กามสุขเป็นสิ่งทราม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 22 กันยายน 2009.

  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กามสุขเป็นสิ่งทราม

    การเพลิดเพลินติดใจในอารมณ์ที่น่าปรารถนาเป็นสิ่งทราม เพราะทำให้กิเลสอย่างหยาบเพิ่มพูนขึ้นมา


    เช่น เกิดความยินดีพอใจ(กามตัณหา) ความเย่อหยิ่งลำพอง(มานะ) ความตระหนี่หวงแหน(มัจฉริยะ) ไม่อยากแบ่งปันทรัพย์สิ่งของให้คนอื่น โดยคิดว่าสมควรจะได้รับสิ่งที่น่าปรารถนามากกว่าใครๆ


    ต่อ มาก็เกิดความอิจฉาริษยา(อิสสา) เมื่อเห็นคนอื่นได้รับสิ่งที่น่าชอบใจ บางครั้งก็เกิดความไม่พอใจหากมีใครมาขัดขวางหรือแย่งชิงไป(โทสะ)


    ผู้ ที่ประสบความสำเร็จในการสะสมทรัพย์สมบัติ ก็มักจะโลภที่อยากจะได้มากขึ้น และทำทุกทางที่จะให้ได้มาโดยไม่เกรงกลัวหรือละอายต่อบาป(อหิริกะและอโนตตัป ปะ) ว่าจะเป็นการกระทำที่ผิดทำนองคลองธรรมหรือไม่ เขาก็จะหลงผิด(โมหะ)หลอกตนเองว่าเป็นความสุข เป็นความเจริญก้าวหน้าทางโลก


    ผู้ที่เป็นปุถุชนที่ยังหนาไปด้วยกิเลส ก็อาจจะมีความเห็นผิด(ทิฏฐิ) ยึดมั่นในอัตตาตัวตน หรือเห็นผิดว่า กรรมที่กระทำลงไปไม่มีผลบ้าง


    สิ่งเหล่านี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความเพลิดเพลินในกามคุณอารมณ์เป็นต้นเหตุ จึงกล่าวว่า ความเพลิดเพลินในกามคุณเป็นสิ่งทราม


    ยิ่งไปกว่านั้น การปล่อยตามใจตัวเองในการหาความสุขจากกามคุณอารมณ์ เป็นวิสัยของสัตว์ในทุคติ เช่นสัตว์ดิรัจฉาน และเปรต เป็นต้น


    จะ เห็นได้ว่า แม้แต่สัตว์ดิรัจฉานก็ชอบสิ่งที่ตนเห็นว่าดีงาม และอยากมีความสุขเหมือนมนุษย์ทั่วไป ความรู้สึกของสัตว์ที่ทราม ที่ต้องการกามสุขจึงเหมือนกับความรู้สึกของมนุษย์


    ดังนั้น นักบวชผู้ดำรงชีวิตอย่างประเสริฐ จึงไม่ควรไปลดตัวยุ่งเกี่ยวกับกามสุขเยี่ยงสัตว์ในภูมิที่ต่ำกว่า


    -------------------------------------------------------​

    นำมาจาก​

    http://www.oknation.net/blog/boy-girl/2009/07/13/entry-1
     
  2. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    กามสุขเป็นสิ่งขัดขวางต่อศีล สมาธิ ปัญญา

    กาม สุขเป็นเรื่องของชาวบ้านโดยเฉพาะ จึงไม่ใช่เป็นสิ่งที่นักบวชพึงเกี่ยวข้อง โดยปกติชาวบ้านมักชื่นชมยินดีในกามสุขว่าเป็นความสุขที่ยอดเยี่ยม ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดีอย่างไม่มีวันพอเพียง

    คน ทั่วไปที่ไม่ได้ศึกษาหรือปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนานั้น มักจะถือเอาความเพลิดเพลินในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสว่าเป็นอารมณ์ที่น่าปรารถนา ที่เป็นความสุข มีน้อยคนนักที่จะเข้าถึงธรรม และเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างบรรพชิตอย่างแท้จริง

    ฉะนั้น การแสวงหาความสุขแบบชาวบ้านนั้น ไม่ใช่การปฏิบัติของพระอริยเจ้า ความเพลิดเพลินในกามสุขจึงเป็นของชนส่วนใหญ่ที่ไร้ปัญญา

