีดังนี้ ก็พึงให้รู้ว่าคนจำพวกนั้นไม่ใช่ลูกศิษย์ของเราตถาคต เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิภายนอกพระศาสนา ไม่ควรเชื่อถือเอาเป็นครูเป็นอาจารย์ เพราะเขาเป็นคนอุบายเจ้าเล่ห์เจ้ากลเท่านั้น ที่มีความรู้จริงเห็นจริงพูดจาสนทนากับผีได้ มีแต่พระพุทธเจ้ากับพระอรหันต์เท่านั้น นอกนั้นไม่มีใครรู้จริงเห็นจริง เป็นคนอุตริทั้งนั้นฯ
    ดูกรอานนท์ เราจะทำนายไว้ให้เห็นในอนาคตกาลเบื้องหน้า จักเกิดมีพวกมิจฉาทิฏฐิภายนอกศาสนา อวดอ้างว่าตัวรู้ตัวเห็นผีได้ พูดจากับผีได้ ครั้นบุคคลพวกนั้นเกิดขึ้นแล้ว ก็จักเบียดเบียนพระศาสนาของเรา ให้เสื่อมถอยลงไปด้วยวาทะถ้อยคำเสียดสีต่างๆ พระสงฆ์สามเณรก็จักเกิดความระส่ำระสายหาความสบายมิได้ เขาจักสอนทิฏฐิวัตรอย่างเคร่งครัด ถืออรัญญิกธุดงค์อย่างพระเทวทัตต์ ภายหลังก็จักเกิดพระบ้านพระป่ากันขึ้นแล้วก็จักแตกกันออกเป็นพวกๆ ไม่สามัคคีกัน ต่างพวก็ถือแต่ตัวดีศาสนาของเราจักเสื่อมถอยลงไปเพราะพวกมิจฉาทิฏฐิ เห็นแก่ลาภและยศหาความสุขมิได้ มรรคผลธรรมวิเศษก็จักไม่เกิดขึ้นแก่เขา เขาจักเรียนเอาแต่วิชาศีลธรรมอันพวกมิจฉาทิฏฐิสอนให้ รู้อะไรกันขึ้นเล็กน้อยก็อวดดีกันไป แท้ที่จริงความรู้เหล่านั้นล้วนแต่รู้ดีสำหรับไปสู่นรก เขาจักไม่พ้นจตุราบายได้เลยฯ
    ดูกรอานนท์ ในอนาคตกาลภายหน้าจักมีอย่างนี้ไม่ต้องสงสัย ถ้าผู้ใดรู้ลัทธิทิฏฐิอย่างนี้ไว้แล้ว เมื่อได้เห็นก็จงเพียงพยายามละเว้น ก็จักได้ประสบความสุข การที่จะระงับดับกิเลส ก็ให้ระงับบริโภค ๑ ประการให้เบาบางลง บริโภค ๒ นั้นคือ จีวรปัจจัย และเสนาสนะ ปัจจัย ๒ อย่างนี้ชื่อว่าบริโภคภายนอก นับเป็นอย่างหนึ่ง บิณฑบาตปัจจัยและคิลานปัจจัย ๒ อย่างนี้ชื่อว่าปัจจัยภายใน นับเป็นอย่างหนึ่ง บริโภคทั้ง ๒ นี้เป็นตัวกิเลส ตัวทุกข์ ตัวสุขสิ้นทั้งนั้น ถ้าบริโภค ๒ นี้มากขึ้นเท่าใด ทุกข์ก็มากขึ้นไปตามเท่านั้น ถ้าบริโภค ๒ นี้น้อยลง ทุกข์ ก็น้อยลง ความสุขก็มากขึ้น คือว่าบาปน้อยลงเท่าใด บุญกุศลก็มากขึ้นเท่านั้น อันบุญกุศลก็มีอยู่ที่ตัวบุคคลทั้งสิ้น ผู้ที่ละบริโภค ๒ นั้นได้แล้ว นรกก็พ้น สวรรค์และพระนิพพานสิ่งใดๆ ก็ได้ในที่นั้นฯ
    ดูกรอานนท์ บุคคลที่บวชเข้าแล้ว ไม่รู้จักระงับดับกิเลส คือบริโภค ๒ ให้เบาบาง เข้าใจว่าบวชรักษาศีลถือครองวัตรเอาบุญ ไม่หาอุบายระงับดับกิเลสและบริโภค ๒ จะได้บุญได้ความสุขมาแต่ที่ไหน ถ้าคิดอย่างนั้น แม้จะรักษาศีลตลอดพระปาติโมกข์และธุดงควัตร ก็หากเป็นอันรักษาเปล่า รักษาให้เหนื่อยยากลำบากกายเปล่า ไม่อาจเป็นบุญกุศลได้ พระปาติโมกข์ธุดงควัตรทั้งกลานที่ทรงบัญญัติแต่งตั้งไว้นั้น ก็เพื่อให้เป็นเครื่องระงับดับกิเลสตัณหาคือบริโภคทั้ง ๒ ถ้าระงับไม่ได้ก็ไม่เป็นบุญเป็นกุศล ผู้ที่ทำความเข้าใจว่าพระปาติโมกข์และ ธุดงควัตร จะช่วยยกตัวให้ขึ้นไปสวรรค์และพระนิพพานเขฃช่นนี้ เป็นความเห็นของคนที่โง่เขลาเบาปัญญา จักไม่พ้นทุกข์เลย บริโภคทั้ง ๒ นั้นได้ชื่อว่าปลิโพธ ๒ ที่แปลว่าความกังวล การรักษาพระปาติโมกข์และธุดงควัตร ก็เพื่อจะตัดปลิโพธความกังวลให้เบาบางลงได้เท่าใด ก็เป็นบุญเป็นกุศล เป็นสวรรค์และพระนิพพานขึ้นไปเท่านั้น พระพุทธเจ้าย่นโอวาทคำสั่งสอนลงสู่ปลิโพธ ๒ ว่าเป็นที่สุดโดยสิ้นเชิง คือว่า นรก สวรรค์ และพระนิพพาน มีอยู่ที่ปลิโพธ ๒ ครบบริบูรณ์ ผู้ศึกษาเล่าเรียนจะรู้มากรู้น้อยเท่าไรไม่นิยม รู้มากหรือรู้น้อย ถ้าระงับปลิโพธนั้นได้ก็เป็นดี จะอยู่วัดบ้านหรือวัดป่าประการใดก็ตาม ถ้าระงับปลิโพธ ๒ นั้นได้ ย่อมเป็นความดีความชอบทั้งสิ้น ถ้าระงับปลิโพธ ๒ นั้นไม่ได้ แม้จะรู้มากมายและอยู่วัดบ้านวัดป่าประการใด ย่อมไม่ดีทั้งสิ้นฯ พระพุทธเจ้าทรงตรัสเทศนาเป็นใจความอย่างนี้ฯ
    ลำดับนั้น จึงตรัสเทศนาต่อไปอีกว่า


    อานนฺท ดูกรอานนท์ ธรรมนี้ชื่อว่า พระยาธรรมิกราช เพราะ เป็นใหญ่กว่าธรรมทั้งหลาย ข้อที่เราตถาคตได้ตรัสไว้แล้วในธรรมหมวดนี้คือได้ชี้นรก สวรรค์ พระนิพพาน กิเลสตัณหา โดยจะแจ้งสิ้นเชิง เมื่อผู้ใดได้ฟังแล้วปรารถนาสุขทุกข์ประการใด ก็จงเลือกประพฤติตามความปรารถนา
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** โลกุตตระธรรม ****

    เรื่องราวตัดลดกิเลศนิสัย...ด้วยสัจจะทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    เมื่อ ๑๗๕ ปีที่แล้ว กรุงเทพฯ เป็น "ประเทศไทย" ของพลเมือง ๒๐ ล้านคน ก็ยังไม่อึดอัด-ขัดข้องเท่าไรนัก

    แต่วันนี้ ๒๒๖ ปี ของกรุงเทพฯ รองรับคนร่วม ๑๐๐ ล้าน บนความเป็น "สารพัดศูนย์กลาง" ทั้งของไทย ทั้งของภูมิภาค ทั้งของโลก และไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นศูนย์กลาง "ความคิดต่าง" ที่ขยายขีดเป็น "สงครามความคิด" เขยื้อนชาติด้วย

    กรุงเทพฯ ที่สวย เลยโทรมซูบ!