    กามสุขมิใช่ของพระอริยะ คือไม่ใช่ข้อปฏิบัติของผู้ประเสริฐ เพราะไม่ก่อให้เกิดคุณวิเศษใดๆแก่พระอริยะผู้ประเสริฐ

    การ แสวงหากามสุขซึ่งเป็นสิ่งที่ต่ำทราม และมิใช่ของพระอริยะนี้ ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ผู้ปฏิบัติ ถึงแม้คนทั่วไปจะเห็นว่า การสะสมทรัพย์สมบัติ สร้างครอบครัวที่อบอุ่น มีญาติมิตรที่พรั่งพร้อมนั้น เป็นความสำเร็จในชีวิต ซึ่งควรจะเป็นสิ่งดีมีประโยชน์

    แต่ ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้นำประโยชน์สุขที่แท้จริงมาให้เลย แต่ประโยชน์สุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การแสวงหาหนทางที่จะเอาชนะความชรา ความป่วยไข้ และความตาย เพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งหลาย

    และทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ได้ก็คือ การรักษาศีล เจริญสมาธิ และอบรมปัญญาด้วยการเจริญวิปัสสนาเท่านั้น

    ฆราวาส ที่รักษาศีล ๕, ศีล ๘, และศีล ๑๐ จะต้องหลีกเลี่ยงจากกามสุข ด้วยการรักษาพรหมจรรย์ และไม่บริโภคอาหารหลังเที่ยงวัน รวมไปถึงการไม่ขับร้องฟ้อนรำ ฯลฯ ฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องสละกามสุข เช่นเดียวกับพระภิกษุที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ.

    [FONT=courier new,courier,monospace]มีพุทธดำรัสตอนหนึ่งว่า...[/FONT]​
    สีลํ สมาธิ ปญฺญา จ วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา
    อนุพุทฺธ อิเม ธมฺมา โคตเมน ยสสฺสินา
    (ที.มหา. ๑๐.๑๘๖.๑๐๘)
    ธรรมเหล่านี้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา และวิมุตติ อันยอดเยี่ยม
    พระโคดมผู้มียศได้ตรัสรู้แล้ว

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]การ แสวงหากามสุขดังกล่าว ไม่สามารถเอาชนะความแก่ ความเจ็บ และความตายได้ ซ้ำยังอาจเป็นสาเหตุให้ทำผิดศีล เช่นฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ หรือเป็นชู้กับสามี ภรรยาผู้อื่นเป็นต้น[/FONT]

    การล่วงละเมิดศีลและมัวเมาในกามสุข จึงเป็นอุปสรรคขัดขวางการเจริญสมาธิ และปัญญา ทำให้ไม่สามารถรู้แจ้งพระนิพพานได้

    ผู้ ที่ไม่รักษาศีล เมื่อตายแล้วจะตกไปสู่อบายภูมิที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน แต่การรักษาศีลอย่างเดียว โดยไม่มีการเจริญสมาธิและปัญญาพร้อมกันไปนั้น ก็ไม่สามารถนำไปสู่พระนิพพานได้ เพียงแต่ให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่าเท่านั้น

    ดัง นั้น ภิกษุผู้สละความสุขในทางโลก เพื่อแสวงหาพระนิพพาน จึงไม่ควรข้องเกี่ยวในกามสุข เพราะกามสุขเป็นสิ่งขัดขวางต่อศีล สมาธิ และปัญญา อันเป็นประโยชน์ตนอย่างแท้จริง.


    -------------------------------------------------------------
    นำมาจาก
    http://www.oknation.net/blog/boy-girl/2009/07/15/entry-1
     
  3. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    นักบวชผู้ดำรงชีวิตอย่างประเสริฐ จึงไม่ควรไปลดตัวยุ่งเกี่ยวกับกามสุขเยี่ยงสัตว์ในภูมิที่ต่ำกว่า

    อนุโมทนาครับ
     
  4. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    อนุโมทนาสาธุบุญ

    มนุษย์ควรเป็นเช่นต้นไม้
    ที่เชิดใบระย้าบนฟ้าสูง
    ด้วยการสร้างบุญกุศลเป็นผลจูง
    ยกจิตสูงเป็นมนุษย์สูงสุดเอย
    <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->__________________
     
  5. Nutthawut

    Nutthawut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +479
    อนุโมทนาสาธุฯเป็นอย่างสูงครับกับธรรมะอันประเสริฐ
     
  6. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +2,985
    บทลงโทษไม่มีให้เห็น จึงเป็นอยู่อย่างนี้แหละ ไม่มีใครกลัวหรอกครับ.......ตายไปก็ไม่มีใครกลับมาบอกว่าลำบาก มันคงอยู่ดีมึสุขนะ ไม่งั้นหนีกลับมาหมดแล้ว....จะทำอย่างไรดีกว่านี้ คนที่ล่วงละเมิดมันก็ไม่ได้มาอ่านซะด้วย..........

    ดีครับที่ได้อ่านของดี ๆ อนุโมทนาครับ.
     
  7. aung1

    aung1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +54

    อนุโมทนาสาธุครับ กามเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เสียทรัพย์ และ ยิ่งกว่านี้อีกคือ โชคลาภฯ :'( :'( :'(
     
  8. ประเทศไทย!

    ประเทศไทย! สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +16
    กามสุขมันจะไปเลวทรามได้ยัง กามสุขก็เป็นสุขของมนุษย์ มีขีดความสามารถที่จะผลิตผู้ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า ของเลวทรามอยู่ที่ ศีล ๔ ข้อเท่านั้นแหละ! ปานา อทินนา กาเม มุสาชั่วนะ!
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,729
    ค่าพลัง:
    +3,243
    สุราด้วยสิ ข้อ 5 ไง
     
  10. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,729
    ค่าพลัง:
    +3,243
    จริงๆ แล้วอย่าเพิ่งไปเพ่งโทษโจทย์ความผิดกามเร็วเกินไป
    โดยเฉพาะไปเพ่งของคนอื่นๆ
    มันเข้าตัว

    จะเพ่งกามก็ให้เพ่งดูความผิดของตนเอง

    ของคนอื่นหากเค้าก็ปฏิบัติตามกติกามารยาทแล้ว
    ไม่ใช่นักบวช ไม่ใช่นักพรต ก็มีได้ตามปรกติ

    ระวังไปเพ่งเอาคนมีศีลมีธรรมเข้า
    มีผลนะระวังด้วย
     
  11. ประเทศไทย!

    ประเทศไทย! สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +16
    ในอริมรรคมีองค์แปด มีแค่ ๔ ข้อเองครับ ไม่มีข้อสุรา
     
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,729
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ศีลมันมี 5 ข้อ ก็เอาไว้ให้มันครบๆนั้นแหละ
    ขืนบัญญัติโน้นออก บัญญัตินี่เข้า

    ก้เลยเข้าๆออกๆกันไม่จบไม่สิ้น

    ตำราเค้าว่าอย่างไรก็นับเอาตามนั้น
    คนนอกครูก็หาอะไรคุ้นกระบานยาก
    เค้าเรียก เรียนรู้ด้วยตนเอง
    อย่าหวังพึ่งสลิงเลย
     
  13. ประเทศไทย!

    ประเทศไทย! สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +16
    แม้คนขี้เมาก็อาจเป้นพระโสดาบันได้

    ปัญหา เมื่อเจ้าสรกานิศากยะสิ้นพระชนม์ พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า ท่านเป็นพระโสดาบัน พ้นจากอบายภูมิอย่างเด็ดขาด มีอันจะตรัสรู้ในเบื้องหน้า เจ้าศากยะเป็นจำนวนมากประชุมกันแล้วพูดตำหนิว่า เจ้าสรกานิศากยะประพฤติย่อหย่อนในศีลธรรมและชอบดื่มน้ำเมา ถ้าท่านเป็นพระโสดาบันได้ ใคร ๆ ก็เป็นโสดาบันกันทั้งบ้างทั้งเมือง ในเรื่องนี้พระพุทธองค์ทรงชี้แจงอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนมหาบพิตร อุบาสกผู้ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะตลอดกาลนานจะไปสู่วินิบาตได้อย่างไร ? เมื่อจะพูดให้ถูก ควรพูดถึงเจ้าสรกานิศากยะว่า เจ้าสรกานิศากยะเป็นอุบาสกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะมาเป็นเวลานานแล้ว จะพึงไปสู่วินิบาตได้อย่างไร ?
    “ ดูก่อนมหาบพิตร บุคคลบางคนในโลกนี้ แม้ไม่ประกอบด้วยความเลื่อมใส อันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า.... ในพระธรรม...ในพระสงฆ์ ไม่มีปัญญาร่าเริง ไม่เฉียบแหลมและไม่บรรลุถึงวิมุต แต่ว่าเขามีธรรมเหล่านี้ คือ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ และเขามีศรัทธา มีความรักในพระตถาคตพอประมาณ แม้บุคคลผู้นี้ก็ไม่ไปสู่นรก....ทุคติวินิบาต
    “ ดูก่อนมหาบพิตร ถ้าต้นสาละใหญ่เหล่านี้พึงรู้ สุภาษิต และทุพภาสิต
    อาตมภาพก็พึงพยากรณ์ต้นสาละใหญ่เหล่านี้ได้ว่า เป็นโสดาบัน จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า จะช่วยกล่าวไปไยถึงเข้าสรกานิศากยะ
    “ดูก่อนท้าวมหานาม เจ้าสารกานิศากยะสมาทานสิกขาได้ในเวลาสิ้นพระชนม์แล”