    ก็ต้องบอกว่า กรุงรัตนโกสินทร์บนความเป็น "เมืองหลวง" ที่เดินทางมาถึง "ครึ่งหนึ่ง" ของกรุงศรีอยุธยา บัดนี้ ถูกสิ่งที่เรียกว่าบ้านเมืองพัฒนา

    ทำลาย "ฮวงจุ้ย" กรุงเทพฯ ไปหมดแล้ว!

    จะเหลือก็เพียงบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์เท่านั้น!!

    กรุงเทพฯ ที่เคยเป็นเมืองโปร่งฟ้า สูงก็สูงด้วยค่าสัญลักษณ์ ยอดปราสาทราชวัง ยอดพระปรางค์ ยอดพระเจดีย์ แต่ทุกวันนี้ กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองใต้ถุน เหนือหัวขวักไขว่สร้างก่ายม่านฟ้าด้วยทางด่วนบ้าง สะพานบ้าง รถไฟฟ้าบ้าง ยังไม่นับถึงรถใต้ดิน

    "กรุงเทพฯ-เมืองฟ้าอมร" ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เป็นเมืองที่อยู่อาศัยของวงศ์เทวัญ แต่วันนี้ พัฒนากันจนเป็น "กรุงเทพฯ-เมืองใต้ถุน" มนุษย์ยังไม่อยากอยู่อาศัย

    แล้วเทพเทวัญท่านจะสถิตรักษาอยู่ได้อย่างไรกัน?
    .....

    ศูนย์กลางเพื่อการพัฒนาใหม่ หรือเมือง "ศูนย์กลางราชการและการลงทุน" ควรต้องเกิดแยกออกไปจาก "กรุงเทพฯ เมืองฟ้าไทยอมร"

    แล้วคืนความเป็นกรุงเทพฯ ให้กับกรุงเทพฯ ฟูมฟัก-ฟื้นฟูกรุงเทพฯ ไว้เป็นศูนย์กลางอารยรัตนโกสินทร์ "แผ่นดินกษัตริย์" เป็นเมืองพักผ่อน เมืองท่องเที่ยว เมืองช็อปปิ้ง เพื่อทั่วโลกผู้มีลักษณ์วิไลได้มาเสพศิลปะ วัฒนะ-อารยธรรม ที่โมงยามเพาะบ่มเข้าสู่ศตวรรษที่ ๓ แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2009
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,309
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ทุกๆอย่างในคําทํานายเริ่มเด่นชัด ค่อยๆโผล่ตัวออกมาหลายอย่างเเล้ว ในอนาคตต้องหนักกว่านี้เเน่นอน อยากให้ทุกคนหันมาปฏิบัติธรรมกันครับ เมื่อถึงเวลานั้น เราจะได้สงบเเละรู้เท่าทันตัวเอง ถ้าเกิดพลาดพลั้งต้องละจากโลกนี้ไป จะได้ไปในภพภูมิที่ดีครับ เจริญในธรรมครับ
     
  8. Erdeeny

    Erdeeny Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +65
    ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
     
  9. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ยักษ์หิน

    อาจเป็นภูเขาไฟระเบิด
    อาจเป็นแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก แผนดินด้นตัวขึ้น
    อาจเป็นหุ่นยนต์(ทุกวันนี้เค้าจะไม่ใช้ทหารรบกันแล้ว เพราะมันตายกันง่ายเหลือเกิน)
    แต่อนาคตอีกสิบปี ทหารจะนั่งอยู่แค่หน้าจอคอม แล้วไล่ยิงกันในคอมเหมือนเล่นเกมส์ คอยควบคุมหุ่นยนต์ที่บังคับอยู่ข้างนอก
     
  10. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ในใจผมไม่ได้สนใจว่ามันจะเกิดหรือไม่เกิด คนจะตายหรือไม่ตาย ในใจอยากให้มันตายเยอะ เหลือคนในโลกแค่สองแสนคนก็พอแล้ว
     
  11. นิพพานตั่งมั่น

    นิพพานตั่งมั่น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +53
    ช่วยกันถือศีล ภาวนายืดระยะการเกิดภัยพิบัติกันเถิด

    อนุโมทนา สาธุ
     
  12. เซลซี

    เซลซี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +97
    ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
     
  13. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    คำสอนที่สั้นและกระชับของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่ผมยังติดใจอยู่ประโยคหนึ่ง ท่านบอกว่า
    "เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ให้รีบพากันปฏิบัติ"
     
  14. bosscom

    bosscom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +292
    อจิณไตย..............................
     