    สรกานิสูตร ที่ ๑ มหา. สํ. (๑๕๒๘-๑๕๓๖ )
    ตบ. ๑๙ : ๔๗๐-๔๗๔ ตท. ๑๙ : ๔๒๖-๔๒๘
    ตอ. K.S. ๕ : ๓๒๔-๓๒๖
     
  14. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,729
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ท่านนั้นตอนตาย สางเมาก่อนหละมั้ง

    สุราเป็นฐานแห่งความประมาท
    อย่าเสี่ยงเลย
     
  15. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    กาม มีโทษ มากกว่า สุข
    "กามสุขนิดเดียว แต่ทุกข์มาก"
    คนที่หลงอยู่ในกาม เหมือนคนตกอยู่ในหลุมถ่านเพลิง ฯลฯ
    ต้องทุกข์ทรมานมาก ฯลฯ
    คนทั่วไปนึกว่า กาม เป็น สุข
    แต่พระอริยะ รู้ว่า กาม เป็นต้นเหตุแห่ง ความทุกข์
    ทุกข์ ทั้งหลาย ทั้งปวง
    ต้นเหตุแห่งมาจาก กาม ทั้งสิ้น ท่านจึงละจาก กาม
    การดำรงชีวิต อยู่ทุกวันนี้ของชนส่วนใหญ่
    ก็เพื่อนำมาบำเรอ กาม กันเป็นส่วนใหญ่
    ตัดกาม ได้ ใจก็ เป็น สุข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  16. ผู้หญิงธรรมดา

    ผู้หญิงธรรมดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +535
    อนุโมทนา สาธุ เชื่อในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ลังเลสงสัย
     
  17. ปัจเจกพุทธะ

    ปัจเจกพุทธะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +121
    อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจาธิฏฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะ โว คัณหะถะอาวุธานีติ.
    ดู ก่อนพระบารมีทั้งหลาย ขอเชิญพระบารมีคือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐานะ เมตตา และอุเบกขา จงมาที่นี่โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อยุทธ์กับพญามาร (กิเลส) เถิด.
    อนุโมทนาครับ.
    บริจาคเงินช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
    โทร.1900-222-200 6บาท/นาที
     
  18. JETUAIM

    JETUAIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2009
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +181
    ขอบคุณครับ

    กามเป็นทุกข์จริง ๆ ครับ แค่คิดถึงก็เป็นทุกข์แล้ว
     
  19. Cloud

    Cloud Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +82
    ขออนุโมทนาบุญกุศลอันจะเกิดจากการที่ได้เผยแผ่ บทธรรม ที่ให้ข้อคิดและสตินี้ด้วยครับ สาธุ
     
  20. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    สุขทุกข์ที่พระพุทธองค์ดังได้แสดงมาทั้งหมด
    ในส่วนที่หยาบ กับ ละเอียดก็ดี ไม่ว่าจะเป็นบุญหรือว่าเป็นบาป
    ย่อมรวมลงกันอยู่ที่สุขของผู้ประพฤติพรหมจรรย์

    ที่ติดสุขเกิดขึ้นจากอำนาจของฌานสี่ สมบัติแปด
    ตามฐานของแต่ท่านที่ทำได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...