  15. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    ก็เพราะยืดระยะเวลามานานมากแล้วมั้ง ที่จะไม่ให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ ปี 2012 ก็คงจะฉุดไม่อยู่แล้ว
     
  16. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    ยักษ์หินอาจจะเกี่ยวกับแกนขั้วโลก ลาวา ฯลฯ เพราะลาวาเมื่อออกมาสู่พื้นโลกก็จะแข็งตัว และนำเอาแร่ต่างๆออกมาด้วย
     
  17. Phuket

    Phuket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +877
    พุทธทำนายตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ภูเก็ตจังหวัดผมหลายอย่าง แต่ไม่ค่อยออกข่าว

    ปีนี้พุทธทำนายจะตรงกับเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งผมก็เห็นล่วงหน้านิดหน่อย ถ้าจิตผมนิ่ง
     
  18. กิตติ_เจน

    กิตติ_เจน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,657
    ค่าพลัง:
    +1,281
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม
     
  19. Amine

    Amine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +114
    ความจำผมอาจจะผิดเพี้ยน แต่พระเจ้าธรรมิกราช จะเป็น พ.ศ. 2700ปีปลายแน่ะครับ แต่พระเจ้าธรรมิกราชอาจจะมีหลายองค์ก็ได้กระมัง ที่เคยได้อ่านมา หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้เขียนไว้ว่า " .. เมื่อศักราชล่วงไปแล้ว ๒,๗๐๐ ปีปลาย จะมีพระเจ้าธรรมิกราช นามว่าศิริธรรมราชา ... "


    อย่างไร อนาคตก็เป็นอนาคต ทำปัจจุบันให้ดีก็แล้วกันในแต่ละคน


    ปล. ผมไม่ได้อ่านตั้งแต่หน้าแรกนะครับสำหรับกระทู้นี้ เห็นว่าตั้งมาเป็นปีแล้ว ใครขุดมาก็ไม่ได้อ่านทั้งหมด อ่านแต่หัวข้อแรก ขอประทานโทษหากตอบผิดพลาด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2009
  20. ธรรมะชาติ

    ธรรมะชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +64
    หินยักที่ถูกสาบคือหินดำของอิสลามที่กรุงเมกะ ส่งพลังงานผ่านการสื่อสารทางจิต จากจักรวาระเพื่อทำลายโลก สร้างข้อมูลเท็จให้ มนุษย์แตกแยก เพราะฉะนั้น อย่าส่งจิตออกนอก จงเป็น ลูกโค ทีถูกฝึกดีแล้ว ลูกแกะที่ไม่มีสีดำ ญาติของ สัตว์นรก อี-ห-sa-ram ทุกเชื้อสาย พุทโธ คือ พุทธายะ พุทธะ (ยกให้สูงเหนือเกล้าภาวยอย่าให้ขาดโลกจะไม่แตก)ลิง2ตัว กา 3 สี ทำลายความมืดออกจากใจ ให้ใจใส่สว่าง ระหัสลับ ของธรรมะชาติ คือ 12345678 (ศีล สมาธิ ปัญญา) โลกนี้จักถูกทำลายหาก ฆ่าบุคคล 6 คน คือ 1 มะกุฮ์ดี 2.พระเมษโปดก(อีซา) 3.พระยาธรรมิกราช ทั้ง 3 คน อยู่ในสามศาสนา ทั้ง 3 คน เป็นเด็ก อยู่ภายไต้การคุ้มครองของ สยามเทวาธิราช ไทยจึงรอดพ้น จากเหตุเพทภัย 3 คนนี้ จะช่วยทุกศาสนา ไม่ให้หลงทาง ดัง ลิงดำ ถูกสอนจนเป็น ลิงขาว อยู่ต่อได้ พอเป็นลิงขาวแล้วจะมีลูกศร กากะบาดไว้บนหัว สีขาว ส่วนกาดำ คือ คือพวกทีคิดร้ายต่อ พุทธะ เกาะพุทธะเอาไว้ จักไม่ตาย จำไว้ใครส่งจิตออกนอก จะถูกมารจับแล้วหลอกล่อให้หลง มารดี คือ 1 มะกุฮ์ดี 2.พระเมษโปดก(อีซา) 3.พระยาธรรมิกราช ส่วนมารร้ายคือ คนที่คิดทำร้าย 3 คนนี้ เด็กดี 3 คน ที่เป็นตัวประกัน ให้มนุษยชาติ ไม่ให้ถูกทำลาย เพราะจิตใจของ คำสอนที่พระสยามเทวาธิราช คือ ภาคหนึ่งของ จตุคาม(รวม 4 ภาค) มาเข้าฝัน คือท่านบอกว่า ลูกต้องไม่ฆ่าพ่อ คนต้องไม่ฆ่าตัวตาย และฆ่ามารดา สรุปว่าคือไม่ฆ่าใครเลยโลกจะไม่แตก ตอนนี้ มารร้ายแทรกในตัวคน ตามฆ่า ตามล่านักปราช ทำให้นักปราช ไปอยู่ป่า ในฝันบอกว่า ตอนนี้พระยาธรรมิกราช อยู่ที สุราษธานี
    ปกป้อง ร.9 ให้พระองค์จงทรงพระเจริญ 2500 โลกาสิใหวหวั่น ธรรมลงมาจากฟ้า สู่โลกกว้าง เป็นธรรมดา ของพุทธศาสนาในครึ่งพุทธกาล ก่อนปรับเปลี่ยน ศาสดา จะมี พระย๊าธรรมมิกราช คือศูนย์รวมของเทวดามิจฉาธิฐิ และสัมาทิถิ ต่อมนุษย์ มาคัดแยกมนุษย์อยู่รอด ที่จะทำลายผู้ต่อต้าน พระพุทธองค์ องค์ต่อไป ก่อนทีพระองค์ จะเสด็จมาจาก สุราษธานี สู่ ดาวใต้กับดาวเหนือชนกัน เกิดธรรมะขจรขจาย พุทธะศาสนา จักยืนยาว หลายหมื่นปี ใครอยู่รอด ใน 2560 จะได้เห็น เมตตรัยะพุทธเจ้า (หรือ พระศรี เมตรัยะ)คือผู้มาเพื่อโลกไม่แตก มาค้มตรองโลก นี่คือสารจากร่างเทพ หลวงปู่ทวด และจตุคาม ร่างเต็ม เลยไม่แสดงปาฎิหารต่อ)เพราะต้องนำเหล่าอมนุษย์ไปค้ำทีได้บารมีจากการบำรุงพุทธะศาสนา แต่ตอนหลังคนมันโลภเลยไม่ช่วยอีก กรุงเทพ ลาว กับ ไท เป็นพี่น้องกัน ชนชาติผิวเหลืองและน้ำตาลจักอยู่รอด ผู้คิดดี พูดดี ทำดี จะได้รอด อย่าคิดจะฆ่าและฆ่าผู้อื่นและสรรพสัตว์ อย่าอยากได้ของใครอื่นที่ไม่ใช่ของตน อย่าล่วงละเมิดคู่รักผู้อื่น อย่าเผลอไผลหลงสติ กับของมึนเมา ศีล 5 ถือ 7 วัน เลิกกินเนื้อสัตว์ อื่น ทุกชนิด แผ่บุญด้วยความดี รักพ่อรักแม่ รักผู้อื่นด้วยเมตตาจิต ไม่ปราถนาสิ่งได ทำใจให้ว่าง ไม่ค้นหาสิ่งได วาง ว่าง รอด ตาย กราบพ่อแม่ อย่าห่างจากพ่อแม่ จะรอด จากการเสียสติ เข้าหา พุทโธ จักรอด บอกเพราะ เมตตาธรรมค้ำจุนโลก ตามล่าตัวตน อย่าหา เงินเหนือกว่า ชีวิต
    อย่าต่อตาน เด็กดี........จาก พ่อปู่ทวด น้ำทะเลจืด
     

แชร์หน้านี้

Loading...